Tags:
Node Thumbnail

สถานการณ์ของอินเทลในช่วงที่ผ่านมามีความท้าทายอยู่มาก และเกิดคำถามหลังบอร์ดมีมติปลด Pat Gelsinger อดีตวิศวกรของอินเทลที่กลับมารับตำแหน่งซีอีโอ ว่าใครที่เหมาะสมจะเป็นซีอีโอคนใหม่ ท่ามกลางข่าวการปรับโครงสร้างธุรกิจที่มีออกมาเรื่อย ๆ วันนี้บริษัทประกาศแล้วว่า Tan Lip-Bu คือซีอีโอคนใหม่ ซึ่งผู้อ่านหลายคนคงสงสัยต่อไปว่า "เขาคือใคร?"

Tan Lip-Bu เกิดที่ประเทศมาเลเซีย เติบโตในสิงคโปร์ จบการศึกษาด้านฟิสิกส์จาก Nanyang Technological University จากนั้นได้ทุนไปศึกษาต่อปริญญาโทที่สหรัฐอเมริกา สาขาวิศวกรรมนิวเคลียร์ที่ MIT เวลาต่อมาเขาได้รับสัญชาติอเมริกา

ในปี 1987 เขาเปลี่ยนมาเรียนปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจหรือ MBA ที่ University of San Francisco เขาได้ก่อตั้งบริษัทการลงทุน Walden International ซึ่งมีข้อมูลว่าปัจจุบันมูลค่าสินทรัพย์อยู่ที่ราว 2.8 พันล้านดอลลาร์ โดย Walden เน้นการลงทุนในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์, โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์, ระบบบริหารจัดการข้อมูล-ความปลอดภัย และ AI

บริษัทส่วนใหญ่ที่ Walden ลงทุนเป็นสตาร์ทอัปขนาดเล็ก ซึ่งรวมแล้วหลายร้อยบริษัท เพราะเขาเชื่อว่าหากบริษัทนั้นมีทีมวิศวกรที่มีความสามารถโดยเฉพาะงานออกแบบฮาร์ดแวร์ ก็สามารถแข่งขันกับบริษัทใหญ่ได้ การลงทุนเด่นของ Tan เช่น Annapurna Labs บริษัทออกแบบชิปจากอิสราเอล ซึ่ง Amazon ซื้อกิจการไป, Nuvia บริษัทออกแบบชิปที่ Qualcomm ซื้อกิจการในปี 2021 นอกจากนี้ยังมีการลงทุนใน Creative Technology, Meituan และ SMIC

No Description

ปี 2009 Tan รับตำแหน่งซีอีโอที่ Cadence Design Systems บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับงานออกแบบชิป ซึ่งมีพันธมิตรและลูกค้ารายสำคัญคือ TSMC, Broadcom และ Apple เขาเป็นซีอีโอที่นั่นถึงปี 2021 ในปี 2022 สมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ได้มอบรางวัลเกียรติยศ Robert N. Noyce Award ให้ในฐานะบุคคลที่มีผลงานโดดเด่นต่ออุตสาหกรรม

Jack Gold นักวิเคราะห์อิสระให้ความเห็นว่าจุดแข็งของ Tan ซึ่งปัจจุบันเขามีอายุ 65 ปี คือเครือข่ายทางธุรกิจที่เขาสร้างไว้ในช่วงที่ผ่านมา เคยเป็นบอร์ดในหลายบริษัทและหน่วยงาน เช่น Hewlett Packard Enterprise, Schneider Electric, Softbank, Ambarella, Flextronics, Inphi, Mindtree, SMIC, คณะวิศวกรรมศาสตร์ UC Berkeley และธนาคาร UOB ที่สำคัญเขาเคยเป็นกรรมการบอร์ดของอินเทลด้วย โดยรับตำแหน่งในปี 2022 แต่ตัดสินใจลาออกในปี 2024 เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับแผนปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยมีรายงานเวลานั้นว่า Tan บอกว่าอินเทลเป็นบริษัทที่มีพนักงานมากเกินไป บริษัทไม่ควรเข้าสู่ธุรกิจรับจ้างผลิตชิป และยังมีปัญหาวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่ชอบความเสี่ยง

Tan ส่งอีเมลถึงพนักงานอินเทลหลังประกาศรับตำแหน่งซีอีโอ โดยให้คำมั่นว่าจะให้ความสำคัญกับด้านวิศวกรรม และจะไม่แยกธุรกิจอินเทลออกจากกันเป็นสองบริษัท รวมทั้งส่งเสริมให้บริษัทกล้าเสี่ยงมากขึ้นโดยเฉพาะในพื้นที่ซึ่งยังตามหลังคู่แข่ง

ที่มา: CNA

Get latest news from Blognone

Comments

By: Fzo
ContributorAndroid
on 13 March 2025 - 14:17 #1335780
Fzo's picture

ดูประวัติที่แล้วน่าฝากความหวังได้นะ .. สรุปว่า ceo บิ๊กเทคทั้งหลาย เป็นคนเชื้อชาติเอเชียเยอะเลยนะเนี่ย


WE ARE THE 99%

By: aeksael
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 13 March 2025 - 15:29 #1335787
aeksael's picture

ยุบแผนกผลิตชิพแน่นอน


The Last Wizard Of Century.

By: abstractox on 13 March 2025 - 16:39 #1335793

เอาจริงๆอยู่ที่ mindset ก็มีผล ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้บริหารที่เป็น Technocrat จ๋าอย่างเดียว อย่าง Steve Job ก็คงไม่ได้ลงมาเขียน iOS เองแน่ๆ หรือ Jansen Nvidia ก็คงไม่ได้ลงมาออกแบบลายวงจร หรือ Jack Ma ก็ไม่ได้ลงมาเขียนโปรแกรมเอง แต่ต้องรู้ไส้รู้พุงธุรกิจตั้งแต่ต้นจนจบเป็นอย่างดี มีวิสัยทัศน์ แก้ปัญหาเป็น แบบนี้ก็บริหารได้

By: BLiNDiNG
AndroidUbuntuWindowsIn Love
on 13 March 2025 - 23:36 #1335820 Reply to:1335793
BLiNDiNG's picture

แนะนำ​ว่า​ลอง​ไป​อ่าน​ประวัติ​ของ​ Jensen ดูก่อน​ครับ

By: abstractox on 14 March 2025 - 12:21 #1335854 Reply to:1335820

ผมหมายถึงปัจจุบันครับ

By: sdc on 13 March 2025 - 19:55 #1335806

จะโดนบอร์ดบีบออกเหมือนคนเก่ามั้ยนะ

By: Jonathan_Job
WriteriPhoneUbuntuWindows
on 14 March 2025 - 00:16 #1335822
Jonathan_Job's picture

"Creative Technology" ชื่อนี้ไม่ได้ยินมานานมากกกก

By: ozbee
AndroidUbuntuWindows
on 14 March 2025 - 14:17 #1335863

ดูแล้วน่าจะแยกโรงงานเป็นอีกบริษัทแน่นอน เพราะคนนี้ถูกเลือกมาจากบอร์ดชุดนี้

By: may2190 on 16 March 2025 - 10:27 #1335934

วงการชิป ต้องคนเชื้อสายเอเซียสินะ