Tags:
Node Thumbnail

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานว่าแอปเปิลได้ปรับโฟกัสการพัฒนา Apple Vision Pro เฮดเซต Spatial Computing จากการออกรุ่นใหม่ที่อัปเกรดสเป็กฮาร์ดแวร์ มาเป็นการออกรุ่นที่ราคาถูกลงภายในปีหน้าแทน ล่าสุด Mark Gurman แห่ง Bloomberg มีข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องนี้

เขาบอกว่าแอปเปิลกำลังพัฒนา Vision Pro ที่ราคาถูกลง (ซึ่งก็ไม่น่ามีคำว่า Pro แล้ว) โค้ดเนมภายใน N107 มีสิ่งที่แตกต่างจากรุ่นปัจจุบันคือมุมมองของภาพแคบลง และต้องอาศัยการเชื่อมต่อกับ iPhone หรือ Mac ตลอดเวลาที่ใช้งาน ทำให้ลดต้นทุนส่วนการประมวลผลที่เฮดเซตได้ กำหนดเปิดตัวภายในต้นปี 2025

Gurman บอกว่าแอปเปิลยังไม่ได้ยกเลิกหรือระงับการพัฒนา Vision Pro รุ่นใหม่ โดยโครงการนี้มีโค้ดเนมภายใน N109 ซึ่งปรับปรุงส่วนประมวลผลให้เร็วขึ้น ปรับปรุงกล้องที่ติดโดยรอบ และดีไซน์ใหม่ให้มีน้ำหนักเบาลง สวมใส่สบายมากขึ้น แต่มีการเลื่อนเปิดตัวจริง จากปี 2025 ออกไปเป็นปลายปี 2026

ที่มา: Bloomberg

Get latest news from Blognone

Comments

By: marryboomz
Windows
on 24 June 2024 - 07:29 #1315260

เชื่อมต่อไม่ว่าอะไรแต่ไม่ใช่แบบเชื่อมแล้ว เล่นมือถือ ทำอะไรไม่ได้ ค้างหน้าเชื่อมต่อก็ไม่เอานะ เอาแบบ Wifi Display อะไรทำนองนี้ แฮตแซดก็เล่นได้ มือถือก็ยังควบคุมได้เหมือนเดิม

By: readonly
iPhone
on 24 June 2024 - 07:38 #1315261 Reply to:1315260
readonly's picture

ใส่ vision อยู่คงไม่มีใครเล่นมือถือไปพร้อมกันมั้งครับ

By: marryboomz
Windows
on 24 June 2024 - 07:50 #1315262 Reply to:1315261

เห็นในข่าวแบบมีการลดต้นทุนอะไรต่างๆ แล้ววิสัยในการมองมันแคบลง ให้ผมเดามันอาจจะไม่สามารถทำอะไรเหมือนที่ตัว Pro ทำได้ เช่นเล่นได้หลายหน้าจอพร้อมกันอาจจะใช้ได้ทีละหน้าจอ

By: iqsk131 on 24 June 2024 - 11:35 #1315301 Reply to:1315262

ถ้าพลังประมวลผลของมือถือมันไหวพอที่จะแสดงผลในแว่นได้ไปพร้อมๆกับให้มือถือทำอะไรอย่างอื่นต่อได้ ผมว่าเอาให้มันขึ้นจอในแว่นไปทั้งคู่เลยก็น่าจะไหวนะครับ ในแง่ของพลังประมวลผลนะ

เรื่อง FoV แคบลง มันไม่ได้เป็นข้อจำกัดในการเล่นหลายหน้าจอซะทีเดียวครับ แค่เรามองอีกจอด้วยหางตาได้น้อยกว่าเดิม ต้องหันหน้าไปมองแค่นั้นเอง

ถ้าจะกั๊กฟังชั่นหลายหน้าจอจริงๆก็ทำเหลือแค่ 2 จอ (mirror มือถือจอนึง+แอปใดๆจอนึง) วางข้างกันย้ายที่อิสระไม่ได้ก็ได้ครับ แบบนี้ก็ไม่ได้กินพลังประมวลผลมากอะไรด้วย

ในทางตรงกันข้าม ด้วยความที่มันคือแว่น VR ถ้าจะมองมือถือนอกแว่น มันต้องมองผ่านกล้องในแว่นอืกที ซึ่งถ้าจะให้ประสบการณ์ที่ดีความละเอียดกล้องและจอต้องสูงทำให้ต้นทุนสูงขึ้นไปอีก และต้องแบ่งพลังประมวลผลไปประมวลผลกล้องหนักมากเพื่อมันได้ภาพที่ชัดลื่นไหลและดีเลย์น้อยอีก

เพราะงั้นผมมองว่าการเอาจอมือถือขึ้นจอในแว่นเป็น solution ที่ดีกว่าทั้งในแง่ต้นทุนและประสบการณ์ใช้งานครับ

By: Perl
ContributoriPhoneUbuntu
on 24 June 2024 - 08:25 #1315263
Perl's picture

กินไฟสองฝั่งอีก

By: PandaBaka
iPhoneAndroidWindows
on 24 June 2024 - 09:56 #1315269
PandaBaka's picture

ถ้าเป็น headset แล้วใช้สาย usb-c เสียบกับมือถือตรงๆ ล่ะฮาเลยนะ

By: deaknaew on 24 June 2024 - 10:21 #1315272 Reply to:1315269

เป็นไปได้สูง 555

By: tg-thaigamer
ContributoriPhoneAndroidBlackberry
on 24 June 2024 - 11:54 #1315308
tg-thaigamer's picture

Apple Vision Pro ตอนนี้ก็พัฒนาอยู่นะ

พัฒนาบนเว็บเปลี่ยนคนใส่ เป็น ผช คนใหม่ ผญ คนใหม่ตามรูป 5555


มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ

By: KuLiKo
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 24 June 2024 - 13:26 #1315329 Reply to:1315308
KuLiKo's picture

น่าจะป้องกัน Woke ด้วยครับ 😅

By: endess on 24 June 2024 - 13:13 #1315328

ตัดจอด้านหน้าออกไปประหยัดแบตได้มากโขเลยนะ ดีกว่ามาใช้โซลูชั่นให้มือถือประมวลผลแทนอีก

By: KuLiKo
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 24 June 2024 - 13:26 #1315330 Reply to:1315328
KuLiKo's picture

ผมคิดว่าเรื่องประหยัดแบต น่าจะเป็นเรื่องรองจากการลดต้นทุนซะมากกว่านะครับ