Mark Zuckerberg มีมูลค่าสินทรัพย์รวม (net worth) แตะหลัก 2 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากมูลค่าหุ้นของ Meta พุ่งสูงขึ้นมากในปีนี้ ส่งผลให้สินทรัพย์ของเขามีมูลค่าเพิ่ม 7.34 หมื่นล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ต้นปี (คิดจากอันดับมหาเศรษฐีโลกของ Bloomberg)
Mark Zuckerberg กลายเป็นเศรษฐีคนที่ 4 ในโลกที่มีมูลค่าสินทรัพย์เกิน 2 แสนล้านดอลลาร์ โดยบุคคลที่รวยที่สุดในโลกตอนนี้ยังเป็น Elon Musk (2.72 แสนล้านดอลลาร์) ตามด้วย Jeff Bezos (2.11 แสนล้านดอลลาร์) และ Bernard Arnault (2.07 แสนล้านดอลลาร์)
ถ้าคิดตามมูลค่าสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นเฉพาะในปี 2024 ตัวเลข 7.34 หมื่นล้านดอลลาร์ของ Mark Zuckerberg ถือว่าเยอะที่สุด ส่วน Jensen Huang แห่ง NVIDIA มีมูลค่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 6.22 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มสูงเป็นอันดับสอง สินทรัพย์รวม 1.06 แสนล้านดอลลาร์ อยู่อันดับ 14 ของโลก
Comments
เพื่อนๆจะรุ้สึกอย่างไรถ้าเงินที่ได้มา ส่วนหนึ่งเอามาจากเงินโฆษณาที่มิจฉาชีพใช้หลอกลวงทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์จนไปถึงเสียชีวิต จะยังภูมิใจกับtop 4หรือไม่
The Last Wizard Of Century.
น่าจะไม่รู้สึกอะไรนะครับ ไม่งั้นเลิกนานแล้ว 555
ตอนแรกอ่านผ่านๆไม่เห็นคำว่ามิจฉาชีพ เห็นแต่ว่าโฆษณาหลอกลวงจนทำให้คนเสียชีวิต เลยนึกไปถึง Tesla ที่โฆษณา autopilot แบบหลอกลวงเกินจริง จนมีคนเอาไปใช้แบบไม่ระมัดระวังจนเสียชีวิต
Bloomberg น่าเชื่อถือกว่าแต่มีแค่ 500 อันดับ แต่ Forbes มีเกือบ 2800 อันดับ ก็คือเอาทุกคนที่มีทรัพย์สินหลักพันล้านดอลลาร์ขึ้นไปมาจัดอันดับเลย เราเลยได้รู้ว่า Sam Altman แห่ง OpenAI มีทรัพย์สินเหยียบพันล้านดอลลาร์แล้ว
รอ IPO ก่อนอาจจะขึ้นมา TOP5 เลยครับ 5555
การที่เราใช้ดอลล่าส่งผลต่อความเพิ่มความเชื่อมั่นของดอลล่าห์ เงินสามารถพิมพ์ได้ ถ้าทำให้ทุกคนใช้ดอลล่าห์เป็นสกุลเงินกลางได้(เหมือนจุดไฟเริ่มต้น) ทุกครั้งที่ประเทศอื่นๆใช้ดอลล่าห์(เชื้อเพลิง)ใช้จ่ายระหว่างประเทศ ค่าเงินดอลล่าห์ก็มีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น(ไฟลุกโชน) เมื่อดอลล่าห์มีความเชื้อมั่นก็สามารถพิมพ์ออกมาได้เรื่อยๆ
ถ้าคุณพิมพ์เงินได้เรื่อยๆ คุณจะเอาไปทำอะไร
1. ซื้อทรัพยากรณ์จากประเทศที่มันรับใช้ดอลล่าห์นั้นแหละ
2. ลงทุน R&D ให้นวตกรรมทิ้งห่างประเทศที่รับใช้ดอลล่าห์นั้นแหละ ประเทศนั้นจะต้องพึ่งพาดอลล่าห์เรื่อยๆ
3. ลงทุนในตลาดหุ้น สร้างความมั่งคั่งให้เจ้าของดอลล่าห์
เคยสงสัยใหมทำไมเมกาไม่รับเงินบาท-ดอลล่าห์ซื้อขายแลกเปลี่ยนแบบทวิภาคี ทำไมเราไม่สามารถทำ currency swap กับเมกาได้ หรือเค้าแค่ให้ role เราเป็นแค่ผู้ใช้แรงงานผลิตสินค้าป้อนเมกาเท่านั้น ถ้าเป็นแบบนี้เราจะรวยหรือหลุดพ้นจากดอลล่าห์ได้เมื่อไหร่ ยิ่งรับใช้ดอลล่าห์ยิ่งช่วยดอลล่าห์ คนได้ประโยชน์สูงสุดไม่ใช่ไทย
ไทยค้าขายกับเมกาน้อยนะครับ แถมเกินดุลด้วย
เพราะงั้นก่อนจะหลุดพ้นจากดอลล่าห์ หลุดออกจากหยวนให้ได้ก่อนครับ ค้าขายเยอะแถมไม่พอขาดดุล แล้วยังไม่พอยังออกกฏหมายเอื้อให้อีก
ได้ดุลจากการรับจ้างผลิตซึ่งสินค้าแบรนด์เมกาเอง แถมได้รับเงินเป็นดอลล่าที่เค้าพิมพ์ออกมา ลองให้นึกถึงประเทศเมกาคือผม คุณคือประเทศไทย ผมจ้างคุณเอาดินบ้านคุณปั้นเป็นกระถางให้ผม ผมเอาเงินทึ่ผมพิมพ์มาเองจ่ายให้คุณแล้วผมบอกว่าผมขาดดุลคุณอยู่นะ
ส่วนการค้าขายกับจีน ผมไม่เคยได้ยินว่าจีนใช้เฉพาะหยวนกับไทย จีนกับไทยก็ติดกับระบบการค้าที่มีดอลล่าห์เป็นใหญ่เหมือนกัน สิ่งที่เคยได้ยินคือไทยกับจีนมีการสร้างระบบการเงินที่สามารถค้าขายด้วยเงินท้องถิ่นร่วมกันซึ่งก็คือไทยบาท-หยวน ไทยสามารถใช้เงินบาทกับจีน จีนใช้เงินหยวนกับไทย แต่ส่วนใหญ่ยังใช้ดอลล่าห์อยู่
จากการยกตัวอย่างก่อนหน้านี้ ถ้าคุณไปดูรายละเอียดสินค้าที่นำเข้าจากจีน ก็จะรู้ว่าไทยนำเข้าสินค้าต้นน้ำวัตถุดิบและเครื่องจักรจากจีนเป็นจำนวนมาก สมมติว่าคุณใช้ดินบ้านคุณทำกระถางขาย แต่คุณไม่มีเตาเผาและเชื้อเพลิง(วัตถุดิบและเครื่องจักร) คุณก็ไปซื้อของพวกนั้นจากเพื่อนบ้านที่สมมติเป็นจีน ซึ่งทำให้คุณขาดดุลเพื่อนบ้าน ผลผลิตที่คุณทำก็เอามาขายผมที่สมมติเป็นเมกา ผมจ่ายด้วยเงินที่ผมพิมพ์แล้วผมบอกว่า คุณได้ดุลผม ยิ่งคุณขายให้ผมเท่าไหร่ผมก็มีปัญญาจ่ายแล้วผมก็ย้ำเตือนว่าคุณได้ดุลผมอยู่นะ ยิ่งคุณขายของคุณต้องยิ่งต้องใช้วัตถุดิบต้นน้ำคุณต้องยิ่งนำเข้าจากเพื่อนบ้าน คุณก็ยิ่งขาดดุลเพื่อนบ้าน สรุปใครได้เปรียบ
ขาดดุลคือขาดดุลครับ เงินไหลออกไปมากกว่าไหลเข้า แล้วบ่นเรื่องเมกาพิมพ์เงิน เคยดูหยวนป่าวครับ พิมพ์มากกว่าเมกาอีกนะ ไทยเองก็พิมพ์เงินจากอากาศเหมือนกันนะครับ นี้ยังคิดว่าเงินบาทยังมีทองคำแบคอยู่หลอครับ
แล้วไปดูมาใหม่นะ ไทยนำเขาของอุปโภคบริโภคจากจีนเยอะสุด คือของที่เอาเข้ามาแข่งกับตลาดในประเทศนั้นแหล่ะ
ข้อมูลกลับตาลปัตกันหมดแล้ว ข้อมูลที่ผมพูดมาสามารถหาได้จากอินเตอเน็ตอาจจะหาไม่ง่ายแต่สามารถเอาไปตรวจสอบได้ เชื่อเถอะไม่มีใครพิมพ์เงินได้มากกว่าเมกาแล้ว จีนเค้าก็พิมพ์เงินเท่าดุลการค้าที่เค้าได้เช่นเดียวกับไทย แต่เมกาขาดดุลทุกปีเอาเงินที่ใหนมาใช้จ่ายเงินระหว่างประเทศ
https://tradingeconomics.com/thailand/imports/china
ถ้าคุณเสกลมให้มีมูลค่าได้นั่นคือความเก่งของคุณแน่นอนว่าคุณย่อมได้ประโยชน์สูงสุดผมก็ยินดีที่จะทำของมาขายและรับแบงค์กงเต็กตราบใดที่มันมีมูลค่า การค้ามันไม่มีแฟร์อยู่แล้ว
ครับ อย่างน้อยก็ต้องยอมรับความจริง มันไม่แฟร์ ไว้รอสักวันที่มีโอกาสที่สามารถเปลี่ยนแปลงความไม่แฟร์นี่ โลกเรานี้ไม่ได้มีแค่2ตัวเลือกจีนหรือเมกา แต่เรายังไม่อาจเห็นตัวเลือกใหม่ๆ แต่การเข้าใจความเป็นจริง สักวันมันจะนำพาไปสู้การแก้ไขที่ถูกต้อง อะไรไม่แฟร์ อะไรผิด เราก็ต้องว่าไปตามจริง ไม่ต้องไปปกป้อง เราไม่ได้เป็นทาสเค้า มันแค่ไม่มีตัวเลือกที่เป็นธรรมให้กับเราแค่นั้น
ผมมองว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ผิดนะสิ่งใดมีความต้องการสิ่งนั้นย่อมมีมูลค่า เขาฉลาดที่สามารถทำได้แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ผิดไม่มีใครบังคับให้เราซื้อขาย
มันก็เหมือนเรายอมรับการผูกขาดเจ้าสัวนั้นและ คนรวยเค้าเก่งผูกขาด เค้าเอาเงินต่อเงินได้ คนทั่วไปก็ซื้อของเค้าก็มีแต่จะทำให้เค้ารวย เมกาก็เป็นแบบนี้รวยผูกขาดเก่ง ถ้าคุณยอมรับผมก็ไม่ว่าอะไร แต่ผมคงไม่เอาไม่อยากเป็นทาสไม่อยากให้ลูกหลานเป็นทาส ผมแค่ไม่มีทางเลือก แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้กลไลของมหาอำนาจ รู้ความจริงว่าเค้าเอาเปรียบเราอย่างไร เราแก้ปัญหาคนเดียวไม่ได้ แต่ถ้าทุกคนรู้พร้อมใจกันต่อต้านทั้งอาเซียน ก็อาจะมีความเป็นไปได้
ทุกคนรู้แล้วสเตปต่อไปจะทำอะไรต่อครับมีแผนอะไรในหัวจริงมั้ย ไม่ใช่เอาแต่พูดถึงหลักการเพ้อฝันอุดมคติ เอาที่มันทำจริงๆได้คุณหยุดใช้ดอลล่าคุณค้าขายกับเมกาไม่ได้ประเทศเรามีศักยภาพพอจะทำรึเปล่าหรือจะบอกว่าก็ไปค้าขายกันจีนแทนสิ? หรือจริงๆเป็นแค่IOจีนเทามาปลุกปั่น
ปลุกปั่นยังไง ถ้าข้อมูลไม่ถูกต้องคุณเอาข้อมูลคุณมาหักลัางได้ ผมไม่ได้บอกให้หยุดใช้หรือหยุดค้าขายกับเมกานะ แต่ต้องการบอกความจริงความได้เปรียบเสียเปรียบ ไม่ใช่ปิดหูปิดตา ยอมรับใช้เค้าไปตลอด ดีก็ว่าดี อะไรไม่ดีอะไรไม่แฟร์ก็ต้องยอมรับ จริงใหม? เราต้องเข้าใจกฏเกณ์การค้าโลกที่มีเมกาเป็นใหญ่เสียก่อน ส่วนการตัดสินใจของใครเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องของคนนั้น ผมไม่สามารถแทรกแซงอะไรหรือเอาเรื่องเท็จมาปลุกปั้นอะไรได้ครับ
ไม่ปลุกปั่นแต่อยู่ดีๆก็มาโพสบ่นเรื่องเงินดอลลาร์กับเป็นทาสเมกานี่ต้องการอะไรครับ จริงหรือไม่จริงผมไม่ได้สนใจจะถกประเด็นนั้น ผมแค่อยากรู้ว่าคุณมาคอมเม้นเพื่ออะไรแล้วต้องการอะไร
เพราะเราไม่มีพาวเวอร์อะไรไปต่อรองกับเค้าได้ครับ
ถ้าเราต้องพึ่งพาเค้า เค้าจะให้ role อะไรกับเราก็ได้ครับ แต่เราจะทำอะไรได้แค่ไหนก็เป็นอีกเรื่อง
หลุดแล้วอาจจะดีที่มีอิสระในการควบคุมเศรษฐกิจมากขึ้น แต่แลกกับค้าขายกับเค้าไม่ได้ คิดว่าอันไหนคุ้มกว่ากันครับ
ถูกต้องแล้วครับ คนได้ประโยชน์สูงสุดคือคนที่มีอำนาจต่อรองสูงสุดอยู่แล้ว
ตราบใดที่เรายังไม่มีพาวเวอร์มากพอที่จะมีอิสระในการกำหนดระบบการเงินเอง ยังไงเราก็ต้องเลือกทางที่ดีที่สุดเท่าที่เราทำได้ครับ
แต่ก่อนจะไปคิดถึงเรื่องการมีอิสระในการกำหนดระบบการเงิน เอาแค่เรื่องเทคโนโลยีก็เห็นจากข่าวแล้วนะครับว่าเราต้องพึ่งพาเค้าขนาดไหน ตราบใดที่เรายังไม่ทุ่มเทให้กับการวิจัยและพัฒนา ก็อย่าหวังจะมีอิสระในการกำหนดระบบการเงินเลยครับ
จริงๆแล้ว เราติดกับดัก ระบบดอลล่าห์ มานานแล้ว
ระบบ petro dollar เป็นแค่ตัวเริ่ม
เพื่อให้ทุกคนต้องใช้ ดอลล่าห์
พอทั่วโลกใช้เงินดอล
อเมริกาก็พิมพ์เงินออกมา
ไหลเข้ามาในตลาดทุน-ตลาดเงินประเทศต่างๆได้
ถ้าไหลเข้าตลาดทุน ก็เหมือนพิมพ์เงินจากอากาศ มาซื้อกิจการและรอรับปันผลในประเทศต่างๆได้ฟรีๆ
ถ้าไหลเข้าตลาดเงิน ก็เหมือน อยู่ๆ เราก็ติดหนี้ที่มาจากอากาศ และต้องหาดอกเบี้ยมาจ่ายให้อเมริกาไปเรื่อยๆ
ทำให้ทั่วโลกยิ่งต้องการเงินดอล
เพื่อมาจ่าย ปันผล-ดอกเบี้ย(ที่มาจากธาตุอากาศ)มากยิ่งขึ้นไปอีก
USD ไม่ได้พิมพ์ออกมาจากอากาศ และไม่ได้พิมพ์ออกมาได้ไม่จำกัดนี่ฮะ
หลายประเทศเองก็เอาโครงสร้างเศรษฐกิจของตัวเองเป็นตัวค้ำมูลค่าเงิน ไทยเองนี่จำได้ว่าก็ใช่นะ แต่แค่ USD มันใหญ่มากพอที่จะซับเงินได้โดยมีการเปลี่ยนแปลงน้อยเมื่อพิมพ์ออกมาเพิ่มในมูลค่าเท่าๆ กันกับค่าเงินอื่นเพราะมันนับเป็นอัตราส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับที่มีอยู่และการใช้งานทั้งหมด
คือ US ก็ take profit จากการพยายามสร้างตลาดให้ใช้ USD เป็นตัวกลางแหละ แต่ก็ยังไม่เห็นตัวเลือกที่ดีกว่านี้สักเท่าไหร่ และไม่ได้คิดว่า US take profit มากจนน่าเกลียดนะ
ถ้าพิมพ์ออกมาจากอากาศได้ไม่จำกัดนี่คงไม่ต้องออกพันธบัตรจนหนี้สาธารณะสูงล้นโลกขนาดนั้นมั้งฮะ
ไหลเข้าตลาดเงินนี่ยังไม่แน่ใจเท่าไหร่ หมายถึงเอามาแลกเปลี่ยนสกุลเงินแล้วฝากธนาคารในต่างประเทศ? การทำแบบนั้นก็จะยิ่งเป็นการทำให้ค่าเงินฝั่งนั้นแข็งตัวมากขึ้นเมื่อเที่ยบกับ USD ?
ไหลเข้าตลาดทุนก็คล้ายๆ กัน
พวกเราต่างหากที่ช่วยเพิ่มความเชื่อมั้นให้กับดอลล่าห์ ทำให้เค้าพิมพ์เงินเข้าระบบ ทำให้ GDP โต ตลาดทุนโต
อันนี้แน่นอนอยู่แล้วนะฮะ 😂
US ไม่ take profit จนน่าเกลียด?
จริงๆ ระบบมันเล่นเราหมดตัวเลยนะ
ช่วงปี 2000 มีนิทานพระราชากับคนฉลาดที่ฮิตมากๆ คือ
พระราชารับปากกับคนฉลาดว่า
จะให้ข้าวเป็น 2เท่า ทบต้นให้เต็มตารางหมากรุก
ที่มีขนาด 8 × 8 = 64ช่อง
โดยช่องแรกเป็นข้าว 1เม็ด, 2เม็ด, 4, 8 ... 2^64
สุดท้ายพระราชาจะหาข้าวมาให้ตามสัญญาไม่ได้
ทุกคนอ่านแล้วคิดว่าตัวเองจะฉลาด จะรวยได้ด้วยระบบนี้
เลยยอมรับระบบความมั่งคั่งทบต้นนี้ กลายเป็น norm ของระบบเศรษฐกิจและสังคม
โดยไม่เฉลียวใจว่า ฝ่ายเราต่างหากที่ทำตัวเป็นพระราชา
ภูมิใจในคำยกยอปอปั้นว่ามี "ศักยภาพในการแข่งขัน"
ซึ่งเป็นการแข่งกันแจกจ่ายความมั่งคั่งของตัวเองออกไปในรูป ปันผล/ดอกเบี้ย ให้ทุนฝรั่งที่เข้ามา
ซึ่งการเติบโตทางเศรษฐกิจมีอิ่มตัว
แต่ดอกเบี้ยไม่มีวันอิ่ม
พอเศรษฐกิจอิ่มตัว หยุดเติบโต
ก็จะเริ่มโดนดอกเบี้ยกินเข้าเนื้อไปเรื่อยๆ
และจะจบลงแบบเราไม่เหลือทรัพย์สินอะไรเลย
แถมยังมีหนี้ก้อนโตอีกด้วย
ทำไมรู้สึกว่าเรื่องที่เล่ามันเหมาะกับจีนมากกว่า USA นะคุณเลียจีน
ทั้ง USA ทั้งจีนเอาเปรียบประเทศเล็กๆหมดแหละเพราะอำนาจต่อรองเรามีน้อย แต่ลองถามตัวเองว่าประเทศไหนนะที่สูบเลือดสูบเนื้อประเทศเล็กๆจนพังไปแล้วหลายประเทศ คงไม่ต้องบอกว่าประเทศไหนบ้างนะที่มีข่าวล้มละลายเพราะ belt and road initiative
เอาง่ายๆแค่ประเทศหรือเขตการปกครองรอบๆอย่าง hong kong vs taiwan ลองถามตัวเองดูว่าอันไหนแย่ลงอันไหนดีขึ้น
คือแบบด่า USA นี่ถ้าเป็นคนอื่นจะเข้าใจเพราะว่ามันจริง แต่ไอ้พวกโปรจีนมาด่า USA แต่เลียจีนเนี่ยรับไม่ได้
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ผมว่า ผมไม่เคยอวย/เลียจีน นะ
อยู่ๆมาหาว่าผมโปรจีนเฉย
แถมเนื้อหาเดียวกัน
ถ้าคนพูดเป็นคนอื่น = จริง
ถ้าโปรจีนพูด = รับไม่ได้
Ad Hominem Fallacy ขั้นสุด 😂😂😂
แหม อันนี้หลอกตัวเองหรือหลอกคนอื่น? เดาได้เลยเดี๋ยวก็จะมาบอกอีกว่าชอบคิดว่าผมเป็นอย่างนู้นอย่างนี้อีก ควายจริมๆ
เหอะๆ เพราะโปรจีนอย่างคุณมรึงชอบเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นไง คือต้องแปลภาษาคนเป็นภาษาคนอีกที?
คือสรุปว่าข้อความข้างบนโต้ไม่ได้สินะว่าจีนมันเหี้ยกว่า USA เยอะ? ขอถามอีกทีเข้าใจคำว่า Ad Hominem Fallacy จริงๆหรือเปล่า?
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ผมไม่รู้ว่าต้องเถียงกันจริงจังเบอร์นี้มั้ยนะ แต่คำหยาบเยอะจัง ดูไม่เหมาะกับการคอมเม้นต์ที่นี่เลยนะครับ
ครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ใช่ฮะ ยังไม่น่าเกลียด เทียบกับตัวเลือกอื่นๆ ที่มีแล้วก็ยังถือว่าผลตอบแทนดีกว่ามาก
ขอนอกเรื่องหน่อย คือ ผมอ่านแล้วมันขัดตามาก
"ดอลลาร์" สะกดลงท้ายด้วย ร และไม่มี ไม้เอกนะครับ
เพราะว่ามันมาจาก Dollar นะครับ ไม่ใช่ Dollah
คำว่า "ทรัพยากรณ์" ยังพอเข้าใจได้ว่าอาจจะชินมาจาก "พยากรณ์" แต่ "ดอลล่าห์" เนี่ย ผมก็ยังไม่เข้าใจว่า "ห์" มันมาจากไหนอ่ะ
อ้างอิง: ราชบัณฑิตยสภา
ถ้า Sergey Brin กับ Larry Page มารวมกันก็จะเป็นอันดับหนึ่ง
Bill Gates + Steve Ballmer ก็อันดับหนึ่งได้ครับ 😅😅
iPAtS
ไหงคอมเม้นต์มันถึงดุเดือดขนาดนี้ได้กันนะ 555555
คาดการณ์ว่าภายใน 1 ปีนี้ มีโอกาสที่อันดับจะขยับขึ้นไปอีก เพราะหุ้น Meta เพิ่ง All Time High ที่่ 500 กว่าเหรียญต่อหุ้นไปนั้น มีโอกาสที่จะประกาศแตกพาร์ในอนาคต ซึ่งถ้าแตกพาร์ ก็มีโอกาสที่จะขึ้นจากนี้ไปได้อีก และการจ่ายปันผลของ Meta ที่เพิ่งมีการเริ่มจ่ายในปีนี้ ก็ทำให้ Mark มีเงินปันผลเข้าทุก ๆ 3 เดือนแบบชิวชิว
อื้อหือ.... อันดับ 8 Steve Ballmer 😲