Fast Company ได้สัมภาษณ์ Kate Bergeron รองประธานฝ่ายวิศวกรรมฮาร์ดแวร์ของแอปเปิล เกี่ยวกับ Mac mini ชิป M4 ในหลายประเด็นน่าสนใจ
Bergeron พูดถึงประเด็นหลังมีคนแกะ Mac mini M4 พบว่าสามารถอัปเกรดสตอเรจได้ เพราะไม่ได้ติดอยู่กับเมนบอร์ด ซึ่งดูเป็นสิ่งที่แปลกสำหรับสินค้าแอปเปิลยุคหลังว่า ด้วยขนาดที่เล็กลงของ Mac mini จึงทำให้เมนบอร์ดมีชิ้นส่วนสำคัญอยู่มากแล้ว และไม่พอสำหรับการใส่สตอเรจบนนั้น จึงต้องแยกส่วนสตอเรจออกไป เลยทำให้ผู้ใช้งานสามารถอัปเกรดได้นั่นเอง
เมื่อพูดถึง Mac mini M4 ก็ต้องพูดถึงประเด็นปุ่ม Power ที่ย้ายจากด้านหลังไปไว้ที่ใต้เครื่อง คำตอบของ Bergeron ก็คือ ในแง่การออกแบบนั้น แอปเปิลให้ความสำคัญกับการมีพอร์ตเชื่อมต่อรอบตัวมากที่สุด รวมทั้งการใส่พอร์ต USB ที่ด้านหน้า จึงทำให้ปุ่ม Power ต้องย้ายไปใต้เครื่องนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม Bergeron มองว่าปุ่มที่อยู่ด้านล่างไม่ใช่ปัญหา เพราะส่วนฐานมีพื้นที่ว่างพอให้สอดนิ้วกดได้ อีกทั้งสำหรับคนใช้งาน Mac โดยเฉพาะรุ่นชิป Apple Silicon ก็แทบไม่ได้ปิดเปิดเครื่องอยู่แล้ว แต่เข้าโหมด Sleep กันแทบทั้งนั้น
ที่มา: 9to5Mac
Comments
ไม่บ่อย ก็แสดงว่ามีปิด น่ะสิ ... ทำให้กดง่ายกว่านี้ก็ได้ มั้ง ทำยังกะปุ่ม factory-reset
mac pro ผมไม่เคย sleep shutdown อย่างเดียว
คนแซะมันไม่เคยใช้ซักคน 555
ปกติ Apple จะให้ความสำคัญกับ UI และ UX มาก ทำไมถึงมาพลาดเอาตรงนี้ได้นะ? ตอน ifixit แกะออกมามันเป็นสายไฟเส้นเดียวลากไปที่ปุ่มเปิด/ปิดเลย มันจะย้ายไปตรงไหนของเครื่องก็ได้ ย้ายมาอยู่ข้างบนแบบกล่องทรูยังได้ หรือว่าติดเรื่องสิทธิบัตรที่ไหนหรือป่าวนะ?
design ออกมาอย่างนี้ .. ถ้า ปุ่มอยู่ด้านบน , อาจจะถือเป็น ตราบาป สำหรับ designer ของ apple 😶
ผมมองงี้ คือ ถ้าจะทำสวิทช์ข้างบน ก็ต้องเจาะรูบนบอดี้ด้านบน กับต้องกลึงสวิทช์เพิ่ม เพราะสวิทช์พลาสติกมันไม่สวยบนบอดี้อลูมิเนียม
ส่วนบอดี้ด้านล่างเป็นพลาสติกแทบจะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
สรุปคือต้นทุน 555
ถึงบางอ้อเลย อยากให้ท่านศาสดาฟื้นขึ้นมาตบหัวลุงทิมให้ทิ่มซักทีนึงจริงๆ เมื่อก่อนเราเข้าใจว่าสินค้าแอปเปิ้ลมันแพงเพราะเน้นการออกแบบให้เป็นมิตรกับผู้ใช้งานให้มากที่สุด ทุนมันก็เลยสูงตาม แต่เดี๋ยวนี้มัน.....เฮ้อ 😮💨
ผมว่าตามนี้ครับ ต้นทุนเป็นหลัก ความงามตามมา ที่ไม่สนเท่าไรคือ ux :p
ให้ความสำคัญกับ UI UX นี่ผมว่าบางเรื่องก็ไม่เห็นแก้สักทีอยากปุ่มbackหรือปุ่มปิด ที่เอาไปไว้ซ้ายบนสุดบ้างขวาบนสุดบ้างซึ่งเล่นมือเดียวยังไงก็กดยากไม่รู้ใครมันคิดเอาไปไว้ตรงนั้น เข้าใจว่ามันสามารถรูดขวารูดขึ้นแทนได้แต่บางทีก็รูดไม่ติดหรือแอพมันไม่รองรับต้องเอื้อมไปกดอยู่ดี
เค้ามีฟีเจอร์เล่นมือเดียวอยู่ครับ เอาหิ้วโป้งถูแถบด้านล่างของจอลง ทั้งจอจะเลื่อนลงมาครึ่งนึง ทำให้เอื้อมถึงครับ
หรืออย่าง keyboard ก็กดปุ่มเปลี่ยนภาษาค้าง จะมีให้เลือกได้ว่าจะให้ keyboard เอียงไปซื้อหรือขวา(ตามมือที่จับ)
เอาจริงๆนะระหว่างกดให้มันพับลงมาครึ่งจอแล้วค่อยกดback กับเอื้อมไปกดbackผมว่าเอื้อมไปกดbackยังสะดวกซะกว่าอีก keyboardก็เช่นกันมันใช้ได้ทั้งคู่นะแต่ผมว่าถ้าย้ายuiยังไงมันก็ยังสะดวกกว่า
ผมมองว่าเรื่องที่ Apple ให้ความสำคัญกับ UI/UX ในฝั่ง Hardware มันเริ่มหายไปตั้งแต่ในยุคทิมแล้วล่ะครับ ยุคนี้ผมรู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างมุ่งเน้นเรื่องต้นทุนมากกว่า โดยเฉพาะในฝั่ง Hardware แต่พรีเซ็นต์ออกมาได้ดี มีเหตุผลสวยหรู คนก็เลยบ่นไม่เยอะ
ถ้ากระแสไม่ตีกลับมากพอ (อย่างปุ่ม Esc ของทัชบาร์หรือพอร์ต HDMI/SDCard ที่ยอมเอากลับมาใส่เพิ่มทีหลัง) ก็คงคาดหวังยากว่า Apple ในยุคนี้จะแก้อะไรพวกนี้ครับ
จริงๆ Logo Apple ยังว่างเอามาทำปุ่มเปิดปิดโดยเอา Logo ปิดทับปุ่มกดไว้อีกที ทำเป็นแบบกดยุบ พอติด Logo ก็เป็นสีขาวเรืองแสงก็น่าจะเท่ห์ไปอีกแบบ
บวกเพิ่ม $200 นะ 555
ถึงไม่บอกแต่เดาทางได้ เค้าต้องการคุมทิศทางของ user experience ให้ใช้ mac แบบไม่ปิดเครื่อง
คือรู้ว่ายังมีคนส่วนนึงกดเปิดปิดอยู่ แต่ไอไม่ต้องการให้ยูปิดนะ got it?
บูทก็นาน อย่าบูทเลย ได้ไหม
ฉันเป็นส่วนน้อยสินะที่ shutdown mac บ่อย(ทุกวันศุกร์) รวมถึงแทบในเบราเซอร์ด้วย แค่อ่านไตเติลไม่ออกก็ไล่ปิดอันที่ไม่ได้ใช้ทิ้งหมดละ
The Dream hacker..
ถ้าปุ่มเปิดไม่อยู่ใต้เครื่อง ก็ไม่เป็นกระแสให้คนพูดถึงและข่าวก็เงียบไปไวสิ
อยู่ข้างบนนี่ต้องเอาบัตรมาแปะปิดทับไว้ ไม่งั้นแมวปิดประจำเลย
ตัวเก่าก็อยู่หลังเครื่องได้นี่
เหตุผลมันยังฟังไม่ขึ้นอ่ะว่าทำไมต้องอยู่ข้างล่าง
้เพราะผู้ใช้ที่ปิดทุกวันก็มี เช่นผม และคนแก่อีกหลายคน
ที่โตมากับการเรียนรู้ว่าคอมต้องปิดให้สนิทเพื่อประหยัดไฟ
คิดถึงกรณี magic mouse เลย
คือผู้บริหารต้องการทิ้ง legacy ไว้เหรอ
ว่าข้ามี "courage" นะเว้ย ทำอะไรที่คนอื่นเค้าไม่ทำกันได้
เจอไฟกระชากบ่อยๆรู้ซึ่งแบบ surge ups เอาไม่อยู่
ปิดไว้อุ่นใจกว่า หน้าฝนที่ผ่านมาผ่าตอนตี 2
ของผมขนาด switch พังอะ
เช้าหหลังวันนั้น ตอนแรกเน็ทดับ
- หนูกัดสายอีกแล้วมั้งไล่สายเอ้าสายเทสติด
- วิ่งไปเทส Access Point ....ติด (เริ่มซีดลงเรื่อยๆเพราะแสงว่าเข้าใกล้เซิร์ฤเวอร์)
- ไปเทสไฟร์วอล.....รอดดดด (เยส)
- (UPS เพื่อนยากไปสวรรค์แล้วไม่ห่วง)
- เช็ค router ผู้ให้บริการ...ปกติ โทรหา cc ให้สาขาเช็คชุมสายก็เช็คปกติ....
- สรุป switch พังไฟติดกระพริบปกติ รีบลวิ่งไปซื้อ 16 port มาใช้ก่อน
ไล่ไปไล่มา...ฟ้าผ่าแล้วไฟวิ่งมาทางอุปกรณ์อนาล็อค
วิ่งผ่าน LAN จากอุปกรณ์ปลายทาง มาที่ switch
switch เสียสละให้ไฟร์วอลล์
ตอนนี้น้องปุ่มใต้เครื่องกำลังไต่อันดับขึ้นมาตีคู่พี่ชาร์จหงายท้อง
หลัง ๆ ก็เฉย ๆ ถ้ามองว่า Magic Mouse มีตำแหน่งพอร์ตชาร์จไฟยังอยู่ด้านล่างของอุปกรณ์ได้
อารมณ์เดียวกับ "You guy don't have phone?" เลย เอาจริงๆแล้วจะปิดไม่ปิดมันเรื่องของ user หน้าที่ของแอปเปิลมีแค่อย่างเดียว คือทำไห้มันสะดวกต่อผู้ใช้แต่ก็เลือกที่จะไม่ทำแล้วมาแก้ปัญหาเอาแบบนี้ มันดูแย่ไปหน่อยนะ
จริงสำหรับอุปกรณ์ที่มีแบต เช่น โน้ตบุค งับเอามันก็ sleep แต่สำหรับเครื่องที่ต้องเสียบปลั๊กตลอดนี่ไม่น่าใช่ Mac Mini เครื่องที่ใช้อยู่ก็ shutdown ทุกวัน เพราะจะปิดสวิทไฟปลั๊ก หรือต่อให้ไม่ปิดสวิช ไม่ถอดปลั๊ก วันดีคืนดีไฟก็จะตกหรือดับ ก็ไม่กล้าเปิดทิ้งไว้อยู่ดี
เรื่องต้องปิดเพราะสภาพไฟฟ้า นี้น่าจะเป็นความต่างของประเทศโลกที่1กับ3แหล่ะ ผมอยู่ญี่ปุ่น15ปี ไม่เคยเจอไฟตกเลยซักครั้ง แม้ตอนแผ่นดินไหว311 เมกาน่าจะแย่กว่าญี่ปุ่น แต่ก็คิดว่าคนคงไม่ได้มองเป็นปัญหาแหล่ะ ถ้ามัน2-3ปีจะตกซักครั้ง
ควรจะต้องมี UPS นะ
ส่วนตัวผมไม่ชอบ UPS แหะ คือมันเป็นเครื่องใช้ไฟหฟ้าที่กินไฟมากเลยอ่ะ แล้วกินตลอดเวลาเลย ขนาดแค่เสียบปลั๊กไว้เฉย ๆ ยังซัดไป 20-30 W แบตเต็มแล้วด้วยนะเอาจริงถ้าซัก 4-5W ยังพอคุยกันได้นะ แล้วคือ Macmini m4 ใช้งานทั่วไปกินไฟประมาณ 5W (พิมคอมเม้นนี้อยู่)Sleep 2W เสียบ UPS กินไฟ 20-30 W จะบร้า ผมเลิกเลย ถอดทิ้งเสียดายทรัพยากร เพราะเอาจริงไฟจะดับใส่หน้าผมนี่สามปีที่ผ่านมายังไม่เคยเจอ (แต่ตอนไม่อยู่มีบ้างนะ)
เจอไฟดับใส่ SSD ร่วงมาแล้วครับ ตอนช่วงกำลังถึงช่วงเวลาที่ตั้งสำรองข้อมูลข้อมูล
ส่วนตัวบ้านผมใช้ UPS แบบ double converter กินไฟ หลัก 100W ครับ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียใช้งานจริงไม่เกิน 30W ในการใช้งานขั้นต่ำ แต่ก็แลกมาด้วย USP สละชีพแทนอุปกรณ์แพงๆพวกนี้ เพราะเสียมาก็ตัวใครตัวมันโลด ส่วนตัวผมเคยแจ็คพอตมาแล้ววูบปุ๊บไปเลย เพราะฉะนั้นมันแล้วแต่ประสบการณ์ที่แต่ละคนเจอครับที่จะทำให้ตัดสินใจใช้หรือไม่ใช่แล้วแบบไหนคุ้มกว่ากัน
ก็ตามสไตล์นะ "ฉันจะทำแบบนี้" ปรับตัวเอาสิ
เดาว่าหลักๆคือลดต้นทุนนะแหละ เอาปุ่มไว้ที่อื่น ต้องเจาะตัวถังอลู ต้นทุนเพิ่ม เอาไว้ด้านล่าง เป็นพลาสติก ทำโมลครั้งเดียว ต้นทุนไม่เพิ่ม
ใช้ macbook อยู่ ก็ปิดเปิดบ่อยนะ 3-4 เดือนซักหนนึง
เรื่องปกติของ Apple แหละ ออกแบบสินค้าให้ใช้ตามที่ตัวเองออกแบบเท่านั้น ไม่ให้ทางเลือกหรือให้ทางเลือกแบบลำบาก ใครอยากจะต่างก็ต้องทนลำบากไป
แล้วก็มีแฟนๆออกมาพูดแก้ตัวแทนเป็นปกติ
น่าจะทำปุ่มอยู่ด้านข้างเครื่องได้นะ
That is the way things are.
ซ้ำบ่อยจังช่วงนี้
That is the way things are.
ส่วนตัวผมเห็นด้วยนะ
แตะ Logo Apple เปิดเครื่องก็ดีไปอีกแบบนะ
ส่วนตัวมองว่ามันคือความมักง่ายในการออกแบบของแอปเปิ้ล คือไว้ข้างหน้า ข้างบน ข้าง ๆ ข้างหลัง มันทำได้แหละ แต่มันต้องคิดอีกไงแล้วพอผลิตเครื่องเยอะ ๆ ไอพวกนี้ก็เพิ่มต้นทุนค่อนข้างเยอะเลย ต้องเจาะอลู ทำปุ่มอลูอีก อย่ากระนั้นเลย ข้างล่างที่เหลือเป็นพลาสติกด้วย ไว้ข้างล่างนี่แหละ และแอปเปิ้ลรู้ว่าปุ่มพาวเวอร์อยู่ข้างล่าง ไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้คนที่คิดจะซื้อพิจารณาไม่ซื้อเพราะเหตุผลนี้ ง่าย ๆ ปุ่มอยู่ตรงนี้ คนจะซื้อมันก็ซื้อ ซึ่งแน่นอน ผมบ่นแต่ผมก็ซื้อ และเอาจริง ๆ มันไม่ได้ยากมากนักที่จะยกเครื่องขึ้นมานิดนึงเพื่อเปิดเครื่อง เพราะคนส่วนใหญ่ที่ใช้เครื่องนี้ตัวเครื่องมันจะวางบนโต๊ะอยู่แล้วเพราะเครื่องมันเล็กมาก เครื่อง PC ใหญ่ ๆ บางเครื่องที่ต้องว่างข้างล่างต่อให้ปุ่มอยู่ข้างหน้าเครื่อง ยังกดยากกว่าอีกนะ เอาจริง เลื่อนเก้าอี้ถอย ก้มลงไปกด อันนี้เอื้อมไปข้างหน้า ยกเครื่องขึ้นนิดนึงกด จบละ
แต่ผมวางเครื่องแนวตั้งนะ กดสบาย ๆ ส่วนจะ Shutdown หรือ Sleep แล้วแต่เลย เพราะรู้สึกว่ามันกินไฟน้อยมากไม่ใช่ประเด็นหลักเลย
แล้วเรื่องความมักง่ายในการออกแบบนี่ แอปเปิ้ลนี่มีตัวอย่างให้เห็นเยอะนะ ทั้งที่ชาจ Magic mouse, Apple Pencil แต่มันไม่สำคัญกับคนที่คิดจะซื้ออยู่แล้ว แค่บางอย่างโดนแซวมากเลยแก้ให้ก็เท่านั้นเอง
เอาจริง ๆ เจาะรูเพิ่มรูเดียวมันไม่ได้แพงขึ้นขนาดนั้นครับ หน้าเครื่องมันก็มีรูอื่นอยู่แล้ว
แต่ถ้าสวิทช์มันไม่สวยทีมออกแบบเขาจะไม่พอใจ 555 สุดท้ายคือตัวทำแพงน่าจะเป็นสวิทช์ที่เมื่อยู่กับบอดี้ที่เป็นอลูมิเนียมแล้วต้องดูดีน่ะครับ
สมัยใช้ mac ผมก็ปิดเกือบทุกวันอะ
อาจเพราะใช้ คอม spec แรงมาตลอด
เลยจะรู้สึกไวมาก ๆ ตอนมันเริ่มช้าแบบแปลก ๆ
เพื่อนบอกว่า ความศรัทธาไม่เยอะพอ เลยต้องปิดเปิดบ่อย ๆ 🥲
สรุปแอปเปิลแก้ปัญหาด้วยการขายฐานที่ตั้งยกระดับ Mac mini พร้อมส่วนเว้าตรงที่กดปุ่มทำให้เอื้อมมือกดง่ายขึ้นในราคา $29.99 อินโนเวฌึ่นมาก
macbook แทบไม่เคยปิดเลย แต่ mac mini ถ้าไม่มี UPS นี้ไม่กล้า sleep ทิ้งไว้อันนี้ปิดทุกวัน แล้วเอาปุ่มไปใต้เครื่องนี้ปกติก็ไฟดูดเป็นปกติอยู่แล้วนี้กะเป็นมนุษย์ไฟฟ้าเลยรึไง @_@
ไฟดูดนี่ ควรเช็คระบบไฟฟ้าที่บ้านก่อนอันดับแรกนะครับ :o
อันนั้นแก้ไปแล้วครับแต่มันก็รู้สึกมีอยู่ดีแล้วเจ้า design ใหม่นี้แทบจะจับยกเลยคราวนี้น่าจะต้องวางแนวตั้งแล้ว
ที่ใช้พิมพ์โพสต์นี่ก็ mac mini เปิดปิดทุกวันเพราะไฟฟ้าไทยจะติดจะดับไม่เคยบอกเว้นแต่จะมีงานซ่อมใหญ่ถึงจะประกาศ
ปุ่มอยู่บน ฝุ่นเกาะฝุ่นเข้าได้ง่าย อยู่ใต้เคสจะไม่มีปัญหาเรื่องฝุ่น
พื้นโต๊ะต้องสะอาดมากเลยนะครับแบบนั้น
อย่าไปขัดเค้าสิฮะ แหม..
ปล่อยให้เค้าฟินหน่อย
ผมใช้ Mac stu ก็ shut down ทุกครั้งนะ ถึงจะใช้ UPS แบบ double converter อยู่ด้วยก็ไว้ใจไม่ได้
cost, ui, ux Apple เลือก 2 ข้อแรกก่อนเสมอ
ผมปิดบ่อยก็ตอน Cook มานี่แหละ
หลาย ๆ รอบทำงานแล้วบัครีเครื่องหาย
เลยปิดไปเลย จะได้เปิดใหม่ตอนจะใช้ ไม่ต้องหาอยู่นานแล้วรีแล้วหาย