ก่อนหน้านี้แอปเปิลได้ออกอัพเดต iOS 17.4 เบต้า สำหรับนักพัฒนา ทำให้มีคนพบว่า แอปเปิลได้ปิดการทำงานในการสร้างไอคอนเว็บแอปบน iOS (PWA - Progressive Web App) ซึ่งต่อมาแอปเปิลก็ยืนยันการจำกัดความสามารถนี้สำหรับผู้ใช้งานในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป เนื่องจากมีข้อกำหนดของกฎหมาย DMA ที่ระบุว่าเบราว์เซอร์อื่นต้องใช้เอ็นจินอื่นที่ไม่ใช้ WebKit ได้
คณะกรรมการกำกับดูแลการแข่งขันของ EU รายงานว่ากำลังส่งคำถามไปยังนักพัฒนาที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินว่าการกระทำนี้ของแอปเปิลส่งผลกระทบมากแค่ไหน และพิจารณาในการสอบสวนต่อไป
เหตุผลที่แอปเปิลระบุในการปิดความสามารถ PWA คือเรื่องความเสี่ยง ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว หากเปิดให้เบราว์เซอร์เอ็นจินอื่นสร้างไอคอนเว็บแอปได้ และยังระบุว่าคนที่ใช้ฟีเจอร์นี้นั้นมีจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น
ที่มา: MacRumors
Comments
เสี่ยงกำไรหายน่ะสิครับ เพราะคนจะไปจ่ายเงินผ่านเว็บแทน
พักหลังนี้ ไม่สร้างนวัตกรรม แต่ไปขวางซะงั้น
เพื่อความปลอดภัยก็ยอมๆไปเถอะ ทำไอคอนได้ อาจจะโดนดูดเงินหมดนะ
บริษัทที่อ้างความปลอดภัยในการกีดกัน feature บางอย่างที่เป็นมาตราฐานเปิด
แต่
พออ้างความปลอดภัยแล้วก็ดูตลกไปหน่อย
เอ๊ะ แล้ว Apple ปล่อยให้ทำ PWA เฉพาะจาก Safari เอาไว้เหมือนเดิมไม่ได้หรอฮะ จะได้มันก็ไม่เกิดการปิดกั้นเพิ่มขึ้น แล้วจะได้ไม่เป็นเรื่องแบบนี้
ถ้า 2 มาตรฐาน ก็เสี่ยงจะโดนฟ้องข้อหาจงใจกีดกันคู่แข่งอีกครับ
ในมุมมองของ Dev เหมือนกัน ถ้า PWA ของ Browser อื่นไม่พร้อม แต่จำเป็นต้องทำให้รองรับ Browser อื่นให้เร็วที่สุด (ไม่งั้นจะโดนค่าปรับ) ผมก็เห็นด้วยเหมือนกันครับว่าการปิดทั้งหมดคือทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้
แต่สไตล์ Apple ก็ต้องคีพลุคอ้างความปลอดภัยไว้ก่อนครับ 55+
Android เท่าที่เคยลอง Microsoft Edge กับ Firefox ก็ทำแอป PWA ได้ไม่เหมือน Chrome นะฮะ ไม่รู้ติดข้อจำกัดอะไรหรือแค่ไม่ทำเอง
คือ pin มาเป็น home icon ให้ แต่ไม่ได้แยก app install เห็นในรายการ installed app แบบ Chrome PWA
ได้รู้บริบทเพิ่มขึ้น ขอบคุณฮะ
+
แต่นี่ปิดไปหมดแล้วก็กำลังเสี่ยงโดนฟ้องอยู่ ส่วนถ้าปล่อยให้มี PWA ไว้โดยที่มีเพียง PWA ของ Safari เท่านั้นเอาไว้เหมือนเดิม มันก็ "คีพลุคอ้างความปลอดภัยไว้ก่อนครับ 55+" ได้อยู่ดีหนิฮะ
มันโดนคนละกระทงกันครับ
แต่ถ้าเปิดให้เฉพาะ Safari เจ้าเดียวทำได้เจ้าอื่นทำไม่ได้ มันเป็นพฤติกรรมที่เห็นชัดๆว่ากีดกัน และมีโอกาสโดนฟ้องข้อหากีดกันสูงมากครับ
จะอ้างว่าความปลอดภัยเหมือนทุกทีก็ได้แหละ แต่กรณีนี้องค์ประกอบการกีดกันมันค่อนข้างชัด คงยากที่จะเลี่ยงถูกฟ้องได้ และไม่ว่าจะแพ้หรือชนะยังไงก็ต้องเสียเงินเสียเวลาอยู่ดี (และเคสนี้ดูแล้วน่าจะชนะยากด้วย) แถมยังเสี่ยงจะถูกบังคับทำให้รองรับ PWA ของ Browser อื่นด้วยแม้จะชนะก็ตาม (และเข้าใจว่านี่คือสิ่งที่ Apple ไม่ต้องการที่สุด)
ถ้าฟีเจอร์นี้ไม่ได้ทำเงินให้ Apple มากมายเท่าไหร่ สู้ปิดไปเลยมันเซฟกว่าครับ แต่สุดท้ายก็ยังไม่วายเสี่ยงจะโดนสอบกระทงอื่นแทนน่ะนะ
ปล. คือจริงๆจะอ้างว่าทำไม่ทันขอเวลาเพิ่มมันก็อ้างได้นะ แต่ถ้าไปท่านั้นหมายความว่าสุดท้ายก็ต้องทำ ดูจากท่าทีที่ไม่ไปท่านั้นแล้วแปลว่า Apple ไม่อยากได้ PWA ของ Browser อื่นเอามากๆเลย
อ๋อ พอจะเห็นได้แล้วฮะ. เพราะว่าตัวแอป PWA เองก็เป็นคู่แข่งกับฝั่ง IPA เองในตัวอยู่แล้ว ถ้า Apple ถือ PWA ไว้เองคนเดียวบน platform ตัวเองไม่ได้ก็สู้ปิดไปเลยจะดีกว่า. ขอบคุณฮะ
ว่าไปแล้วก็มีธุรกิจที่ใช้ PWA เช่นอย่างพวก no-code platform ที่ ship แอปแบบ PWA นี่กระทบเน้นๆ เลย ไม่รู้ว่าส่งผลรุนแรงแค่ไหน
ไม่กระทบครับ
เพราะ PWA คือ website ที่ install ลง OS ผ่าน browser API
install ไม่ได้ ก็ใช้ผ่าน browser ปกติเอา
แค่ engagement ที่มาจากการ คลิก PWA icon หายไปเท่านั้น
กระทบครับ ไม่เห็นแอปบนหน้าจอ กดเข้าน้อยลง กับไม่เต็มจอ UX เสียด้วย
ไม่กระทบมากขนาดนั้น ถ้าเป็นเกมเกมเบราว์เซอร์ส่วนมากผู้ใช้จะคุ้นเคยพอที่จะ Bookmark เข้าไปเล่นบ่อย ๆ หรือบางเจ้าก็มีแอปเทียมมาให้ใช้ (แต่จะปฏิบัติตามกฎของแอปเปิลยากหน่อย) และอุปกรณ์องค์กรเองมักไม่ใช้ iOS ถ้าระบบกลางเป็นเว็บเพราะราคาแพง
จริง ๆ มาตรฐานนี้สามารถประสบความสำเร็จได้ถ้า
สตีฟจ็อบส์ไม่เสียก่อนมาเร็วกว่านี้หน่อย แต่ตอนนี้ตลาดแอปพลิเคชันสโตร์มันเป็นสิ่งที่คนคุ้นชินกันไปก่อนแล้ว W3C เองก็ไม่เคยออกสเปกวิธีการติดตั้ง PWA ที่ผู้ใช้เข้าใจได้ง่าย (หรือถ้าใครหาเจอก็ช่วยแนบไว้ให้ด้วยจะขอบพระคุณยิ่ง) และท่าทีแอปเปิลที่เปลี่ยนไปต่อเว็บแพลตฟอร์มนี่แหละที่ทำให้มันยุ่งยาก ยิ่งการตัดออกไปเลยในยุโรปนี่เหยียบหาง EU เต็ม ๆ