โลกเกมมิ่งในยุคหลังขับเคลื่อนด้วยเทคนิค upscaling และ frame generation โดยผู้ผลิตจีพียูแต่ละค่ายมีโซลูชันแตกต่างกันไป เช่น NVIDIA DLSS และ AMD FSR
ค่ายอินเทลเองมี XeSS เทคนิค upscaling ที่ใช้กับจีพียูตระกูล Arc/Xe แม้อาจไม่ได้รับความสนใจเท่ากับ DLSS แต่ก็ยังอัพเดตมาเรื่อยๆ ตอนนี้อินเทลประกาศว่ามีเกมที่รองรับ XeSS มากกว่า 150 เกมแล้ว ตัวอย่างเช่น Fortnite, Naraka, Like a Dragon, Forza Horizon 5, STALKER 2 เป็นต้น (รายชื่อทั้งหมดบนเว็บอินเทล) แม้ตัวเลขยังห่างไกลกับฝั่ง NVIDIA ที่มีมากกว่า 700 เกม แต่เป็นสัญญาณอันดีว่าอินเทลยังร่วมงานกับนักพัฒนาเกมอัพเตดให้ต่อเนื่อง
เมื่อปลายปี 2024 ที่ผ่านมา อินเทลเพิ่งเปิดตัว XeSS 2 ที่เพิ่มเทคนิค frame generation แต่ยังใช้ได้เฉพาะจีพียู Arc B-Series (Battlemage) ซึ่งยังมีการ์ดวางขายค่อนข้างจำกัด
ฟีเจอร์ upscaling และ frame generation ในปัจจุบันยังมีข้อจำกัดว่านักพัฒนาเกมต้องปรับเกมให้รองรับด้วย และเป็นเทคโนโลยีของใครของมัน ช่วงหลังเราจึงเห็นความพยายามในการสร้าง API ตรงกลาง เช่น DirectX กำลังทำฟีเจอร์ Neural Rendering ที่เรียกใช้หน่วยประมวลผล AI ในจีพียูได้ข้ามค่าย
ที่มา - Wccftech
We’ve hit the mark on 150+ games with #XeSS support, with more on the way!👾Experience peak gaming for yourself with Intel XeSS AI upscaling today.👾 pic.twitter.com/n1lWDpo0UY
— Intel Gaming (@IntelGaming) January 30, 2025
Comments
ทุกวันนี้หลายเกมต้องยัด DLL เฉพาะของแต่ละค่ายเข้ามา และดูเหมือนยุคที่ AA กำลังแตกสายไปตามค่ายการ์ดจอ หวังว่า Microsoft จะหาจุดร่วมได้ซักที ทำให้มันมีแค่ออฟชั่นเดียว มาตรฐานเดียวเถอะ
มี DirectSR ครับซึ่งเป็น API DirectX ตัวกลางที่โยนให้ driver แต่ล่ะเจ้าจัดการกันเองซึ่งทางค่ายการ์ดจอก็รองรับกันแล้ว (ที่ผมแน่ใจคือ Nvidia โดยมีไฟล์ DLL ในโฟล์เดอร์ของ driver เลย) แต่ ณ ตอนนี้เท่าที่ผมทราบยังไม่มีเกมไหนใช้และตัว API ก็ยังไม่รองรับ Frame Gen ด้วย
อยากให้เหมือนเทคโนโลยี HDMI หรือ Type C
ที่เวลาพัฒนาเกม สามารถใช้เทคโนโลยีของทั้ง 3 ยี่ห้อการ์ดจอ และการ์ดจอรุ่นอื่นๆ ไปพร้อมๆ กัน
ที่จริง DirectX นี่ล่ะที่เป็นตรงนั้น
นึกสภาพว่าถ้าจะเขียนให้รองรับทั้ง GLide (Nvidia), Mantle (AMD) และอื่น ๆ ดูสิครับ 555
นอกจากนั้นก็จะเป็น wrapper มากกว่าครับ เช่น SDL (SDL3 เพิ่ง release ตัวเต็มพอดี เผื่อมีคนอยากเขียนข่าว) SFML, The Forge อะไรเทือก ๆ นี้ครับ
nvidia ทำเทคโนโลยีแบบ exclusive แล้วรุ่งนี่นะ ที่ชัดเจนเลยก็คือ cuda กลายเป็นว่ายุคนี้ใครรอทำ support มาตรฐานกลางที่กว่าจะมีมาก็ไม่ทันกินซะแล้ว
มันเป็นธรรมชาติของโลกครับ
ถ้าทำเป็นมาตรฐานกลางมันใช้เวลานาน อย่างสมมติ C++ เป็น ISO/IEC 14882 กว่าจะออกเวอร์ชันใหม่แต่ละครั้งใช้เวลาสามปีนะครับ ภาษาอื่นอยากออกฟีเจอร์อะไรแค่คนไม่กี่คนตัดสินใจก็ออกได้ละ ของ C++ ที่เป็นมาตรฐานกลางนี่คือต้องมีตัวแทนจากทั่วโลกมาร่วมกันโหวตเลยล่ะครับ
จริง ๆ ข้อดีของการมีมาตรฐานกลางคือพอมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเขาสามารถแทรกตัวเข้ามาได้เลยเพราะมีตัวอย่างให้เห็น (มาตรฐาน) อยู่แล้ว
อัพเตด ?