Bloomberg รายงานข้อมูลจากการประชุมพนักงานภายใน OpenAI ว่าทีมบริหารของบริษัทแบ่งระดับความก้าวหน้าของ AI เป็น 5 ระดับ (Level 1-5) ลักษณะคล้ายๆ กับการวัดระดับความสามารถของรถยนต์ไร้คนขับ ที่จัดกลุ่มโดย Society of Automotive Engineers (SAE)
การแบ่งระดับ AI ของ OpenAI มีดังนี้
ทีมบริหารของ OpenAI ประเมินว่าเทคโนโลยีของบริษัทอยู่ใน Level 1 แต่กำลังเข้าใกล้ Level 2 คือเป็นระบบที่แก้ปัญหาเบื้องต้นได้เอง มีความสามารถเทียบเท่ามนุษย์ที่จบปริญญาเอก แต่ไม่มีเครื่องมือใดๆ ช่วย ซึ่งในงานประชุมนี้มีการเดโมเทคโนโลยี AI ด้านการใช้เหตุผลด้วยเช่นกัน
OpenAI ไม่ใช่บริษัทแรกที่เสนอแนวทางการจัดระดับชั้นความสามารถของ AI แบ่งเป็น 5 ระดับ โดยก่อนหน้านี้ Google DeepMind เคยออกเป็นเปเปอร์วิจัย เสนอการแบ่งระดับชั้นของ AI เป็น 5 ระดับเช่นกัน เพียงแต่ใช้ชื่อเรียกต่างกัน และ DeepMind มองว่า ณ ปี 2023 ยังมี AI ที่ทำได้เพียง Level 1 เท่านั้น
ภาพแสดงลำดับชั้นของ Google DeepMind
ที่มา - Bloomberg
Comments
ขนาดนี้ก็เก่งแล้วนึกระดับ 5 ไม่ออกเลยว่าจะเก่งขนาดไหน
ระดับ 5 คือทั้งบริษัทไม่ต้องมีมนุษย์เลยอะนะ
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
AI ระดับ 2 ใช้เหตุผลได้ เทียบเท่า ป.เอก
แค่ Level นี้ก็อยากเห็นแล้วครับ AI อาจจะตัดสินใจดีกว่าคนด้วยซ้ำ
แบบ Skynet ระดับไหนดีครับ
จริงๆ ปัจจุบันคือ ระดับ 3 แล้วหรือเปล่านะครับแบบนี้
เพราะปัจจุบัน service ที่ผมพัฒนาอยู่ ตัวมันเองก็สามารถ คิด และตัดสินใจใช้เครื่องมือต่างๆ ที่มอบให้ได้เองแล้ว สามารถ ทำงานที่ซับซ้อนได้ขอแค่ provided เครื่องมือให้ เช่นสั่งให้ทำนัดหมายทีมงานก็สามารถค้นหาวันว่างทีม ตรวจปฏิทิน ทำสรุปเนื้อหาปัญหาที่ต้องพูดคุยจากเอกสารการประชุมครั้งก่อน พร้อมส่งอีเมล
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
เหมือนเคยเห็นข่าว AI ของ Google ที่ควบคุมความเย็นให้กับ Data Center ทำให้ลดค่าใช้จ่ายได้ อันนี้น่าจะเลเวล 3 แล้วหรือเปล่า
ระดับ 5 เคยมีบทความวิเคราะห์ว่า มนุษย์ไม่สามารถอยู่ได้ละครับ มันน่ากลังมากกว่าจะมาเป็นตัวช่วยมนุษย์น่ะสิ