การประกาศปิดตัว Skype อย่างเป็นทางการของไมโครซอฟท์ในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้ โดยให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนไป Microsoft Teams แบบฟรีแทน อาจไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์นักเพราะเชื่อว่าวันนี้คงมาถึงแค่เมื่อใด แต่เรื่องราวของแอปแชทและโทรเสียง ที่โดดเด่นในยุค 2000s ให้บริการมานานถึง 21 ปี ก็มีหลายสิ่งที่น่าย้อนกลับไปดู
Skype เปิดตัวในปี 2003 โดย Janus Friis และ Niklas Zennström สองผู้ก่อตั้ง Kazaa แอปแชร์ไฟล์แบบ P2P เริ่มต้นให้บริการเฉพาะในเอสโตเนีย Skype เป็นคำกร่อนจาก "sky peer to peer" ชูจุดเด่นในการโทรเสียงออนไลน์ระหว่างผู้ใช้งานได้ฟรีหรือ VoIP
การเติบโตของผู้ใช้งาน Skype อย่างรวดเร็ว มี 11 ล้านคนในปี 2004 และเพิ่มเป็น 54 ล้านคนในปี 2005 ทำให้ eBay ตัดสินใจซื้อกิจการด้วยมูลค่า 2.6 พันล้านดอลลาร์ โมเดลรายได้ของ Skype เวลานั้นคือการจ่ายเงินเพื่อให้โทรเสียงไปยังเบอร์โทรศัพท์บ้านและมือถือได้ ซึ่ง eBay มองการซื้อ Skype ว่าจะนำมาเสริมกระบวนการติดต่อระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ทำให้สามารถปิดการขายได้เร็วขึ้น
Skype เติบโตอย่างก้าวกระโดดในยุค eBay มีจำนวนผู้ใช้งาน 405 ล้านคนในปี 2008 รายได้ก็เติบโตตาม แต่แล้วการเปลี่ยนแปลงก็มาถึงเมื่อ eBay เปลี่ยนตัวซีอีโอเป็น John Donahoe ซึ่งเขามองว่า Skype ไม่ใช่ธุรกิจหลักของ eBay และไม่ได้ส่งเสริมธุรกิจ
มาถึงปี 2009 ที่เกิดปัญหาเศรษฐกิจทั่วโลก eBay มียอดขายลดลง ราคาหุ้นตกมาก ทำให้ eBay ประกาศแผนแยก Skype ไอพีโอเข้าตลาดหุ้น พร้อมกับการประกาศเปิดตัวแอปบน iPhone อย่างไรก็ตามไอพีโอของ Skype ไม่ได้เกิดขึ้น เพราะกลุ่มนักลงทุนนำโดย Silver Lake ตกลงซื้อหุ้น Skype 70% โดยอีก 30% eBay ยังถืออยู่ ที่มูลค่ากิจการ 2.75 พันล้านดอลลาร์
ผ่านไปสองปีกลุ่มนักลงทุนก็สามารถเพิ่มมูลค่าให้ Skype ได้ โดยในปี 2011 ตกลงขายหุ้นทั้งหมดให้ไมโครซอฟท์ด้วยราคา 8.5 พันล้านดอลลาร์ ทำให้ eBay เองก็ได้เงินจากดีลนี้ราว 2 พันล้านดอลลาร์ด้วย
Steve Ballmer ซีอีโอไมโครซอฟท์ในเวลานั้นบอกว่า Skype จะเข้ามาเป็นศูนย์กลางของการติดต่อสื่อสารให้กับบริการต่าง ๆ ของไมโครซอฟท์เวลานั้น ไม่ว่าจะเป็น Lync, Windows Live Messenger, Windows Phone และ Xbox
การตกขบวนสำคัญครั้งแรกของ Skype เมื่อแอปแชทโทรเสียงบนสมาร์ทโฟนมีตลาดที่ใหญ่ขึ้น เกิดแอปแข่งขันมากมายทั้ง FaceTime บนระบบปฏิบัติการ iOS ของแอปเปิลที่สามารถวิดีโอคอลได้ รวมทั้ง Facebook ที่ซื้อกิจการ WhatsApp ในปี 2014 ขณะเดียวกันฝั่ง Skype ได้ปรับอินเทอร์เฟซแอปใหม่และถูกวิจารณ์หนัก จากนั้นไมโครซอฟท์ก็ตัดสินใจเปิดตัว Teams แอปแชทเจาะตลาดลูกค้าองค์กรเพื่อแข่งกับ Slack เวลานั้น ทำให้บริการแอปแชทเริ่มทับซ้อนกัน
ไมโครซอฟท์เริ่มให้ความสำคัญกับ Teams มากขึ้นนับตั้งแต่เวลานั้น ที่เห็นชัดมากขึ้นคือช่วงการระบาดโควิด ที่ทำให้การใช้งานแอปแชท-วิดีโอคอลมีมากขึ้น แต่ไมโครซอฟท์ก็แสดงท่าทีชัดเจนว่าต้องการโฟกัสที่การพัฒนาฟีเจอร์บน Teams มากกว่า จำนวนผู้ใช้งานก็เพิ่มขึ้นมาตลอด ขณะที่ Satya Nadella ซีอีโอไมโครซอฟท์ ก็ไม่เคยพูดถึงธุรกิจ Skype กับนักลงทุนอีกเลยตั้งแต่ปี 2017
จำนวนผู้ใช้งาน Skype ที่ไมโครซอฟท์เปิดเผยครั้งสุดท้ายคือปี 2023 มีจำนวน 36 ล้านคนต่อวัน ส่วนตัวเลขปัจจุบันก่อนประกาศปิดตัวไม่ได้เปิดเผย
ที่มา: CNBC
Comments
น่าจะพูดเรื่อง MSN ด้วยดูมันขาดๆอะไรไปหลายส่วนเกี่ยวกับเรื่องนี้
เจอเธอออนเอ็มเมื่อไรต้องรีบแชทเลยมั้ย หรือต้องแกล้งๆออฟไลน์~
สมัยนั้น Microsoft เป็นคนบ้าอย่าง Steve Ballmer มาดูแลครับ ปล่อยผ่านไปครับ ฆ่าตัวตายเอง
โลโก้สีแดงด้วยไม่ทันแฮะ
ยังมีเงินค่าโทรค้างอยู่เลย T_T