หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภค (CPC) ในคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ออกแถลงการณ์เตือน Meta ว่ารูปแบบการให้บริการ "จ่ายเงินหรือยอมรับเงื่อนไข" (Pay or Consent) ที่ใช้กับผู้ใช้งานแพลตฟอร์มในประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) อาจละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค
โดย Meta มีเวลาถึงวันที่ 1 กันยายน 2024 ในการยื่นข้อเสนอเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการดังกล่าว มิฉะนั้นอาจมีโทษปรับเงินสูงสุด 4% ของรายได้บริษัทในประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป
Meta ให้บริการแพลตฟอร์มทั้ง Facebook กับ Instagram ในภูมิภาคยุโรป โดยมีตัวเลือกจ่ายเงินรายเดือน แลกกับการไม่แสดงโฆษณา ซึ่งสหภาพยุโรปมองว่าแนวทางนี้ไม่เป็นธรรมกับผู้ใช้งาน และขัดกับแนวทางกฎหมายดิจิทัล DMA
CPC ระบุรายละเอียดที่มองว่า Meta ละเมิดกฎหมายฯ เช่น ใช้คำว่าใช้งานฟรี แต่จริง ๆ ต้องยอมให้ Meta เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวจึงจะใช้งานได้, ใช้คำหลีกเลี่ยงเช่น your info แทนคำว่า personal data, หากเพื่อนแชร์คอนเทนต์โฆษณา ผู้ใช้งานที่เสียเงินก็ยังเห็นเนื้อหานั้นได้ และอีกหลายประเด็น
ที่มา: European Commission
Comments
แล้วมันต่างจาก Youtube Premium หรือพวก streaming ไม่มีโฆษณายังไงนะ
นั่นสินะ พี่ม้ากบอก คนอื่นทำได้ทำไมตรูทำไม่ได้วะ ผมเดาว่าfb เอาข้อมูลส่วนตัวไปใช้ แล้วก้ยิงโฆษณา แล้ว match target 300% ทำให้คนใช้งานมองว่ามันไม่แฟร์
เอาข้อมูลส่วนตัวตรูไป แล้วยังยิงโฆษณา มาเพื่อให้ตูจ่ายเงินเพื่อปิดอีก
เข้าใจว่า meta ไม่มีตัวเลือกแสดงโฆษณาโดยไม่เอา personal data เราไปใช้ครับ (เพราะเป็นจุดขายของ facebook marketing)
นั่นคือจะมีตัวเลือกแค่ แสดงโฆษณาโดยอ้างอิงข้อมูลส่วนตัว กับ จ่ายเงินแล้วไม่แสดงโฆษณาเลย
ส่วนตัวมองว่า ผิดตรงที่จ่ายเงินเพื่อปิดโฆษณา แต่โฆษณาเป็น targeting ads ด้วย
เทียบกับ platform อื่นที่เป็น premium เหมือนกัน
การปิดโฆษณา เป็นแค่ฟีเจอร์นึงของพรีเมี่ยมเท่านั้น
Yt เรายังเข้าถึง ฟีเจอร์อื่นๆ และ content premium ได้ (เดิมชื่อ YouTube red)
คิดว่าน่าจะเกี่ยวกับเรื่อง tracking ด้วยครับ
พวก Youtube หรือบริการ Streaming อื่นๆ สามารถใช้งานแบบ anonymous ได้ครับ (ไม่ต้อง login หรือใช้ incognito) หรือก็คือมีทางเลือกอื่นนอกจาก Pay or Consent
ในขณะที่ FB และ IG ต้องสมัครสมาชิกและ login เท่านั้น และเมื่อ login แล้วก็ไม่มีตัวเลือกให้จำกัดการเข้าถึงแบบส่วนตัวเลยนอกจากต้องจ่ายเงิน มันก็เลยกลายเป็นมีแค่ Pay or Consent ครับ
ปล. ผมเดาเอาจากความเข้าใจนะ อาจจะเข้าใจผิดก็ได้ แฮะๆ
คือเดี๋ยวนี้เราจะต้องเขียนเป็นไม่ฟรี จ่ายค่าบริการด้วยข้อมูลส่วนตัวเหรอ บัตรสมาชิก supermarket นี่ต้องเขียนว่าไม่ฟรีด้วยแล้วมั้ย
ตัดคำว่าฟรีออกแล้วเปลี่ยนเป็น
ใช้ได้โดยไม่เสียเงิน โดยแลกกับ 1.นำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ 2.ต้องดูโฆษณา
สามารถจ่ายเงินเพื่อไม่ดูโฆษณาได้ แต่ยังคงต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้อยู่ดี
A smooth sea never made a skillful sailor.
ตอนนั้นตามาร์คโชว์พาว สุดท้ายเค้าไม่ง้อ แถมเล่นกลับแบบเจ็บๆละมั้ง...
คนเดือดร้อนหลักๆก็ผู้ลงโฆษณารายเล็กๆนี่แหละ
สมัยก่อนกำหนด conversion ยังไง ได้อย่างงั้น เดี๋ยวนี้ลงโฆษณา เหมือนบริจาคเงินให้ Mark Zuckerburg แอดแบรนด์ใหญ่ๆกระทบเท่า เพราะคนคุ้นเคยอยู่แล้ว
ศตวรรษหน้า ถ้า GDP ทิ้งช่วงห่างสหรัฐไปอีกก็ไม่แปลกใจ ออกกฎแต่ละอย่าง...