ผู้ใช้ Reddit ชื่อ chiselplow เปิดเผยว่าทดลองเปรียบเทียบการทำงานของ Apple AirTag กับป้ายติดตามค่าย Android ที่ใช้เครือข่าย Find My Device ของกูเกิล (เพิ่งเริ่มเปิดบริการเมื่อเดือนเมษายน) โดยนำป้าย AirTag กับป้ายยี่ห้อ Pebblebee ใส่กล่องพัสดุเดียวกัน แล้วส่งพัสดุทางไปรษณีย์ให้ญาติที่อยู่รัฐอื่น เพื่อติดตามดูว่าเครือข่ายค้นหาอุปกรณ์แต่ละค่ายสามารถทำงานได้ดีแค่ไหน
ผลลัพธ์คือป้าย AirTag ทำงานได้ดีมาก แจ้งเตือนตลอดเวลาว่าพัสดุอยู่ที่ไหน ในขณะที่ป้าย Pebblebee ส่งพิกัดกลับมาเพียงครั้งเดียวเท่านั้นในศูนย์คัดแยกพัสดุใกล้บ้านของผู้ส่ง เรียกได้ว่าเครือข่าย Find My ของแอปเปิลชนะแบบขาดลอย
chiselplow ประเมินว่าเหตุผลหนึ่งน่าจะเป็นเพราะการทดสอบนี้เกิดในสหรัฐ ซึ่งมีอัตราใช้งาน iPhone หนาแน่นกว่าประเทศอื่นๆ ทั่วไป ทำให้ป้าย Pebblebee มีโอกาสเข้าใกล้สมาร์ทโฟน Android เพื่อส่งพิกัดกลับเซิร์ฟเวอร์ได้ยากกว่า ซึ่งเขามีแผนจะทดสอบแบบเดียวกันในประเทศอื่นๆ ด้วย
เว็บไซต์ 9to5google ให้ข้อมูลเพิ่มเติมจากโฆษกของกูเกิลว่าเครือข่าย Find My Device ของกูเกิลยังไม่เปิดบริการเต็มรูปแบบ ปัจจุบันยังใช้งานได้เฉพาะพื้นที่ทราฟฟิกสูง (เช่น ในเมือง) เท่านั้น และสมาร์ทโฟน Android จำนวนหนึ่งยังไม่เข้าร่วมเครือข่ายค้นหาอุปกรณ์ ซึ่งจะทยอยเข้าเพิ่มเรื่อยๆ แต่ยังไม่ระบุว่าจะเปิดเต็มที่เมื่อไร
ที่มา - Reddit, 9to5google
ภาพป้ายของ Pebblebee
Comments
สงสัยว่า ถ้า find my ใช้ดีขนาดนี้
อัตราการหาย/ขโมย iphone นี่มันลดลงข้างไหมหว่า
อัตราการหาย/ขโมยไม่คงไม่ลด แต่อัตราการได้คืนน่าจะเพิ่มขึ้นแน่ๆ เคยทิ้งกระเป๋าใส่ iPad ไว้ในรถไฟที่ JP เครื่องไม่ได้ต่อเน็ตไว้ก็ยังตามไปจนดักหน้ารถไฟแล้วหยิบกลับมาได้
อะไหล่ก็เอาไปใช้ต่อไม่ได้ เครื่องก็ปลดล็อคไม่ได้ ไม่ใช่ว่าขโมยไปก็มูลค่าต่ำอยู่แล้วเหรอฮะ?
ไม่ได้ลดลง แต่ตามหาง่ายขึ้นครับ เพราะต่อให้ปิดเครื่อง Find My มันยังทำงานอยู่ บังคับปิดไม่ได้ นอกจากต้องใส่ passcode ครับ
เครือข่าย find my มันขึ้นกับ OS ด้วยใช่ไหมละครับ ถ้างั้นยิ่งยากใหญ่เพราะ อัตราการอัพเดท OS ของ Android น้อยกว่า iOS เยอะ ยิ่งถ้าฟีเจอร์นี้เป็นของแอนดรอยรุ่นล่าสุดด้วยแล้วยิ่งน่าจะมีขอบเขตเล็กลงไปอีก
Blogger ท่านหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า
"ถ้าคุณโวยวาย เพราะ Google ประกาศ Android Version ใหม่ แล้วเครื่องคุณไม่ได้ Update แสดงว่าคุณเข้าใจธรรมชาติของ Android ผิดไป"
"การที่ประกาศ Android Version ใหม่ หมายความว่าเครื่องที่วางจำหน่ายหลังจากนี้ควรจะได้ Version ที่ประกาศ ไม่ได้หมายถึงเครื่องรุ่นที่วางขายไปก่อนหน้าจะได้ Update ด้วย"
"ถ้าคุณอยากได้ Android Version ใหม่ คุณควรซื้อเครื่องใหม่"
Wow za กับสิ่งที่กล่าวออกมาฉิบหาย
เท่าที่รู้ไม่ได้ขึ้นกับ OS แต่ขึ้นกับ Google Play Service นะฮะ ไม่ต้อง update OS
เข้าใจว่าไม่ใช่ปัจจุบันยังใช้ได้แค่ high traffic แต่ Google ตั้งใจปรับ default ให้เป็น high traffic area นะฮะ ซึ่งจะปรับได้อีกแบบนึงคือเจอกับอุปกรณ์ใน network แค่เครื่องเดียวก็ส่งพิกัดได้เลย แต่ high traffic นี่ไม่รู้ว่าต้องเยอะขนาดกี่เครื่องถึงจะส่งพิกัดและนั่นก็ทำให้หาเจอได้ยากขึ้นไปอีก
ตอนนี้มีแค่ Apple AirTag กับ Samsung SmartTag เท่านั้นมั้งที่ใช้งานทั่วไปได้จริงจัง
มีรีวิวเทียบกันให้ดูไหมครับ?
ไม่ได้ทำรีวิวนะครับ แต่นับเฉพาะตอนที่ใส่สอง tag ไว้ด้วยกันจากที่ลองมาเองที่ ไทย ญี่ปุ่น เวียดนาม มาเล ไต้หวัน ทั้งแบบใส่กระเป๋าเดินทางไว้ที่โรงแรมหรือรถ โหลดบนเครื่องบิน ใส่เป้เดินครับ
ดูรีวิวคือ Android มันมีจำนวนเครื่องเยอะ เลยต้องตั้งให้หลายๆเครื่อง detect tag หลายๆเครื่องก่อนถึงจะแจ้งเตือน แต่ Apple มันไม่มีขึ้จำกัดอันนี้ ก็เลยกลายเป็นว่า AirTag เลยแจ้งเตือนบ่อยกว่า
จากที่ระบุในการตั้งค่าคือทำเพื่อไม่ให้มันมีพิกัดของเครื่องเดียวหรือเครื่องจำนวนน้อยเด่นชัดเกินไปฮะ เพื่อปกป้อง privacy อีกทีนึง ไม่งั้นเครื่องต้องตั้งว่าเจออยู่ใน low-traffic ก็ส่งพิกัดได้เลย เชื่อได้หรือคุ้มมั้ยนี่อีกเรื่องนึง
เข้าใจว่าตอนแรกไม่ได้มีเครื่องที่เปิดระบบ Android Find My เยอะเท่าไหร่ ก็เลยเป็นแบบนี้ tag ก็เลยไม่เจอ high traffic area เยอะ คงต้องรออีกสักพัก ถึงจะดีเหมือน AirTag
บอกตามตรงว่าตอนนี้ airtag เป็นอย่างเดียวใน ecosystem ของ apple ที่อยากใช้มากที่สุด
+1 แต่เป็นแค่อันดับสอง ตอนนี้มีตัวแทนที่ระบบคล้ายๆ กันแล้วหวังว่าคงพอทดแทนได้ ไม่รู้มันแย่จริงหรือแค่ระบบยังเปิดไม่ทั่วถึงจริงๆ แต่แอบหวังให้มีตัวเดียวเชื่อมทั้ง 2 network อยู่นะ
อันดับหนึ่งนี่ยกให้ Apple Watch ฮะ
นี่ใช้ airtag มาตั้งแต่เปิดตัว ใช้ดีจริง ๆ หาเจอตลอด
ในไทยใช้ Smart Tag ของ Samsung ไม่เคยมีปัญหา หาเจอตลอด
ปัญหาคือมันใช้ได้แต่กับมือถือ Samsung ฮะ 🥲