Tags:
Node Thumbnail

เมื่อต้นเดือนเมษายน มีการจัดงานสัมมนาเกี่ยวกับยานยนต์อัตโนมัติที่ลอสแอนเจลิสชื่องาน Ride AI Summit ซึ่งเนื้อหาพูดถึงความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีนี้

Forbes นำเสนอเนื้อหาในหัวข้อสัมมนาหนึ่งซึ่งพูดถึงความก้าวหน้าของบริการรถแท็กซี่อัตโนมัติหรือ Robotaxi ในจีน ซึ่งไม่ค่อยถูกพูดถึงมากนัก ปัจจุบันจีนมีผู้ให้บริการ Robotaxi รายใหญ่ 4 รายคือ Apollo ของ Baidu, WeRide, Pony.ai และ AutoX

ตัวแทนของ Pony.ai ให้ข้อมูลว่าการกำกับดูแลบริการรถแท็กซี่อัตโนมัติในจีนนั้นเข้มงวดมาก หน่วยงานลงมาตรวจสอบในทุกขั้นตอน และกำหนดเฟสของการทดสอบตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นที่ต้องมีคนขับอยู่หลังพวงมาลัย การให้มีคนขับนั่งหลัง การให้บริการแบบไม่มีคนแต่ต้องมีคนควบคุมระยะไกลเสมอ ซึ่งในสหรัฐอเมริกาไม่ลงรายละเอียดมากเท่านี้ บางรัฐไม่มีขั้นตอนกำกับดูแลที่ชัดเจนด้วย

ข้อมูลน่าสนใจคือจีนกำหนดให้ผู้บริการต้องมีสิ่งที่คล้ายกล่องดำติดตั้งในรถ โดยต้องบันทึกสถานการณ์ที่มีคนเข้ามาแทรกแซงการทำงานของรถไร้คนขับทุกครั้ง รายงานทั้งหมดต้องส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นระยะ ซึ่งต่างจากอเมริกาที่กำหนดให้รายงานประจำปี และสามารถกำหนดเนื้อหาความปลอดภัยที่ต้องการรายงานได้

No Description

รายงานของ Forbes ยังพูดถึงยูทูบเบอร์ Sophia Tung ที่เกาะติดบริการ Robotaxi มาตลอด (ผลงานในอดีต: ไลฟ์รถ Waymo บีบแตรใส่กัน, นั่ง Waymo มาราธอน 6 ชั่วโมง) โดย Tung เคยลองนั่งรถ Apollo เวอร์ชัน 5 เมื่อสามเดือนที่แล้วในอู่ฮั่น และสรุปว่าเป็นประสบการณ์ที่แย่มาก รถทำงานช้า และต้องใช้คนควบคุมเป็นระยะ

อย่างไรก็ตาม Tung ได้กลับไปที่จีนและลองนั่ง Apollo เวอร์ชัน 6 ซึ่งปรับปรุงทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ของรถ พบว่านอกจากรถไม่มีคนนั่งหลังพวงมาลัย (แต่ควบคุมระยะไกล) การทำงานยังดีขึ้นมาก แถมมีลูกเล่นในรถ เช่น เบาะนวดไฟฟ้า ด้วย ต้นทุนการผลิตรถก็อยู่ที่ 28,000 ดอลลาร์เท่านั้น (ประมาณ 9 แสนบาท) การค้นพบใหม่ของ Tung ทำให้เห็นว่าหากรถแท็กซี่อัตโนมัติพัฒนาด้านพื้นฐานไม่แตกต่างกันมากแล้ว การแข่งขันจากนี้อาจเป็นเรื่องของฟีเจอร์ลูกเล่นในรถแทนนั่นเอง

ที่มา: Forbes และ Ride AI

คลิปของ Sophia Tung ที่ไปลองนั่ง Apollo เวอร์ชัน 6

คลิปเมื่อเดือนมกราคมที่พบปัญหาหลายอย่าง

Get latest news from Blognone