Eric Schmidt ประธานของกูเกิลได้กล่าวในงาน LeWeb 2011 ว่าขณะนี้ Android ได้นำ iPhone ไปแล้ว โดยให้เหตุผลหลักๆ ว่า Android นั้นมีจำนวนเครื่องที่มากกว่า, มี Android 4.0, มีราคาถูก และมีตัวแทนจำหน่ายมากมาย
Eric Schmidt กล่าวเพิ่มเติมว่าสิ่งสำคัญของการขับเคลื่อนตลาดแอพพลิเคชันของระบบปฏิบัติการใดๆ คือการมีโทรศัพท์ปริมาณมากในตลาด ตอนนี้ก็มีผู้ผลิตมากมายกำลังผลิตโทรศัพท์ Android อยู่ทั่วโลก ไม่ว่าคุณจะชอบ Android หรือไม่ คุณจะต้องสนับสนุน Android หรือแม้กระทั่งพัฒนาแอพพลิเคชันให้ Android ก่อนระบบปฏิบัติการอื่น
หนึ่งในผู้ฟังพูดขึ้นมาว่าเขารู้สึกไม่ดีเลยที่เห็นแอพเดียวกันของทางฝั่ง iOS ทำออกมาได้ดีกว่าของ Android ทาง Eric Schmidt ตอบว่า ความคิดนี้จะเปลี่ยนไปเป็นตรงกันข้ามในอีก 6 เดือนข้างหน้า (ส่วนหนึ่งคงมาจากการมาของ Android 4.0 Ice Cream Sandwich)
หนึ่งในจุดอ่อนของ Android ในตอนนี้ก็คือ ผู้พัฒนาแอพส่วนใหญ่ตัดสินใจที่จะพัฒนาแอพให้ทางฝั่ง iOS ก่อน เช่น McCue ผู้พัฒนา Filpboard บอกว่าตอนนี้เขากำลังมุ่งเน้นไปที่ iPhone (เพิ่งจะปล่อย Filpboard สำหรับ iPhone ออกมา) และเมื่อถูกถามว่าได้สนใจพัฒนาให้ Android บ้างหรือไม่ เขาตอบแค่เพียงว่า "We'll see"
นอกจากนี้แล้วยังมีเรื่องของกระแสด้านลบที่ว่า Android นั้นลอก iPhone มาจน Eric Schmidt ต้องออกมาบอกว่า Android นั้นเกิดมาก่อน iPhone ส่วนจุดแข็งของ Android ในตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของความที่เป็นระบบปฏิบัติการที่แจกฟรีให้กับผู้ผลิต ส่งผลให้บริการต่างๆ ของกูเกิลอย่าง Google Music หรือ Google Maps เข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น
ที่ผมว่าตลกดีตอนอ่านข่าวนี้ก็คือ Eric Schmidt พูดว่าตอนนี้ Android นำ iPhone ไปแล้วท่ามกลางห้องประชุมที่เต็มไปด้วย iPhone, iPad และ MacBook แล้วทำเอาผู้ฟังในห้องนั่งเงียบไปตามกันครับ
Comments
Android เกิดก่อนและนำ iPhone ไปแล้ว? .. จริงๆ เกิดก่อนควรจะนำไปก่อนนานแล้วสิ! อิอิ ;P
my blog
"Whether you like Android or not, you will support that platform, and maybe you'll even deliver it first."
อันนี้ละที่น่ากลัว
Android มีจุดด้อยคือเรื่อง App อย่างเดียวเลย
ถ้ามี App ดีๆ เยอะๆ (Google กรอง Market ให้ดีๆ หน่อย) ผมคิดว่าจะมีคนมาใช้อีกเยอะครับ
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
App ดีๆมีเยอะแล้วแต่กรองให้มันเข้มมากๆหน่อยจะดีกว่า
App ดีๆมีเยอะแล้วแต่กรองให้มันเข้มมากๆหน่อยจะดีกว่า
App ดีๆมีเยอะแล้วแต่กรองให้มันเข้มมากๆหน่อยจะดีกว่า
App ดีๆมีเยอะแล้วแต่กรองให้มันเข้มมากๆหน่อยจะดีกว่า
App ดีๆมีเยอะแล้วแต่กรองให้มันเข้มมากๆหน่อยจะดีกว่า
App ดีๆมีเยอะแล้วแต่กรองให้มันเข้มมากๆหน่อยจะดีกว่า
App ดีๆมีเยอะแล้วแต่กรองให้มันเข้มมากๆหน่อยจะดีกว่า
โอเคสงสัยจะเยอะจริง
คราวหน้าใจเย็นๆ ค่อยๆกด Save นะครับ
Technology is so fast!
ผมว่าน่าจะมีการกรองการเม้นซ้ำที่มีข้อความเหมือนเดิมนะครับ จะได้ไม่เกิดปัญหานี้ขึ้น ฮา
Apple ขาย Hardware อยู่เจ้าเดียว
แต่ Android มี OEM ขาย Hardware กระจายเป็นกองทัพมด
ดังนั้นในแง่ของจำนวน หากจะขาย OS ได้เยอะกว่าก็ไม่น่าแปลกใจซักเท่าไหร่
Android เข้าถึงคนมากกว่า กลุ่มรายได้น้อยก็เข้าถึงได้
จริง
ไม่คิดว่ามีตัง สี่พันหน่อยๆ จะได้ใช้อันด๋อย
รู้สึกตัวเอง สมาร์ทขึ้นทันที
ผมลองเปลี่ยนคำพูดดูและใส่ลูกน้ำแล้วครับ รบกวนตรวจสอบให้อีกครั้งครับ
ส่วนคำว่าแอพผมขอไม่เปลี่ยนเป็นแอพฯ ด้วยเหตุผลที่ว่าปัจจุบันแอปเปิลโปรโมทคำว่าแอพ (เราจะเห็นแต่คำว่า App บ่อยกว่าคำว่า Application) จนเป็นคำติดตลาดที่เรารู้จักกันทั่วไปแล้วครับ
ฮาตรงประโยคสุดท้าย แต่พนักงานกูเกิ้ลเองก็ถูกประธานสั่งให้ใช้Mac หรือ Linux เหมือนกันแบบนี้ก็ซื้อๆกันไปกันมาเหมือนกันสินะ
"เขารู้สึกไม่ดีเลยที่เห็นแอพเดียวกันของทางฝั่ง iOS ทำออกมาได้ดีกว่าของ Android"
ตอนแรกผมก็ไม่รู้นะ แต่วันก่อนไปเห็น Incrideble S เครื่องเพื่อนเปิด PVZ เล่น ผมถึงกับตกใจว่า "เฮ้ย ไมมันกระตุกเป็นชอทๆอย่างนี้เลยฟะ"
ขนาด Incredible S ที่เพิ่งออกไม่นานแถมไม่ใช่ระดับล่างยังรันเกมส์ได้แย่ขนาดนี้เชียว3Gs เล่น PVZ ไม่มีกระตุกสักแอะ
ผมเล่นบน nexus one ยังไม่เห็นกระตุกสักนิด ทั้งที่ cpu/gpu ห่วยกว่า incredible s ในทุกกรณี
เพื่อนคุณไปลงตัวเถื่อนที่คนดึงกราฟฟิกจาก ios มาทำกันเองรึเปล่าครับนั่น
Android นำแน่นอนในแง่ของปริมาณ และจำนวนแอพ (อนาคตอันใกล้นี้) แต่สำหรับผมยังมองไม่เห็นมือถือ Android ยี่ห้อไหนที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองเลย
SE ,hTC สองยี่ห้อนี้เอาด๋อยมาโมจนหน้า Screen ไม่เหมือนเดิมไปแล้วล่ะครับ
Destination host unreachable!!!
ไม่เห็น หรือ ไม่ได้มองหา
หรือเห็นแล้วทำเป็นมองไม่เห็น
ผู้พัฒนาเกม infinity blade เกมดังของ iOS เคยให้สัมภาษณ์ว่า
สรุปคือที่เราไม่ทำเวอร์ชั่นของ Android ไม่ใช่เพราะประสิทธิภาพเครื่องไม่ถึง หรือปัญหาเรื่องเทคนิคอะไร แต่เป็นปัญหาเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ที่ง่ายเกินไป
จึงอาจเป็นคำตอบว่าทำไมแอพถึงมักลง iOS ก่อน แล้วค่อยพอร์ตไป Android
แอบคิดเหมือนกันนะว่า ขณะที่ android มุ่งเอาชนะ ios จนลืมมอง amazon ไปเกรงว่า amazon นี่แหละจะมาทำร้าย android ต้นฉบับเสียเอง ดูจาก ข่าวแล้ว kindle fire มันคือ andriod ที่เจ๋งมากๆ เลยครับ google ทำไมทำเองไม่ได้เหมือน amazon นะ
การตลาดเค้าต่างกันครับ kindle มันก็แอนดรอยนะครับไม่ได้แปลงอะไร รันก็รันแอพแอนดรอย
kindle fire มันมีข้อจำกัดที่ไม่ได้โอเคซะหมดนะลองเล่นจริงก่อนครับ พูดได้ว่าบางอย่างขัดใจเลยแหละแต่ด้วยราคาก็ทำใจยอมความได้
Kindle Fire คือบริษัทเดียวกันทำฮาร์ดแวร์และบริการบนเน็ตที่เอามาเชื่อมครับ ส่วนซอฟต์แวร์ก็ "ขอยืม" Android มาต่อยอดเท่านั้น
การจะเอา android มาใช้ต้องทำการขอยืมเหรอครับ? ผมว่ามันแปลกๆ นะ
"ขอยืม"
ตามการวิเคราะห์ ส่วนตัวของผม (และอาจมีอีกหลายคน) เชื่อว่า
Amazon จะมี OS ของตัวเองครับ Android อาจแค่ ขัดตาทัพเท่านั้น
Amazon มี Eco System มากมายและซ้ำซ้อน กับ Google อยู่มาก (และหลายอย่าง ทำได้ดีกว่า Google มาก)
การปล่อยให้ Google กำหนดชะตากรรม OS ให้เข้าข้างตัวเอง ดูจะไม่สมเหตุสมผลในระยะยาว
คุณ Eric เขาคงมองภาพในปีหน้าเป็น Google Phone กับ Chrome book สินะครับ ฮา
นำจริง แต่สำหรับภาษาไทยมันก็ยังห่วยอยู่ยันปัจจุบัน - -'
นำไปสักพักแล้วนี่
จริงๆ ตลาด Smart Phone น่าจะมีแบ่ง Segment มากกว่าแค่ OS นะ เช่น ขนาดความละเอียดของจอ, Keyboard etc.
ถ้าแบ่งเป็นหลายเซกเม้น ก็ไม่ชนะไอโฟนสิ 5 5 5
รวมๆกันเข้าไว้เลขจะได้เยอะๆ
ถ้านับกันที่จำนวนเครื่องที่ขายได้ andriod ชนะอยู่แล้ว หรือจะนับจำนวน application ก็อาจจะชนะแน่นอน แต่ถ้าพูดถึงประสบการณ์ผู้ใช้กับคุณภาพของ application แล้วผมยังมองไม่ออกจริงๆ ว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหน android ถึงจะถาม iOS ทัน
Android นำ iPhone แต่ตลาดบนคงไม่ได้นำ นำแต่ตลาดล่างๆ
ด้วยความเคารพ จริงๆ
คุณเป็น Dev ที่ทำมาหากินด้วยการเขียน APP ผมมี 2 choice ให้คุณเลือก
1.ANDROID PHONE ที่ถูก ราคาประหยัด และฟรี สำหรับผู้ผลิต มีให้เลือกตั้งแต่ราคา 4500 - 22000 บาท แต่ก็นะ ตามที่บอก Android เป็นโทรศัพท์ปริมาณมากในตลาด แต่ราคาต่ำ ซึ่งทำให้คนที่ซื้อ "ส่วนใหญ่" มีรายได้ไม่สูงมาก เพราะงบมีแค่นี้ และ สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ "พวกนี้ไม่มีบัตรเครดิต"
โอกาสที่คุณจะขาย APP "ต่ำมาก" เพราะความที่คนที่ซื้อ Android ส่วนใหญ่มักจะหาของแจกฟรี หรือไม่ก็ Root เครื่องตัวเองลง APP เถื่อน
สิ่งที่ตามมาคือ DEV มีรายได้ไม่มากนักเมื่อเทียบกับอีกค่าย
2.iOS Device ที่แพง ระบบปิด ราคาต่ำสุด 15900 - 26500 บาท จับกลุ่มตลาดบน ที่มีกำลังซื้อ ส่วนมากมีบัตรเครดิต และไม่ซีเรียสกับการจ่ายค่า APP 0.99$ - 4.99$ ถึงแม้ว่าเครื่องจะน้อยกว่าแต่โอกาสที่ DEV จะสามารถทำเงินกับ iOS มีสูงกว่ามากครับ
สาเหตุนี้เองทำให้ DEV ส่วนมาก เลือกทำ iOS ก่อน
เงินเรื่องเดียวครับ
ไม่ต้อง Root ก็ลงแอพเถื่อนได้ค่ะ
ลงเป็นไฟล์ APK ได้เลย
จริงในตลาดโลก แต่กลับกันในตลาดประเทศไทย ฮาๆๆ