การประกาศเสนอซื้อ OpenAI ของ Elon Musk และกลุ่มเพื่อนนักลงทุนที่มูลค่า 9.74 หมื่นล้านดอลลาร์ ถึงแม้ Sam Altman ซีอีโอ OpenAI จะปฏิเสธทันที จนดูเหมือนเป็นเกมป่วนครั้งใหม่ของ Musk มากกว่าจะตั้งใจซื้อจริง แต่เพราะคำเสนอซื้อนี้มีการออกเอกสารเป็นทางการ เรื่องนี้จึงเป็นการกระทำที่หวังผลบางอย่างแน่นอน และทำให้ Sam Altman ลำบากขึ้นด้วย
Altman ให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมาว่าคำเสนอซื้อนี้ Musk หวังทำให้ OpenAI เดินช้าลงเพราะเขาก็มีบริษัทปัญญาประดิษฐ์ที่พัฒนาแข่งกับ OpenAI เรื่องเหล่านี้เป็นเทคนิคทางกฎหมายที่ทำเพื่อให้สิ่งต่าง ๆ ยุ่งยากขึ้น
คำเสนอซื้อของ Musk นั้น เป็นการซื้อกิจการ OpenAI ส่วน Non-Profit ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการส่วน For-Profit ที่รับเงินจากนักลงทุนจำนวนมากรวมทั้งไมโครซอฟท์อีกที (ดูเพิ่ม: ทำความเข้าใจโครงสร้างของ OpenAI ที่ไม่เหมือน Tech Company ทั่วไป) คำเสนอซื้อของ Musk จึงมีนัยสำคัญว่าพวกเขา "ตีราคา" ส่วน Non-Profit ไว้เท่าใด ซึ่งบอร์ดสามารถตอบรับข้อเสนอได้
การประเมินราคาที่ตัวเลขนี้สร้างปัญหาให้ Altman ทันที เพราะเขากำลังอยู่ในเรื่องราวสำคัญอย่างน้อยสองเรื่องคือ (1) ปรับโครงสร้าง OpenAI เป็น For-Profit มากขึ้น เท่ากับต้องมีการแปลงหุ้นส่วน Non-Profit มาเป็น For-Profit ซึ่งมีรายงานว่ายังหาข้อสรุปกับไมโครซอฟท์ไม่ได้ และ (2) OpenAI กำลังเจรจากับนักลงทุนเพื่อรับเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ บนมูลค่ากิจการเกือบ 3 แสนล้านดอลลาร์ ตัวเลขนี้ย่อมกระทบต่อการเจรจาแน่นอน เพราะถือเป็นราคาพื้นฐานที่มีคนพร้อมจ่ายอยู่แล้ว
ประเด็นนี้จึงต้องรอการตัดสินใจจากบอร์ด และหากปฏิเสธข้อเสนอก็ต้องมีคำอธิบายว่าส่วน Non-Profit นั้นมีมูลค่าสูงกว่าจริงหรือไม่ ส่วนอีกประเด็นคือหากบอร์ดเกิดรับข้อเสนอแล้ว Musk จะเอาเงินจากไหนมาจ่ายเช่นกัน (ดีล Twitter/X มูลค่า 4.4 หมื่นล้าน Musk ก็ไม่ได้จ่ายเองทั้งหมด)
ที่มา: The Wall Street Journal
Comments
แต่ตอนซื้อ Twitter สื่อสหรัฐก็แช่งเช้า สาย กลางวัน บ่าย เย็น ค่ำๆ ก่อนนอน แค้นฝังหุ่นจนตอนฝันก็คงจะเขียนแช่งให้เจ๊งอยู่ในฝัน ถึงวันนี้ก็อยู่ได้ปรกตินะครับ ไม่เจ๊งซักที 555