แอปเปิลประกาศนโยบายใหม่ อนุญาตให้ผู้ใช้ iOS ในยุโรปสามารถติดตั้งแอพจาก "หน้าเว็บ" ของนักพัฒนาโดยตรง ไม่ต้องผ่าน App Store อีกต่อไป โดยแอปเปิลจะเปิด API ให้นักพัฒนาใช้งาน
แอปเปิลเรียกวิธีการติดตั้งแบบนี้ว่า Web Distribution โดยนักพัฒนาต้องสังกัดองค์กรที่จดทะเบียนในยุโรป และเคยมีแอพที่มีผู้ใช้ในยุโรปเกิน 1 ล้านคนในปีปฏิทินก่อนหน้า (จะเรียกว่าออกกฎนี้มาเพื่อ "Spotify เลิกๆ ฟ้องไปเถอะจะได้จบๆ" ก็ว่าได้)
การติดตั้งผ่านช่องทาง Web Distribution จะยังต้องจ่ายค่า Core Technology Fee (CTF) อันโด่งดัง ในราคา 0.5 ยูโร ต่อการดาวน์โหลด โดยแอปเปิลจะไม่เก็บใน 1 ล้านการดาวน์โหลดแรก และมีข้อยกเว้นให้กับองค์กรไม่หวังผลกำไร สถาบันการศึกษา หน่วยงานรัฐบาล ไม่ต้องจ่ายค่า CTF
แอปเปิลยังไม่ประกาศช่วงเวลาที่จะเปิด Web Distribution API ให้ใช้งาน
ที่มา - Apple
Comments
ผ่านแอปเปิลอยู่ดี ถถถถถถถ
เค้ากลัวเป็นแบบ ms-appinstaller หรือเปล่านะ
นั่นแหละประเด็น ผมคิดว่าการปล่อยให้ติดตั้งผ่านเว็บโดยตรงมันเสี่ยงไปหน่อย ควรเป็นการให้สโตร์อื่นเข้ามาทำหน้าที่ตรวจสอบให้อีกทีหนึ่ง อันนี้เล่นเป็นด่านหน้าประตูทางเข้าบ้านอื่นมันมองเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากยังได้ส่วนแบ่งเพิ่มเพราะเขียน Core Tech ผูกกับตัวเองไว้ทุกอย่างแล้ว ถถถถถ
Apple อาจมองว่าตัวเองอาจไม่พ้นภาระทางกฏหมายถ้าเกิดการโจมตีใดๆ ผ่านมาทาง Store ก็ได้ครับ
I need healing.
เสียดายครับ... apple ไม่น่าก้มให้ EU
เค้าเพิ่มทางเลือก คนอยากใช้แนวทางเดิมก็ไม่ได้มีข้อห้ามอะไรนิครับ
ไหนๆก็ทำแล้วน่าจะเปิดทั่วโลกไปเลย
ฝังอะไรมาก็ตัวใครตัวมัน พอมีปัญหาก็เดินไปหน้าร้านอีก
?
โลกเรา desktop computer ทั้ง Windows, Linux และ macOS ก็ติดตั้ง application ได้โดยไม่ต้องพึ่งพา Store นะครับ
การมาของ App Store เป็นของใหม่ผ่านมาประมาณ 10 ปีเอง
บางทีเขาก็หลอนจอฟ้าตอน XP เยอะไปเนาะคนเรา เรื่องผ่านมาจะ10ปีล่ะ แต่ไม่หลอนติดคุก+ล่ามโซ่นะจ๊ะ
สมัยนี้ต่างกันนิดหน่อยยิ่งเป็นต่างชาติยิ่งแล้วเลย computer มีปัญหาล้างเครื่องกันเองไม่ก็ให้คนรู้จักทำให้
ส่วนพวกมีอุปกรร์พกพานี่มีปัญหาจะวิ่งเข้าศูนย์ ถ้าปัญหาเรื่องโดนแอปดูดเงินดูดข้อมูลส่วนตัวแล้ววิ่งเข้ามาเยอะๆ ศูนย์บริการคนแน่นแน่ๆ เพราะอุปกรณ์พวกนี้แก้ไขด้วยตัวเองไม่ง่ายและคนใช้งานส่วนมากไม่รู้ IT ขนาดนั้นครับ
ไปบีบ Apple ให้มันตั้งราคาถูกๆ ไม่ให้หนีจากแอนดรอยด์มาก ยังจะมีประโยชน์กว่า
มันเป็นประโยชน์คนละอย่างกันครับ เอามาแทนที่กันไม่ได้ แถมถ้าจะบังคับราคาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะอ้างเหตุผลว่าอะไรด้วย
แต่ขนาดแค่นี้ยังมีคนเป็นเดือดเป็นร้อนแทน Apple มากมายเลยนะครับ 55+
ตอนนี้ android ก็ไม่หนี จาก apple เท่าไหร่และนะ
เพราะ Apple มันขึ้นราคาก่อน พวกแอนดรอยด์ก็พากันขึ้นราคาตาม
ถ้า Apple ลดราคา แอนดรอยด์ก็ลดตาม 5555
ขนาดมีเรื่องขนาดนี้ ยังไม่มีใครสนใจเลย ว่าจให้ะลดราคา 55
เวลาอ่านข่าว Apple ที่เกี่ยวกับ EU ผมต้องนึกย้อนไปทุกทีว่า เค้าบังคับเรื่องอะไร แล้ว Apple ทำเนี่ยมันอันไหนของ EU
เช่นข่าวนี้
มันคือโจทย์ข้อไหนของ EU นะ เน้นว่าของ EU นะครับไม่ใช่สิ่งที่ บ. อื่นๆเรียกร้อง
ผมคิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดให้ติดตั้งแอปนอก App Store ครับ
คือ EU ไม่ได้บังคับวิธีการว่าต้องทำแบบไหน ขอแค่ผู้ใช้มีทางเลือกในการติดตั้งแอปนอกจาก App Store ก็พอ Apple ก็เลยต้องสรรหาวิธีการต่างๆเพื่อให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งได้ โดยยังคงไว้ซึ่งความปลอดภัย(และกำไร)อยู่
สรุปก็คือ ผมมองว่าที่ Apple ทำเยอะแบบนี้ เป็นเพราะความต้องการของ Apple เองครับ
ส่วนเรื่องที่ว่า ทำไมถึงไม่จบแค่ 3rd Party Store แต่ไป Web ด้วยอันนี้ผมก็ไม่แน่ใจ อาจเป็นเพราะด้วยข้อกำหนดต่างๆที่ Apple ตั้งมา (เพื่อ Apple เอง) มันอาจจะทำให้ไม่ Practical มากพอและเสี่ยงต่อจะโดนสอบต่อ ก็เลยสร้างทางเลือกขึ้นมาอีกแห่งละมั้งครับ?
ผมก็อ่านเอาขำ ๆ นะครับ แต่สังเกตว่า ทุกครั้งที่ EU บีบอะไร บ. tech อเมริกา โดยเฉพาะ Apple เค้าจะยือไปเรื่อยๆ จนเค้าได้ solution ที่ได้มากกว่าเสียแน่ ๆ แล้วถึงยอม เช่น ที่ชาร์ตและสายแถมฟรี เป็นต้น .. (ก็ไม่แถมแล้วไง ลดโลกร้อนไง ซื้อแยกสิ แต่แน่ใจนะว่าจะซซื้อ 3th Party หน่ะ มีปัญหาไม่รู้ด้วยนะ)
อยากรู้มากๆๆๆๆๆ คนที่อวย Apple แบบไม่สนคนอื่น ไม่สนอะไร อยากรู้เค้าได้อะไรจาก Apple บ้างไหมครับ
บางคนไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรเลย แค่ใช้อุปกรณ์ของแอปเปิลเฉยๆ แต่ออกตัวยังกะผู้ถือหุ้น
ได้แต้มบุญครับ ตามที่นิกายเขาสอนสั่งมา
ปลอดภัยไหมไม่รู้
แต่กำไรต้องยังอยู่
มีเจ้าไหนไม่สนกำไรด้วยหรือครับ
ผมคิดว่าหลายคนรู้แหละครับว่าบริษัทเขาทำเพื่อกำไรกันเป็นหลักทั้งนั้น
แต่ก็มีบางคนที่ยังเชื่อว่าเขาทำเพื่อความปลอดภัยหรือเพื่อลูกค้าตามที่บริษัทออกมาแถลงอยู่ (แถมบางคนออกตัวปกป้องด้วย) ก็เลยต้องมาบอกกันอยู่บ่อยๆครับ 55+
คือผมมองว่ามันทำให้การโต้เถียงกันว่า Apple หิวเงินดูด้อยค่าลงน่ะครับ อย่างถ้าบอกว่าการเก็บเงินแบบนี้ไม่เมคเซนส์ผมก็เห็นด้วยนะ แต่บอกว่ากำไรต้องมาก่อนอะไรพวกนี้ ผมมองว่าทุกบริษัทก็มองแบบนี้หมดอะ
การจะเริ่มถกกันว่าการเก็บเงินแบบนี้สมเหตุสมผลหรือไม่ มันต้องเริ่มจากยอมรับให้ได้ก่อนครับว่าเขาเก็บเงินเพื่อทำกำไรครับ
แน่นอนสำหรับคุณ(รวมถึงผมและอีกหลายๆคน)ก็คงรู้กันอยู่แล้วแหละว่า Apple และทุกๆบริษัทยังไงก็ต้องรักษากำไร แต่บางคนเขาไม่รู้และเอาแต่ปกป้อง Apple ท่าเดียว เพราะงั้นซึ่งสิ่งที่คอมเมนต์นี้ต้องการ ไม่ใช่การถกในประเด็นที่คุณสนใจ แต่ต้องการบอกคนเหล่านั้นว่า Apple เขาทำเพื่อกำไรเพียงเท่านั้นครับ
ท้ายที่สุดแล้ว ทุกคนมีอิสระในการคอมเมนต์ตราบเท่าที่อยู่ในขอบเขตครับ (แต่มีโควต้านะ 55+) ใครอยากปกป้องก็ทำได้ ใครอยากบอกเรื่องอะไรให้ใคร(หรือแซะ)ก็ทำได้ ใครอยากถกกันจริงจังก็ทำได้ เพราะงั้นถ้าหากคุณอยากถกกันจริงจังเรื่องนี้ก็สามารถคอมเมนต์ได้แล้วเดี๋ยวคนที่สนใจก็จะตามไปถกด้วยเองครับ
ใช่ครับ ผมไม่ได้ตำหนิหรือถากถางอะไรต้นโพสนะครับ มันแค่ตะหงิดๆเวลาเห็นเม้นแบบริษัทมุ่งแต่หากำไร
เรื่องปกป้อง Apple นี่ผมก็ตลกหลายๆอันเหมือนกันแต่ปล่อยผ่านไปเพราะมันเยอะอยู่
เห็นข่าว Apple กับ EU ทีไร พอจะเดาคอมเม้นได้เลย
ทำไมซื้อหวยไม่ถูกแบบนี้ 555