ก็เป็นซะอย่างงี้! ถึงได้สร้างความเกลียดชังกันถ้วนหน้า ล่าสุด บ. เทคยักษ์ใหญ่อย่าง Meta บริษัทแม่ของ Facebook ให้โบนัสผู้บริหารระดับสูงมากถึง 200% จากฐานเงินเดือน และดันเป็นการให้โบนัสหลังเลย์ออฟพนักงานออกอย่างมหาศาลถึง 3,600 คน
การปลดพนักงานที่มีศักยภาพต่ำกว่าระดับที่ตั้งเกณฑ์ไว้ อาจจะเป็นเรื่องที่เข้าใจได้อยู่บ้าง ถ้ามีกระบวนการที่เป็นธรรมและโปร่งใส แต่ Meta ดันปลดคนที่ศักยภาพสูงออกด้วย เพียงแค่ต้องการเอาคนออกให้ได้ตามยอดที่กำหนด และนี่ยังมีข่าวให้โบนัสมหาศาลหลังปลดคนอีก
สำหรับเอกสารที่ยื่นต่อ SEC นั้น Meta ระบุว่า เพิ่มเปอร์เซ็นต์การให้โบนัสตามเป้า ให้แก่เจ้าหน้าที่ระดับสูง จากเดิมที่เป็น 75% ของฐานเงินเดือน เพิ่มเป็น 200% โดยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะให้มีผลในปี 2025 แต่ยอดโบนัสที่ว่านี้ไม่ได้รวมของซีอีโออย่าง Mark Zuckerberg ไว้ด้วย
เอกสารนั้นยังระบุไว้ด้วยว่า เป็นการสร้างแรงจูงใจเพื่อให้ผู้บริหารระดับสูงโฟกัสไปที่งานสำคัญของบริษัทมากขึ้น และก็เป็นรางวัลเพื่อตอบแทนความสำเร็จที่พวกเขาได้ทำให้กับบริษัทไว้ด้วย
ค่าตอบแทนที่เป็นเงินสดของผู้บริหารนั้นถือว่าอยู่ต่ำกว่าเป้า 15% เมื่อเทียบกับผู้บริหารที่ดำรงตำแหน่งคล้ายกัน โดยทางบอร์ดได้เพิ่มอัตรานี้ให้ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ทาง Meta ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ กับประเด็นนี้
โบนัสงามๆ ของผู้บริหารมาพร้อมๆ กับการเลย์ออฟพนักงานในอัตรา 5% หรือประมาณ 3,600 คน การปลดพนักงานเกิดขึ้นหลัง Mark Zuckerberg ประกาศแผนปี 2025 ว่าจะลงทุนอย่างหนักกับ AI มากขึ้นและจะปลดพนักงานที่มีศักยภาพต่ำกว่าเกณฑ์ออก พนักงานจำนวนมากออกมาเปิดเผยว่าการประเมินผลงานของพวกเขาดีกว่าเกณฑ์ด้วยซ้ำ แต่ก็ถูกปลดออก หลายคนเลือกที่จะเปิดเผยประเด็นนี้ต่อสาธารณะผ่านแพลตฟอร์ม LinkedIn
อย่างไรก็ดี ผลประกอบการไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมาของ Meta รายได้เติบโตทำสถิติสูงสุดอีกไตรมาสรายได้เพิ่มขึ้น 21% เทียบกับปีก่อนหน้า อยู่ที่ 4.84 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท สำหรับรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างถล่มทลายนี้ คาดว่าน่าจะมาจากธุรกิจโฆษณาและการพยายามปรับปรุงผลิตภัณฑ์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI
ที่มา - Fortune
Comments
กล้าจิ้มเลือก ก็ต้องมี รางวัลตอบแทน ? 🤔
ยุคนี้หลายบริษัทมีแนวคิด
ถ้ากำไร ถือเป็น ความสามารถของผู้บริหาร&วิสัยทัศน์ของผู้ถือหุ้น
แล้วแจกโบนัส+ปันผลฉ่ำๆ
ส่วนคนทำงานถือเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทที่จะต้องจ่ายให้น้อยที่สุด
😓😓😓
ถูกต้อง มันคิดแบบนั้นล่ะ
คนทำงาน คือ ค่าใช้จ่าย
ถ้าวันนึงคุณเป็นผู้บริหารคุณจะไม่คิดแบบนั้น การรับพนักงานเข้ามาทำงานในภาระกิจหนึ่ง หากงานสำเร็จลุล่วงไปได้แล้ว ผู้ก่อตั้งดันคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรต่อดี พนักงานก็จะกลายเป็นภาระค่าใช้จ่ายคงที่ในระยะยาว ดังนั้นผู้บริหารที่เป็นคนกลาง ก็มีหน้าที่ต้องบริหารงานให้ผู้ถือหุ้นพึงพอใจ วิธีการที่ง่ายสุดก็คือลดพนักงานในส่วนที่ไม่จำเป็นในช่วงระยะเวลานั้นและไม่ใช่ keyword ของงานหลักไป เก็บไว้เฉพาะพนักงานตัวหลัก และสำรองอันดับหนึ่ง แล้วเร่งสร้างกระบวนการทำงานเพื่อรองรับการดูแลในระยะยาว เพื่อให้สามารถรับพนักงานใหม่สามารถเข้ามาดูแลระบบแทนได้ โดยไม่ต้องยึดติดกับพนักงานเดิม จากนั้นค่อยๆ ถอนพนักงานเก่งๆ ไปยังโครงการใหม่ให้ทันเวลา ก่อนที่พวกเขาจะเบื่อ เพราะคนเก่งมักจะขี้เกียจ แล้วก็เบื่อง่าย ไม่ชอบงานซ้ำซากจำเจ (ไอ้พวกวันๆ นั่งเล่นเกมส์ ประชุมก็นั่งเถียงกับผู้บริหารฉอดๆ แล้วผู้บริหารก็ยิ้มไม่พูดอะไร เพราะส่วนใหญ่คนพวกนี้มักมีเหตุผล แต่ปากเสีย รวมถึงอาจเป็นจุดที่ผู้บริหารอาจมองข้ามไป พอมีงานไฟลุก ก็นั่งทำงานข้ามวันให้เสร็จทันเวลา แบบทุกคนงงว่ามันทำได้ยังไงนั่นแหล่ะ พวกนี้รับรองไม่มีทางตกงาน ถ้าไม่ไปกวนทีนผู้บริหาร) ซึ่งผู้บริหารมืออาชีพจะต้อง balance ตรงนี้ให้ได้ ไม่งั้นสมดุลของบริษัทจะเสีย แล้วก่อให้เกิดปัญหาภายในได้
จริงๆ แล้วในงานบริหารมันมีหลาย tier ถ้าแยกหน้ารับผิดชอบไม่ชัดเจน ก็จะทำให้ทุกอย่างดูวุ่นวาย ทุกคนดูเหมือนไม่ว่างตลอดเวลา ทั้งที่งานที่สร้างรายได้ให้บริษัทแทบไม่มีเลย มีแต่งานรูทีน รวมถึงบางทีผู้ก่อตั้ง กับผู้บริหารดันทำหน้าที่ทับซ้อนกัน ดังนั้นในธุรกิจขนาดใหญ่จะมักรับผู้บริหารมืออาชีพ มาจากภายนอกเพื่อจัดการปัญหาพวกนี้ให้ เนื่องจากผู้ก่อตั้งส่วนใหญ่มักผูกพันกับพนักงานเดิม ทำให้ตัดสินใจลำบาก จริงๆ แล้วในบริษัทผู้บริหารมืออาชีพส่วนใหญ่มักต้องสวมบทคนร้าย เพื่อให้บริษัทไปต่อได้ ส่วนผู้ก่อตั้งมักต้องสวมบทคนดี เพื่อให้พนักงานเก่ายังมีกำลังใจในการทำงานหากมีการต้องลดพนักงาน
อ่านตรงนี้ ก็เห็นว่าควรทำนะ ถ้าไม่อยากให้ผู้บริหารไปอยู่กับคู่แข่งหรือลาออก เพียงแต่ Timeline ที่เกิดขึ้น ทำให้มีประเด็นขึ้นมา
"ค่าตอบแทนที่เป็นเงินสดของผู้บริหารนั้นถือว่าอยู่ต่ำกว่าเป้า 15% เมื่อเทียบกับผู้บริหารที่ดำรงตำแหน่งคล้ายกัน โดยทางบอร์ดได้เพิ่มอัตรานี้ให้ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา"
"เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล"
แต่ META เก็บขุนพลไว้ แล้วฆ่าทหารตายเรียบ ต่อไปให้ขุนพลมันรบคนเดียวเลย อย่าไปเกณฑ์ทหารอีก
ก็ปกตินะ เอาออกก่อน เพื่อดูความต้องการจริงๆ เพราะปัจจุบันมันคงเยอะและมีส่วนที่ไม่สำคัญอยู่ คือมีก็ดีไม่มีก็ได้ และน่าจะโดนหมดไม่ว่าคนเก่งหรือไม่เก่ง ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยู่ function ไหนของบ.
พอเริ่มเกิดเรื่องก็จะมาตัดสินใจต่อว่าจะปรับปรุงยังไง ซึ่งจำนวนหนึ่งก็ปรับปรุงได้ และส่วนหนึ่งต้องรับคนเพิ่ม ถ้าต้องการเพิ่มเค้าก็รับใหม่
โดยรวมแล้วบ.มันดีขึ้นแหละ เดี๋ยวจากนี้คงมีรับเพิ่ม
ถึงจะรู้ว่ามีแบบนี้ แต่ก็ไม่อยากให้เกิดกับตัวเองนะ และมันน่าจะเป็นแบบ cycle แหละ นานๆเกิดที
75%->200% ก็คือ 0.75เดือนไปเป็น 2 เดือน เขียนว่า 200% ฟังดูเหมือนเยอะ แต่มันแปลว่าโบนัส 2 เดือนเอง โอเค 2เดือนก็ไม่ได้น้อย แต่มันก็ไม่ได้เยอะขนาดนั้น หรือผมเข้าใจอะไรผิด
ถ้านับแบบเมกัน น่าจะหมายถึง สองปี มากกว่า สองเดือน