กระทรวงโทรคมนาคมและข้อมูล (Menkominfo) สั่งแบนแอป Temu ฐานไม่จดทะเบียนผู้ให้บริการแพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic System Operator - PSE) ในอินโดนีเซีย
แม้ว่าเหตุผลของการสั่งบล็อคจะเป็นเพราะ Temu ไม่ได้มาลงทะเบียน แต่ทางกระทรวงก็ระบุเหตุผลรองว่า Temu ส่งผลกระทบต่อธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (Usaha Mikro Kecil Menengah - UMKM) ในประเทศอย่างมาก
ยังไม่แน่ชัดว่ากูเกิลและแอปเปิลจะตอบรับคำสั่งของรัฐบาลอินโดนีเซียเมื่อใด แต่ล่าสุดหน้าเว็บ Google Play อินโดนีเซียยังแสดงแอป Temu อยู่
ที่มา - KomInfo.go.id
Comments
Aliexpress ละ
อินโดนี่ดุกับพี่จีนจัดเลย
เหมือนเค้าต้องการปกป้อง platform e-commerce ในประเทศ Tokopedia แต่จะว่าโหดกับจีนคงไม่น่าใช่ซะทีเดียว เพราะตอน Tiktok Shop ไปเปิดก็โดนแบนเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็แก้ปัญหาโดยการให้ Tiktok ลงทุนใน Tokopedia เหมือนว่าจริงๆแล้วอินโดนีเซียต้องการให้จีนเข้าไปลงทุนมากกว่าเปิดลอยๆ เหมือนของไทยเองก็เชิญมาเปิดสำนักงานแล้ว กำลังรอดูว่าจะตอบรับใหม ถ้าไม่ ไทยเองก็อาจจะแบนได้เหมือนกัน
ส่วนของไทยนั้น ขนาดออกประกาศให้เก็บ vat ตั้งแต่บาทแรกของสินค้านำเข้าทั้งหมด ที่สั่งของส่วนตัวมาจากจีนผ่านplatformต่างๆยังไม่โดนภาษีอะไรเลยเลยแม้ว่าไม่น่าจะเข้าข่ายยกเว้นภาษีนำเข้า(ต่อให้ยกเว้นก็ควรจะต้องโดนvatแต่ไม่โดนเลย) ส่วนจากญี่ปุ่นโดนเต็มๆ 20+7 บ้าง 30+7 บ้างทั้งๆที่ของใช้ส่วนตัวล้วนๆหลายอย่างเป็นสิ่งพิมพ์(แต่ไม่ใช่หนังสือ)ก็ยังโดน แม้แต่ของมูลค่าไม่ถึงพันก็โดนเดี๋ยวนี้เจอเปิดกล่องประเมินภาษีทุกกล่องนะครับ(เมื่อก่อนโดนเฉพาะ EMS) ร้านญี่ปุ่นนี่ชอบแนบใบเสร็จพร้อมไม่ต้องเสียเวลาประเมินเอง ขั้นต่ำคือโดนvat(ส่วนนี้เข้าใจ)
จนบางอย่างนี่คิดว่าบินไปหิ้วกลับมาเองอาจจะโดนภาษีน้อยกว่าค่าตั๋วเครื่องบินlowcostช่วงโปรซะอีก(ของเพื่อใช้ส่วนตัวมูลค่ายังไม่เกินสองหมื่นบาทปกติได้รับการยกเว้น)
โดยส่วนตัวเต็มใจจ่ายนะครับแม้ว่าของที่สั่งมาคือของเฉพาะที่ไม่มีของทดแทนในไทยเลยก็ตาม(ที่เป็นเหตุให้ตั้งกำแพงภาษี) แต่มันก็เห็นความแตกต่างจนคิดว่าอาจเป็นการเลือกปฎิบัติกับบางประเทศ?(หรืออาจจะคิดว่ามันยุ่งยากในการตรวจสอบ ไม่เหมือนจากประเทศอื่นที่จำนวนpackageน้อยกว่าและค่าส่งแพง แสดงว่าของมูลค่าน่าจะสูงมีโอกาสจัดเก็บภาษีได้มากกว่า?)
ผมสั่งจาก ali โดนภาษีแฮะ ราคาไม่กี่ร้อย (แต่ที่เซ็งคือดันเป็น dhl โทรมาให้โอนค่าภาษีไปให้ ก็นึกว่ามิจฉาชีพเลยวางสายไป)
DHL express เหรอครับ
เคยดูสัมภาษณ์เค้าว่าเก็บแล้ว แต่ขนส่งเป็นคนออก แล้วไปชาร์จเอาจากผู้ขายอีกที เลยไม่โชว์ในสลิป
A smooth sea never made a skillful sailor.
คิดว่าเก็บแล้วนะครับ ราคาสินค้าจีนปรับขึ้นหมดเลยช่วงนั้น มีทำติดตะกร้าอยู่คนขาย(จีน)ก็บอกปรับเพราะต้องรวมภาษีที่บังคับใหม่
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ของที่ผมสั่งเช่นหูฟัง,dac จากจีนเจอราคาลดลงนะครับเช่นร้าน official hifiman ในแอพส้ม
แต่ไม่ได้เทียบราคาทุกชนิดเลยบอกไม่ได้ เพราะสนใจตามราคาเฉพาะของที่ต้องการซื้อ และมีบางช่วงหลายเดือนก่อนหน้าเงินบาทอ่อนก็เห็นของก็แพงขึ้นกันหมดแต่ช่วงนี้ก็กลับมาถูกลง
ส่วนท่านบนเจอจาก aliexpress ช่วงนี้ยังไม่ได้สั่งผ่านเจ้านี้เหมือนกัน เพราะหลายอย่างในแอพส้มแอพฟ้าถูกกว่าซะอีก ยกเว้นบางรุ่นบางชนิดที่ไม่มีร้านขายในนี้
ส่วนสั่งจากญี่ปุ่นเช็คผ่านเวบตอนของถึงไทยแล้วไปจ่ายที่ไปรษณีย์ตอนของถึงสาขาประจำครับอันนี้ชัดเจนสุดๆ คำนวณยอดตรงตามใบเสร็จที่แนบมามากๆ +20บาทค่าดำเนินการปณ.อีกส่วน
การเดินทางไปต่างประเทศแล้วซื้อของกลับมาด้วยก็สมควรโดนภาษีทุกบาทเช่นเดียวกับการซื้อออนไลน์นะ เพื่อความยุติธรรม
ก็คงต้องแก้หลักเกณฑ์ศุลกากรเลยล่ะครับ เพราะจริงๆช่องทางนี้ก็เป็นช่องโหว่ช่องใหญ่เลย ขนาดกำหนดสองหมื่นก็ยังเห็นคนโพสอวดของราคาหลักแสนรอดมากัน
ผมเองไม่ได้ซื้อของแบรนด์เนม ปกติไม่ได้หิ้วของราคาแพงเข้ามาอยู่แล้ว เคยโดนสุ่มเรียกx-rayก็ผ่านปกติเพราะไม่มีได้ซื้ออะไรนอกจากขนมกับหนังสือแบกกลับมา
อินโดโหดแต่ไหนแต่ไร ช่วง 1998 ถล่มย่านคนจีน สังเวยไปพันกว่าคน บ้านวายวอดอีกห้าพันหลัง
ตลาด e-commerce ในอินโดนีเซียใหญ่เหมือนกัน รัฐบาลก็คงต้องการรักษาผลประโยชน์ของเค้าไว้อย่างเต็มที่
เวลาตายมันไม่ได้ตายแค่ e-commerce ครับ ยกตัวอย่างตาดอะไหล่มอไซค์อินโดเองก็คล้ายไทยในส่วนของการชอบแต่งรถ มีอะไหล่แต่งเยอะแยะมากมายที่ผลิตในประเทศอินโด
เจอตลาดจีนตีเข้าไปถูกกว่าเกือบครึ่ง คนที่เคยเอาของในประเทศมาขายก็เปลี่ยนไปขายของจีน ทำให้โรงงานผลิตในประเทศสู้ไม่ได้ แม้ว่าของจีนจะคุณภาพต่ำกว่าชัดเจน แต่คนมักเลือกของถูกกว่าอยู่แล้ว
ทีนี้พอของจีนติดตลาด พ่อค้าแม่ค้าจีนก็มาขายเอง ก็ตายทั้งผู้ขาย ตายทั้งผู้ผลิตเลย ประชาชนเดือดร้อนไม่พอ รัฐบาลเก็บภาษีไม่ได้อีก
ของไทยก็ปล่อยตามมีตามเกิดกันไปครับ ตอนนี้ของจีนตีตลาดผู้ผลิตไทยอยู่หลายกลุ่มเลย
อินโดเค้าป้องกันคนในประเทศเค้าดีนะครับ ของไทยดูจะเกรงใจคนต่างประเทศไปทุกเรื่อง
กฎหมายเราดี แต่การบังคับใช้ และความจริงใจในการใช้กฎหมายตามเจตนารมภ์แห่งกฎหมายห่วยแตกมากครับ
มองด้านเดียวหรือเปล่าครับ ลองคิดดูดีๆ
- มีประเทศใหนบ้างที่ใช้สินค้าแบรนด์ไทยจริงๆ(ที่ไม่ใช่สินค้ารับจ้างผลิต) สินค้าแบรนด์ไทยจริงๆเราส่งไปประเทศใหนมากสุด
- การค้าระหว่างประเทศ ถ้าหักลบสินค้าที่เป็นวัตถุดิบเครื่องจักรสินค้าที่เป็นต้นทุนที่ต้องนำเข้าเพื่อส่งออก ไทยได้ดุลประเทศใหนบ้าง
- มีประเทศใหนบ้างที่รับเงินบาทในการค้าระหว่างประเทศ การค้าแบบเท่าเทียมกัน
- การขายถูกมันคือสิ่งผิดจริงๆเหรอ หรือจริงๆมันคือศักยภาพที่ต้องเอาอย่าง
ไทยไม่ได้มีส่วนที่เสียเพียงอย่างเดียว ไทยก็มีส่วนที่ได้เหมือนกันแต่มักไม่ได้พูดถีง ลองคิดดูดีๆนะครับ ส่วนตัวผมไม่ได้ต้องการปั่นอะไร แต่มันมีข้อมูลบางอย่างที่มีความเข้าใจไม่ถูกต้องนัก ใครคิดเห็นอย่างไรก็เรื่องของคนนั้นนะครับ
ผมเองก็ไม่ใช่คนที่รู้ไปทุกอย่างหรอก แล้วที่รู้ก็ไม่ใช่ว่าจะถูกต้องด้วย แทนที่คุณจะมาบอกว่าอะไรเป็นอะไร หรือจะมาแลกเปลี่ยน หรือชี้แนะ แต่มาบอกให้ผมคิด แบบนี้ผมไม่รู้ว่าทำไปทำไมครับ
ขอโทษด้วยครับที่ไม่ได้บอกอะไรเป็นอะไร เนื่องจากผมไม่รู้จะพูดยังไงไม่ให้ถูกหาว่าอวยหรือชี้นำหรือปลุกปั่น เลยคิดว่าแค่ชี้ทางให้ไปหาข้อมูลเองน่าจะดีกว่า ซึ่งจริงๆก็ไม่ใช่ข้อมูลความลับอะไร เป็นข้อมูลอีกด้านที่ไม่ค่อยได้รับการนำเสนอ เอาเป็นว่าถ้าไม่ได้สนใจก็ข้ามไปก็ได้ครับ ผมเองก็พูดเพื่อท่านอื่นๆด้วย ก็ให้แต่ละท่านศึกษาดูเอง ตัดสินใจเอาเอง และไม่ต้องการสร้างความขัดแย้งครับ
คุณกับผมไม่น่าจะมีใครรู้จักตัวจริงในโลกออฟไลน์ ชื่อคุณเองเป็นชื่อสามัญที่หาได้ทั่วๆ ไป ไม่น่ามีใครค้นข้อมูลส่วนตัวได้ด้วยซ้ำ ทำไมต้องกลัวจะเสียภาพพจน์ด้วยครับ?
อีกอย่างคือคุณสามารถให้ข้อมูลได้โดยไม่ต้องไปเถียงกับใคร ใครเถียงอะไรมาก็ไม่ต้องโต้ตอบได้ด้วยซ้ำ
ผมก็แค่พูดเฉยๆ ครับไม่ได้บังคับ ผมเข้าใจคนที่เป็นแนว "รู้นะ แต่ไม่พูดดีกว่า"
ได้มอง 2 ด้านตามที่เค้าบอกหรือยัง
มองครับ แต่ผมต้องการทัศนะจากคนที่เสนอครับ
ถ้าเอาแต่บอกให้คิดเอง ให้หาข้อมูลเอง แบบนี้ใครก็ทำได้ แล้วไม่ต้องรอให้คนมาบอกด้วยถูกมั้ยครับ
แล้วถ้าอยากให้หาข้อมูลเอง ให้คิดเอาเอง แบบนี้ก็ไม่ต้องรีพลายอะไรก็ได้ ถูกมั้ยครับ
ทุกวันนี้ใช้แต่ Shopee ไม่เคยสนใจเจ้าอื่นเลย ทั้ง L หรือเจ้าใหม่อย่างในข่าว ไม่สนับสนุน