Tags:
Node Thumbnail

กูเกิลมีเครือข่ายตามหาของ Find My Device เริ่มเปิดในปี 2024 แต่ผลการทดสอบในช่วงแรกๆ ออกมาแย่มาก แพ้เครือข่าย AirTag ของแอปเปิลแบบขาดลอย

เนื่องในโอกาสครบปีแรกของเครือข่าย Find My Device เว็บไซต์ The Verge จึงทดสอบด้วยการส่งแท็ก 3 ยี่ห้อที่ใช้เครือข่ายของกูเกิลคือ Pebblebee, Chipolo, Motorola ร่วมกับสินค้าค่ายอื่นได้แก่ AirTag ของแอปเปิล และ Tile ของ Life360 เพื่อดูว่าแท็กตามรอยยี่ห้อไหนใช้งานดีที่สุด

ตัวอย่าง Moto Tag ของ Motorola

ทีมงานของ The Verge ทดสอบด้วยการนำแท็กทั้งหมดใส่ถุง แล้วนำไปวางไว้ตามจุดต่างๆ ของลอนดอน ทั้งจุดที่คนพลุกพล่าน (มีโอกาสแท็กเจอโทรศัพท์ค่ายเดียวกันสูง) และในสวน-สนามที่ห่างไกล จากนั้นกลับมาบ้านแล้วสั่งให้ตามหาแท็กของแต่ละยี่ห้อ แล้วจับเวลาว่าระบบตามหาจะสามารถแจ้งพิกัดของแท็กได้ภายในกี่นาที

ผลคือเครือข่าย AirTag และ Tile ผลัดกันชนะ ในขณะที่เครือข่ายของกูเกิลตามมาแบบห่างๆ ซึ่งบางครั้งให้ผลลัพธ์ว่าไม่สามารถค้นหาพิกัดได้เลย

The Verge ชี้ว่าเหตุผลที่เครือข่าย Find My Device ของกูเกิลให้ผลไม่ดีนัก เป็นความตั้งใจด้วยส่วนหนึ่ง เพราะระบบของกูเกิลจะพยายามไม่ระบุตำแหน่งที่ชัดเจนด้วยการคำนวณจากพิกัดของสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว เพื่อป้องกันการแอบตามรอยใครคนใดคนหนึ่งด้วยแท็ก ดังนั้นเครือข่ายของกูเกิลจะใช้ข้อมูลพิกัดจากมือถือหลายเครื่อง (aggregated data) เป็นค่าดีฟอลต์ (ผู้ใช้เปลี่ยนค่าเองได้ แต่ไม่น่าจะมีใครทำสักเท่าไร) วิธีการนี้มีข้อเสียคือหากแท็กไปหล่นอยู่ในพื้นที่คนน้อยๆ โอกาสที่จะได้พิกัดมาย่อมน้อยลงไปมาก

สิ่งที่ The Verge พบก็สะท้อนแนวทางที่ว่า หากลองค้นหาแท็กในพื้นที่คนเยอะๆ ระบบค้นหาของกูเกิลทำได้เร็วพอๆ กับแอปเปิล (กูเกิลบอกว่าเร็วขึ้น 4 เท่าเทียบกับตอนเปิดเครือข่ายใหม่ๆ) แต่ความแม่นยำของพิกัดที่รายงานจะน้อยกว่า โดยเฉพาะกรณีที่แท็กเปลี่ยนตำแหน่งไปเรื่อยๆ (เช่น ให้เพื่อนใส่แท็กในกระเป๋าแล้วเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยๆ ระบบจะรายงานเฉพาะพื้นที่กว้างๆ ว่าอยู่ละแวกไหน ซึ่งเป็นความตั้งใจของกูเกิลที่ป้องกันการแอบตามรอย)

การทดสอบของ The Verge ยังพบว่าการที่ AirTag รองรับ Ultra Wide Band (UWB) ด้วยทำให้จับทิศทาง (direction) นอกเหนือจากตำแหน่ง (position) ดังนั้นหากเราทำ AirTag หายไป การเดินค้นหาจะทำได้ง่ายขึ้นเพราะรู้ว่าต้องเดินไปทางไหน ส่วนข้อดีของแท็กฝั่งกูเกิลคือเสียงดังกว่า AirTag มาก หากสั่งให้ส่งเสียงก็จะหาได้ง่ายเช่นกัน

ที่มา - The Verge

Get latest news from Blognone

Comments

By: Mediumrare
AndroidWindows
on 27 April 2025 - 17:39 #1339009

การใช้ airtag ส่งหาคนอื่นเพื่อตามรอยที่อยู่นี่เกิดขึ้นจริงจนแทบจะปกติเลย บางคนที่เปิดกล่องไปรษีย์เช่าให้คนส่งของมาให้ได้นี่เจออยู่เนือง ๆ

By: nac on 27 April 2025 - 18:17 #1339011
nac's picture

นี้ก็ซื้อ Tag ของ Find My Device มาเหมือนกัน แพ้ Tag ของ Find My หมดเลย เปิดแอพก็ไม่ขึ้นอะไร ส่วน Find My Tag นี้ก็ขยันเตือนว่าโดนตามตลอด

By: tontan
ContributorAndroidSymbianUbuntu
on 27 April 2025 - 18:28 #1339012
tontan's picture

นี่ขนาดจำนวนคนใช้ iPhone น้อยกว่าจำนวนคนใช้ Android แบบหลายเท่า ตามหลักแล้วคนใช้มากกว่าควรแม่นกว่า เครือข่ายใหญ่กว่า แต่เอาเข้าจริง ยังแม่นกว่าไม่ได้...


บล็อก: wannaphong.com และ Python 3

By: Golflaw
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 27 April 2025 - 20:34 #1339014 Reply to:1339012
Golflaw's picture

เข้าใจว่าในอเมริกาจำนวน iOS กับ android ใกล้เคียงกันครับ


A smooth sea never made a skillful sailor.

By: tontan
ContributorAndroidSymbianUbuntu
on 28 April 2025 - 00:30 #1339019 Reply to:1339014
tontan's picture

ในอังกฤษคนใช้ android เยอะกว่านะครับ https://gs.statcounter.com/os-market-share/mobile/united-kingdom ผมเข้าใจว่า ทีมงานของ The Verge ตามข่าวทดสอบในลอนดอนนะครับ


บล็อก: wannaphong.com และ Python 3

By: specimen
Windows PhoneAndroid
on 28 April 2025 - 00:58 #1339020
specimen's picture

ไม่มีใครพูดถึง samsung smart tag เลยเหรอ
ดีแล้วล่ะที่ไม่พูดถึง ซื้อมานี่เรียกได้ว่าเสียดายตังค์เลย ใช้งานจริงไม่ได้เรื่องเลย

By: orchidkit on 28 April 2025 - 01:02 #1339021 Reply to:1339020

ผมแขวน samsung smart tag
ไว้กับกุญแจรถพร้อม air tag
ใช้ find my ของ apple หาง่ายกว่าจริง