เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ Samsung Galaxy Z Flip 6 และ Z Fold 6 สมาร์ทโฟนจอพับประจำปี 2024 ของ Samsung ซึ่งทีมงาน blognone ได้ลองเล่นก่อนแล้วเมื่อสัปดาห์ที่แล้วสั้นๆ เลยขอนำมาฝากกันก่อนรีวิวเต็ม
เริ่มกันที่ Z Flip 6 ดีไซน์ภายนอกดูไม่แตกต่างจาก Z Flip 5 เท่าไหร่ ส่วนที่เปลี่ยนไปส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของสเปคภายใน และฟีเจอร์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกล้องที่มี Galaxy AI เข้ามาช่วยประมวลผลต่าง ๆ ทำให้มีฟีเจอร์ AI Auto Zoom ช่วยจับผู้ใช้งาน, ซูมตามระยะและเปลี่ยนเลนส์ให้อัตโนมัติเมื่อผู้ใช้เดินเข้าใกล้ หรือถอยห่าง ทำให้สถานการณ์แบบตัวข้ามาคนเดียวสามารถถ่ายรูปเองได้ง่ายขึ้น และได้ภาพหลายระยะในการตั้งถ่ายแบบ Flex Window โดยตัวกล้องมี ProVisual AI Engine ทำให้ซูมแบบ 2x และเก็บแสงได้ดีขึ้นด้วย
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่อย่าง Portrait Studio ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับรูปบุคคลที่เราถ่ายโดยเฉพาะ ใช้ AI Generative สร้างภาพบุคคลเป็นรูปใหม่ได้ 4 สไตล์ ยกตัวอย่างเช่น งานศิลปะแบบต่าง ๆ หรือแอนิเมชัน 3 มิติ สร้างความหลากหลายให้กับภาพถ่ายของเราได้
จอ Flex Window ที่ฝาหลังก็มีฟีเจอร์ใหม่อย่าง Unique Flip Face เพิ่มเข้ามาเป็นพื้นหลังหน้าจอที่กราฟิกจะเอียงตามการขยับเครื่องของผู้ใช้งาน มี AI Gen Wallpaper ช่วยสร้างพื้นหลังตามสไตล์ของผู้ใช้งานแต่ละคนเพิ่มความน่ารัก และความเท่ให้ผู้ใช้งานได้ ด้านมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นแม้ Z Flip 6 จะได้ IP48 แต่ทีมงานของ Samsung ก็แสดงให้ดูว่าสามารถแช่น้ำ และเปิดกล้องถ่ายรูปได้ด้วยตรงจุดนี้แสดงให้เห็นว่าตัวเครื่อง Z Flip 6 แข็งแรงทนทานขึ้นจริง
ส่วน Z Fold 6 ผู้เขียนมองว่านี่คือพระเอกของผลิตภัณฑ์รอบนี้เนื่องจากดีไซน์ภายถูกเปลี่ยนให้เป็นแบบเหลี่ยม และบางเบาขึ้น โดยความบางเหลือเพียง 5.6 มม. น้ำหนัก 239 กรัม ถือว่าจับได้ถนัดมือมาก ๆ สามารถวางแนวตั้งเท่ ๆ ได้ ส่วนฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาแน่นอนว่ามี Galaxy AI แบบเต็มระบบ และมีของใหม่เพียบ
ตั้งแต่ฟีเจอร์ Composer ที่ช่วยร่างเรียงความได้หลายแบบผ่านการใส่ Prompt เช่น ปรับรูปประโยคให้ทางการขึ้น หรือเป็นกันเองได้ แถมยังมี Chat Assist ช่วยสร้างประโยคให้เหมาะสมกับคู่สนทนา ยกตัวอย่างเช่น การคอมเมนต์งานที่ฟีเจอร์นี้จะช่วยคิดประโยคให้ดูนุ่มนวล และเป็นมิตรต่อคู่สนทนาได้
ฟีเจอร์ต่อมาที่ทีมงานได้ลองใช้คือ Sketch to image วาดรูปในภาพถ่ายแล้วสร้างวัตถุเพิ่มเข้ามาในภาพได้ใช้เวลาประมวลผล 30 วินาที มีข้อจำกัดคือไม่สามารถวาดทับหน้าบุคคลได้ (วาดทับหน้าทำให้ AI ไม่สามารถประมวลผลได้) แต่สามารถวาดบนหัวได้โดยทีมงานลองใช้เส้นสีแดงวาดหมวก ภาพที่ออกมาก็เป็นหมวกสีแดง และได้ลองวาดแมวแบบเป็นเส้นขีดๆ ตามประสาคนวาดรูปไม่เป็น ให้มีขณะคล้ายแมวมากที่สุด บนภาพวิวโล่ง ๆ ก็จะได้ภาพแมวสวย ๆ มาให้แบบค่อนข้างเหมือนจริง ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่ดีทำให้ผู้ใช้เข้าถึง AI ได้ง่าย แถมยังใช้ในแอป Notes ได้ด้วย ไม่ว่าจะวาดเป็นเส้น หรือเขียนเป็นตัวหนังสือ AI ก็สามารถสร้างภาพออกมาได้
ส่วนฟีเจอร์เดิมที่มีอยู่แล้วทีมงานได้ลองใช้ Interpreter ฟีเจอร์แปลเสียงเรียลไทม์ ซึ่งทั้ง Flip และ Fold สามารถพับเครื่องครึ่งหนึ่ง แล้วแปลบทสนทนาให้ฝั่งตรงข้ามอ่านผ่านจอฝาหลังเครื่องได้เลย ก็ถือว่าเป็นอีกท่าที่ทำให้ฟีเจอร์นี้ใช้งานได้โดดเด่น และมีประโยชน์กับจอพับมากขึ้น
โดยรวมแล้ว Samsung Galaxy Z Flip 6 และ Z Fold 6 มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจใช้งานได้จริงอยู่หลายอย่าง และน่าจะทำให้เทคโนโลยี AI เข้าถึงผู้ใช้งานได้ง่ายมากขึ้นไปอีก ทั้งในแง่ของการทำงานด้านอีเมล์ หรือด้านไลฟ์สไตล์อย่างการถ่ายรูป
Comments
อยากรู้ว่าทนแค่ไหน
ใช้ flip3 อยู่ เกือบๆ2ปีแล้ว (ซื้อตอนตกรุ่น) ยังโอเคไม่มีปัญหาอยู่ ส่วนอีกคน flip2 พังตอนยังไม่ครบ2ปี ซื้อ flip3 ต่อ พังตอนครบปีหมาดๆ สรุปคือ แล้วแต่ดวงค่ะ
รอยพับ คือ สิ่งที่ยังไงก็ทำใจรับไม่ได้
ผมว่ายากนะครับที่แก้ได้ เพราะวัสดุที่พับได้ขนาดนี้แล้วไม่มีรอย ในสินค้าทั่วๆไป ผมยังไม่เคยเห็นจริงๆนะ ถ้าทำได้ คงต้องแพงมหาศาลจริงๆ
กรณีของ Fold ผมว่าแยกเป็นสองจอ แล้วรองรับเฉพาะแอพที่ support 2 หน้าจอ น่าจะเป็นวิธีแก้ปัญหารอยพับได้ดีที่สุด
..: เรื่อยไป