Tags:
Node Thumbnail

ในงานสัมมนา Techonomy ซึ่งเชิญนักคิดผู้มีอิทธิพลของโลกไฮเทคหลายคนมาแลกเปลี่ยนความเห็นถึงอนาคตของการศึกษา ที่โดดเด่นจนเป็นข่าวมีสองราย

รายแรกคือ Nicholas Negroponte หัวหน้าโครงการ OLPC ฟันธงชัดเจนว่า หนังสือแบบกระดาษจะเริ่มหมดความสำคัญลงไป ในอีก 5 ปีนับจากนี้ เขาดักคอว่า "หลังจากคนได้ฟังคำพูดของผมแล้วจะบอกว่า เป็นไปไม่ได้หรอก" เขายกตัวอย่างของฟิล์มถ่ายภาพ ซึ่งเคยมีคนพยากรณ์เอาไว้ และคนที่ปฏิเสธว่าเป็นไปไม่ได้คือโกดัก ซึ่งตอนนี้ต้องรับสภาพความจริงไปเรียบร้อยแล้ว เขายังยกกรณี Amazon ระบุ ยอดขาย E-Book แซงหนังสือจริงแล้ว มาอ้างด้วย - TechCrunch

รายที่สอง บิล เกตส์ ไม่ได้ฟันธงชัดเจนว่าหนังสือกระดาษจะตาย แต่เขาบอกว่าในอีก 5 ปี มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกคืออินเทอร์เน็ต โดยเราสามารถฟังเลคเชอร์ที่ดีที่สุดในโลกได้ฟรีๆ เป็นจำนวนมาก โดยไม่มีมหาวิทยาลัยแห่งใดแห่งหนึ่งในโลกสามารเทียบเคียงได้ เกตส์ยังเสริมว่าเราควรมีวิธีสอบวัดระดับและรับรองความรู้จากอินเทอร์เน็ต เขาบอกว่าการศึกษาขั้นพื้นฐานในโรงเรียนยังเป็นเรื่องจำเป็น แต่การศึกษาระดับอุดมศึกษาจะยึดติดกับสถานที่น้อยลง - TechCrunch

Get latest news from Blognone

Comments

By: polaromonas
ContributorWindows PhoneWindows
on 7 August 2010 - 20:22 #199774

"โดยเราสามารถฟังเลคเชอร์ที่ดีที่สุดในโลกได้ฟรีๆ เป็นจำนวนมาก โดยไม่มีมหาวิทยาลัยแห่งใดแห่งหนึ่งในโลกสามารเทียบเคียงได้"

ใช่ บน iTunes U (อีกหนึงเหตุผลที่ยังคงมี iTunes ไว้ในเครื่อง)

By: totiz
ContributoriPhoneAndroidRed Hat
on 7 August 2010 - 20:39 #199781 Reply to:199774
totiz's picture

+1
ทั้ง iTunes U และ YouTube เป็นคลังข้อมูลชัดยอดของผมเลย
ผมว่าการศึกษาอะไรก็ตามผ่าน video เข้าใจได้รวดเร็วกว่าอ่านหนังสือ
เยอะเลย แต่ถ้าลงลึกใน detail หนังสือยังคงจำเป็นอยู่ ณ.ตอนนี้

By: hm2xt
iPhoneAndroidWindowsIn Love
on 7 August 2010 - 20:25 #199776
hm2xt's picture

ถ้ามีใบรับรองแบบที่บิลบอกจริงๆคงจะดีไม่ใช่น้อย

อย่างน้อยๆคนไทยก็เริ่มอ่านหนังสือจริงๆน้อยลงแล้ว ฮิฮิฮิ

By: mr.k on 8 August 2010 - 00:58 #199850 Reply to:199776

http://www.thaicyberu.go.th/

By: NuttTaro
iPhoneAndroidUbuntuIn Love
on 7 August 2010 - 20:29 #199777
NuttTaro's picture

อดดูสาวที่มหาลัยแล้วละสิ ;P

By: dafty
AndroidWindowsIn Love
on 7 August 2010 - 20:43 #199784 Reply to:199777

ดูกล้องกบแืทนดิ

By: rulaz07
ContributoriPhoneAndroidBlackberry
on 7 August 2010 - 20:31 #199778

เห็นด้วยกับบิลเกตส์นะ

By: RYUTAZA
Contributor
on 7 August 2010 - 21:00 #199791 Reply to:199778

+1 เห็นด้วย ด้วยคน.. ปัญหาที่ตามมาคือละเมิดลิขสิทธิ์ และผู้ค้ารายใหญ่ผูกขาด?

สถาบันกวดวิชาประเภทเปิดทีวีให้นั่งดูอาจจะพ้งย่อยยับ?

ป.ล.ล่าสุดเพิ่งได้พี่หน้ากากเสือช่วยชีวิตไว้ xD

By: mk
FounderAndroid
on 7 August 2010 - 21:17 #199799 Reply to:199791
mk's picture

เกาหลีใต้เปลี่ยนเป็นกวดวิชาผ่านเน็ตแทน นานแล้วครับ

By: zerosource
AndroidUbuntu
on 8 August 2010 - 13:14 #199929 Reply to:199799

แบบนี้ต่อไปต้องใส่แว่นตาตี่แบบคนเกาหลีสินะ

By: Mr.PizadSura
iPhoneAndroidWindowsIn Love
on 7 August 2010 - 22:14 #199818 Reply to:199791
Mr.PizadSura's picture

พี่หน้ากากเสื้อช่วยได้แค่มิดเทอมเองครับ หลังจากนั้นจะหาดูจากที่ไหนอ่ะ

By: SuPPy
AndroidWindows
on 8 August 2010 - 14:17 #199936 Reply to:199791

กวดวิชาแบบเปิดทีวีไม่พังหรอก ก็แค่ย้ายฐานทัพมาลงเน็ต
จริงๆ เดี๋ยวนี้หลายที่ก็มีระบบออนไลน์นะ อย่าง enconcept ช่วงไข้หวัด 2009
ก็ให้นักเรียนเรียนที่บ้านผ่านระบบสมาชิกในเว็บได้เลย

หรืออย่างพวกออนดีมานด์ พวกนี้รู้สึกว่าจะเรียนในคอมอย่างเดียว ไม่ได้เปิดทีวีทิ้งไว้
แล้วให้นั่งเรียนนั่งหลับ :p

ยังไงซะ แบรนด์ก็สำคัญ เหมือนเคมี ใครๆ ก็อยากเรียนอุ๊ ถ้าในยูทูปก็อาจจะมี แต่ว่าไม่ใช่อุ๊นี่สิ

By: dafty
AndroidWindowsIn Love
on 7 August 2010 - 20:44 #199785

ผมว่าเป็นไปได้มากครับ และอีกไม่นานอาจยกระดับเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับการศึกษาเลย

By: sarapuk
iPhoneSymbianWindows
on 7 August 2010 - 20:49 #199787
sarapuk's picture

ในต่างประเทศ 5 ปี กับการหายไปของหนังสือกระดาษผมเชื่อว่าน่าจะเป็นดังนั้น ในไทยอาจจะบวกเพิ่มเข้าไปอีกอย่างน้อยสัก 3 ปี แต่มหาลัยบนอินเตอร์เน็ตผมคิดว่ามันน่าจะมาเร็วกว่า 5 ปี

By: SZealotry on 7 August 2010 - 21:16 #199797
SZealotry's picture

แต่ทำไมเราโหลดแล้วค่อย print มาอ่านนะ จะนอนอ่านนั่งอ่าน ยังไงก็ได้ แต่ไม่น่าเปรียบกับฟิลม์ เพราะการใช้งานที่ต่างกัน แต่ความเห็นของเกตส์ต่างออกไป เกตส์พูดถึง knowledge บน internet ที่จะมีมากขึ้นจนไม่ต้องพึ่งพาสถานที่มากกว่า ไม่ใช่หนังสือจะตาย

By: gizzard
ContributorAndroidWindows
on 9 August 2010 - 12:54 #200063 Reply to:199797

ebook ไงครับ ราคาลดลงแบบกำลังจับต้องได้มากขึ้นเรื่อย ๆ นอนอ่านนั่งอ่านได้เหมือนกัน :) แต่ถึงขนาดหนังสือตายไปเลยก็คงไม่ใช่ แต่ที่เทียบกับฟิลม์น่าตรงนะ คือ ก็ไม่ตาย แต่ใช้น้อยลงมาก(ๆๆๆ)

By: JPorsh
iPhoneWindowsIn Love
on 7 August 2010 - 21:30 #199802
JPorsh's picture

อ่านในจอคอมปวดตาเกิ้นน

By: hunterpooh
AndroidUbuntuWindows
on 7 August 2010 - 21:44 #199808

สังคมอุดมคติของคนรวยจริงๆ คนจนที่ไหนจะมีเงินไปซื้อเครื่องอ่าน แบบกระดาษมันให้ความรู้สึกหมึกติดมือ ซึ่งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกมันให้ไม่ได้

By: chayaninw
WriterMEconomicsAndroidIn Love
on 7 August 2010 - 21:59 #199813 Reply to:199808
chayaninw's picture

คนใช้กล้องฟิล์มเขาก็ว่าฟิล์มยังมีความรู้สึกที่กล้องดิจิทัลให้ไม่ได้ครับ แต่ถึงตอนนี้ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนทั่วไปไม่มีใครสนใจแล้ว

เรื่องราคา อะไรมันก็ไม่แน่หรอกครับ ไม่กี่ปีก่อน โทรศัพท์มือถือก็ยังเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยอยู่ มาถึงตอนนี้ ระดับชาวบ้านทั่วไปมีใช้กันแพร่หลายขนาดไหน

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 7 August 2010 - 23:34 #199836 Reply to:199813
lew's picture

ผมพยายามเอากล้องฟิล์มครั้งสุดท้าย

ผมพบว่าผมจนเกินไป ถ่ายๆ ไปนี่โคตรเปลืองเลย

เลิก


lewcpe.com, @wasonliw

By: tekkasit
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 7 August 2010 - 22:57 #199828 Reply to:199808
tekkasit's picture
  • เครื่องอ่าน e-Book เดี๋ยวนี้ก็ถูกลงมาก ปีนี้ก็จะได้เห็น 139 เหรียญแล้ว และคาดกันว่าจะถึงจุดสำคัญทางจิตวิทยาที่ 99 เหรียญในอีกไม่เกินสองปี
  • ถ้าคุณไปเจอหนังสือแฮรีพ็อตเตอร์ เล่ม 4 ขึ้นไป จนเล่ม 7 แต่ละเล่มหยิบอ่านบนรถไม่ได้เลย มือแทบหัก คุณอาจจะเปลี่ยนใจอยากได้เครื่องอ่าน e-Book ที่น้ำหนักแค่ 3 ขีด แต่เก็บหนังสือ/นิยายหลายร้อยเล่ม ขึ้นมาบ้างก็ได้
  • เด็กรุ่นใหม่บางคน เริ่มไม่รู้จักโทรศัพท์บ้านแล้ว ซักผ้าด้วยมือไม่เป็นแล้ว ผมว่ามันอยู่ที่ความคุ้นเคยมากกว่า คนรุ่นเราหรือก่อนหน้า รู้จักหนังสือแบบเล่มๆ หนาๆ หนักๆ แต่ว่าจากนี้อีกสิบปี อุปกรณ์เฉพาะทางจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเยอะจริงๆ

ผมว่าตอนนี้สำหรับ e-Book เรากำลังเข้ายุคปี 90 ที่ MP3 กำลังมา เทคโนโลยีและแพร่ไปเร็วมาก มาก่อนเรื่องลิขสิทธิ์ ด้วยซ้ำ เจ้าของอุตสาหกรรมปรับตัวตามความต้องการไม่ทัน พยายามขวางเทคโนโลยี MP3 สุดชีวิต ผู้ที่เหลือรอดคือใคร? ไม่ใช่ iTunes Store รึ

ประเด็นคือทำให้มันซื้อหนังสือได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก ซื้อได้ทุกทีทุกเวลาที่อยากจะซื้อ ราคารวมรับได้ สมเหตุสมผล (ไม่ใช่ e-Book แพงกว่าหนังสือเล่ม T_T) นั่นก็น่าจะเพียงพอแล้ว

By: neizod
ContributorTraineeIn Love
on 8 August 2010 - 02:32 #199869 Reply to:199808
neizod's picture

อึ่มมม ลองตั้งสมการดู
Rx + E = x
เมื่อ R คืออัตราส่วนราคาระหว่างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ต่อหนังสือกระดาษ (ผมไม่มีข้อมูล ขอสมมติที่ 75% ครับ)
E คือราคาเครื่องอ่าน E-book (สมมติว่าราคาอยู่ที่ 10,000 บาท) และ x คือเงินที่ต้องจ่าย

แก้สมการนี้ จะได้ว่า x = 40,000 บาท
นั่นหมายความว่า ถ้าเราซื้อหนังสือปกแข็งด้วยเงินมากกว่า 40,000 บาทเมื่อไหร่
การลงทุนกับเครื่องอ่าน E-book และหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ก็น่าสนใจกว่า

ทีนี้ ลองมองดูรอบๆ ตัวว่า เราเสียเงินกับหนังสือกระดาษไปมากน้อยแค่ไหนนะ?
ถ้าเป็นคนเก่าคนแก่หน่อยที่ซื้อหนังสือพิมพ์เล่มละสิบบาทมาอ่านทุกวัน สี่หมื่นก็ใช้เวลา 11 ปี
ถ้าเป็นวัยเด็กที่ซื้อการ์ตูนเล่มละห้าสิบมาอ่าน ก็ตกว่าซื้อการ์ตูนได้ 800 เล่ม (ดรากอนบอล 20 ชุด)
ถ้าเป็นวัยรุ่นที่ตามเก็บนิยายตาหวานเล่มละสอง-สามร้อย ก็คงซื้อนิยายได้ซัก 150 เล่ม
ถ้าเป็นนักศึกษาที่ต้องซื้อ text เล่มละพัน ก็เทียบกับซื้อ text ได้ 40 เล่ม (จบป.เอกพอดี 555+)
ถ้าผู้นั้นมีนิตยสารในดวงใจให้ตามเก็บเดือนละเล่ม (เล่มละร้อย) ก็คิดเป็นเวลาประมาณ 7 ปีครึ่ง

ทั้งนี้ แนวโน้มเครื่องมือที่สามารถอ่าน E-book ได้น่าจะขยายวงกว้างและมีราคาถูกลง
ไม่แน่ว่า มือถือในอนาคตอาจถูกใช้เป็นเครื่องอ่าน E-book พกพาก็ได้

ดังนั้น ไม่ว่าจะคิดยังไง ผมก็เห็นว่าผลลัพท์ในท้ายที่สุดแล้ว หนังสืออิเล็กทรอนิกส์จะให้ราคาที่ถูกกว่าแน่นอน
และต้นทุนแรกเข้า (ค่าเครื่อง E-book) จะถูกลงๆๆ เหมือนโทรศัพท์มือถือที่ราคา 700.- ในตอนนี้ครับ

มันไม่ใช่สังคมอุดมคติของคนรวยหรอกครับ มันคือสวรรค์ของคนจนชัดๆ

By: iStyle
ContributoriPhoneAndroidSymbian
on 8 August 2010 - 03:00 #199874 Reply to:199869
iStyle's picture

ลืมห้องสมุดไปรึเปล่าครับ
ผมอยู่มหาลัยนี่แทบไม่ต้องซื้อเลย= ='


May the Force Close be with you. || @nuttyi

By: Thaina
Windows
on 8 August 2010 - 03:24 #199877 Reply to:199874

ห้องสมุดมีแนวโน้มจะ Backup ข้อมูลเป็น Digital มากขึ้นเรื่องนะครับ
เพราะมันมีทั้งค่าใช้จ่ายด้านพื้นที่ การบำรุงรักษา การจัดหา ความคงทน

By: neizod
ContributorTraineeIn Love
on 8 August 2010 - 09:59 #199893 Reply to:199874
neizod's picture

ห้องสมุดนี้ ลืมไป (ได้) เลยครับ สำหรับผม
เพราะหนังสือนิยายที่อยากอ่าน หาอ่านไม่ได้เลย
text ถ้าเป็นภาษาไทยก็มีแต่แบบเก่าเก็บ 10 ปีขึ้น เอาไปถามอาจารย์แกก็บอกว่าเก่าไป เค้าเปลี่ยนเนื้อหาใหม่แล้ว
นิตยสารของเดือนนั้นๆ ไม่เคยพอ ไปทีไรหมดทุกที อยากอ่านจริงรอไปโน่น 3 เดือน

สงสัยเราไม่ได้อยู่มหาลัยเดียวกันแฮะ - -" อยากไปอยู่โน่นจัง

By: Iterator
Android
on 8 August 2010 - 21:00 #199994 Reply to:199808

คนงานก่อสร้าง ยังมีมือถือเลยครับ แล้วฟัง mp3 ได้

อย่าลืมว่า เดี๋ยวนี้มี china factor ถ้าเทคโนโลยีมันเป็นไปได้
และไม่มีการปิดกั้น อีกไม่นานมันก็จะเข้าสู่ mass production
และ mass market.

By: neizod
ContributorTraineeIn Love
on 9 August 2010 - 00:54 #200028 Reply to:199994
neizod's picture

+1

By: Architec
ContributorWindows PhoneAndroidWindows
on 7 August 2010 - 22:07 #199816

คนจะเป็นโรควุ้นลูกตาเสื่อมกันมากกว่านี้อ่ะดิ พูดออกมาไม่คิดให้รอบคอบ

By: chayaninw
WriterMEconomicsAndroidIn Love
on 7 August 2010 - 23:14 #199832 Reply to:199816
chayaninw's picture

ผมว่าประโยคที่เขาพูด มันเป็น positive statement นะ

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 8 August 2010 - 01:25 #199854 Reply to:199816
hisoft's picture

ใช้เครื่องอ่านจอ E-Ink สิครับ จอสำหรับโมเน็ตบุ๊คให้เป็น e-ink ยังมีเลย

By: pines
Blackberry
on 7 August 2010 - 22:37 #199825

มันคงไม่ถึงกับตายไปจริงๆหรอก แต่ย้ายที่อยู่ใหม่

By: l2aelba
iPhoneAndroid
on 7 August 2010 - 22:58 #199829
l2aelba's picture

ถ้าเราเก่งภาษาอังกฤษก็คงดี

By: ballsaii
ContributorBlackberryUbuntu
on 7 August 2010 - 23:06 #199830

อีกหน่อย มีเซ็กส์ผ่านเนต


บีเบี้ยวกับบีบึ้ง

By: audy
AndroidUbuntu
on 7 August 2010 - 23:59 #199842
audy's picture

3G มาไวๆ เถอะ
เด็กเลี้ยงควายแถวบ้าน จะได้สัมผัส MBA from Harvard

By: non
Symbian
on 8 August 2010 - 01:32 #199856

ขนาดปีสองปียังขนาดนี้อีก 5 ปีเทคโนโลยีในการอ่านก็คงสูงจนเรานึกไม่ถึงได้
แล้วเราจะพบความคลาสสิคในการเดินถนน เดินไปตามร้านหนังสือได้หรือเปล่าหว่า
หรืออาจเปลี่ยนเป็นพกเครื่องอ่านหนังสือ และไปนั่งจิ้มๆที่ไหนเย็นๆแทน

By: 077023
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 8 August 2010 - 01:39 #199858
077023's picture

กูเกิลทำหนังสือตาย


もういい

By: SZealotry on 8 August 2010 - 01:41 #199859
SZealotry's picture

เมื่อไรที่จอม้วนเก็บได้และถนอมสายตาเมื่อนั้นอาจแทนที่ได้โดยสมบูรณ์

By: dq-pb
AndroidWindows
on 8 August 2010 - 01:48 #199861

5 ปีสำหรับการตายของหนังสือกระดาษ มันไม่น่าจะเป็นไปได้เลย เพราะมันต่างจากกรณีฟิล์มเอามากๆ
กรณีฟิล์มนั่นเป็นเรื่องของการเก็บข้อมูล กับการแสดงผลล้วนๆเลย

การอ่านหนังสือมันไม่ใช่แค่การเก็บข้อมูล การแสดงผล แต่มีเรื่องของพฤติกรรมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เช่นการเปิด พลิกสลับหน้า หรือการเอานิ้วขั้นหน้าหนังสือไว้ พร้อมกับเปิด อีกหน้าพร้อมกัน หรือว่าการเปิดผ่านๆ ยังไม่รวมเรื่องความรู้สึกไม่คุ้นชินอีก

ยกตัวอย่างง่ายที่สุด คงเรื่อง touch keyboard ยังแพ้ keyboard อยู่
ทุกวันนี้ยังมีคนที่ชอบกดปุ่มตัวเลขจริงๆ มากกว่ากดหน้าจออีกมาก

ebook ในปัจจุบันยังขาดการควบคุมที่ครอบคุมการใช้งาน ในหลายๆส่วน ที่ทำให้ยังสู้ กระดาษไม่ได้
แต่ที่เป็นไปได้ใน 5 ปี น่าจะเป็นการเก็บข้อมูลจาก analog > digital
หรือถ้า e-ink มีมัลติทัช +ออกแบบ ui รวมถึงการควบคุมดีๆ ใน 5 ปี ผมเชื่อว่าส่วนแบ่งในตลาดน่าจะสูสีกันได้ แต่ก็ยังแทนที่ยังไม่ได้ ต้องค่อยๆซึมเข้าไปในพฤติกรรมมากกว่าจะเปลี่ยนทันที

By: neizod
ContributorTraineeIn Love
on 8 August 2010 - 02:45 #199871 Reply to:199861
neizod's picture

จริงอยู่ที่ว่า 5 ปีสำหรับ (ความเคยชินของมนุษย์ที่ใช้) หนังสือกระดาษ (มาตลอดเป็นพันๆ ปี) มันน้อยมากที่จะทำให้ตายลงไป
แต่ว่าลองมองในอีกแง่มุมหนึ่ง 5 ปีสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีมันเยอะมากเลยนะครับ

ผมว่าเมื่อถึงตอนนั้นแล้ว หนังสือกระดาษน่าจะยังไม่ตายไปหรอก
(เพราะบางคนอาจต้องการ hard copy เก็บไว้อยู่)
แต่ว่าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์น่าจะเป็น major สำคัญแทนหนังสือกระดาษแล้วนะครับ ไม่ใช่แค่สูสี
(เหมือนกับที่เดี๋ยวนี้ทุกคนมีมือถือเป็นของตัวเองแล้วนั่นเองครับ)

By: sunback
Contributor
on 8 August 2010 - 14:35 #199940 Reply to:199861
sunback's picture

ถ้าเด็กๆ เกิดและโตมาพร้อมกับ E-book Reader เขาก็จะบอกว่า ถนัดการใช้ E-book Reader มากกว่าหนังสือ

ผมมองว่าเป็นเรื่องของความถนัดมากกว่าครับ ใครถนัดแบบไหน สิ่งที่อยู่ตรงกันข้ามย่อมเป็นความไม่ถนัดโดยปริยาย

เหมือนเรื่องรถยนต์เกียร์อัตโนมัติกับธรรมดา ที่ถกเถียงกันได้ตลอด ในเรื่องความถนัด ไม่ถนัด ชอบ ไม่ชอบ ดี ไม่ดี

By: neizod
ContributorTraineeIn Love
on 9 August 2010 - 00:55 #200029 Reply to:199940
neizod's picture

+1
แต่รถยนต์ผมชอบเกียร์มือนะ (ถึงจะไม่ถนัดเท่าไหร่ อิอิ)

By: tactics
Windows PhoneAndroidWindows
on 8 August 2010 - 02:28 #199868

ยังไงซะกระดาษก็คงไม่หมดไปง่ายๆ

By: BreMen
iPhoneWindows PhoneAndroid
on 8 August 2010 - 02:36 #199870
BreMen's picture

หนังสือยังไม่ตายง่ายๆหรอก แต่ผมว่าที่จะตายในระยะเวลาอันใกล้นี้คือ หนังสือพิมพ์และนิตยสาร เสียมากกว่า

ปล.ผมเห็นด้วยกับคำพูดของ บิล เกตส์ นะ

By: Blltz
WriterMEconomicsAndroidWindows
on 8 August 2010 - 02:53 #199873 Reply to:199870
Blltz's picture

ส่วนตัวผม หนังสือพิมพ์จะยังไม่ตาย(ในไทย)ไปจนกว่ายุคสมัยจะเริ่มเปลี่ยนผ่านครับ

เพราะตอนนี้เองกลุ่มเป้าหมายหลักของหนังสือพิมพ์ก็ชัดเจนกว่าเมื่อก่อนมากแล้ว แนวทางออกจะคล้ายกับวิทยุ

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 8 August 2010 - 04:17 #199879 Reply to:199873
hisoft's picture

ถ้ามี E-Book ก็ลงทะเบียนแล้วแล้วมันจะส่งให้ทุกวันเลยอ่ะครับ

By: Blltz
WriterMEconomicsAndroidWindows
on 8 August 2010 - 05:10 #199882 Reply to:199879
Blltz's picture

ส่งมาทางไหนดีล่ะครับ ?

แล้วก็ต่อให้ส่งมาทุกวันได้จริง (ซึ่งไม่รู้ว่าเมืองไทยจะรองรับแบบนั้นได้เมื่อไหร่) ยังมีประเด็นเรื่องตัวเครื่อง E-reader อีก ที่ถึงราคาจะตกลงมาแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าถูก

อย่างถ้าคนที่แค่อ่านนสพ.อย่างเดียว หัวเดียวต่อวัน เค้าคงไม่ซื้อเครื่องราคาห้าพันอัพมาเพื่ออ่านนสพ. แน่ๆ กว่าจะคุ้มก็อาจพังไปก่อนแล้ว

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 8 August 2010 - 05:41 #199885 Reply to:199882
hisoft's picture

ส่งผ่าน 3G แบบ Kindle ก็สะดวกดีครับไม่เสียค่าบริการ Wi-Fi ก็ได้

ส่วนเรื่องความคุ้มค่า ต้องคนชอบอ่านหนังสือด้วยจริงๆ ครับ ไม่งั้นยังไงๆ ก็ไม่คุ้มอยู่ดี

By: Blltz
WriterMEconomicsAndroidWindows
on 8 August 2010 - 15:42 #199962 Reply to:199885
Blltz's picture

3G บ้านเรา คงต้องรออีกหลายปีเลยล่ะครับ

By: tekkasit
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 8 August 2010 - 17:36 #199977 Reply to:199962
tekkasit's picture

ตรงข้ามเลยครับ Kindle 2 Global ที่ผมใช้อยู่ในเมืองไทย มันขึ้นว่ารับสัญญาณ 3G นะครับ!

By: Blltz
WriterMEconomicsAndroidWindows
on 9 August 2010 - 05:05 #200049 Reply to:199977
Blltz's picture

คนส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในกรุงเทพฯ นะครับ

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 8 August 2010 - 23:39 #200017 Reply to:199962
hisoft's picture

ตามคุณ tekkasit เลยครับ Kindle ในไทยก็ 3G แล้วครับถ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล

By: BreMen
iPhoneWindows PhoneAndroid
on 8 August 2010 - 12:46 #199922 Reply to:199873
BreMen's picture

อืม ก็จริงนะครับ หนังสือพิมพ์ก็ยังไม่ตายในไทยง่ายๆ เดี๋ยวนี้หนังสือพิมพ์บ้านเราก็มีการพัฒนาด้วย หนังสือพิมพ์ 3 มิติครั้งแรกของไทย

แต่เดี๋ยวนี้ผมไม่อ่านหนังสือพิมพ์แล้วน่ะครับ เพราะเหตุผลหนึ่งคือ หนังสือพิมพ์ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นใดๆได้เลย ไม่เหมือน internet ที่สามารถแสดงความคิดเห็น และ แชร์องค์ความรู้ของแต่ละคนที่มีอยู่ได้ครับ

By: pines
Blackberry
on 8 August 2010 - 04:27 #199880

กระดาษมันจะแพงนะสิ ไม้มันแพง

By: rulaz07
ContributoriPhoneAndroidBlackberry
on 9 August 2010 - 12:46 #200061 Reply to:199880

ข้อดีของ ebook คือช่วยลดโลกร้อน ^ ^

By: emptyzpace on 8 August 2010 - 06:10 #199886

textbook จะอยู่ได้เกิน10ปี

แต่ Magazine ไม่มั่นใจ คงอยู่ได้ แต่ร่อแร่

By: kornstantine
Android
on 8 August 2010 - 07:55 #199889
kornstantine's picture

เด็กรุ่นใหม่คงโตมากับ E-Book

By: coolmilk
ContributorAndroidWindows
on 8 August 2010 - 11:02 #199901

ผมคนนึง อ่าน E-Book นานไม่ไหวจริง

By: Pinery
ContributoriPhoneAndroidIn Love
on 8 August 2010 - 11:34 #199907

20 ปีฟันธง

เคยบอกแบบนี้ใน Blognone มีคนไม่เชื่อแบบขาดใจดิ้นด้วย

เห็นป่าว ข่าวนี้ทายกันแค่ 5 ปีเอง 555+

By: pd2002 on 8 August 2010 - 11:43 #199909

ผมว่าอย่าไปคิดเลยว่าหนังสือมันอยู่ได้อีกกี่ปี
เรามาคิดว่าใน 5 ปี นับจากนี้ เทคโนโลยี ด้านนี้จะพัฒนาไปสุดยอดขนาดไหน
5 ปี ในถนนเทคโนโลยี มันน่าจะพัฒนาอะไรได้เยอะมากๆ
ตอนนั้นอาจจะมีกระดาษดิจิตอลบางๆใช้กันแล้ว

By: exFictitiouZ
ContributorAndroid
on 8 August 2010 - 11:51 #199912

อยากรู้ว่าการจด short note ลงไปในหน้าหนังสือและการขัดไฮไลท์สามารถทำได้สะดวกแค่ไหนครับ
เพราะรู้สึกว่าถ้าทำแล้วยุ่งยาก ยอมใช้หนังสือกระดาษต่อไปดีกว่า
และท้ายสุด ผมเห็นด้วยกับเกตส์ครับ มุมมองเจ๋งจริง


twitter.com/exfictz

By: Nurisuke on 8 August 2010 - 12:10 #199916

"มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกคือ Internet" ชอบแฮะ แต่เด็กไทยยังมีความเป็น Learner น้อยไปหน่อย ยังติดที่ต้องให้คอยป้อนเป็นแค่ Student

รบกวนทุกท่านที่สนใจเรื่อง e-book ช่วยทำแบบสอบถามออนไลน์ให้หน่อยได้มั๊ยคะ
http://spreadsheets.google.com/viewform?formkey=dE9NMlhRaDM2N1JteVpTS3E1VHZqbWc6MQ
ผลการตอบจะนำไปใช้สำหรับงานวิจัยป.โท จุฬาเท่านั้น ขอบคุณมากค่า ^_^

By: mednoon on 8 August 2010 - 12:17 #199917

แล้ว double A เราจะรอดไหม (คิดไกลกว่ากระดาษ) ?

By: ComSci-MFU
Windows PhoneAndroidWindows
on 8 August 2010 - 14:18 #199937
ComSci-MFU's picture

ผมชอบอ่านหนังสือเป็นเล่มมากกว่า สบายตา อ่านได้ทุกท่า นุนนอนได้ ถึงมีเครื่องอ่านอีบุ๊ก ผมก็ยังปริ้นออกมาอ่านเป็นเล่มอยู่ดี ฮ่าๆ

By: van3000
iPhone
on 8 August 2010 - 14:29 #199939

กี่ปีไม่รู้
แต่สำหรับผมถ้าจะมีอะไรมาแทนหนังสือกระดาษได้ ก็ต้องเอาไปอ่านในห้องน้ำได้
ต้องทนทานกันน้ำหรือตกแล้วไม่พังง่ายๆ น้ำหนักต้องเบา
เวลาอ่านแล้วรู้สึกสบายตาเหมือนเวลาอ่านกระดาษกรีนรีด
และราคาถูก

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 8 August 2010 - 14:38 #199942 Reply to:199939
hisoft's picture

เครื่องอ่าน E-Book เบาครับ อ่านแล้วสบายตากว่าหนังสือในไทยทั่วๆ ไป อาจจะใกล้เคียงกรีนรีด (จะใช้กระดาษสีขาวทำไมเนี่ย อ่านแล้วปวดตานะ T-T) อ่านในห้องน้ำได้แต่กันน้ำไม่ได้แถมทำตกไม่ได้ด้วย อันตรายมาก

By: neizod
ContributorTraineeIn Love
on 9 August 2010 - 01:05 #200030 Reply to:199939
neizod's picture

อีกไม่นานถ้ามันบูม มันจะมีคนบางคนที่พกไปอ่านทุกที่ครับ
แล้วหลังจากนั้นก็จะมีคนมาบ่นว่า เอาไปอ่านในห้องน้ำไปม่เห็นได้เลยว่อย (ตกน้ำแล้วพัง)
พอเป็นอย่างนั้นแล้ว ก็จะเกิดตลาดเฉพาะกลุ่มสำหรับผู้ต้องการอ่านในที่เสียงอันตรายต่อน้ำมากขึ้น
(เหมือนกล้องดิจิตัลกันน้ำ นาฬิกาข้อมือกันน้ำ ...อึ่ม เคส iPod nano gen 5 สำหรับถ่ายวีดีโอใต้น้ำยังเคยเห็นมาแล้วเลย อิอิ)

ในอีกมุมหนึ่งของเทคโนโลยี การชาร์ตไฟแบบไร้สายจะเป็นมาตรฐาน (อันนี้ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่)
และการใช้วิธีส่งข้อมูลไร้สาย (bluetooth, wifi, 3G-4G) ก็จะมาแทนที่พอร์ต USB
ดังนั้น การออกแบบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในอนาคตแทบทุกชนิด อาจเป็นแบบไร้ช่องเชื่อมต่อก็ได้
ส่งผลให้ผู้ผลิตสามารถออกแบบอุปกรณ์เหล่านี้ให้กันน้ำได้ง่ายขึ้นในอีกทางนึงด้วยครับ ^^

ดังนั้น เรื่องเอาไปอ่านในห้องน้ำ ไม่ต้องห่วงครับ รอมันบูมอย่างเดียว อิอิ

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 8 August 2010 - 14:39 #199943
hisoft's picture

สำหรับผมจะเป็นหนังสือเป็นเล่มหรือเครื่องอ่านก็ไม่สำคัญหรอกครับ ให้เนื้อหามันเยอะ แล้วถูกกว่าเยอะๆ หน่อยก็โอเคแล้ว

By: ComSci-MFU
Windows PhoneAndroidWindows
on 8 August 2010 - 14:59 #199945
ComSci-MFU's picture

"The Book of E.I.L"

มันกำลังจะมา 555+

By: boykeng on 8 August 2010 - 16:04 #199967
boykeng's picture

การเรียนรู้ไร้พรมแดน ดีจริงๆ

By: Ton-Or
ContributorAndroidCyberbeingRed Hat
on 8 August 2010 - 17:21 #199976
Ton-Or's picture

5 ปียังเร็วไป
จะแทน ได้เครื่องอ่านต้องทำได้เหมือน หนังสือทั้งหมด อ่านได้เขียนได้ ไม่ใช่แค่ ไฮไลท์ เพราะบางคนเขียนเป็นมายแมพ จอต้องสัมผัสได้ ราคาต้องถูก "199$ ถูกแล้วนะครับ" สำหรับตัวผมราคายอมรับได้ ตะโกนถาม ลูกค้าในร้านเมื่อกี๊ ถาม เรื่องนี้ บอกเช่าหนังสือ อ่านวันหละ 4 - 5 บาทดีกว่า หรือนั่งอ่านหน้าคอมที่ร้านที่หล่ะ ชั่วโมงอ่านได้เป็น สิบตอน(Cartoon)


Ton-Or

By: Iterator
Android
on 8 August 2010 - 21:10 #199997

เรื่องหนังสือจะตาย ผมว่าเป็นการพูดเปรียบเทียบง่าย ๆ
ตายไม่ได้แปลว่าหายไปเฉย ๆ หรือศูนย์พันธ์หรอกครับ

แต่มันหมายถึง มันสูญเสียความหมายเดิม ๆ ในมุมมองการใช้งาน
ของคนจำนวนมาก

โดยส่วนตัวเปิดอ่านหนังสือเป็นเล่มน้อยลงมากเรื่อย ๆ ส่วนมาก
จะเน้นอ่านในคอม

ส่วนเรื่อง การศึกษาอยู่บนเว็ป ผมว่าจุดเปลี่ยนสำคัญจุดนึง
ที่มันเกิดขึ้นแล้ว คือการเกิดขึ้นของ wikipedia และ google

เราจะสังเกตได้ว่า บรรดาผู้เชี่ยวชาญแก่ ๆ ในไทย กลายเป็นผู้รู้ธรรมดา ๆ ไปหมด
เพราะข้อมูลต่าง ๆ สามารถหามาอ่านมาเรียนรู้ได้ง่าย ๆ ในอินเตอร์เน็ต

By: collection
iPhoneWindows PhoneWindows
on 9 August 2010 - 14:03 #200071

ผมคิดว่าในไทยยังค่อนข้างยากอยู่ครับ เพราะ มีหลายคนที่ไม่เก่งคอม และหลายๆที่นั้นอินเตอร์เนตยังไม่เร็วเท่าที่ควร E-Book อาจจะเริ่มเข้ามาใช้ได้แต่คงต้องอีกหลายปีครับฃกว่าในไทยจะเริ่มใช้แบบจริงๆจังๆ
(แต่สำหรับผมชอบอ่านหนังสือข้างนอกแบบสัมผัสได้มากกว่า ยิ่งเป็นหนังสืออ่านนอกเวลาน่ะครับ)
เพราะว่าผมจ้องคอมมาก ๆ แล้วปวดตา (สายตาคนเราจะแย่กันก็คราวนี้ล่ะครับ)

By: nuntawat
WriterAndroidWindowsIn Love
on 9 August 2010 - 15:44 #200092 Reply to:200071
nuntawat's picture

+10 ผมว่าอ่านผ่าน hard copy จะไม่ปวดตาและทำให้ง่วงนอนได้ง่ายเท่ากับอ่านผ่านหน้าจอทั้งหลายนะ

By: pines
Blackberry
on 10 August 2010 - 02:47 #200268

น่าสนใจที่การศึกษาอยู่บนเว็บ หมายถึงมันไม่เรียงมาให้ ไม่มีคนป้อนให้ ทีนี้คนที่ถูกสอนมาให้มีความถนัดทางการศึกษาด้วยตัวเองแบบนี้น่าจะมีโอกาสมากกว่าคนที่ถูกสอนแบบคอยให้ป้อนตลอด

By: kidtalentz on 10 August 2010 - 19:51 #200488

ถ้าหนังสือกระดาษตาย ซึ่งเป็นไปได้ในเชิงธุรกิจ แล้วการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไม่ทั่วถึงจริง หายนะจะมาเยือน คนจนจะเข้าถึงข้อมูลข่าวสารความรู้อะไรใหม่ๆ ไม่ได้เลย น่ากลัวอยู่เหมือนกัน แต่ธุรกิจจะไม่สนใจ ขายอะไรแล้วมีกำไรก็ขายทั้งนั้น จะไฟล์หรือกระดาษ

มีประเด็นที่ผมสงสัย และคนจำนวนมากก็สงสัยเรื่องยอดขายหนังสือของอเมซอน ที่ไม่เคยบอกรายละเอียดจำนวนเล่ม หรือ ยอดขายเป็นเงินที่ชัดเจน กระทั่งยอดขายเครื่องคินเดิ้ลยังไม่เคยบอกจำนวนเลย ตัวเลขยอดขายคินเดิ้ลมาจากการประเมินของบริษัทภายนอกทั้งนั้น อเมซอนบอกแต่เปอร์เซ็นต์ แถมบอกอีกว่า 9-12 เดือนข้างหน้า ยอดขายอีบุ๊กจะแซงปกอ่อน

ถ้าเคยซื้อหนังสือจากคินเดิ้ล สโตร์ หนังสือฟรี ก็มีทรานแซคชั่นเหมือนหนังสือขาย ราคาจะโพรเซสออกมาเป็น 0 เหรียญ

เขานับโหลดฟรีอีบุ๊กแบบนี้ไปรวมแล้วเทียบกับหนังสือปกแข็งหรือเปล่า

ราคาอีบุ๊ก ต่ำกว่าปกแข็งมาก ถ้าจะแซงก็ไม่แปลก แต่ที่เห็นติดอันดับขายดี หรือพวกหนังสือใหม่ๆ จะแพงกว่าปกอ่อนเล็กน้อย