เนื่องจากความขี้กลัวสินค้าผิดลิขสิทธิ์ของ Microsoft ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกี่ยวกับ license ของ Windows Vista โดยต่อไปนี้ผู้ที่ใช้ Windows Vista สามารถ"ย้าย" Vista จากเครื่องหนึ่งไปอีกเครื่องหนึ่งได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น โดยถ้าเกิดจะต้องย้ายเป็นครั้งที่สองนั้น จะต้องทำการซื้อ Vista ใหม่ กฏนี้รวมไปถึง Vista ที่ลงใน Virtualization ทั้งหลายด้วย (เช่น บนเครื่อง Mac) สามารถทำได้เพียงครั้งเดียวเช่นกัน
สามารถอ่านความคิดเห็นจากหลาย ๆ คนในวงการคอมพิวเตอร์ได้จากที่มานะครับ
ที่มา - CNET News
Comments
โดยส่วนตัวแล้ว ไม่ชอบการบีบแบบนี้เท่าใหร่ เพราะตัวตรวจสอบการเปลี่ยนเครื่องนั้น แต่อัพเกรดเครื่องเกินกำหนดมันก็เริ่มนับแล้ว
แต่เรื่อง Virtualization นี่ผมไม่แน่ใจ แต่เห็นคุยกันใน Slashdot ว่าของ XP ใน EULA ก็ระบุไว้ว่าไม่ให้ใช้ VT อยู่แล้ว ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
อ่าว..... อ่าว.....
ไหงงี้อะ
เกินไปมั้ย?
หลายคนบอกว่าไม่เป็นไรนะครับ เพราะว่าซื้อเครื่องปกติก็มักจะมี Windows แบบ OEM ลงให้อยู่แล้ว แต่พวกประกอบคอมฯเองสิ ปัญหา
ส่วนตัวแล้วผมก็ไม่ชอบเหมือนกัน บีบรัดกันมากไปหน่อย นับวันผมเริ่มขยับมาทาง Mac มากขึ้นทุกที (แทบไม่แตะ Desktop PC ที่บ้านแล้ว) ถ้าเมื่อไหร่ Office บน Mac มัน native นี่ผมอาจจะได้ตัดขาดกับ Windows ซะที :)
@TonsTweetings
ผมแนะให้แก้หัวข้อ "ไม่ให้ซะเลย" มันไม่สื่อเท่าที่ควร อีกที่ "ีกลัวสินต้าผิดลิขสิทธิ์" จะเขียนคำว่าสินค้าหรือวิสต้าครับ : P
ผมว่ามันจะทำให้ คน"จำใจ" ต้อง "ละเมิดลิขสิทธ ิ"์ มากขึ้นนะนี่
ถ้าต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนภายในตัวเครื่อง มันจะมองเป็นเครื่องใหม่หรือเปล่า
wanchana: นั่นแหละที่น่ากลัว มันไม่เดือดร้อนคนใช้ของเถื่อนหรอก แต่มันจะเดือดร้อนคนใช้ของแท้ที่เกิด upgrade เครื่องบ่อยๆ ที่ต้องซื้อวิสต้าใหม่ คนอื่นๆ ที่แบบใช้อย่างเดียว กับงาน enterprise คงไม่มีปัญหามั้ง
นอกจากจะมีโปรโมชั่น ซื้อฮาร์ดแวร์ซ้ำอีกครั้งที่ร้านเดิมแถม Vista OEM ด้วย หุหุ
We need to learn to forgive but not forget...
มา้ใช้ Ubuntu กันเถอะ
ส่วนตัวเริ่มคิดว่าต้องเตรียมตัวหันมาใช้ linux ตั้งแต่ตอนที่ update windows แล้วขึ้นข้อความตอน log on ว่าผิดลิขสิทธิละ :P
tvchampion : เห็นด้วยเลยครับ เรื่องนี้มันคล้าย ๆ กรณี DRM ในแผ่น CD แท้บ้านเราครับ คือ คนที่ใช้ของเถื่อนไม่เดือดร้อน แต่คนเดือดร้อนคือคนใช้ของแท้ ลองอ่านบลอกของคุณ veer ดูครับ แผ่นเพลงเถื่อน ไม่ใช่แค่ราคาถูก!
ถึงตอนนี้ผมคิดว่าคงมีหลายคนคิดอย่างคุณ tong053 คือ ใช้ GNU/Linux ดีกว่า
ตอนนี้ GNU/Linux พร้อมมาก ๆ แล้วด้วย ใช้ง่าย install ง่าย CD แผ่นเดียว install 25 นาที ได้ครบทุกโปรแกรม
ผมกำลังรอ ubunti ตัวใหม่ครับ จะได้เริ่มชีวิตใหม่กับ linux ซะที
bow_der_kleine : เรื่อง drm ของ cd เพลงนั้นผมมองว่าค่ายเพลงเก่าไม่ถูกที่คันมากกว่าครับ ผมไม่ค่อยเชื่อว่า คนบ้านเราอยากใช้ของถูกกฎหมาย ผมกลับเชื่อว่าคนบ้านเรา อยากใช้ของถูกมากกว่า (จริงๆแล้วต้องบอกว่าคนส่วนใหญ่ในโลกด้วยซ้ำ)
เรื่อง Vista ผมว่าอาจจะมี Vista refill card เอาไว้ซื้อเพิ่มตอนจะอัพเกรดเครื่อง :P
bow_der_kleine :
ถึงแม้ว่า GNU/Linux จะพร้อมยังไง ผมว่ามันก็ยังเหมาะกับ geek มากกว่าคนธรรมดาอยู่ดีอะ ปัญหามันมีอยู่หลายๆ ที่ ที่คนแบบ geek มองไม่เห็นว่าเป็นปัญหา เพราะตัวเองแก้ปัญหาได้ แต่ผู้ใช้ระดับ average อาจจะติดและไปต่อไม่ได้ ไม่ต้องดูไกล การจะเลือก Linux ซักดิสโทรนึงมาใช้นี่ก็เป็นปัญหาแล้ว เพราะมันมีมากเหลือเกิน ตามเว็บบอร์ดเห็นถามอยู่นั่นว่า "ใช้อะไรดี" เลือกไม่ถูก (เพราะส่วนใหญ่ไม่ค่อยอ่านกันว่ามันเป็นไง)
ผ่านมาขั้นนึง เลือกมาได้แล้ว สมมติว่า Ubuntu (เคยอ่านบล็อกใครไม่รู้บอกว่า แม้แต่คุณย่าก็ยังทำการติดตั้งได้) ... อะ ลงเสร็จ (ข้ามไป เพราะ installer มันอยู่ที่เดสก์ทอป) เซ็ตไทยยังไง? มันมีเครื่องมือให้ แต่ไม่ได้ทำให้ทุกขั้นตอน เพียงแต่ดาวน์โหลดคอมโพเนนท์ที่จำเป็นมาติดตั้งให้แล้วเปลี่ยน interface แค่นั้น ต้องมาตั้งค่า keyboard layout ต้องเพิ่ม indicator สำหรับภาษา ต้องตั้งปุ่มเปลี่ยนภาษา เสร็จแล้ว จะลงฟอนต์เพิ่ม ทำไงต่อ
เสร็จแล้วทำไมดูหนัง VCD/DVD ไม่ได้, ทำไมฟัง MP3 ไม่ได้, ทำไมดูทีวีออนไลน์ไม่ได้ ทำยังไงดี, ทำไม Firefox ฟอนต์มันแปลกๆ, ทำไมใช้ nVidia แล้วจอมืดไปเลย, อยากได้หน้าต่างใสๆ พริ้วๆ มั่งต้องทำไง ของมันไม่เคย ไม่อยากอ่านคู่มือ (ที่อยู่บนเว็บ) ไม่มีใครบอกเอาไว้ว่าต้องไปโหลดนู่นมา ต้องไปโหลดนี่มา
ถ้าเป็นผู้ใช้ระดับ above-average ขึ้นมาคิดว่ามีปัญญาพอที่จะเข้าเว็บบอร์ด หรือหน้า community แล้วหา หรือ google เอา แต่ผู้ใช้ระดับ average ลงมาอาจจะตันกับหลายๆ อย่างที่มันไม่ได้ out of the box แล้วก็กลับไปหาของเถื่อนที่คุ้นเคยดีกว่า... (เศร้า)
สรุป... GNU/Linux ยังคงอยู่ในโลกของ geek มากกว่าอยู่ดี (สังเกตว่า คนที่ซื้อเครื่องมาทำงานจริงๆ หารายได้ที่มากๆ หน่อย ส่วนใหญ่ไม่ค่อยใช้ของเถื่อนกันนะ ที่ใช้เถื่อนน่ะ ตามบ้านมากกว่า)
We need to learn to forgive but not forget...
อัพเกรดอุปกรณ์ไม่ทำให้มันมองเป็นเครื่องใหม่นะ ต้อง format ทิ้งน่ะถึงจะมองเป็นเครื่องใหม่ หรือถ้า HDD เสียน่ะ น่าจะซวยสุด
เข้าใจว่าทำเพื่อลด cost ที่ต้องจ้าง supporter เพราะเวลามีปัญหาแล้วเรา format ทิ้งไปแล้ว ก็ต้องโทรไป ตปท. ไปขอ key ใหม่ ค่าโทรทาง M$ ก็รับผิดชอบทั้งหมด
รวม ๆ แล้วพอจะยอมรับได้อยู่ ถ้าจะให้ชัวร์เวลาลงเสร็จก็ต้อง ghost แล้ว write เก็บไว้ เผื่อสักวัน HDD ไป
ไม่น่าจะเกี่ยวกับกลัว golf หรอก
pt - ถ้าเค้าเช็ค hdd s/n ก็ใช้ ghost ไม่ได้อยู๋ดีหนิครับ
iPAtS
เท่าที่รู้มันเช็คทั้ง MAC และ CPU ID ครับ มีิ้ชิ้นอื่นๆ อีกแต่ไม่แน่ใจว่าอะไรบ้าง ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
งั้นไม่ต้องไปใช้มันเลยละกัน เพราะเดี๋ยว PS3 ออกมา Vista มันก็เริ่มตายแล้ว ๕๕๕๖
DrRider : เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ แต่หากคิดให้ดี ปัญหาจริง ๆ มันแค่อยู่ตอนที่คุณ DrRider ว่ามาละครับ คือ การเลือกดิสโทร (หนักกว่านั้นคือ บางคนยังไม่รู้เลยว่า ดิสโทรคืออะไร) การติดตั้ง การตั้งค่าต่าง ๆ หากผ่านตรงนี้ไปได้ หรือมีคนทำตรงนี้ให้ ผมว่าการใช้งานทั่วไปมันก็ไม่ต่างกันเท่าไรครับ
ปัญหานี้หากคุยกันจริง ๆ คงยาว แต่หากทุกคนต้องควักเงินซื้อ Windows แท้มาใช้ ผมว่าปัญหามันก็ลดลงเองครับ (Evolution มักเกิดจากการเอาตัวรอด)
ดังนั้นผมจึงสนับสนุนอย่างยิ่งครับ กับการป้องกันการใช้ของเถื่อน แต่วิธีของ MS ครั้งนี้ดูท่าจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี
ถ้า linux ทำให้ออกมาใช้งานง่ายเหมือนกับพวก mac ก็น่าจะดีหมายถึงว่า ลงเสร็จแล้วสามาถใช้งานได้ทุกอย่าง ดูหนัง ฟังเพลง เล่นอินเตอร์เน็ต ไม่ต้องไปเซ็ตอะไรเพิ่มเติมเลย โปรแกรมพวกนี้ก้แทบไม่ต้องหามาเพิ่ม ขนาดน้าผมไม่เคยใช้คอมเลย ไปซื้อ notebook mac มา พอลองมาใช้ pc ผม เล่นได้ไม่ถึง 10 นาที บอกกลับไปใช้ mac ดีกว่า ผมว่าพวก home user ก็ใช้แค่ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นอินเตอร์เน็ต พิมพ์งาน ส่วนพวก system ไม่มีใครไปแตะหรอกครับ แตะไปก็กลัวพัง ถ้า linux ทำให้ง่ายที่สุดสำหรับสิ่งพวกนี้ผมว่าอนาคตก้มาแทน window ซักวันครับ
มาใช้ OS อายุสั้นอย่าง Mac OS X กันเถอะ :-P
อัพเกรดใหม่ทุก 18 เดือน
keng - ไม่คิดจะใช้เพราะอย่างนี้ อัพทีเสียตังค์ด้วยใช่ป่ะ? ------ LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
lewcpe - ใช่แล้ว
ที่น่าแค้นกว่านั้น ขนาด major upgrade มันยังไม่ค่อย "เห็นอะไร" แบบโดนๆ (ไม่นับอันที่ไม่เห็น)
ท้อใจ...
เฮ้อ อ่านแต่ละคนบ่นกัน ผมอยากรู้เหลือเกินมนุษย์ดาวอังคารเค้าใช้ OS อะไรกัน
deans4j : OS/2 Warp :P
plynoi - เค้าอ่านภาษาอังกฤษกันเหรอ?
เมื่อก่อนเคยจะใช้ Warp เหมือนกันนะ ซื้อมาเลย สามพันกว่าบาท (เป็น floppy) แต่ ลงไม่ได้ T-T support ก็งี่เง่า ช่วยอะไรไม่ได้เลย
We need to learn to forgive but not forget...
keng : ไม่งั้นใน ID-4 คอมต่างดาวจะโดน hack ได้เรอะ เริ่มไม่เกี่ยวกับหัวข้อแล้ว
อ่านข่าวนี้แล้วยิ่งมั่นใจ laptop ตัวต่อไป Macbook Pro
อังคารไม่มีคน แต่ดาวอื่นมี
ยังไงก็ไ่ม่แม็ค
pt: ไม่เคยดูหนังเรื่อง Mac and Me หล่ะซิ
วิสต้าคงจะเดินตามรอย วินโดวส์มี(winME)ใครเคยจำได้บ้าง ใช้แรมรันระบบ1กิ๊กนี่ผมว่ามันมากเกินไปนะ ฟีเจอร์มองมุมสามมิติก็ดูจะสติเฟื่องไปหน่อย....
ผมเปลี่ยนมาใช้ MacBook และ เซรงกับ Windows อย่างรุนแรง
เท่าที่ทดลองใช้มา ubuntu 6.06 นี่ก็แทบไม่ต้องทำอะไรแล้วนะครับ ลงเสร็จเหลือเซ็ตคีย์บอร์ดเลย์เอ้าต์ภาษาไทยอีกอย่างเดียวก็จบแล้วครับ ทุกอย่างมีให้ใช้หมด ตั้งแต่ออฟฟิศ ไปจนถึงดูหนังฟังเพลงอ่ะครับ สำหรับผู้ใช้ทั่ว ๆ ไปคงเหลือแค่ [quote]ผ่านมาขั้นนึง เลือกมาได้แล้ว สมมติว่า Ubuntu (เคยอ่านบล็อกใครไม่รู้บอกว่า แม้แต่คุณย่าก็ยังทำการติดตั้งได้) ... อะ ลงเสร็จ (ข้ามไป เพราะ installer มันอยู่ที่เดสก์ทอป) เซ็ตไทยยังไง? มันมีเครื่องมือให้ แต่ไม่ได้ทำให้ทุกขั้นตอน เพียงแต่ดาวน์โหลดคอมโพเนนท์ที่จำเป็นมาติดตั้งให้แล้วเปลี่ยน interface แค่นั้น ต้องมาตั้งค่า keyboard layout ต้องเพิ่ม indicator สำหรับภาษา ต้องตั้งปุ่มเปลี่ยนภาษา เสร็จแล้ว จะลงฟอนต์เพิ่ม ทำไงต่อ
เสร็จแล้วทำไมดูหนัง VCD/DVD ไม่ได้, ทำไมฟัง MP3 ไม่ได้, ทำไมดูทีวีออนไลน์ไม่ได้ ทำยังไงดี, ทำไม Firefox ฟอนต์มันแปลกๆ, ทำไมใช้ nVidia แล้วจอมืดไปเลย, อยากได้หน้าต่างใสๆ พริ้วๆ มั่งต้องทำไง ของมันไม่เคย ไม่อยากอ่านคู่มือ (ที่อยู่บนเว็บ) ไม่มีใครบอกเอาไว้ว่าต้องไปโหลดนู่นมา ต้องไปโหลดนี่มา [/quote] ความไม่คุ้นเคยในการใช้งานนะครับ ตรงนี้เนคเทคน่าจับพวกคุณครูทั้งหลายมาอบรมการใช้งาน แล้วก็คัดคุณครูที่เด่น ๆ หน่อยในแต่ละโรงเรียนมาอบรมการเป็นแอดมินเพิ่มอีกรอบ และสนับสนุนให้ลง linux ในโรงเรียน แล้วให้นำตรงนั้นมาทำผลงานได้ ทีนี้การใช้งาน linux ก็จะแพร่หลายมากขึ้น จำนวนของ geek ในสังคมก็จะเพิ่มมากขึ้น การใช้ซอฟต์แวร์เถื่อนก็จะน้อยลง ไมโครซอฟต์หรือบริษัทซอฟต์แวร์ก็จะมองประเทศไทยดีขึ้น และเต็มใจ support มากกว่านี้ (หรือไม่.......... เพราะมีแต่คนใช้ linux หุหุ)
ไม่ต้องเสียเวลามาอบรมครูหรอก แค่จับแหลก จับพวกครูนี่ก่อนเลย รับรองว่าครูจะเก่ง Linux และ OpenOffice ขึ้นมาทันใด
ผมสนับสนุนคุณ อุ นะ สำหรับพวกอาจารย์แล้วไม่ค่อยสอนนักเรียนเต็มที่หรอก สนใจแต่จะทำผลงาน เพื่อเลื่อนขั้นให้เงินเดือนเยอะ ๆ อาศัยตรงจุดนี้ทำให้ได้ geek ก็ ok เลยล่ะ ยิงนัดเดียวได้นก 2 ตัว ส่วนการไล่จับน่ะ ไม่มีประโยชน์หรอก เหมือนจับยาบ้า ที่ไม่มีวันจบสิ้นซะที ถ้าทำให้คนในประเทศมีภูมิคุ้มกันได้ ยาบ้าก็หมด ผมรอ Ubuntu 6.10 อ่ะ สวยดี และที่ชอบคือ Firefox จะใช้ Totem เปิดไฟล์ multimedia ได้แล้ว
Gmz - เห็นด้วยครับ ถ้าไม่มีคนนำ ก็เปล่าประโยชน์ ทุกวันนี้ผมพยายามยัดเยียด (แนะนำ?) FF + Opera ให้กับน้องๆ ที่มาให้ผมสอนทำเว็บให้ แต่หันไปดูทีไร ก็ใช้แต่ IE จะอะไรเสียอีก ก็ขนาดครูๆ สอนคอมพิวเตอร์ในโรงเรียนยังใช้แต่แบบนี้
*ขอนอกเรื่องนิด สอนทำเว็บนะครับ ผมก็เริ่มที่ html เลย ขอโทษ เค้าบอกว่าครูไม่ได้สอน ทำนองว่า Dream ก็คือเว็บนั่นล่ะ เซ็งจิตเลย แม่พิมพ์ของชาติ
** รอ ubuntu ตัวใหม่ จะได้เกิดใหม่อีกครั้งกับ linux ^^
บีบคั้นกันจริง ๆ เดี๋ยวปั้ดซื้อของถูกลิขสิทธิ์ซะเลย
http://www.peetai.com | เว๊ปบล็อกที่โม้แต่เรื่อง Software as a Service.
ผมคิดว่าควรรณรงค์เรื่อง Open standard ก่อน
และมุ่งเป้าไปที่หน่วยงานของรัฐก่อน เพราะหน่วยงานของรัฐควรปฎิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียม โดยไม่เลือกว่าเป็นลูกค้า MS หรือเปล่า
ไม่ใช่เฉพาะคนใช้ Ubuntu เท่านั้น ผู้ผลิตซอตฟ์แวร์ก็น่าจะแข่งขันได้มากขึ้นถ้าเราใช้ Open standard (ถ้า Patent free ด้วยก็ดีใหญ่)
ผมรู้จักคนที่ทำงานเป็นพนักงานต้อนรับ (ไม่เหมือน geek) เขาใช้ Ubuntu ที่บ้าน เล่นเวบ คุยกับแฟน ได้อย่างสบาย โดยไม่ต้องโดนเด็ก เอาปังย่ามาลงแล้วก็ยึดเครื่อง
ผมไม่หวังว่าทุกคนจะลุกขึ้นมาสู้
แต่ก็จะมีคนลุกขึ้นสู้ แม้จะน้อยคน ก็ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้ วิกิเพียเดียเป็นสารานุกรมที่ใหญ่ที่สุด จำนวนคนเขียนต่อต่อจำนวนคนอ่านก็ถือว่าน้อย ก็ยังเป็นสารานุกรมที่ใหญ่ที่สุดได้
ถ้าหากคนเขียนวิกิพีเดียใจป๊อด ไม่กล้าทำกลัวเหนื่อย อาสาสมัครมาเขียนๆ จะสู้สารานุกรมของ MS ได้เหรอ ก็ไม่ทำซะอย่างนั้น เราก็คงไม่มีวันนี้ที่มีสารานุกรมบนเวบให้อ่านฟรี
ถ้าหากว่าคนที่ทำลินุก คนที่ทำ GNU มัวแต่คิดว่ากลัวเหนื่อยบ้าง เป็นไปไม่ได้หรอกแหมจะสู้ MS ได้อย่างไร จะสู้ Sun ได้อย่างไร วันนี้เราก็คงไม่มี GNU/Linux ให้ใช้กัน
ถ้าคนของ Apple ใจป็อดกันป่านนี้ ผมก็คงไม่ได้ใช้ iBook G4 + Mac OS X ไปแล้ว
ก็คงเป็น geek นี่หละ ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง !!!