สงครามภายในของโลก WordPress ยังดำเนินต่อไป เริ่มจาก Matt Mullenweg ผู้ก่อตั้ง WordPress วิจารณ์ WP Engine ว่าเป็นมะเร็งร้าย แล้ว ฝั่งของ WP Engine ตอบโต้ว่าโดนบริษัท Automattic ของ Matt เรียกเงินเป็นมูลค่าหลายสิบล้านดอลลาร์ต่อปี และจะดำเนินการทางกฎหมายกับฝั่ง Matt/WordPress.org
ล่าสุด Matt ออกมาซัดต่อผ่านบล็อกบน WordPress.org ว่าเนื่องจาก WP Engine จะดำเนินการทางกฎหมายกับ WordPress.org ดังนั้น ลูกค้าของ WP Engine ก็ไม่ควรเข้ามาใช้ทรัพยากรฟรีของ WordPress.org ได้อีก เช่น กระดานถามตอบปัญหา ถ้าอยากแก้ปัญหาก็ติดต่อฝ่ายซัพพอร์ตของ WP Engine กันเอง
Matt บอกว่าระบบ WordPress ในปัจจุบันปลอดภัย ไม่ถูกแฮ็กมากนัก เป็นเพราะ Automattic มีระบบป้องกันที่ระดับเครือข่าย และมีบริการออนไลน์จำนวนมากคอยสนับสนุน เช่น ระบบล็อกอิน ระบบอัพเดต ระบบจัดการบั๊ก ฯลฯ บริการเหล่านี้ต้องใช้เงินลงทุน ดังนั้น WP Engine อยากได้ก็ต้องลงทุนทำเองบ้าง จากนี้ไป WordPress.org จะบล็อคการเข้าถึงจากเซิร์ฟเวอร์ของ WP Engine ไม่ให้เข้ามาใช้บริการเหล่านี้ฟรีๆ
ที่มา - WordPress.org
Comments
เริ่มต้นสงครามมมมมม
เค้ารบกันด้วยอะไรนะ ลองถาม ChatGPT คือ
"โปรแกรมเมอร์ที่ติดอาวุธด้วยเครื่องมืออันทรงพลัง เดินฝ่าสนามรบแห่งการเขียนโค้ดด้วยไหวพริบ ความมุ่งมั่น และ... อาหารว่าง!" 5555+
555555 กินสปาเก็ตตี้อยู่ พุ่งแสบจมูกเลยครับ 🤣🤣🤣
ได้เวลาปูเสื่อ
ขอบคุณที่มาเพิ่มความสไปซี่ให้กับวงการ IT หลังจากเงียบเหงา (ด้านดราม่า) มานาน
wordpressจริงๆก็ได้ส่วนแบ่งจากการขายปลั้กอินกับตีมอยู่แล้วนิ ลูกค้าที่ไหนก็ต้องซื้อปลั้กอินหรือตีมสุดท้ายค่าบริการก็ต้องเข้าwordpress แค่ค่าบริการhostแยกกันผมเข้าใจถูกมั้ย แต่นี่คือเหมือนว่าอยากเหมาทุกอย่างไปอยู่กับตัวเองไม่อยากให้คนอื่นทำแข่ง
คำกล่าวอ้างของ WordPress
ความเห็นของผมคือ ต้นทุนอย่างหนึ่งในการทำ s/w ไม่ใช่แค่ตัว s/w แต่มีเรื่องของการ support ลูกค้าตัวเอง
ในเคส WP Engine คือใช้ version ปรับแต่ง เวลา support ก็วิ่งมาหา WordPress ต้นทาง ซึ่งอาจจะช่วยไม่ถูกจุด หรือแก้ปัญหาไม่ได้ เพราะตัว s/w ถูกปรับแต่งให้แตกต่างจากต้นทาง แต่ WP Engine ดันใช้ branding WordPress ในการขาย ลูกค้าก็ไม่รู้หรอกว่าของใคร หรือแตกต่างยังไง เห็นเป็น WordPress ก็วิ่งเข้าหาฝั่ง WordPress ก่อน WP Engine
อ่าฮะ พอจะเก็ตละว่าให้เค้าsupportให้แต่ไม่ส่งcodeไปให้เค้าก็ซับพอทยาก ยังงี้ก็ควรจะมีทีมsupportเป็นของตัวเองจริงๆนั่นแหละไม่งั้นก็ต้องจ่ายให้ทางwordpressตามตกลงกันไป
ถ้าตกลงกันไม่ได้ น่าจะโดน fork แยกออกมาละ แต่ต้องตั้งชื่อใหม่ ซึ่งก็คงจะชื่อแนวไปนี้ละ
แต่จะไปรอดหรือเปล่าต้องลองดู ถ้าเจ๋งจริงนอกจากไม่ร่วงแล้วอาจทำให้เจ้าเดิมร่วงแทน เหมือน mySQL กับ mariadb แต่ถ้าไม่จิตสาธารณะจริงก็ไปไม่รอด ยอมจ่ายจริงดีกว่า ที่ผ่านมามี cms เกิดขึ้นเยอะแยะแต่ก็สู้ wp ไม่ได้
ไม่ค่อยรู้ปัญหาที่ขัดแย้งกัน แต่เชื่อว่าทาง WordPress เองก็คงต้องแบกรับอะไรบางอยู่อยู่พอสมควรแหละ ถึงได้ออกมาเปิดสงครามแบบนี้ แต่จริงๆก็ดีนะ มีปัญหาแล้วคุยกันเองไม่รู้เรื่อง ก็ไปเจรจากันผ่านศาล
..: เรื่อยไป