Eric Jackson ผู้ก่อตั้งสถาบัน Ironfire Capital ได้ออกมาพูดในรายการ Squawk on the Street ช่อง CNBC ว่า "ในอนาคตนี้ Facebook จะหายไปจากโลกอินเทอร์เน็ตเหมือนที่ Yahoo ได้หายไป" … "แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม Yahoo ก็ยังสามารถทำเงินได้และก็ยังมีพนักงานกว่า 13,000 คน ถึงแม้ว่ามันจะมีมูลค่าเพียงแค่ 10% จากราคาตลาดสมัยที่ Yahoo รุ่งที่สุดเมื่อปี 2000"
สำหรับสาเหตุที่เขาเชื่อว่า Facebook จะหายไปนั้น เขาบอกว่าบนตลาดมือถือ Facebook ยังไม่สามารถปรับตัวได้ และโลกเราก็หมุนเร็วกว่าเดิม การแข่งขันก็มากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้ที่เคยครองตลาดในโลกเทคโนโลยีในเจอเนอเรชั่นก่อนหน้า มักจะมีปัญหาในการก้าวข้ามไปเจอเนอเรชั่นต่อไปเสมอ
หลังจาก Facebook ได้เข้าไปขายหุ้นของตัวเองในตลาดหุ้น ทุกอย่างก็ดูแย่ไปหมด รวมถึงความสงสัยในความสามารถในการทำเงินของ Facebook ทำให้ล่าสุดหุ้นของ Facebook มีราคาปิดตลาดอยู่ที่ 26.90 ดอลลาร์เท่านั้น จากที่เข้าตลาดหุ้น (เปิด IPO) ที่ราคา 38 ดอลลาร์ต่อหุ้น
Jackson ยังบอกอีกว่า เราสามารถแบ่งบริษัทอินเทอร์เน็ตออกเป็นสามยุค ยุคแรกคือยุคที่เว็บอย่าง Google และ Yahoo เกิดขึ้นมา โดยในยุคนี้เว็บเหล่านี้มีหน้าที่เป็น Portal ที่คอยจัดการข้อมูลต่าง ๆ บนโลกอินเทอร์เน็ต ในขณะที่ยุคที่สองคือเว็บอย่าง Facebook ที่เก็บข้อมูลจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ส่วนยุคที่สามคือบริษัทต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาเพื่อทำรายได้จากผู้ใช้งานผ่านทางมือถือ
และจากที่สังเกตมา จนถึงทุกวันนี้ใครที่เป็นเจ้าตลาดในยุคใดยุคหนึ่ง จะมีปัญหาในการสร้างความสำเร็จในตลาดของอีกยุคหนึ่งเสมอ (ยกตัวอย่าง Google+) ไม่ว่าบริษัทเหล่านี้จะมีเงินมากมายในธนาคารแค่ไหนก็ตาม หรือไม่ว่าบริษัทจ้างอัจฉริยะมาร่วมงานด้วยมากมายแค่ไหนก็ตาม
เช่นกัน Facebook เองก็จะมีปัญหาในการก้าวเข้ามาสู่ยุคที่สาม นั่นคือยุคการใช้งานบนโทรศัพท์มือถือ
ที่มา - Mashable
Comments
ไม่แน่ใจว่า..ที่ APP FB บนมือถือมันช้าเพราะ FB ห่วยหรือ..เน็ตมือถือไทยห่วยกันแน่
from hspa-ais+sgs1 user
แอพ FB บนมือถือห่วยทุก Platform เลยครับ ;p
@TonsTweetings
Windows Phone ได้เปรียบแค่นี้ล่ะนะ (T_T)
จริง หน้าตาดูดี ใช้งานดี
สำหรับผม FB for WP ตัวใหม่ก็ห่วยอยู่ดีครับ -"-
ปัญหาของ FB คงจะเป็นตลาด mobile อย่างเขาว่าจริงๆ เพราะให้ประสบการณ์ที่ดีเทียบเท่าเวอร์ชั่นเว็บไม่ได้เลย ส่วนตัวผมเองก็ค่อนข้างหงุดหงิดเพราะใช้มือถือเป็นส่วนใหญ่ แต่จะทำอะไรหลายอย่างบน FB กลับต้องไปใช้ PC อยู่ดี (ลองเล่นหมดแล้วทั้ง FB บน iOS, Android รวมถึง WP ..ทั้งหมดก็ทำได้แค่พอใช้)
..ถ้า FB ยังแก้ไขตรงนี้ไม่ได้ แล้วอนาคตมีตัวสกัดดาวรุ่งโผล่มานี่ โอกาสจบชีวิตก็มีครับ
แต่ส่วนตัวรู้สึกรักฟีเจอร์ FB ที่ฝังบน windows phone OS มากครับ แม้มันจะยังทำอะไรได้ไม่มากเท่าแอพ FB แต่รู้สึกว่านี่แหละมันใช่เลย มันควรจะกลืนเป็นเนื้อเดียวกับ mobile os และเชื่อมกับฟีเจอร์อื่นๆ ในเครื่อง แล้วประสบการณ์ใช้จะดีมาก ไม่ใช่เป็นแอพโดดๆ ออกมาแบบนี้ (...หรือที่ FB กำลังทำมือถือของตัวเองนี่อาจจะเป็นเพราะเหตุนี้?)
จริงๆครับ ประสบการณืเมือ่เทียบกับ บนคอมต่างกันเยอะ อย่าง FB ใน Ipad กว่าจะอัพรูปไรได้ ยุ่งยากมากๆ อย่างโพส กดไลท์ได้ แต่กดแชร์ไม่ได้ -*-
ของที่รวมใน OS Windows Phone ดีกว่า App แยกมากมาย app ทั้งช้า ใช้ EDGE โหลด Notify ไม่ขึ้น T+T ตัวใหม่ยิ่งโหลดเข้า app นานกว่าเดิมอีก
ผมหมายถึงที่ฝังมาน่ะครับ จริง ๆ ตัวฝังขาดแค่ like comment แล้วล่ะ นอกนั้นไม่ค่อยจำเป็น ซึ่งผมว่าพวกเล็ก ๆ แบบนี้ควรจะมีอัพเดตเล็กออกมาง่าย ๆ ด้วยซ้ำ
ถ้ามาหมดแบบนั่นมันคงเป็น facebook phone ไปล่ะ 55
ในไอแพต2 ก็กระตุกๆๆอยู่เหมือนกันเวลาเลื่อนลงเยอะๆ
もういい
ก็แบบนี้ละครับ เพราะยังไงๆ ไม่ว่าจะเป็น App บน iOS หรือ Android มันก็ใช้ view ดึง HTML มาแสดงผลอยู่ดี ก็ไม่แปลกที่มันจะข้าครับ เมื่อไรเปลี่ยนเป็น Native app เต็มตัวสักทีผมว่ามันน่าจะเร็วขึ้นนะ
ทราบได้จากอะไรครับว่าใช้ view ดึง html มาแสดงผล
100% เป็น HTML ครับ ส่วน API ไม่เกี่ยวกันครับ ที่ทราบเพราะเจอ Bug บน Facebook ถึงรู้ว่าจริงๆแล้วเบื้องหลังการทำงานของมันคือ HTML ถ้าเป็น Native จริงจะเร็วกว่านี้หลายเท่าตัว เวลา Scroll ลงมา View ที่หายไปจากจอภาพ จะต้องถูกลบหรือ Clean ข้อมูลออกไป แล้วโหลดให้แสดงผลเฉพาะ View ที่กำลังแสดงผลในขณะนั้น
ผมไม่แน่ใจนะครับ แต่คิดว่าไม่ใช่ HTML แน่ครับ เพราะ facebook ก็ปล่อย API ออกมามากมายหลาย platform
HTML แน่นอนคับ ตอนแรกมันเป็น Native แต่พอมาถึงช่วงที่มันเปลี่ยนให้ลิงค์สำหรับคอมเม้นอยู่ใต้โพสต์ก็กลายเป็น HTML ละ
จนตอนนี้ Facebook for Android นี่กิน CPU รุนแรงมาก เปิดเล่นทีนี่เครื่องร้อนสุดๆ
100% ว่าเป็น html ครับ เพราะว่าเล่นบน AIS 3G แล้วเคยเจอมันช้าจนโหลด Stylesheet ไม่เสร็จ มันเลยมาเป็น text plan ไม่มี style
ถูกต้องที่สุดครับ เพราะผมเองทราบว่ามันเป็น HTML ก็เพราะ Bugs ตัวนี้ละครับ 555+
ตอนนี้ผมว่ามันลามมาห่วยบน browser บน PC แล้วครับ โหลดช้ามากจริงๆ
ถ้าลองเปิดดู code จะเห็น JavaScript มันอิรุงตุงนัง อิรังขังขอบ มากๆ ครับ
AJAX ก็วิ่งกันวุ่นวาย ไม่แปลกเลยครับที่จะช้า
ตอนนี้เครืองผม ถ้าไม่ใช่โครมละก็แทบจะค้างเหมือนโดนสตั๊นไป 4 วิ ทุกครั้งที่ scroll page ลงมา
อ้าว IE ผมลื่นกว่าโครมซะงั้น
เอ หรือเพราะมันเป็น IE10
เพราะ IE 10 มากกว่าครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ทุกวันนี้แอพ facebook บน iPhone ห่วยกว่า m.facebook.com อีก ถ้าไม่นับว่าโพสลิงค์+อัพรูปได้ก็คงไม่ใช้ -*-
:-)
บน Android ก็ไม่ต่างกันครับ หนักกว่าด้วยซ้ำ ขนาดเผิดผ่าน wifi นะ -*-
ลอง Friendcaster บน android แล้วจะได้คำตอบครับ ^_^
ไปลองแล้วเร็วกว่ามากจริงๆครับแถมเป็น C2DM Push แล้วซะด้วย
ผมเจอปัญหาเดียวเวลาตอบเพื่อนทาง message ภาษาไทยแล้วมันไม่เป็นภาษาไทย นอกนั้นโอเคหมด
+1
ปัญหาเดียวจริงๆ
นอกนั้นกิน FB for Android ขาดทุกกรณี
เป็นอีก 1 แอพที่รู้สึกว่าซื้อแล้วคุ้มค่ามากที่สุด
(ซื้อตั้งแต่ยังเป็นชื่อ Flow ขายราคา $0.99)
และโลกเราก็หมุดเร็ว >>> หมุนเร็วรึเปล่าครับ
ผมว่าเป็นไปได้ เหมือนกันนะ อย่าง hi5 ไงแต่ก่อนฮิตจะตาย
ตอนนี้ง่อยไปแล้ว
เหมือนทาง Facebook ไม่ค่อยพยายามพัฒนาแอปบนมือถือหรือ tablet ซักเท่าไหร่ นาน ๆ จะอัพเดทซักที ทั้งที่ตัวแอปยังขาด ๆ เกิน ๆ ในหลาย ๆ ส่วนอยู่
ผมเข้าใจว่า คงเพราะถ้าใช้ Facebook ผ่านแอป มันไม่มีโฆษณา ทำให้ Facebook ขาดรายได้ตรงนี้ไป ไม่เหมือนเล่นผ่านเวปไซท์ ที่เห็นโฆษณาเต็ม ๆ
แต่ที่วิเคราะห์ว่าจะตายนี่ไม่น่าจะจริงครับ เพราะผมว่ามันเป็นอะไรที่ขาดไม่ได้ไปแล้วสำหรับหลาย ๆ คน เหมือนกับ youtube
สิ่งที่น่าจะมาทดแทนนี่คิดไม่ออกเหมือนกัน
แต่ขอเดานะครับว่าน่าจะคล้ายๆ App แบบ LINE ผสม Path ที่มีหน้า Profile เป็นจริงเป็นจังนะครับ แล้วก็ต้องฟังเพลง
ดูหนังจาก app ได้ แล้วต้อง integrate เข้าไปในมือถือเลย
เผื่อคนเปลี่ยนเบอร์ก็ไม่ต้องตามแก้
แล้ว performane ต้องดีมากๆด้วย
FB เนี่ย ช่วงหลังห่วย
ถึงได้ซื้อ instagram
+1
Line มีความ "แรง" และอัตราการขยายฐานผู้ใช้สูงมาก ขอบอก
ไม่แปลกนะ ... ต้องดูว่า FB จะแตกธุรกิจออกไปเป็นอันไหน อันนี้น่าสนใจ
..: เรื่อยไป
น่าวิเคราะห์เหมือนกันว่าจะมีอะไรที่จะมาแทน facebook ได้
ไม่แปลกหรอกครับ เมื่อก่อนเล่น msn กันทั่วบ้านทั่วเมือง แต่ปัจจุบันก็แทบจะตายไป facebook ก็ใช่ว่าจะอยู่ค้ำฟ้าเสียเมื่อไหร่
จิง ผมงงมากเลยว่าทำไมมันตาย ทั้งๆที่มันเ่ล่นได้บนทุก Platform แต่เพื่อนผมไม่ออนแล้วเฉยเลย
ผมยังออนอยู่ตลอดนะ เอาไว้ให้เพื่อนสั่นเรียกไปเล่นดอท -*-
ส่วนถ้าจะคุยกัน ตอนนี้ไปคุยใน Whatup, Line, Facebook กันหมดแล้ว
ก็เป็นไปตามปกติอยู่แล้ว เห็นมาหลายอย่างแล้ว มาแล้วก็ไป จะช้าหรือเร็วแค่นั้น
ความยุ่งยากของสิ่งที่ประสบความสำเร็จแล้ว คือ ความอุ้ยอ้าย ฟีเจอร์เยอะไปหมด เพื่อให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม แต่ลืมนึกไปว่ายิ่งใหญ่ ยิ่งยุ่งยาก ถ้าจะให้ Facebook ไปต่อคงต้องกลับสู่สามัญ แบบ Apple แล้วแหล่ะ (ความเห็นส่วนตัวนะครับ คือ ไม่ใช่แฟนบอย แต่ชอบอะไรที่มันเรียบง่าย ใช้แบบไม่ต้องคิดมาก เพราะมันไม่ใช่ App วิเคราะห์ข้อมูล)
ผมว่า App ยุคต่อไปจาก Facebook ก็คงเป็นพวก Realtime Social Network สำหรับ Mobile ถ้าจะให้ง่ายๆ ก็พวก What App, Line ฯลฯ ที่มีความสามารถด้าน Social แบบ Facebook เป็นต้น แต่จะประสบความสำเร็จได้หรือไม่ คงต้องเอา Facebook เป็นบทเรียน
ส่วนตัวถ้าจะให้โดนจริงๆ Social Network ยุคต่อไปคงเป็นพวก AI ระดับนึง ผมว่า Siri + What App ถ้าเอามาทำเป็น Realtime Social Network มันจะ Cool มากเลย ถ้ามันให้ข้อมูลแบบ 2 way ได้ ทั้งให้เราบ่น และช่วยจัดการชีวิตบางอย่างให้เราง่ายขึ้น มันจะกลายเป็น App ยุคถัดไปที่เราไม่ต้องไปเลื่อนหน้าจอหาแล้วว่าของที่เราอยากได้อยู่ไหน ไม่ต้องเรียนรู้อะไรด้วย แต่คงอีกพอสมควรกว่ามันจะเก่งขนาดนั้น น่าจะอีก 1-2 Generation ของ Siri ก็จะถึงจุดที่ Steve Job อยากให้เป็น
ถ้า App ที่ว่ามีอยู่จริง มันก็คงจะลามไปยัง TV, รถยนต์ และอื่นๆ ได้สบายๆ ถ้ามีคนไทยคนไหนทำได้ ก็ขอลองโหลดมาเล่นบ้างนะครับ เคยคิดจะทำ แต่ต้องหยุด เพราะลูกพี่ให้ไปลุยงาน Enterprise ไม่ค่อยให้ยุ่งกับงาน Consumer
ผมกลับมองว่า facebook คงไม่ตายง่ายๆ แน่ เพราะปัจจุบันมันฝังไปกับเว็บไซต์แทบทุกเว็บไปแล้วในรูปแบบ comment หรืออะไรก็ช่าง แถมมันยังทำในสิ่งที่ openid พยายามทำมานานได้แล้วอีกต่างหาก
แนวคิดนี้ก็น่าสนใจดีครับ เพราะว่า ตอนนี้เกมออนไลน์ ต่างๆ นั้นใช้ FB ID ล็อกอินเยอะแยะครับ ผมก็เป็น 1 ในนั้น (บางเกมนะ) เพราะ มันมีบางครั้งที่ FB ก็งี่เง่า error เซอร์เวอล่ม และ บางทีก็ล็อกอินไม่ได้ทั้งวัน รวมถึงบางครั้ง เซอเวอเกมออนไลน์ล่ม คนก็พยายามล็อกอินด้วย FB ID สรุปแม่งบล็อคไอดี FB ผมไปเลยครับ -*- คอยวันต่อไปถึงปลดบล็อค TT
เสริม - ผมว่าเหตุที่ใช้ FB ID ล็อกอินนั้นก็เพราะเป็นการทำ Viral Marketing ให้เกม เพราะมันไปได้เร็วจริงๆ Draw Something เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเลย.
อะไรก็ตามในโลกนี้ถ้าเผลอเพียงนิดเดียว อาจหายไปจากตลาด หรือโดนแย่งส่วนแบ่งไปได้โดยนึกไม่ถึงเลย
ลองดูเคสใกล้ๆ ชัดๆอย่าง Line กับ Whatsapp เป็นตัวอย่าง
เมื่อไม่นานนี้ใครๆ ก็ใช้ Whatsapp แต่อยุ่ดีๆื Line ก็โผล่มาแล้วก็แบ่งส่วนตลาดไปซะเยอะแยะ
แถมตั้งขายของมีโมเดลเก็บเงินชัดเจนอีกต่างหาก
ส่วนตัวคิดว่าปัญหาของ WhatsApp คือมันไม่ส่วนตัวเลยครับ และนั่นเป็นความผิดพลาดมากของ WhatsApp
ย้อนไปสมัยที่ BBM ยังดัง คำถามคือมันเป็นที่นิยมเพราะอะไร ส่วนใหญ่ตอบกันว่า เพราะมันคุยกับหนุ่มๆ/สาวๆ แปลกหน้าได้โดยไม่ต้องให้เบอร์ไง เพราะเบอร์โทรเป็นอะไรที่ค่อนข้างส่วนตัว เวลาเจอเพื่อนใหม่กันตามงาน ตามเว็บ ตามผับ แต่ยังไม่อยากให้เบอร์ ก็แค่แลก PIN แล้วก็ BBM กัน มันตอบโจทย์หมดเลย
WhatsApp เข้ามาแทรกตัวได้ เพราะช่องว่างที่ยังไม่มีตัวไหน Cross platform ได้เลย WhatsApp เกิดได้เพราะตรงนี้
แต่ LINE เข้ามาปิดช่องโหว่ไปหมด เพราะใช้ ID ที่ไม่ใช่เป็นเบอร์โทรส่วนตัว แถมยัง Cross platform และมีฟีเจอร์ใหม่ๆ อื่นๆ อีก เลยกินตลาด WhatsApp เรียบ
แต่ WhatsApp ก็ยังอยู่ได้ตามคอนเซปของเขา คือไว้ใช้คุยกับคนรู้จักจริงๆ ตามรายชื่อที่มี Phonebook ซึ่งการที่เรามีเบอร์ใครในรายชื่อก็แสดงว่าต้องมีความสัมพันธ์กันในระดับหนึ่ง และเท่าที่ดูคนก็ยังใช้ WhatsApp ติดต่อกันพอสมควรในลักษณะของเพื่อนในชีวิตจริงครับ
ผมคิดว่า line ดังเพราะมันคือ whatsapp ที่โทรได้ + อีโมติคอนน่ารัก(น่ารักจริงๆ) ซึ่งเป็น first impression ของ app นี้มากกว่าความเป็นส่วนตัวที่ไม่ได้เป็นตัวชูโรงนะครับ
ปล. line มันใช้ ID จากเบอร์โทรเป็นหลัก แต่สามารถเอาอีเมลล์มาผูกอีกทีได้ไม่ใช่เหรอครับ(เวลา add ก็ต้อง verify ผ่าน sms อยู่ดี)
ใช่ครับๆ ลืมพูดถึงสติกเกอร์ที่ทำให้คนชอบ LINE กัน รวมถึงเรื่องโทรได้ด้วย มันคือฟีเจอร์ที่ทำให้คนหันมาใช้กันจริงๆ
แต่เรื่อง whatsapp นั่นคนไม่อยากใช้กันเพราะมันไม่ส่วนตัวตรงเบอร์โทรจริงๆ ครับ แต่ถ้าคุยแบบกลุ่มสนิทๆ กันก็ยังใช้ whatsapp อยู่นะ
ขาดอีกข้อ คือ Line ฟรี Whatsapp เสียเงินครับ
ใช้เบอร์แค่ขั้นตอนแรกเท่านั้นเองครับ
อาจจะมีตามหลังมาอีกหน่อยคือการ scan contact list ของเราเพื่อ suggest เพื่อน
แต่ถ้าเป็นคนไม่รู้จักกันมาก่อน แอด QR กันหรือ shake ได้สบายๆ เลยข้ามจุดอ่อนเรื่องความเป็นส่วนตัวไปได้
แล้วถ้าเราต้องการ add คนที่ไม่ได้อยู่ใน contact list หรือ เราต้องการให้เค้า add เราล่ะครับ
... สุดท้ายก็ต้องใช้เบอร์โทรอยู่ดีอ่ะ
แอดไอดีเอาครับ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
อยู่ใกล้กันก็ shake หรือเปิด QR แล้วสแกนเลยครับ
อยู่หน้าคอมก็ส่ง QR ให้แล้วสแกนเหมือนกัน
หรือถ้านอกเหนือกรณีข้างบนก็แอด User ID เลยครับ
ไม่มีกรณีไหนที่ต้องลงไปถึงเบอร์โทร
ยังไงผมก็ยังจะใช้ Whatsapp ต่อไปครับ เพราะจุดอ่อนของ LINE คือ "ช้า" ครับ
ซึ่งถ้าใครมี Whatsapp ผมก็จะใช้ Whatsapp ครับ เพราะคุยโต้ตอบทันใจกว่า เพราะเรื่อง Sticker นั้น ผมไม่ได้สนใจเลยสักนิด
fb ก็กำลังพยายามทำมือถืออยู่นะ ผมว่าไม่ตายง่ายขนาดนั้นหรอกมั้ง
แต่ยังงงเรื่องแบ่งเป็นสามยุค 1.จัดการข้อมูล 2.เก็บข้อมูลผู้ใช้ 3.มือถือ ถ้าบอกว่ายุคนี้เป็นยุคมือถือแล้ว ยุค2 อย่างเฟสบุ๊คจะตาย งั้นยุค1 อย่างกูเกิลก็ต้องตายไปตั้งแต่ยุคสองอ่ะเดะ
มันคือตลาดที่แยกกันเลยไม่ใช่เหรอ มันจำเป็นด้วยเหรอ ที่บริษัทเดียวจะต้องทำให้ได้ทั้งสามอย่างน่ะ ผมว่ากูเกิลเป็นเจ้าตลาดแรกแล้วไม่ต้องทำกูเกิลพลัสก็อยู่ได้ ไม่เห็นจะเดือดร้อนตรงไหน
yahoo ก็ไม่ได้ตายเพราะข้ามยุคอะไรเลย ตายเพราะสู้กูเกิลไม่ได้ไม่ใช่เหรอ
ผมว่ามันมีสิทธิ์ตายจริง แต่อาจไม่ใ่ช่เพราะมือถือ เพราะทีมงาน Facebook เองก็มีผู้เชี่ยวชาญด้าน Mobile Development ไม่น่าจะน้อย
ผมว่าถ้าจะตายมันก็ต้องมีอะไรที่ดีกว่าจริงๆ มาแทนครับ
อย่าพยายามเดาเลยว่าอะไรจะมาแทน FB
เพราะถ้าเราเดาถูก คงรวยไปแล้ว - -
ตอน FB จะเกิด มันก็มีมหาอำนาจมาก่อน
แล้วก็ไม่มีใครรู้ว่าสิ่งที่จะมาแทนเป็นจะเป็น FB เหมือนกัน
ไม่น่าแปลกใจนะ
ถ้ามีสิ่งที่ดีกว่า
ลูกค้าสามารถย้ายไปได้ในเวลาไม่นาน
อาจจะเร็วกว่า 2020 ก็ได้
เห็นด้วยครับ
สมมุติว่าวันนึงมี มีเว็บไซด์ social network ตัวใหม่โผล่มา (ซุ่มทำมาแสนนาน) ความสามารถเว่อร์มากๆๆ ยิ่งกว่า facebook
แถม ui สวยไฮโซ และทำงานได้เร็วมากทั้ง Mobile และ PC
คนก็อยากรู้อยากทดลอง ก็แค่ไปสมัคร(5 นาทีก็เสร็จ) แล้วก็ชวนเพื่อนใช้ต่อไปเรื่อยๆ แบบนี้ไม่เกิน 2 ปีก็คงดังแล้วหละครับ
(อารมณ์ทีคนย้ายจาก Whatsapp ไป Line)
คุณกำลังพูดถึง google+ ครับ
แล้วทุกวันนี้เป็นไงล่ะ
google+ มันทำงานไม่เหมือน facebook นะสิครับ
มันก็เลยแทนกันไม่ได้
google+ มันไม่มีฟีเจอร์เจ๋งๆ โดนใจดึงให้คนไปเล่นน่ะสิครับ เลยดึงคนไปไม่ได้
อืม ... อันนี้เล่าเฉยๆ นะครับ
ผมว่าถ้า Google วาง G+ เอาไว้ตำแหน่งเดียวกับ FB ก็คงเป็นเรื่องยากครับ
แต่ถ้า Google วางตำแหน่งของ G+ ไว้อีกตลาดนึง เช่น แชร์ข้อมูลต่างๆ ผมว่ามันก็โอเคอยู่ เพราะลูกค้าก็เป็นกลุ่มเฉพาะครับ
เหมือน Twitter ที่ทุกวันนี้ก็ยังไม่ตาย ... เพราะมันมีกลุ่มผู้ใช้ที่เหนียวแน่นกับการใช้แบบนั้นอยู่ (และไม่ชอบ FB)
แต่ต้องขอบอกว่าที่ Twitter มันยังไม่ตายเพราะมีปัจจัยสำคัญก็คือ API ครับ .... ซึ่ง Google+ ไม่มี และไม่มีวี่แววว่าจะเปิดง่ายๆ
มันต้องมี turning point สำคัญๆที่ต้องจุดให้ติดด้วย น่าจะยากตรงจุดนี้แหละครับ
Facebook ตอนแรกก็เงียบในไทยนะ จำได้ว่าผมสมัครครั้งแรกตอนปี 2007 ไม่มีใครเล่นด้วยเลย
จนเริ่มมี Quiz ที่ตอนนั้นทำกันอย่างสนุกสนานแล้วก็เกม ทำให้คนเริ่มหันมาใช้กันมากขึ้น และแย่งคนใช้จาก hi5 มาได้เกลี้ยง
หวังแค่ให้เฟซบุ๊คเข้าเกมตลาดพกพาให้ดีซะที ให้เหมือนทุกอย่างในชีวิตเชื่อมโยงกับเฟซบุ๊คได้ ก้าวต่อไปจะได้น่าสนใจขึ้นหน่อย
ถ้าทุกอย่างในชีวิตเชื่อมเข้ากับเฟซบุ๊คได้ หน้า timeline คงรกขึ้นอีกแน่เลย ถ้าเชื่อมเข้ากับเกมต่างๆ ได้ทุกเกม เวลาปลดล็อคอะไรได้มันก็คงมีไปแชร์หน้าเฟซบุ๊ค แค่เกมบนเฟซบุ๊คมันก็เยอะอยู่แล้ว
นึกถึงภาพถ้าสามารถเล่น diablo 3 ผ่าน login เฟซบุ๊คได้ เวลาปลดล็อคอะไรได้ก็ไปแชร์ที่หน้าเฟซบุ๊ค หรือจะประกาศซื้อขายของก็คงประกาศผ่านหน้าเฟซบุ๊ค ได้ item เจ๋งๆ มาก็เอามาอวดที่หน้าเฟซบุ๊ค หน้า timeline คงถูกกระหน่ำด้วย diablo แน่ๆ
เขียนสื่อผิดไปนิด หมายถึง ตลาดพกพาผู้ใช้ทั่วไปน่ะครับ (ผมมองเป็นเกมของคนทำโซเชียลเน็ตเวิร์ค)
ผมคนนึงที่จะไม่ซื้อมาเล่น เกมส์บน FB มีจุดนึงที่เหมือนกันหมดคือจะทำอะไรก็ต้องชวนเพื่อน ซึ่งมันน่าเบื่อมากๆ
ใช้ App Facebook ใน iPhone และ Android Tablet ยอมรับว่ากากจริงๆ
รวมทั้งเว็บหลัก ตอนนี้รู้สึกว่ากากเพิ่มขึ้น ช้าและโชว์ status เพื่อนมั่วซั่วไปหมด
อยากได้เว็บ Facebook แบบเก่ากลับมาจัง
ตอนนี้มันฮาตรงที่ avatar เพื่อนผมแต่ละคนสลับกันนี่แหละ ปิดแอพเปิดใหม่ รีสตาร์ทเครื่อง ยังไงก็ไม่หาย งงจริงๆ
ตอนนี้อาศัยดูจากชื่อเอา 555+
ข่าวต่อไป Eric Jackson ฟันธง Google+ ฆ่า Facebook :p
ตอนนี้ ผมยังมองไม่เห็นหนทางที่ plus จะมาจัดการ fb เลย ถึงจะเจ๋งแค่ไหน ถ้าไม่สามารถทำให้ ฐานลูกค้าจาก fb ไป plus ได้ นอกจาก จะมีโกงลยุทธ์ ในการดึงเพื่อนทั้งหมดใน fb มาไว้ใน plus
อ่านหัวข่าวแล้วอยากยกมือถามต่อว่าแล้ว Google+ ล่ะจะตายเมื่อไหร่
แล้วก็จะเป็นยุคของ Google+ สินะ
ไม่ใช้ Facebook แล้วผมจะใช้อะไรติดต่อเพื่อนเก่าหล่ะครับ Google+ ก็เห็นๆ กันมาแล้วว่าไม่มีใครเล่น (เห่อแป๊ปเดียว)
อย่าเลยไม่อยากเริ่มต้นใหม่แล้ว 55
พอหุ้นตก ข่าวแนวลบก็มาทันที ช่างตรงข้ามกับก่อนออกหุ้น IPO เสียจริง
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
สร้างข่าวก่อนเข้าซื้อ ทำให้พวก iv ที่ถือหุ้นตอน ipo ปล่อยของออกมาจนสุดแล้วค่อยเข้า (ก่อนเข้าตลาดหุ้นข่าวแนวพวกนี้กับ facebook ไม่ค่อยจะมี)
ออกข่าวทุบหุ้นชัดๆ
ออกข่าวรับหุ้นตกต่างหาก ข่าวจะมาหลังราคาเสมอล่ะครับ
ข่าวดีให้ขาย ข่าวร้ายให้ซื้อคับ
บน ipad เปิด fb version desktop พอได้อยูา แก้ขัด
twitter.com/djnoly
ผมมองอีกทางนะครับว่า ถ้าหาก Facebook ปรับทัพบุกตลาดสมาร์ทโฟน แก้บัคตัว App Mobile หละก็มีโอกาสยืดชีวิต Facebook อีกนานเลยหละครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เฟซบุ๊คต้องเปิดตัวบริการใหม่ๆ แล้วล่ะ ไม่งั้นก็รอวันตาย
เปิดบริการตัวใหม่ 10 ตัว อาจจะว้าวซัก 5 ตัว แบบกูเกิ้ลก็ได้ แล้วบริการทุกตัวก็ผูกติดกับบริการทุกอย่างของบริษัท
ตั้งแต่ Timeline มา ยัดเยียดให้ผู้ใช้ต่างๆนาๆ ผู้ใช้ก็อาจจะเริ่มเบื่อ
Facebook ควรจะต้องตั้งคำถามตัวเองแล้วละว่า ผู้ใช้อยากได้อะไรจาก Facebook
เพราะ Facebook เอง ไม่ใช่เว็บโดดๆเดียวอีกต่อไป หลายๆเว็บในโลกเรียกว่าผูกกับ Facebook เป็นส่วนมาก
แต่ถ้า Google หรือ Social ที่อื่น ทำได้ดีกว่า ตอบโจทย์ให้ผู้ใช้มากกว่า เอาแปะเว็บไซท์ง่ายกว่า ไม่ซับซ้อน
Facebook ก็มีสิทธิดับ
@fb.me/frozenology@
ยากน่า... ทุกๆ คนมีตัวตนแล้วบน internet และตัวตนนั้นคือ facebook คนเราจะทิ้งตัวตนตัวเองไปง่ายๆ ได้ไงกัน? แล้วเมื่อคนเรายังต้องการติดต่อสื่อสาร และทุกๆ คนอยู่ในสังคมนี้แล้ว สังคมอื่นจะเกิดขึ้นมาก็ไม่ง่ายหรอก
facebook จะตายก็ต่อเมื่อ คนเบื่อ, เลิกใช้ และ ไม่มีใครซื้อโฆษณา
google+ จะตายก็ต่อเมื่อ google เลิกยื้อทำต่อ
เห็นว่าใน FB มีให้ download ข้อมูลของตัวเองลงมาเก็บไว้ได้ ผมว่าถ้า Social network ใหม่ที่อยากจะเกิด ให้ผู้ใช้เอาข้อมูลที่ export ออกมา แล้วเอาไป import เข้าของตัวเองได้ ก็ไม่น่ายากนะ แล้วคนก็ไม่ต้องทิ้งตัวตนเดิมๆ ของตัวเองด้วย ก็คล้ายๆ กับการย้ายบ้านใหม่ จัดข้าวขจัดของนิดนึง เดี๋ยวก็เข้าที่เอง
ป.ล. แทบไม่เล่น FB เลย วันๆ สิงอยู่แต่ใน Twitter ฮาฮา
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.
สวัสดีเรามาจากโลกอนาคต
:-)