วันวาเลนไทน์ปีนี้เป็นวันสำคัญของตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (London Stock Exchange หรือ LSE) เพราะเป็นวันที่เปลี่ยนระบบค้าหุ้นจากเดิมที่ใช้ .NET บนวินโดวส์ มาใช้ระบบใหม่ที่รันด้วย SUSE
ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนเคยประสบปัญหาซอฟต์แวร์แครชจนทำงานไม่ได้ในปี 2008 โดยปัญหาเกิดจากระบบ TradElec ที่พัฒนาบนแพลตฟอร์ม .NET (พัฒนาโดยไมโครซอฟท์และ Accenture) ทางตลาดหลักทรัพย์จึงตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้ลินุกซ์แทน ระบบใหม่มีชื่อเรียกว่า Millennium Exchange พัฒนาโดยบริษัทซอฟต์แวร์ในศรีลังกา
การทำงานวันแรกใต้ระบบใหม่ไม่มีปัญหาใดๆ ทางบริษัทแม่มีแผนจะนำ Millennium Exchange ไปใช้กับตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ในเครือ เช่น Johannesburg Stock Exchange ในแอฟริกาใต้ และอาจรวมไปถึง Toronto Stock Exchange ของแคนาดาที่กำลังจะรวมกิจการกันในเร็วๆ นี้
ตลาดหลักทรัพย์หลายแห่งในโลกทำงานบนลินุกซ์ เช่น Qatar Stock Exchange ใช้ RHEL (เดิมทีใช้ AIX และวินโดวส์) ส่วนตลาดใหญ่ๆ ของโลกอย่าง New York Stock Exchange, Shanghai Stock Exchange กับตลาดในเครือ Deutsche Borse Group ใช้ระบบชื่อ Xetra ซึ่งอยู่บนลินุกซ์เช่นกัน
ที่มา - ZDNet
Comments
โดยรวม linux ดีกว่า window ยังไงครับเห็นองกรณ์ใช้กันเยอะ แต่ตามบ้านไม่ค่อยมีใครใช้ มันทำอะไรนอกเหนือจาก window ได้บ้าง ไว้จะไปลองใช้ดู
ฟรีคับ แต่อย่างอื่นผมไม่รู้หรอก ที่แน่ๆผมชอบ Linux อยู่อย่างคือ Socket ของมันเรียงเป็น Index ให้เลย เวลาเขียน Server จะง่ายและเร็วมาก แต่ผมก็ยังไม่รู้หรอกว่าถ้าเขียน Server แบบ IOCP บน Windows มันจะ Load ได้เยอะกว่า Linux รึเปล่า
สรุปสำหรับผมตอนนี้
Linux สำหรับเครื่อง Server
Windows สำหรับเครื่อง Workstation
ผมเคยลองพยายามจะเอา Linux มาทำ Workstation แต่สุดท้ายก็กลับมาใช้ Windows - -'
อิสระในการใช้ครับ ไม่ใช่ฟรี ในกรณีตลาดหุ้นจะเสียค่าบริการให้กับ Novell หรือไม่ก็ Microsoft เพราะ Microsoft ได้ลิขสิทธิ์ใน Suse ด้วย เป็น partner ร่วมกัน
ที่บริษัทตั้งแต่เปลี่ยนมาใช้ Linux แทน Windows server ปัญหาเดิมๆ ที่เจอบ่อยหายเกลี้ยง
ได้ปัญหาใหม่ๆ มาแทน?
ยังไม่เจอนะครับ แต่มันอาจจะยากสำหรับคนที่ไม่รู้จะดูแลยังไงกับการใช้คำสั่งคอมมานด์ไลน์ แต่จริงๆ แล้วมันมีไม่กี่คำสั่งเองที่ใช้บ่อย และไม่ใช่เรื่องยากถ้ามีเน็ต อยากรู้อะไรใช้พี่กรูหาเจอหมด ยกเว้นหาคนรักฉันอยู่ที่ไหน :>
Workstation ลินุกซ์สำหรับผมก็พอใช้ได้ แต่มันไม่ 100% เช่น การทำงานกับหมู่มวลมนุษย์ที่ยังใช้ MS Office แค่นี้ก็ปวดหัวละ ในการแชร์ไฟล์ด้วยกันมันจำเป็น (โดยเฉพาะใน Office ที่เราดันใช้ไม่เหมือนคนอื่น)
หรือในกรณีอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น จะอัพรอมน้องด๋อย ตัว Software ไม่มีบนลินุกซ์แน่ละ วิธีที่มีให้อัพมันก็ทำให้ใช้งานได้ไม่สมบูรณ์ ก็ต้องพึ่งพา S..oftware ที่รันบน Windows อยู่ดี หรือในเรื่องของ iPod มันก็พอจะมี Software ที่ใช้ผ่าน Linux ได้ แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็สู้ iTunes แท้ ๆ ไม่ได้อยู่ดี
.
.
สรุปว่าหลัก ๆ เลยคือเรื่องเอกสารครับ มันติดที่ไม่สามารถบูรณาการไปสู่สิ่งอื่นที่ใช้ร่วมกันได้ (เช่น Google Docs เพราะเราเป็นปัญหาอยู่คนเดียว) เลยต้องมีทั้ง 7 ไว้ Dual Boot และแอบ XP ไว้ใน VM เรียกใช้ในลินุกซ์อีก ก็ประมาณนี้ล่ะครับ :-)
ที่ทำงานผมก็อยากใช้ Linux เหมือนกัน
แต่ผมเป็นระดับผู้ปฏิบัติงาน (IT STAFF)
และหัวหน้าผมไม่เป็น Linux :( มาแต่สาย Windows
^
^
that's just my two cents.
ผมก็มาจากสายวินโดว์แล้วมาเรียนรู้ภายหลัง ขึ้นอยู่กับผู้นำมากกว่าครับว่าอยากจะลองของใหม่หรือเปล่า ทั้งนี้ต้องดูปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น ค่าลิขสิทธิ์ ถ้ามีเงินเหลือเฟือก็ไม่จำเป็นต้องใช้ลีนุกซ์ก็ได้ นอกเสียจากทำเอามันส์
ถ้าเหตุผลของผมก็ทำเอามันส์ล้วนๆ 5555
^
^
that's just my two cents.
ผมว่าระบบใหญ่ๆ เสถียรภาพมีความสำคัญลำดับต้นๆ ซึ่ง Linux ทำจุดนี้ได้ดี และใน spec เดียวกันก็รับโหลดได้มากกว่าด้วย
Windows เล่นเกมได้ครับ เลยมีคนใช้เยอะ
ถ้ารวมๆก็มีพวกโปรแกรมมัลติมีเดียส่วนใหญ่ ซึ่งมีแต่ Windows และ Mac ขาดแคลนใน Linux
ทั้งทางด้่านผู้ใช้และผู้พัฒนา เปนต้นว่า 3DMax โฟโต้ชอป หรือพวกตัดต่อหนัง ฯลฯ
สรุปคือ Windows มัน All Around กว่า นั่นเอง เหมาะกับการใช้ตามบ้าน
+1 มันก็เลยกลายเป็นเป้าโจมตี และเป็นเป้าที่มีจุดอ่อนเยอะซะด้วย
ระวังสาวกนะ
FOSS มันก็มีให้เลือกใช้ตั้งหลายอย่างนี่ครับ บางเกม Graphic สวยงามมากแต่เป็นเกมสำหรับ Linux ก็มีนะครับ ผมมองว่าตลาดมันเป็น Windows เพราะว่าอำนาจผูกขาดตั้งแต่สมัยก่อนรึเปล่า มันเลยส่งผลมาถึงปัจจุบัน
Windows เหมือนอาหารปรุงสำเร็จแช่แข็ง ซื้อมา เอามาอุ่นกินได้เลย มีฝือมือหรือไม่มีฝีมือก็ได้ออกมารสเดียวกัน แต่ถ้าไม่ชอบแบบที่ปรุงมาให้ ก็แก้กันลำบากหน่อย
Linux เหมือนอาหารสด ซื้อมาแล้วต้องเอามาปรุง จะอร่อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับคนทำ ถ้าฝีมือดีก็อร่อยเหาะ แถมปรับตามความชอบของคนกินได้อีก
Mac ล่ะครับ?
เป็นภัตราคารที่ห้ามสั่งกลับบ้าน
May the Force Close be with you. || @nuttyi
+1
+2
5555+
+1
ปรุงแทบตายครับ จนสุดท้ายออกมาน่าพอใจแล้ว
(เว็บ OmgUbuntu ทั้งเว็บ ผมเคยทดลองเล่นไปซักครึ่งเว็บพอได้ ทดลองเล่น ลงใหม่หลายครั้งมาก)
ติดที่จุดสุดท้าย ต่อ TV-out แล้วการแสดงผลเอ๋อครับ (การ์ดจอ Intel)
เมาส์ค้างบ้าง resolution เพี้ยนบ้าง ต้อง detect จอเองบ้าง (Ubuntu 10.04, 10.10)
ยิ่งงานที่ผมทำนี่ต้องใช้ TV-out อยู่บ่อยๆ ประกอบกับผมเองเป็นคนชอบฟังเพลงขณะทำงาน
ปรากฏว่าเมื่อเครื่องโหลดหนักๆ เพลงมัน lag มากครับ ในขณะที่ full-load บน windows
เพลงยังวิ่งเรียบๆครับ (น่าจะเป็นที่การจัด priority ที่ยังไม่ดีนัก เมื่อเทียบกับที่เคยนั่งฟังเพลงบน mac)
สรุปก็เลย.. ยกงานกลับ Win7 หมดครับ
เหลือไว้เฉพาะ server เท่านั้นที่ยังใช้ Linux อยู่
(มันไม่เหมาะกับงาน multimedia จริงๆนั่นหล่ะ)
จริง
ผมมีทั้ง 2 โอเอส เหตุผลหลักคือ Linux สำหรับความเป็นส่วนตัว บูตเข้าวินโดว์จะมาดูข้อมูลใน Ext3/4 ไม่ได้ง่ายๆ แต่ถ้าเป็นวินโดว์บูตจากแผ่นเห็นหมดเลย ส่วนวินโดว์สำหรับเอนเตอร์เทนและงาน Multimedia
ผมก็ยังใช้ Windows อยู่นะ เพราะงานตอนนี้ Windows ก็พอเพียงแล้ว แต่ถ้าจะทำระบบใหญ่ๆ ทำไว้ใช้นานๆ ผมจะเลือกเอา Linux มาใช้มากกว่า เพราะคุ้มว่าเสียเวลาทำ
linux ได้เปรียบทุกด้านในแง่ ประสิทธิภาพ ที่มากกว่า เทียบ hardware ที่เท่ากัน ระบบจัดการงานระบบองค์กรที่ดีกว่ามาก หากผมเทียบแล้ว windows แพ้ linux ชัดเจนตรง NTFS นี่แหละครับ พาลทำให้ระบบงานที่อยู่บน windows ช้ากว่า linux ที่ใช้ ext3-4 กันไปหมด แบบเทียบกันไม่ติดเลย
ทุกวันนี้แม่ผมอายุ 60 ใช้ linux ครับ
*เล่นเกมส์ spider
*ฟังเพลงเก่าๆ ด้วย QMMP
*Video call กับ ญาติพี่น้องด้วย Skype
ท่านใดมีข้อมูลของ SET บ้างมั้ยครับ พอแชร์ได้ไหม :-)
เก่าไปหน่อย http://www.ryt9.com/s/prg/258426
:-)
ถ้าให้ผมเดาก็ตามประสาคนไทยครับ เกาเหลา
จะเอาระบบไหนหละครับ ระบบตลาดมีมากมายหลายตัว
แต่ว่าส่วนมากเป็น Standard มาจากเมืองนอก
เพราะว่าซื้อระบบเค้ามา
ส่วนที่ MFEC ทำนั้นก็แค่เป็นส่วนหนึ่งมีหลายงาน บางงานไม่ใช่ระบบ trade ด้วยซ้ำไป
นั่นสิครับ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยล่ะครับ ใช้อะไร เหมือนผมจะเคยได้ยินมาว่า บริษัทที่ทำให้คือ MFEC
โดยระบบใหม่พัฒนาบนแพลตฟอร์ม MONO :P
คิดเหมือนผมเลย
เห็นด้วย Novell มันก็เจ้่าของเก่าของ Mono นี่นา
โอ้ยยย ฮาได้อีก...
แสดงว่า บ.ศรีลังกา ไม่ได้ถูกจ้างมา dev ใหม่ แต่จ้างมา port ลง mono
น่าจะ mono เพราะ suse เป็น distro หลักสำหรับ mono
ไม่รู้ว่าผู้ให้บริการเป็น MS หรือ Novell
Linux จงเจริญ
Server ยอมรับ Linux ครับ(เพราะลดความเสี่ยงเรื่องการโจมตีได้มากกว่า Windows อย่างน้อยก็พวกมือใหม่ชอบลองของแหละครับ) ส่วน workstation ยอมรับ windows ครับ
เอ่อ hack windows ทุกวันนี้ ผมว่า มันยากกว่า linux บางตัวอีกนะครับ
ที่ง่ายนี่เพราะว่าเค้าไม่ได้ patch รึเปล่าครับ
ยิ่งมีการใช้มากเท่าไรย่อมเป็นเป้าการโจมตีมากขึ้นเท่านั้น เพราะว่าทำแล้วมันเห็นผลคุ้มกว่า ในกรณีของลีนุกซ์ถ้าเจอก็แก้ไขได้ง่าย เป็นเฉพาะ user นั้นๆ แต่ถ้าเป็นวินโดว์มันจะเหมารวมทั้งระบบ ยกตัวอย่างง่าย ถ้ามี autorun ที่ไดร์ฟใดๆ ไม่ว่าจะ user ไหนโดนเรียบและมันเจาะไปถึงดีฟอลต์ค่าติดตั้ง all users และบางทีทำให้บูตเข้าวินโดว์ไม่ได้เลย
แต่ก็นั่นแหละครับ ยังไงวินโดว์ก็มีสิ่งที่น่าเย้ายวนใจกว่า
ช่วยยกตัวอย่างหน่อยครับ
ไม่รู้ว่า linux ทำอันนี้ได้ป่าว
กำหนด ให้ write,modify แต่ห้าม delete
หรือสึกว่า write ได้ ก็เท่ากับ delete ได้
ถ้าคุณไม่ให้เค้าลบไฟล์ แต่ดันปล่อยสิทธิ์ให้แก้ไขไฟล์ได้ ได้ก็หมดค่าแล้วครับ
สิ่งที่คุณจะปกป้อง คือเนื้อข้อมูล ไม่ใช่ไฟล์
ทำได้ครับ แต่ก็ห้าม Content Overwrite ไม่ได้อยู่ดีครับ
ที่คุณถามน่ะ Advance อย่างมากครับ ไม่ค่อยมีใครใช้ เลยไม่ค่อยมีใครทราบ ว่าทำได้
Linux มี SVNfs ครับ เก็บการแก้ไขได้ทุกรอบ เดินหน้าถอยหลังได้ทุกแบบ
lewcpe.com, @wasonliw
อ้า ตัวนี้ Concept ดี ผมเพิ่งรู้จักครับ ขอบคุณที่เอามาแนะนำกันครับ
แต่ขอถามนิดหนึ่ง เพราะหาบน Page เขาไม่เจอ (ยังหาไม่ละเอียดพอด้วย) คือเขาทำเป็น FS ต่างหากเลย หรือ Build บน Interface ของ File system อื่นได้ครับ?
มันเป็นตัวเชื่อมระหว่าง file system กับ svn ครับ
คือต้องรัน svn เตรียมไว้ก่อน พอมีการเขียนหรืออ่านจากส่วนที่กำหนดให้เป็น svnfs ก็ก็ทำผ่าน svn ครับ
lewcpe.com, @wasonliw
แค่ -w ที่ directory ก็ได้แล้วครับ (เป็น permission พื้นฐานของ linux เลย)
แต่ในความเป็นจริง ถ้ากำหนดแบบนี้ เวลาโดน overwrite ทั้งไฟล์ก็ไม่ช่วยอะไรอยู่ดี