Tags:
Node Thumbnail

ช่วงที่ผ่านมาไมโครซอฟท์ได้ผลักดัน Copilot กับการทำงานบน Windows ในหลายทาง ที่เห็นชัดเจนคือการแทนที่ปุ่มทางลัด WIN+C เพื่อเรียกใช้ฟีเจอร์ Copilot ในทาสก์บาร์ จากนั้นก็เพิ่มปุ่ม Copilot บนคีย์บอร์ดสำหรับพีซีที่ขายในปีนี้เป็นต้นไป และประกาศแนวทางของ Copilot+ PC

อย่างไรก็ตามในอัปเดต Windows 11 Insider Preview ล่าสุด ไมโครซอฟท์ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงของ Copilot บน Windows ดังนี้

  • Copilot ในทาสก์บาร์ เปลี่ยนเป็นการเรียกเว็บแอปปกติ ตัดความสามารถจัดการกับระบบปฏิบัติการ Windows 11 ได้
  • ยกเลิกปุ่มทางลัด WIN+C ที่ใช้เรียก Copilot

ไมโครซอฟท์ให้เหตุผลของการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยบอกว่าการเปลี่ยนแปลงส่วนแอป Copilot มาจากความเห็นของผู้ใช้งาน และทำให้การพัฒนาของไมโครซอฟท์ทำได้สะดวกขึ้น ส่วนการยกเลิกปุ่มทางลัด WIN+C บอกว่าเพราะ Copilot เปลี่ยนมาเป็นเว็บแอปนั่นเอง

เนื่องจากสถานะของ Windows 11 และ Copilot ยังอยู่ในขั้นพรีวิว จึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้อีกในอนาคต

ที่มา: The Verge

Get latest news from Blognone

Comments

By: sirbom on 22 June 2024 - 12:07 #1315181

แต่ฮาร์ดแวร์ปล่อยแล้วนะพี่

By: zyzzyva
Blackberry
on 22 June 2024 - 12:13 #1315184

รอ Windows 12 ที่จะปล่อยหลัง Windows 10 หมด support เลยดีกว่า Windows 11 นี่เหมือนเป็นหนูทดลองให้ Microsoft ทำเรื่อง AI แต่คำสาป Windows ที่ว่าชอบออกรุ่นดีสลับกับรุ่นไม่ดีนี่ยังจริงอยู่นะเนี่ย 5555

By: KuLiKo
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 22 June 2024 - 12:21 #1315187
KuLiKo's picture

แบรนด์ที่ปล่อย Copilot+ PC มาแล้ว : WTF?

By: Perl
ContributoriPhoneUbuntu
on 22 June 2024 - 13:13 #1315191
Perl's picture

ปุ่ม Win+C ผมเสียดายนะ ใช้กดปิดหน้าจอ Copilot ที่เด้งมาด้านขวาได้
เพราะปัจจุบันคลิกที่ Desktop แล้วกดปิดไม่ได้ ไม่เหมือน Notification Pane

By: honinbo
Windows PhoneAndroidSymbianWindows
on 22 June 2024 - 13:40 #1315193

เหมือนนำ AI ใส่ก่อนให้ทุกคนตาม พอทุกคนเริ่มตามแล้วรีบถอนตัวเฉย

By: tontan
ContributorAndroidSymbianUbuntu
on 22 June 2024 - 13:58 #1315195
tontan's picture

ต่อไปนี้คงยกเลิกปุ่ม Copilot แล้วกลายเป็นปุ่มที่ใช้อะไรไม่ได้


บล็อก: wannaphong.com และ Python 3

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 22 June 2024 - 14:49 #1315198
hisoft's picture

เดี๋ยว ถ้ามันทำงานอะไรนอกตัวแอปตัวเองไม่ได้แล้วนี่จะใส่มาทำไมอ่ะ

By: Hoo
AndroidWindows
on 22 June 2024 - 14:59 #1315199

กลัวมีปัญหาความเป็นส่วนตัว?

ถ้าจะให้มี AI สั่ง OS ได้
น่าจะต้องเป็น local Copilot แยกต่างหาก

By: TeamKiller
ContributoriPhone
on 22 June 2024 - 15:14 #1315200
TeamKiller's picture

AI สั่งงานอะไรกับเครื่องไม่ได้ ก็ง่อยละ แล้วจะมีไว้ทำไมละเนี่ย เมื่อไรจะเหมือนโลกอนาคตในหนังสักที

By: Mr.EYE on 22 June 2024 - 16:07 #1315205

ทำไมการพัฒนาทำๆไปนึกจะตัดก็ตัด แล้วกลายร่างเป็นเว็บแอป ถ้าจะมีตัวมาแทนมันต้องประกาศพร้อมกันเลยไม่งั้นจะสร้างมาตรฐาน Copilot+ PC CPU ต้องมี NPU มาทำไม แบบนี้มันดูโง่ๆ บอกไม่ถูก

By: tontan
ContributorAndroidSymbianUbuntu
on 22 June 2024 - 17:13 #1315211
tontan's picture

พอ ๆ คิดไปแล้ว สิ่งที่ทำให้ Microsoft เปลี่ยนทิศทางได้ขนาดนี้ จริง ๆ แล้วคือ Apple ต่างหาก เพราะ Apple เปิดตัว Apple Intelligence ที่กระทบ Microsoft เข้าเต็ม ๆ ด้วยเรื่องความเป็นส่วนตัว กับ UX ที่เรียบง่ายดูดี เป็นมิตรกว่า Microsoft Copilot แถมไม่ได้ผูกติดกับ OS มากเท่ากับ Microsoft Copilot


บล็อก: wannaphong.com และ Python 3

By: Ford AntiTrust
ContributorAndroidBlackberryUbuntu
on 22 June 2024 - 17:35 #1315214
Ford AntiTrust's picture

ที่ปรับเปลี่ยนหลายๆ อย่าง เพราะกลัวจะโดน Antitrust เพิ่มเข้าไป ในอนาคตอาจจะเพิ่มทางเลือกให้ใช้งานกับ AI เจ้าอื่นได้ด้วย

By: big50000
AndroidSUSEUbuntu
on 22 June 2024 - 17:57 #1315216
big50000's picture

เปลี่ยนเร็วเกิ๊น ฮาร์ดแวร์ที่ออกไปแล้วจะทำไง

By: NoppawanConan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 22 June 2024 - 19:04 #1315217 Reply to:1315216
NoppawanConan's picture

ทำใจ ทำใจ ทำใจ


แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที

By: sMaliHug on 22 June 2024 - 19:10 #1315218

มันจะตาม cortana ไปไหม
ไม่นึกว่าแค่ข่าว NVIDIA แซงนี้จะกระทบขนาดนี้

By: sdc on 22 June 2024 - 19:29 #1315219

ข่าวถัดไป RIP Copilot ตาม Cortana ไปเพราะไม่มีคนใช้

By: LasPersonas on 22 June 2024 - 21:12 #1315224

Microsoft เป็นอะไรนักหน้ากับ WebApp
ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์มันไปไกลกว่าที่จะรันแค่เว็บแอปแล้ว
สิ่งที่ WebApp แก้ไม่หายคือกระตุก หน่วง กินพื้นที่และและกินแรม
WebApp ไม่มีทางเป็นส่วนหนึ่งของตัว OS ได้เลย นอกจากว่า Microsoft จะทำทุกอย่างใน Windows เป็น WebApp

By: Mr.EYE on 22 June 2024 - 23:31 #1315226 Reply to:1315224

โคตรจริงผมล่ะโคตรเบื่อ ประสบการณ์ใช้งานถ้าทำดีๆต่างกันอย่างชัดเจน Webapp เน้นพัฒนาง่าย แต่คนใช้ประสบการณ์แย่ ได้แต่หวังว่าพอปรับ Windows base เสร็จเข้าที่แล้ว จะว่างมาตรเปลี่ยนมาเขียนใหม่หมด

By: Kazu
iPhoneWindows PhoneAndroidUbuntu
on 23 June 2024 - 07:00 #1315231 Reply to:1315224

น่าจะเพราะคนใช้น้อย ไม่คุ่มที่จะทำเป็นnative app จะตัดทิ้งไปเลยก็ไม่ได้ ก็เลยเอาWebApp ที่มีอยู่แล้วมายัดลงไปนั้นแหล่ะ

By: marryboomz
Windows
on 23 June 2024 - 07:05 #1315232

สักเป็นห่วง เรื่อง windows on arm ล่ะ ยิ่งอิซอฟชอบยกเลิกอะไรง่ายๆ แบบนี้ด้วย

By: N Pack on 23 June 2024 - 09:12 #1315235
N Pack's picture

อินเทลยัดเงินไม่อยากให้ไป on arm

By: Tasksenger on 23 June 2024 - 09:50 #1315237

ผมว่าเขาปรับแผนมากกว่า มันน่าจะกลับมาอีกครั้งพร้อม OS ตัวถัดไปและน่าจะผสานกับ OS เป็นร่างเดียวแต่ฐานข้อมูลผู้ใช้น่าจะเก็บบน local แล้วจะเข้าถึงได้ต้องผ่านกระบวนการยืนยันตัวตนบนเครื่อง local ร่วมด้วยกับความสามารถประมวลผลข้อมูลเป็น model แบบเข้ารหัสเพื่อไปรวมประมวลผลร่วมกับ data lake ข้อมูล knowledge กลาง คล้ายกับ cube ในอดีตที่สามารถแยกร่าง และรวมร่างข้อมูลได้โดยยังมีความปลอดภัยระดับองค์กร

เทคโนโลยีทั้งหมดนี้ Microsoft มีครบทุก stack อยู่แล้วเพียงแต่ปรับรูปแบบ ประกอบร่างใหม่ ลดขนาดในบางชิ้นส่วนเพื่อให้ลงใน client ได้ พัฒนาระบบ sync model จาก local ให้มีความปลอดภัยสูงขึ้น เราอาจจะได้เห็นในเวลาเร็วนี้ๆ อาจใกล้กับ Apple เปิดตัวนั่นแหล่ะ ผมว่า Edge Computing ใกล้ถึงเวลาของมันแล้ว

อ่อไม่ต้องห่วงเรื่อง NPU นะครับผมว่าได้ใช้เต็ม Limit แน่ๆ อาจะเห็นโมเดลการตลาดแบบ GPU ที่มี NPU หลายระดับแปรตามความต้องการของผู้ใช้ แต่น่าจะยังไม่มี NPU แยกในเร็วๆ นี้ แต่น่าจะ on board เลือกรุ่นจาก board เอาในอนาคต (ผมเดาล้วนๆ ไม่มีวัวผสม 555)

By: tontan
ContributorAndroidSymbianUbuntu
on 23 June 2024 - 10:54 #1315238 Reply to:1315237
tontan's picture

Microsoft ไม่ได้มี GPT-4o ตัวเล็ก หรือโมเดลขนาดเล็กที่ทำได้เหมือน Google กับ Apple เพราะ Phi ก็ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับงานเหล่านั้นเหมือนเจ้าอื่น แถม stack ปัจจุบัน windows ไม่ได้แยกขนาดแบบ Mac และไม่ได้มือถือ อุปกรณ์ที่ติดตัวกับผู้ใช้งานมากที่สุดยิ่งกว่า PC สองเจ้ามีมือถือ มีข้อมูลซิงค์มากกว่า ประมวลผลอะไรจบในตัวมากกว่า เพียงแค่ไม่มีมือถือก็แข่งยากแล้ว แต่ผมว่ามันจะเป็นจุดจบ Windows เองมากกว่า ยิ่งกั๊ก ยิ่งพัง


บล็อก: wannaphong.com และ Python 3

By: Tasksenger on 23 June 2024 - 11:05 #1315239 Reply to:1315238

ผมว่ารอดูกันต่อไปดีกว่า อย่าไปยึดติดกับ Model ในปัจจุบันมากนัก เพราะมีตังค์ก็ปั่นมันขึ้นมาได้ จะ slice ข้อมูลให้เล็กลงแล้ว focus เฉพาะจุดก็ได้ ให้สนใจ core เทคโนโลยีที่แต่ละเจ้ามีอยู่ในมือ แล้วจะมองออกว่า Microsoft จะเป็นคู่แข่งรายสำคัญของ Apple และ Google แน่นอน โมเดลมันคือ Pattern ที่วิเคราะห์จากอัลกอลิทึ่มและเครื่องมือที่บริษัทมี มันจะสร้างมาใหม่กี่ครั้งก็ได้ แล้วก็จะปรับแต่งอย่างไงก็ได้ ส่วนเรื่องมือถือ หรืออุปกรณ์พกพา Microsoft จะไปทุกที่ไม่ใช่แค่ Android จะไป iOS ด้วย โดยพัฒนา Client ที่สามารถ run โมเดลเข้ารหัสที่ sync ระหว่างกัน ซึ่งก็ต้องยืนยันตัวตนผ่านอุปกรณ์เช่นกัน ส่วน Layer ล่างไม่ต้องห่วงหรอกครับ เขาไม่ได้ต้องการเข้าถึงทุกส่วน เขาต้องการเฉพาะ Sensor ที่เหมือนเป็นหูเป็นตา หรือประสาทสัมผัสให้ AI ซึ่งมัน public อยู่แล้ว

เอาเป็นว่าในมุมของผม

  1. Microsoft / Apple + OpenAI / Google เป็นคู่แข่งใน tier 1 ในทั้งหมดนี้ผมว่า OpenAI จะเป็นบริษัทแรกที่จะไปก่อนเพื่อนเมื่อ Apple สร้างสภาวะแวดล้อมของตัวเองเรียบร้อยแล้ว เหตุผลคือ เงินสดในมือที่ยังยืมคนอื่น ในทางกลับกันบริษัทที่เหลือมีมูลค่าในตัวเองอยู่แล้ว และก็จะเจอปัญหาเรื่องกฏหมายบริษัทที่สภาวะคลุมเครือที่สุดคือ OpenAI ทางรอดของ OpenAI คือ ไปงานในสายองค์กรใน tier 2 ระบบทางการทหาร หรือระบบเฉพาะทาง แต่ตลาด Consumer ผมว่าเขาไม่ใช่คู่แข่งถ้าสู้กันเดี่ยวๆ กับบริษัทที่เหลือได้แน่นอน
  2. IBM / Oracle / SAP / Saleforce / Microsoft เป็นคู่แข่งใน tier 2
  3. บริษัทขนาดใหญ่ในจีนเป็นตัวสอดแทรกได้ตลอดเวลา แต่เขาจะเน้นไปตลาดตะวันออก มากกว่า เพราะมีข้อมูลในฝั่งนั้นเยอะ

ถ้าผมเป็นคู่แข่ง OpenAI นะผมจะรอให้เขาขึ้นจุดสูงสุด แล้วไปรวมหัวบริษัทเจ้าของ Content ฟ้องเรียกค่าลิขสิทธิ์ และให้เปิดอัลกอริทึ่มสู่สาธารณะ เพื่อพิสูจน์แค่นี้ก็ถ่วงความสามารถทางการแข่งขันได้แล้ว

ถ้าผมเป็น OpenAI ผมจะไปอิงแบ็คที่บริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหมดกลัว นั่นคือ รัฐบาลสหรัฐ เชื่อผมไหมล่ะ ว่าอีกไม่นานจะมีข่าวลือว่า OpenAI ทำงานให้รัฐบาลสหรัฐ แต่ทุกฝ่ายปฏิเสธ แล้วก็เงียบกันไปเหมือนไม่มีอะไร แต่บริษัทอื่นๆ ก็จะไม่กล้าทำอะไร OpenAI เช่นกัน นั่นคือ ช่องทางที่มีคนวางไว้ตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อให้เหยื่อเดินตามทางมาเรื่อยๆ

By: gjkllb01
Windows
on 23 June 2024 - 13:06 #1315241

Microsoft ประสบการณ์เยอะนะ ตั้งแต่ผุกขาดด้วย IE
หรือเปลี่ยน OS ให้เอง จนถูกฟ้อง ก็ต้องระวังตัว ไม่ให้ถูกฟ้องในอนาคต

By: Sephanov
iPhoneUbuntu
on 23 June 2024 - 20:02 #1315248
Sephanov's picture

MS เห็น Apple Intelligence นั่นแหละ เลยรีบกลับลำ ตัว copilot มัน integrated มากับ OS เลยมันดีจริงแต่ ms ก็ไม่ได้พูดถึง data ที่จะเก็บจากคนใช้เลย ในขณะที่ apple เปิดตัว ก็พูดถึงวิธีจัดการ data เสร็จสรรพ

ถ้า ms ไม่ถอด copilot ออกตอนนี้ วันหน้า EU ก็จะสอบสวนหนักแน่ แล้วตัว copilot ที่พึ่งเปิดตัวไปจะทำไง ก็ยุบเป็น web app ไปก่อนจนกว่าจะหาวิธีทาง process data ได้ดีกว่านี้นะแหละ

By: zionzz on 24 June 2024 - 09:12 #1315264

MS: คนจะเกิดโดนคุมกําเนิดซะงั้น