ถึงแม้ซีอีโอจะขอลาป่วยจนน่าจะเป็นข่าวลบต่อบริษัท แต่ผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ผ่านมาของแอปเปิล ช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2010 ซึ่งนับเป็นไตรมาสที่ 1 ปี 2011 ของบริษัทก็ออกมาให้เป็นข่าวดีอีกครั้ง (ดูผลประกอบการไตรมาสที่แล้ว)
แอปเปิลแจ้งกำไรสุทธิสูงถึง 6 พันล้านดอลลาร์ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดที่เคยมีมาของบริษัท โดยเพิ่มสูงขึ้นถึง 78% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมาจากยอดขาย 2.67 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 70% จากปีก่อน ตัวเลขดังกล่าวถือว่าเหนือความคาดหมายของนักวิเคราะห์ แม้บรรดานักวิเคราะห์จะประเมินตัวเลขไว้สูงอยู่แล้ว แต่แอปเปิลก็ทำได้ดีกว่านั้นเสียอีก ตัวเลขและข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติม มีรายละเอียดดังนี้
* ยอดขาย iPad ไตรมาสนี้สูงถึง 7.33 ล้านเครื่อง ตัวเลขนี้ก้าวกระโดดมากเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่ 4.19 ล้านเครื่อง ทำให้ยอดขายรวมของ iPad ตอนนี้อยู่ที่ 14.8 ล้านเครื่อง
* ยอดขาย iPhone 16.2 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า
* Mac ขายได้ 4.1 ล้านเครื่อง ขณะที่ iPod ขายได้ 19.2 ล้านเครื่อง
* กำไรขั้นต้นไตรมาสนี้อยู่ 38.5% ซึ่งแอปเปิลคาดการณ์ว่าตัวเลขจะคงตัวในไตรมาสถัดไป
* ยอดขายใน iTunes ทะลุ 1.1 พันล้านดอลลาร์
* แม้ตัวจะลาป่วยแต่สตีฟ จ็อบส์ก็ได้ฝากถ้อยคำในแถลงการณ์ไว้ว่า นี่เป็นไตรมาสวันหยุดที่มหัศจรรย์มากๆ และเรายังคงมีสินค้าใหม่ๆในแผนงานตลอดปีนี้รวมทั้ง iPhone 4 บนเครือข่าย Verizon ที่ลูกค้ารอคอย
เนื้อหาจากตรงนี้ไปเป็นส่วนของการถาม-ตอบของผู้บริหารกับนักวิเคราะห์หลักทรัพย์
- ซีโอโอ Tim Cook ตอบคำถามเรื่องอุปทาน (supply) ของสินค้าว่า iPad นั้นการจัดการดีขึ้นมาก แต่ iPhone ยังคงผลิตไม่ทัน และน่าจะมีปัญหาหนักขึ้นหลังการเปิดตัว iPhone กับ Verizon แต่เขาปฏิเสธที่จะตอบว่าเมื่อใดปัญหานี้จะหมดลง
- ซีเอฟโอ Peter Oppenheimer เปิดเผยตัวเลขว่าบริษัทใน Fortune 100 ถึง 80% เริ่มทดสอบการใช้ iPad ในองค์กรแล้ว เพิ่มจากไตรมาสก่อนที่ 65%
- ยอดขายในส่วนเอเชียแปซิฟิคนั้นเพิ่มขึ้นเท่าตัว โดย Cook บอกว่าเกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นตลาดที่ดีมากๆของแอปเปิล
- Mac มียอดขายในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มสูงขึ้นถึง 67% ซึ่งเติบโตสูงที่สุดในโลก
- ในบรรดา Apple Store ทั่วโลกนั้น 4 สาขาในประเทศจีนมีอัตราการหมุนเวียนของลูกค้ามากที่สุด
- Cook บอกว่าแม้บริษัทจะเติบโตต่อเนื่องถึง 19 ไตรมาสแล้ว แต่เมื่อมองส่วนแบ่งการตลาดในภาพรวมถือว่าต่ำ อย่าง Mac ก็ยังมีส่วนแบ่งน้อยมาก iPhone ก็ถือว่าไม่สูงในกลุ่ม Smart Phone ฉะนั้นแอปเปิลยังมองเห็นโอกาสอีกมากที่จะเติบโตต่อ
- Cook ตอบคำถามเรื่องชิ้นส่วนว่า DRAM ยังอยู่ในภาวะอุปทานล้นเหลือจึงยังไม่น่าเป็นห่วง ส่วนจอ LCD อุปสงค์อุปทานยังลงตัวดี
- Cook ตอบคำถามเรื่องสงครามแท็บเล็ตว่า ผู้เล่นหลักๆอย่างไมโครซอฟท์ซึ่งมี Windows นั้นเทอะทะและแบตเตอรี่ก็แย่ ส่วน Android บนแท็บเล็ตก็ดูประหลาดเกินจนเหมือนโทรศัพท์ยักษ์มากกว่า ส่วน Honeycomb นั้นภาพยังไม่ชัดเจนพอ
- Cook ปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่า iPhone 4 กำลังเร่งยอดขายด้วยการลดราคาลงมา โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคที่บางประเทศราคา iPhone ถูกกว่าปกติ
- แอปเปิลยอมรับว่า iPad ได้สร้างกระบวนการคิดเชิงเทิดทูนหรือ Halo Effect ต่อยอดขายของ Mac กล่าวคือคนที่ใช้ iPad มีแนวโน้มจะสนใจซื้อ Mac เป็นคอมพิวเตอร์ตัวถัดไป ฉะนั้นแม้ตลาดพีซีจะหดตัวลง แต่ Mac ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยมองว่า Macbook Air จะเป็นตัวเริ่มต้นที่ดีของผู้คิดเปลี่ยนใจ
- Cook ยืนยันว่าแนวคิดฮาร์ดแวร์แบบเดียวที่แอปเปิลทำนั้นถูกต้องแล้ว จะเห็นว่า Android กำลังทำให้ผู้ใช้งานปวดหัวจากความหลากหลายของฮาร์ดแวร์ในตลาด
ราคาหุ้นแอปเปิลปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วงการแถลงผลประกอบการ ถึงแม้ราคาหุ้นจะลดลงมามากในช่วงเปิดตลาดจากข่าวการป่วยของสตีฟ จ็อบส์
ที่มา: Tech Trader Daily และ The New York Times
Comments
สุดยอดเลย ยกนิ้วให้
รอดูปีนี้ จะมีอะไรออกมาบ้าง
:: DigiKin8 ::
ขอบคุณครับ เรียบเรียงดีมาก ๆ จนทำให้เข้าใจง่ายครับ
ได้ทีก็วิจารณ์คู่แข่งเลยนะ ลุงคุกนี่
ปัฏฉิมลิขิต: อุปสงค์อุปทาน บอกตรงๆ ผมงง - -a
^
^
that's just my two cents.
จะพยายามเขียนควบคู่กับคำภาษาอังกฤษไปตามเหมาะสมครับ อ่านแล้วจะได้งงและไม่งงบ้างอะไรบ้าง
ความงงช่วยบอกเราได้ว่าถ้าเป็นหัวข้อที่สนใจ ควรศึกษาเพิ่มเติมครับ
lewcpe.com, @wasonliw
Halo Effect = กระบวนการคิดเชิงเทิดทูน
อ่านภาษาไทยอย่างเดียวคงไม่มีทางเดาได้ว่ามาจากภาษาอังกฤษคำนี้
ผมว่าความหมายมันเพี้ยนออกจากภาษาอังกฤษไปมาก
อ้างจาก Wikipedia Thai ครับ แต่ปกติผมก็เรียกแต่ Halo Effect อะ
ผมไม่ชอบคำๆ นี้เลย
มันทำให้ตัวเองขาดเหตุผล
ดูเหมือนเป็นคนปิดกั้นไม่ยอมรับสิ่งอื่นๆยังไงไม่รู้
มันมีต้นกำเนิดมาจากเกมส์ HALO ???
จริงครับที่ว่า ผู้ใช้ Android กำลังปวดหัวจากความหลากหลายของฮาร์ดแวร์ในตลาด
แต่ปวดหัว ในลักษณะที่เลือกไม่ถูกว่าจะซื้อ android ตัวไหนดี มากกว่าจะไม่ซื้อ android นะครับ
สำหรับผม android ให้อิสระตั้งแต่ตอนเลือกซื้อ สเป็ก, รูปร่าง, ราคา ตลอดจนเอามาใช้ interface, app
Apple ทำให้ผู้คนในโลกกลายเป็นบุคคลสองประเภทคือ คนที่มี iphone และคนที่ไม่มี iphone สรุปคือเค้าทำให้ iphone คือสิ่งที่เป็นของผู้ซื้อซื้อเพราะอยากเป็นไปเป็นผู้คนอีกกลุ่มนึงไปเป็นผู้ที่มี iphone ทำให้ไอโฟนตั้งราคาสูงยังไงก็มีคนซื้อเพราะมันแค่สิ่งที่ทำให้หลายๆคนเปลี่ยนไปเป็นกลุ่มอีกกลุ่มนึงได้ ยอมรับการตลาดจริงๆว่าสุดยอด
แอนดรอย tablet ดูเหมือนโทรศัพท์ยักษ์...... แต่ ipad มันก้เหมือน iphone ยักษ์นั่นแล...
มันก็ครือๆกัน
แถมไม่มีกล้อง และหนักด้วย
เหมือนกว่าด้วยนะ
ตอนแรกไม่รู้ว่ามันโทรได้ จนกระทั่งเมื่อวานไปเดินเล่นห้าง โอ้ววว ต่อให้เมาขนาดไหน กดปุ่มไม่มีพลาด
เอาสิ่งที่มีอยู่แล้วมาทำตลาดอย่างลงตัว สุดยอดจริงๆ
ยังไงถ้าขายได้มาก ก็ลดราคาลงหน่อยนะ
เวลานี้เป็นเวลาทองของ Apple จริง ๆ
สิ่งที่ Apple ถนัดคือการทำให้ผู้อื่นเป็นผู้ตาม
" Android กำลังทำให้ผู้ใช้งานปวดหัวจากความหลากหลายของฮาร์ดแวร์ในตลาด" ... ลูกค้าไม่ปวดหัวครับ มันคือทางเลือก โคตรจะชอบ ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับมือถือระดับ hi-end ก็สามารถจับต้องสิ่งที่เรียกว่า smartphone ได้ ที่ปวดหัวจริงๆคือ android dev ครับเพราะความหลากหลายของ spec เครื่องที่ต้องเอามาพิจา่รณา่ตอนเขียนโปรแกรมโดยเฉพาะพวกเกมส์
"Android บนแท็บเล็ตก็ดูประหลาดเกินจนเหมือนโทรศัพท์ยักษ์มากกว่า " ... ขนาดสาวก apple ตัวพ่อที่นั่งข้างๆผมยังบอกเลยว่า iPad มันคือ iphone ยักษ์นั่นแหละ ซึ่งตอนนี้ผมยังนึกข้อดีของ iPad ไม่ค่อยออกนอกจากที่มัน "จอใหญ่กว่า iphone" (เมื่อเทียบกับตัว iphone นะ)
ปันผลให้ผู้ถือหุ้นบ้างนะ ไม่ปันมาหลายปีมากละนะ
จริงเหรครับ ขอข้อมูลสนับสนุนหน่อยสิ
พวกสถิติราคาหุ้นย้อนหลังไปหาดูได้เลยครับอย่าง Yahoo! Finance ก็ได้ แล้วจะพบว่า Apple ปันผลครั้งสุดท้ายเมื่อ 21 พฤศจิกายน 1995 ที่ 3 เซนต์ต่อหุ้น โดยตอนนั้นหุ้นราคาอยู่แถว $6-$7
เรื่องปันผลหรือไม่ปันผลดีกว่ากันเป็นแนวคิดที่ไม่มีข้อสรุปตายตัวครับ ราคาหุ้น Apple ในตลาด 3 ปีย้อนหลังให้ผลตอบแทนร่วม 200% การปันผลจึงอาจจะไม่จำเป็นแล้วเพราะผู้ถือหุ้นสามารถทำกำไรได้จากการขายหุ้นยังเยอะเสียกว่า
ผมสังเกตุมานะส่วนใหญ่หุ่นกลุ่มไอที มักไม่ปันผลไม่รู้เพราะอะไร ซื้อหุ้นไทยดีกว่า
ก็ต้องเอาเงินไปลงทุนต่อไงครับเพื่อทำให้เติบโต
ถ้าเป็นธุรกิจที่การเติบโตไม่สูงแล้ว ไม่มีการพัฒนาใหม่ๆ บริหารไปเรื่อยๆ ถึงจะปันผลออกมา
หุ้นไทยที่มีการเติบโตสูงๆ ถึงจะมีการปันผลแต่ก็น้อยมาก ,ส่วนปันผลดีๆ แล้วเติบโตด้วยมีน้อยมากครับ (หมายถึงการเติบโตต่อเนื้อง 3-5 ปี)
ผมว่ามูลค่าหุ้นที่เพิ่มขึ้นขนาดนี้ ดีกว่าปันผลเยอะนะครับ สำหรับนักลงทุนแล้วเขาคงชอบส่วนนี้มากกว่า
เฮ้ย ทำยังไง iphone ก็ผลิตไม่ทันเนอะ
ใครมีตังให้ยืมสัก หมื่นล้านไหม จะไปซื้อหุ้น apple สะหน่อย
เวลาอ่านข่าวหุ้นแอปเปิ้ลทีไร นึกถึง Forest gump ทุกที
ที่บอกว่า เพื่อนที่เป็นชาวประมงออกไปหาปลาด้วยกันบอกให้ซื้อแอปเปิ้ล มันก็เลยซื้อ
ซื้อเพราะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแอปเปิ้ลคืออะไร
5555 ใช่แล้วครับ ซื้อบริษัทผลไม้แล้วจะรวยไปตลอดชาติ
ปีก่อนไม่มี iPad พอปีนี้เพิ่มมาอีกหน่วยนึงรายได้เลยกระฉูด ถ้าเทียบธุรกิจ iPhone กับ Mac ก็ยังทรงๆ นะ
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ทำยังไงถึงจะได้เงินจาก apple มาใช้บ้างเนอะ
Like
ขนาดมีครหาสัญญาณไม่ดี ตกแตก ไม่ปลุก ยังขายได้ถล่มทลาย