โครงการ OpenFlow เป็นโครงการวิจัยด้านเครือข่ายที่เริ่มโดยมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด แนวคิดของ OpenFlow คือออกแบบสวิตช์ให้ฉลาดกว่าเดิม เรียนรู้การทำงานของสวิตช์ตัวอื่นๆ และวางแผนการส่งข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสูงสุดของเครือข่ายทั้งหมดในภาพรวม
ความสามารถของสวิตช์ในปัจจุบันจะฉลาดในระดับหนึ่ง แต่นั่นเป็นแค่อุปกรณ์ตัวเดียว ไม่รู้การทำงานของสวิตช์ตัวอื่นๆ ในระบบ ทำให้การส่งแพกเก็ตของสวิตช์ตัวนั้นๆ อาจทำงานได้ดี แต่ระบบเครือข่ายทั้งหมดอาจทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร
OpenFlow มีส่วนประกอบทั้งในระดับฮาร์ดแวร์ (ตารางการจัดทิศทางการไหลของข้อมูล) และระดับซอฟต์แวร์ เป้าหมายของมันคือเป็นระบบปฏิบัติการของ "เครือข่าย" ทั้งเครือข่าย ไม่ใช่ฮาร์ดแวร์ตัวใดตัวหนึ่งในเครือข่าย ปัจจุบันมันสามารถทำงานได้กับสวิตช์ยอดนิยมบางรุ่น และมีมหาวิทยาลัยหลายแห่งในสหรัฐใช้งานกันแล้ว
บริษัทเอกชนที่หันมาใช้ OpenFlow มาช่วยจัดการเครือข่ายของตัวเองคือกูเกิล โดยเป้าหมายของกูเกิลคือพยายามให้ระบบเครือข่ายของตัวเองทำงานได้อัตโนมัติที่สุด ลดจำนวนบุคคลากรที่ต้องมาดูแลเครือข่ายให้มากที่สุด
กูเกิลไม่ได้เผยรายละเอียดมากนักว่าใช้ OpenFlow อย่างไรบ้าง บอกแค่ว่าใช้กับการส่งข้อมูลระหว่างศูนย์ข้อมูลแต่ละแห่ง และบอกว่า OpenFlow ยังต้องใช้เวลาอีกสักระยะกว่าจะทำงานได้ครบถ้วนทั้งหมดเท่าที่กูเกิลต้องการ
ที่มา - GigaOm
Comments
เจ๋ง
ถ้าหากใช้จริง ถ้าเน็ตนี่ห่วย ก็ย้ายมาอีกอันก็ได้ สะดวกดีแฮะ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ถ้าเป็นเด็กมหาลัยคงอยากจะได้สวิทซ์ที่ป้องกันเน็ตคัตได้ -*-
access switch ของ _is_o ทำได้ครับ แต่ไม่ได้เปิดเป็น default ไว้
ARP Poisoning นี่ ผมว่า Switch ไม่จำเป็นต้องเป็นของ Cisco ก็กันได้ครับ
http://www.cisco.com/en/US/prod/collateral/switches/ps5718/ps708/white_paper_c11_603839.html
ถ้าเป็นกรณี Wireless อาจจะยากนิดหนึ่งเพราะมันเป็น broadcast ครับ ทางแก้คือใช้ Anti-ARP หรือ program ที่สามารถ detect ARP poisoning ได้
ในแง่ความง่ายโอเคเลย
ในแง่ Security เอิ่ม ถ้ามันตั้งเป็น Default มา ก็น่าคิด
Skynet...
(^0^)
ยังไม่เคยได้ลองเหมือนกัน แต่คิดว่าสิ่งที่ OpenFlow ทำได้เจ๋งกว่าสวิตช์ หรือเร้าเตอร์เดิมแน่ๆ คือการเป็น Software Defined Networking (SDN) ถ้ามีการใช้แพร่หลายจริงเราคงสามารถควบคุมทราฟฟิกในแบบที่เราต้องการได้เลย แต่ในเชิงใช้งานยังคิดอยู่ว่าบางทีอุปกรณ์แต่ละตัวมันมีความสามารถที่ดีๆค่อนข้างแตกต่างกัน เช่นการทำ QoS ร่วมกับแยกแยะโปรโตคอลแบบลึกๆ ทำ virtualization network หรืองานที่ต้องการการออกแบบที่พิเศษเช่นต้องมีการเข้ารหัส การทำงานพวกนี้ถ้าออกแบบซอฟต์แวร์มาจัดการได้หมด คนทำเน็ตเวิร์กอาจจะตกงานไปเป็นโหลกันเลยหละทีนี้