ข่าวนี้คงทำให้ไมโครซอฟท์ต้องคิดหนักเลยทีเดียว เพราะผู้บริหารสองค่ายเกมใหญ่บนพีซีออกมาให้สัมภาษณ์ในเชิงลบกับ Windows 8
เรื่องเริ่มจาก Gabe Newell ผู้ก่อตั้งค่าย Valve ไปพูดที่งานสัมมนา Casual Connect ในหลายๆ ประเด็น โดยเขาแสดงความเป็นห่วงทิศทางของทั้งไมโครซอฟท์และแอปเปิลว่า การมุ่งไปในระบบปิดจะทำลายนวัตกรรม ซึ่งความสำเร็จของพีซีในอดีตมาจากการที่มันเป็นแพลตฟอร์มเปิด
เขายังพูดถึงลินุกซ์โดยบอกว่าปัญหาสำคัญของลินุกซ์คือเกม ซึ่งหลายคนมองข้ามไม่รู้ว่าเกมเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อแพลตฟอร์มมากขนาดไหน ส่วนเป้าหมายของ Valve คือพยายามช่วยให้เกม 2,500 เกมบน Steam ถูกพอร์ตไปยังลินุกซ์ให้ง่ายที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ถัดจากลินุกซ์ เขาบอกว่า Windows 8 คือ "หายนะแห่งวงการพีซี" (a catastrophe for everyone in the PC space) และเชื่อว่าผลกระทบจาก Windows 8 อาจทำให้บริษัทฮาร์ดแวร์บางรายต้องถอนตัวออกจากธุรกิจนี้ ซึ่งถ้ามันเกิดขึ้นจริงก็ควรจะมีทางเลือกอื่นๆ รองรับไว้ (ในที่นี้หมายถึงลินุกซ์นั่นเอง)
Gabe ยังพูดถึงเทคโนโลยีจอสัมผัสว่าจะ "มาไวไปไว" โดยรอบของเทคโนโลยีอยู่ที่ราว 10 ปี ต่างจากรอบของคีย์บอร์ดและเมาส์ที่นานถึง 25 ปี ส่วนเทคโนโลยีที่จะมาถัดจากการสัมผัสคือการประกอบเทคโนโลยีสั่งงานหลายๆ อย่างเข้าด้วยกัน ซึ่งเขายกตัวอย่างคอมพิวเตอร์ในรูปสายรัดข้อมือที่รับทราบการสั่งงานจากมือของเรา รวมถึงโครงการคอมพิวเตอร์แบบสวมใส่ได้ที่ Valve กำลังพัฒนาอยู่ด้วย
ที่มา - AllThingsD via Kotaku
ส่วน Rob Pardo ผู้บริหารฝ่ายออกแบบเกมของ Blizzard ออกมาสนับสนุนความเห็นของ Gabe Newell ในส่วนของ Windows 8 ว่า "ไม่เจ๋งสำหรับ Blizzard เหมือนกัน" (@RobPardo)
ที่มา - Kotaku
Comments
ส่วนเทคโนโลยีที่จะมาถัดจากการสัมผัสคือการประกอบเทคโนโลยีสั่งงานหลายๆ อย่างเข้าด้วยกัน ซึ่งเขายกตัวอย่างคอมพิวเตอร์ในรูปสายรัดข้อมือที่รับทราบการสั่งงานจากมือของเรา รวมถึงโครงการคอมพิวเตอร์แบบสวมใส่ได้ที่ Valve กำลังพัฒนาอยู่ด้วย <<< แสดงความเห็นเสร็จ ก็ขายของซะหน่อย + +
อ่านแล้วมาสะดุดที่วรรคสุดท้ายเหมือนกัน = _=)" ทำเอาความน่าเชื่อถือของคำพูดแกหายเกลี้ยงในบัดดลเลย
+1 ตอนอ่านช่วงแรก ๆ ก็รู้สึกแปลก ๆ พอสรุปปิดท้าย อ้าว รายการขายของนี่หว่า
ใช่ไหมจอร์จ... อ่า... จริงจัะซาร่า...
ไม่แปลกนี่ครับ เขาขึ้นพูดในงานสัมมนา มีพิธีกรถาม เขาก็ตอบ และจากต้นฉบับก็บอกว่า บทสนทนาที่ยกมามันเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น (excerpts)
LinkedIn
อย่างน้อยก็เล่นแองกรี้เบิร์ดได้ล่ะเอ้อ
แล้วเกม PC อื่นๆล่ะครับ = ="
ไม่แน่ในอีก 10 ปีอาจต้องลง Linux ไว้เล่นเกมส์
งงแหะ ว่ามันยังไง ทำไมบ. HW ถอนตัว >< แล้วทำไมหายนะ
ปิดมากขึ้น มี Windows appstore อีกหน่อยก็ทำ h/w เอง อะไรทำนองนั้นไหม
ตรงข้ามกับเดิมตามที่ท่าน Gabe บอก Windows รุ่งก็เพราะความเปิดของมัน
windows rt กำหนด cpu ไว้ครับ ระบบปิดแบบนี้จะทำให้ผู้ที่ไม่ใด้เลือกไม่สามารถแข่งใด้และไม่มีคู่แข่งรายใหม่่ เป็นความเสี่ยงที่สูงมาก ของ บ. ทำชิพ
สิ่งที่คู้กันคือ dev ก็ต้องระวังการโดนบังคับให้ขายผ่าน store แล้วโดนกิน % เยอะๆ โดยไม่มีตัวเลือกอิสระอื่น
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
อีกหน่อยต้องเปลี่ยนชื่อ Windows RT ซะล่ะมั้งเนี่ย.. รุสึกคนจะสับสนกันเยอะ :?
สมัยก่อนเคยคิดว่าจะใช้ Windows อย่างเดียวตราบชั่วฟ้าดินสลาย
ปัจจุบัน ใช้ Linux เป็น OS หลัก xD (ยกเว้นคอมที่ทำงาน)
ผมอ่านแล้วเหมือนเขาจับแพะชนแกะยังไงไม่รู้แหละ งงๆ ไม่ค่อยเข้าใจ
(ไม่เกี่ยวกับข่าวนะครับ)
ผมกำลังคิดไปก่อนว่า W8 อาจประสบชะตากรรมเดียวกับ Vista โดยมีเหตุอันเนื่องมาจากกระแสสังคมที่เชื่อตามๆกัน และนิสัยมนุษย์ที่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง
ส่วนตัวผมเคยใช้ Vista อยู่นานตั้งแต่มันออก บนเครื่องที่ก็ไม่ได้แรงอะไรเล๊ย และก็พบว่ามันก็โอเค หลายๆอย่างมันก็ดี ไม่ได้เป็น"หายนะระดับเลวร้ายขีดสุด" แบบที่คนทั่วไปพูดกัน แต่เรื่องที่มันออกมา"ก่อนเวลา" ในช่วงพีซีส่วนมากยังรันไม่ลื่นนี่ผมเห็นด้วย
พอมา W8 จากการสังเกตคนวิจารณ์ทางลบส่วนใหญ่ ก็มักจะไปติดแหงกอยู่กับหน้าจอ Metro หรือไม่ก็ปุ่ม Start
แล้วก็...จบ อยู่แค่นั้น
แต่ถ้าว่ากันตามตรง คนเราไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง
จะให้ไปเรียนรู้ว่าฟังชั่นมันก็ยังเหมือนเดิม กดคีย์ Windows แล้วก็พิมพ์ search เหมือนเดิมเลย แค่ตัวปุ่มมันหายไปเฉยๆ
ก็ฝันไปเถอะว่าจะให้ต้องเรียนรู้อีก! ชั้นใช้ของชั้นอันเก่านี่แหละ มันเคยชินดี ปลอดภัยดี รับรองไม่กดผิดแล้วเครื่องเจ๊งแน่
ป.ล. นิสัยคนนี่เปลี่ยนยากจริงๆนะครับ บางคนชอบทดลองอะไรใหม่ๆ บางคนปรับตัวเก่ง แต่บางคนก็ตรงข้ามกันเลย
ผมว่าปัญหาของคนส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ที่ปุ่ม Start มันหายไป แต่อยู่ที่ Metro App มันเป็นแบบ Full Screen ต่างหาก คนที่ใช้ Desktop ส่วนใหญ่ (เดี๋ยวนี้) จอใหญ่ๆ กันทั้งนั้น ทำไมต้องใช้ App แบบ Full Screen? ในเมื่อสามารถเปิด 3-4 หน้าต่างเรียงกันได้ โดยเฉพาะคนที่ทำงานหลายๆ โปรแกรม แล้วต้องใช้ข้อมูลจากโปรแกรมหนึ่งมาใช้กับอีกโปรแกรมหนึ่ง การใช้ Metro App มันนรกชัดๆ (สลับหน้าต่างไปมา) ในขณะที่ App แบบเดิมๆ สามารถเปิดคู่กันได้เลย
ผมมักจะได้ยินคนที่เชียร์ Win8 ชอบบอกว่า คนที่เกลียดหรือไม่ชอบ Win8 เป็นพวกไม่ชอบความเปลี่ยนแปลง/เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ผมว่าไม่จริงเสมอไปนะครับ ต้องดูด้วยว่าไอ้ที่เปลี่ยนไปนั้นน่ะ มันช่วยให้เค้ามีประสบการณ์การใช้งานดีขึ้นหรือแย่ลง ถ้ามันแย่ลง ก็ไม่รู้จะไปเสียเวลาเรียนรู้มันทำไม
"สิ่งใหม่ๆ ไม่จำเป็นต้องดีกว่าของเดิมเสมอไป..."
+1 ครับ
การสลับหหน้าจอของ windows8 app บางตัวพอสลับแล้วอยู่ในสถานะ Freeze ทำให้ทำงานลำบาก เพราะต้องรอการทำงานเสร็จก่อนจึงจะเปลี่ยนหน้าต่างได้
*ผมใช้มา 2 เดือนแล้ว และยังใช้อยู่เหตุผลที่ใช้ เพราะหน้า Lock Screen ^__^
+1
ผมยังอยากให้ Android ทำแอพเป็นหน้าต่างได้เหมือนกัน จะได้รู้สึกเหมือน PC ขึ้นมาหน่อย
ส่วน iPad นั่นลืมไปได้ เพราะไม่มี multi tasking
+1 เอา task bar ด้วย
^
^
that's just my two cents.
แอนดรอยทำ popup play ได้ เริ่มมีโปรแกรมแบบนี้ออกมา อย่างเครื่องคิดเลข
ผมว่าอัพเดทอีกไม้กี่ที แอนดรอยจะมีฟีเจอร์นี้ฝังมาใน os เลย แบบว่า pop up ได้หมดทุกแอป
จะได้เหมาะกับพวกจอโตๆ อย่าง 22 นิ้ว
metro app สามารถเปิดพร้อมกันสองแอพบนจอเดียว แต่จอต้องมีความละเอียดในขั้นต่ำที่กำหนดไว้ (จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่)
โผล่มาได้แค่นิดเดียว ทดแทน หน้าต่างที่เราปรับเองไม่ไหวหรอกครับ
น่าจะ 1366x768 มั๊งครับ? เพราะว่า 1280x800 ใช้ไม่ได้ T_T
Dream high, work hard.
แต่จะขอเสริมอีกว่าการที่ Metro ไม่มีแนวคิดเรื่องการจัดหมวดหมู่ของไอคอนโปรแกรม ก็เป็นปัญหาเช่นกันนะครับ ผมลองคิดตั้ง โปรแกรมเท่า ๆ กันกับเครื่องที่ใช้xp ผลคือ รกมากๆ และการที่ต้องมาเสียเวลานึกชื่อโปรแกรมที่นานๆใช้ที ก็เป็นเรื่องที่เสียเวลาน่าดู
และในฐานะที่ใช้ทัชสกรีนมา ขอบอกว่า มันไม่เจ๋งเลยครับ สำหรับdesktop/Notebook มันจะไม่ใช่แค่มาไวไปไว แต่จะไม่ได้เกิดเลยเสียมากกว่า เข้าถึงคนแค่กลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้นครับ. เท่านี้ก่อนเเด๋ยวมาต่อ พิมพ์บน tablet นี่ลำบากชะมัด
ก็แบบนี้น่ะซี ผมถึงบอกว่าคนมัวไปติดแหงกอยู่กับ Metro เวลาวิจารณ์ W8
เพราะ Desktop แบบเดิม (ที่ๆเราทำงานเยอะๆ ลากไฟล์เข้าออกนู้นนี้ได้สะดวก)มันก็ยังอยู่ไม่ใช่หรือครับ? แล้วทำไมพูดเหมือนกับว่ามันไม่มีอีกแล้ว ชีวิตนี้ต้องใช้ Metro ตลอดไป
ผมว่าถ้าคิดเสียว่าไมโครซอฟท์แบ่ง W8 ให้มีสองแบบในตัว สำหรับ"อุปกรณ์สองแบบ" และสำหรับ "ประเภทของงาน สองแบบ" มันก็จบครับ ใครจำเป็นต้องใช้อันไหนก็ใช้
แล้วผมก็ไม่คิดว่า Metro มันจะต้องมีโปรแกรมที่ผมต้องใช้ทำงาน"จริงจัง" อยู่บนนั้นหรอกครับ (สำหรับผมก็พวก Adobe CS, 3D) และตราบจนสิ้นโลกนี้ก็คงไม่มี เพราะจุดประสงค์การใช้งานมันคนละแบบ Metro ส่วนใหญ่เอาไว้ใช้เบาๆแบบที่ Casual User พึงจะใช้มากกว่า ดูหนังฟังเพลงเล่นเนต จะทำงานจริงๆก็กลับไป Desktop เพราะโปรแกรมอยู่บนนั้น
เอ๊ะ หรือว่าพี่มี"หลายๆโปรแกรม"ที่ว่าสำหรับทำงานจริงจังที่ต้องใช้บน Metro แล้วครับ (ถ้ามีก็ช่วยชี้แจงผมที)
แต่ทั้งนี้ผมก็ยอมรับว่า W8 เป็น OS ที่ค่อนข้างงงๆ แถมทับซ้อนกันเองบางที่ เช่นโปรแกรมเปิดภาพหรือโปรแกรมฟังเพลง ก็ดันมีอยู่ทั้งสองแบบ(เปิดไปก็ลุ้นไป ว่ามันจะเปิดตัวไหนให้เรานะ?)
ก็เพราะเราไมสามารถกำจัด metro ออกจากwindows 8 ได้เลยน่ะสิครับ ถึงต้องบ่นอ่ะ ตอนเวอร์ชั่น dp ที่ไม่มีMetro ผมยังรู้สึกดีกว่ามากเลยนะ
จะ resist ไปใยสหายไซเบอร์
embrace เถอะ
ผมว่าเมโทรมันก็มีอะไรดีๆหลายอย่างนะ แค่ความเป็น information at a glance ซึ่งเป็นคอนเซปต์ของเขามาตลอดนี่ก็เยี่ยมแล้ว(เดี๋ยวนี้ผมก็เช็ค Social network ต่างๆจากแอพ People ตลอด แล้วก็แอพอ่านข่าว ซึ่งบางทีมองที่ Tile แว้บเดียวก็รู้ข่าวแล้ว ซึ่ง Desktop แต่ก่อนมันให้ประสบการณ์แบบนี้ไม่ได้)
แต่ยอมรับว่าตอนนี้แอพอะไรมันก็ไม่มี ไอ้ที่มีก็พิกลพิการมาก ผมว่ามันก็เลยดูร้างๆ แล้วก็เลยรู้สึกว่าไม่รู้จะมีทำไม
ได้แต่หวังว่าตอนออกมาคงมีแอพ"ดีๆ"เยอะขึ้น ไม่งั้นผมก็คงผิดหวังเหมือนกัน
จบดีกว่า เอาไว้ค่อยตัดสินกันตอนมันออกมาจริงๆสักสามเดือน
Desktop ถ้ารู้จักใช้ widget มันก็อัพเดทข่าวสารได้ แต่ก็อย่างว่ามันแค่เห่อในความแปลกใหม่ในช่วงแรก ๆสักพักเดียวมันกืเลือนลางไป แต่ความสะดวกในการใช้งานน่ะสิที่จะอยู่กับเราทุกวันไปตลอดเวลา ซึ่งผมเห็นว่า เมโทรขาดตรงนี้ไปเยอะมาก ไม่ได้ต่อต้านนะ แต่ตักเตือนต่างหาก win8 มันก็มีข้อดี เสียแต่ไปเน้น แต่เมโทร ที่ยังขาด ๆ เกิน ๆนี่แหละ ถ้ายอมให้เอามันออกไปได้ จะน่าซื้อกว่านี้มาก
ไม่ได้เห่อครับและไม่ได้พูดตามใครทั้งนั้น แต่พูดจากประสบการณ์การใช้งานจริงๆของตัวเองแท้ๆ ในฐานะที่เป็นคนชอบลองทุกอย่างที่ขวางหน้า
Desktop Widget หรือพวก Notification ต่างๆ ผมก็ใช้มาหลายตัวRainmeter ที่มี RSS, Twitter, ฯลฯ อะไรครบครัน แต่ถามว่ามัน Practical หรือเปล่า ก็ต้องตอบว่าไม่ค่อย เพราะมัน interact อะไรไม่ค่อยได้ - กดจะดูข่าวดูภาพมันก็ดันเปิดเบราว์เซอร์ให้(ซึ่งก็รอโหลดไปอีก) ที่ดีหน่อยก็อย่าง Pokki(เอาไว้ใช้ Gmail, Facebook, Twitter)ที่แอพดูมีคุณภาพ ยังไม่นับพวกแอพ Notification เจ้าต่างๆที่ก็โหลดมาลองเยอะมาก
แต่มันก็มีปัญหาสำคัญอยู่อย่างเดียว...
ปัญหาสำคัญที่ผมพบสำหรับ Widget พวกนี้คือ Startup Time ครับ เปิดเครื่องใหม่กว่าจะขึ้นมาครับทุกตัวก็รอไปเถอะ นาทีนึงสองนาที ทั้งๆที่ผมก็เป็นพวก"น้อยๆ"ด้วยซ้ำ คืออะไรไม่จำเป็นจริงๆก็จะไม่ลงให้เครื่องมันช้าเลย
ปัจจุบัน Widget ที่ว่าก็ลบไปหมดแล้วครับ เหลือไว้แต่ Rainmeter อย่างเดียว เบาๆ
ในขณะที่เมโทร จะหาว่าผมเห่อ, เป็นแฟนบอย, Love is blinds อะไรก็ตาม แต่เปิดเครื่องมาปุ๊บ เราก็เห็นกับตาเนื้อว่า....อัพเดทมันก็โผล่ขึ้นมาทันที ไม่ต้องรอ 1 นาที...30 วิ หรือแม้แต่ 5 วินาที
อันนี้ผมว่าทุกคนคงเห็นตรงกัน ใช่ไหมครับ?
แล้วถ้าผมเป็นคนที่จำเป็นต้องใช้ desktop app แล้วเห็น metro mode รกหูรกตาเพราะมันไม่เข้าไปยัง desktop mode ที่ผมจำเป็นต้องใช้หล่ะครับ?
งานของคนหลายๆคนมันไม่ได้ simply ขนาดนั้นครับ ยิ่งบอกว่าเอา start menu ออกแล้วบอกให้ search เอานี่ยิ่งเข้าไปใหญ่ ผมมีโปรแกรมหลายสิบโปรแกรมที่ต้องใช้คงไม่มานั่งนึกหรอกครับว่าโปรแกรมมันชื่ออะไร
คุณมีเหตุผลที่จะชอบความ simply เพราะคุณใช้แค่นั้น ผมก็มีเหตุผลที่ผมที่ไม่ชอบความ simply ที่มันกินไม่ได้เหมือนกันครับ ผมไม่ได้ซื้อ SSD Read 560MB/s มาเพื่อใช้งานแอพ Metro ครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ปกติโปรแกรมที่ใช้งานบ่อยๆก็ pin กันที่ taskbar กันส่วนใหญ่ไม่ใช่หรอ(ไม่ก็ shortcut) แล้วการใช้งานพอเข้า desktop mode ก็ไม่จำเป็นต้องเข้า metro แล้วนะถ้าไม่คิดจะเข้า
โปรแกรมไม่เกิน 10 ตัว pin ได้ง่ายๆครับ แต่ถ้ามากกว่า 20 30 ตัวขึ้นไปคุณก็ต้องเลือก pin โปรแกรมที่'สำคัญจริงๆ' อยู่ดี ไม่อย่างนั้นโปรแกรมที่เกิดใช้ก็จะล้นออก คงไม่มีใครอยากทำ Super Bar 5-6 ชั้นหรอกครับ
และที่สำคัญทั้งสองอย่าง มันรก และไม่เป็น intuitive ซักนิดเลยครับ ยกตัวอย่างโปรแกรมชุดนึงเพื่อที่จะมาให้ทำงานประเภทหนึ่งมีงาน 5 แบบที่ต้องจัดการ และแต่ละงานแยก process(.exe) กัน คุณคิดว่าผมควรจะ pin exe ทั้ง 5 ตัว/สร้าง shortcut หรือเข้าไป crawl เพื่อเรียกใช้ exe ดีครับ?
อย่าบอกว่าให้ผมสร้าง folder ของ shortcut บน desktop นะครับ เพราะนั่นมันเป็นแค่ workaround จากการที่มัน'แย่ไปแล้ว'มากกว่า
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
"อย่าบอกว่าให้ผมสร้าง folder ของ shortcut บน desktop นะครับ"
ตอนนี้ผมก็ทำแบบนั้นอยู่ใน win 7 นั่นแหละ :P โปรแกรมที่ใช้บ่อยจริงๆผมถึงจะ Pin ครับ
สรุปคือผม'จำเป็น'ต้องทำ ทั้งๆที่'มันไม่จำเป็น'เลยซักนิดใช่ไหมครับ?
ผมว่าเหตุผลที่ผม'ควรจะไม่ใช้' Win 8 ก็มีแล้วหน่ะนะ :)
คำถามก็คือ Win 8 มีดีตรงไหนที่ผม'ควรใช้'
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
คือปกติคุณเปิดโปรแกรมจากวิธีไหนเนี้ย สำหรับผม ผมว่า shortcut กับ pin นี่เร็วสุดแล้วนะ
คือถ้าเรียงความเร็วตามที่ผมใช้นะ Pin > Shortcut > Pin ใน Start menu > Search ใน Start menu > เลือกหาใน Start menu(ไม่ได้ใช้วิธีนี้มาเป็นปีแล้ว)
ถามว่าควรใช้ไหม ผมว่าแล้วแต่คนครับ สำหรับผม ผมชอบการแสดงข้อมูลแบบเร็วใน Metro โดยไม่อืดเหมือนใช้ Widget หลายๆตัว แต่ก็ยังมี Desktop ไว้ใช้งานแบบเดิมได้ แล้วปกติผมแทบไม่ได้ใช้งาน Start menu อยู่แล้วจะตัดออกเปลื่ยนเป็น Metro ผมว่าไม่เสียหายอะไร
อย่างที่บอกไปแล้ว โปรแกรมผมมีหลายสิบชุดครับ ชุดนึงก็ 1-5 exe คงจะมา pin ลง superbar / shortcut ลง desktop ไม่ได้(โดยเฉพาะโปรแกรมที่เป็น .bat หรือ .exe ที่เป็น command line) และผมก็คิดว่าคงมีอีกหลายๆคนเป็นแบบผม
สำหรับผม metro ไม่มีความน่าใช้เลยครับ ผมมีมือถือที่ทำได้ดีกว่า smart กว่า ไม่ต้องเปิด PC แถมนอนใช้ได้อีกตะหาก อยู่ครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ถ้าโปรแกรมเยอะขนาดนั้นคง Pin ไม่ไหวจริงๆแหละ
แต่คุณยังไม่ได้ตอบคำถามผมเลย ปัจจุบันคุณเปิดโปรแกรมโดยวิธีไหน?
บอกไปแล้วนี่ครับ ว่า crawl ? ผมว่าประโยคทั้งหมดผมบอกชัดเจนตั้งแต่ reply แรกที่ผมตอบคุณแล้วนะครับ ที่พิมพ์หลังๆนี่ก็แค่พิมพ์ซ้ำย้ำใจความเดิม
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
งั้นหน้าจอ Desktop แบบเดิมก็คงเหมาะสมกับประเภทงานพี่มากกว่าจริงๆ
(ประทานโทษครับ พี่ทำอาชีพอะไรครับ ดูชีวิตยุ่งโคตรๆเลย)
คนทำงานเกี่ยวกับ IT ส่วนใหญ่หน้าจอรกๆ ทั้งนั้นหล่ะครับ ทั้งตัวโปรแกรมหลักที่ใช้งานเป็นประจำ, เอกสาร, พรีเซ็นเทชัน, ebook, video, memo, Lab ฯลฯ
ผมเองก็เป็นประเภทหน้าจอรกเช่นกัน ซึ่งส่วนตัวก็คิดว่า Metro ไม่เหมาะสำหรับคนประเภทนี้ เพราะมันไม่ได้ช่วยให้ค้นหาไฟล์เร็วขึ้นแต่อย่างใด (ตรงกันข้ามอาจหาไม่เจอ)
ผมเห็นตรงตามนี้เลยใช้ทั้ง 2 อย่าง Rainmeter ก็ใช้แต่หลังๆรู้สึกว่ามันรกเลยใช้แค่เวลากับวันที่ตัวใหญ่ๆแทน
ยิ่งถ้าเทียบเวลาโหลด Metro กิน Widget ขาดลอย เครื่องที่ผมลอง win 8 นี้ใช้งานทั้วไปนี่ผมอยู่แต่ metro ล้วนๆเลย ผมแค่รู้สึกว่าขาด chrome ใน metro แค่นั้นแหละ
เวลากับวันที่ตัวใหญ่ๆ .. windows + c
นั่นแหละครับ ปัญหาสำคัญของ poweruser คือ ไม่สามารถกำจัด metro ออกจาก win8 ได้ โดยเฉพาะคนที่ีใช้ PC จอใหญ่ๆ (เช่นผมที่ใช้จอ 32" :P) ที่ metro แสดงผลได้แย่มาก อะไรๆก็ใหญ่เทอะทะไปหมด
ป.ล. รำคาญเวลาที่เปิดไฟล์หนังแล้วมันชอบเด้งมาให้ set default player นี่แหละ มันปิดตรงไหนฟะ
จากที่ลองใช้ CR กับ RP รู้สึกแค่ว่าไม่คุ้นกับ UI ในการตั้งค่าบางอย่างนิดหน่อย แต่โดยรวม ผมว่าแทบจะเหมือนเดิมเลยนะ พฤติกรรมการใช้งานเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนอะไรเลยครับ
iPAtS
ทำไมผมรู้สึกว่า ทาง VALVE กับ Blizzard บอกว่า มันเป็นหายนะ เพราะ "เกม" ของเค้าตามนวัตกรรมของ OS ไม่ทันหล่ะเนี้ย เพราะ Windows ก็มีแนวทางแบบนี้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ เป็นระบบปิดมาตั้งนานแล้วนะ
seeking for New Frontier...
หรือว่าสองค่ายนี้ไม่เจ๋งพอที่จะพัฒนาเกม Windows 8 ให้เจ๋งพอ 555+//สงสัยจะโดนแฟนบอยรุมตื้บชัวร์
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
เตรียมจะตื๊บแล้วครับถ้าไม่พูดดักซะก่อน xD
555 โทษคร้าบผม แต่ก็คิดว่า Linux จะได้มีเกมดีๆในนั้นบ้างซะทีครับผม เพราะผมยังไม่รู้เลยว่า Windows 8 มันจะรองรับกับเกมจอสัมผัสได้ดีแค่ไหนน่ะครับ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
เห็นด้วยครับ ว่ากันง่ายๆ เพราะเกมทั้งหมดจากทั้งสองค่ายเล่นด้วยการสัมผัสไม่ได้นั้นเอง
สถิติอดีต ดีรุ่นนึง เจ๊งรุ่นนึง
ดังนั้นรอ win9 ครับ 555+
+1 คิดเหมือนกันเลย
เกรงว่า Windows 8 โดนโจมตีมากๆ MS จะถอย Windows 9 คลอดก่อนกำหนดก็ได้ (ปี 2014)
Windows ME ---> Windows XP ,
Windows Vista --->Windows 7 ,
Windows 8 ---> ???
รู้สึกMSกำลังพยายามทำW8(+WP8) ตามแนวทางของแอปเปิ้ล ปิดแล้วรวย ขายได้ คิดอะไรง่ายไปหรือเปล่าน้อ
ส่วนตัวผมว่า MS โดนบีบจาก Apple ให้ทำ
ถ้ามอง iPad เป็น PC เครื่องหนึ่ง มันก็เข้ามากินส่วนแบ่งมากเกินไปครับ และมีแนวโน้ม ว่าจะกินไปเรื่อย เพราะ ขายมา 3 รุ่นแล้ว ยังไม่มีทีท่าว่าความต้องการจะลดลง
ตามด้วยแนวทาง Mac OS X Fusion iOS วันนึงมันต้องรวมกัน และ iPad(และ iPhone)อาจะได้ใช้ OS ที่รวมร่างกันนี้
ถ้า MS ยังช้า รอให้ถึงวันนั้นการผูกขาด OS ที่ MS ทำมาตลอด ก็ต้องล่มสลายไป
ตอนที่ยังเตะตัดขาได้ มีเท่าไร ก็ต้องทุ่มสุดตัว ผลประกอบการเป็นไงก็ช่าง ขอแค่ยังผูกขาดไว้ได้ รับรองว่าคุ้ม
ในข่าวไม่ได้บอกว่าหายนะในมุมของ Gabe คืออะไร แต่ผมเข้าใจว่าสิ่งที่ Gabe วิจารณ์ก็คือเรื่องช่องทางการจำหน่าย App บน Windows 8 ครับ ความปิดที่น่ากลัวคือช่องทางจำหน่าย App ที่มาโดย default บน Windows 8 ทุกเครื่อง จะทำงานได้ง่ายกว่าหรือดีกว่า Steam ซึ่งจะทำให้ Steam ช่องทางจำหน่ายหลักของ Gabe หมดอนาคตอย่างได้บน Windows 8
คิดอย่างนี้ก็จะเข้าใจได้ว่าทำไม Gabe ถึงต้องหาช่องทางอื่นให้ Steam ครับ
มันอาจจะไปทางทำงานแย่กว่า แต่ผูกขาดไม่ให้มีร้านแข่งก็ใด้นะครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
คำพูดของ Gabe คือ a catastrophe for everyone in the PC space ครับ ผมเข้าใจว่าแกหมายความรวมๆ หลายเรื่อง เช่น เรื่อง OEM ต้องมาเจอไมโครซอฟท์เป็นคู่แข่ง เรื่อง Windows Store รวมถึงนโยบายการปิดอื่นๆ ของไมโครซอฟท์ด้วย
ส่วนที่กระทบกับ Valve ก็คงเป็นเรื่อง Store นี่ล่ะครับ
ไม่รู้ความหมายของ Gabe มีมุมไหนบ้าง แต่ถ้าเกมมาลงลินุกซ์เยอะขึ้น Windows ก็เริ่มหมดความหมายกับผมไปเรื่อยๆ ล่ะ
อันนี้พูดง่ายๆ Valve (steam) และสารพัดที่ Blizzard ขายๆ อยู่ก็แทบจะเป็น App Store อยู่แล้ว ถ้าในอนาคตจะโดนบังคับให้ขายผ่าน(หรือยากลำบากที่จะขายเอง) บน Windows App Store ก็ไม่อยากเสียค่าหัวคิว...
บรรทัดสุดท้าย ก็บอกชัดว่าตัวเองกะจะสนับสนุนแนวฮาร์ดแวร์แบบนี้ ก็ออกมาดักคอเสียหน่อย
แต่ผมว่าใน Windows 8 ที่ไม่ RT มันก็เปิดเหมือน ๆ เดิมนะ แล้วโหมด Desktop ก็คงไม่จากไปง่าย ๆ ด้วย
Windows 8 x86/64 เค้าบังคับคุณซื้อโปรแกรมจาก Store อย่างเดียวซะที่ไหน ถ้าบอกว่า Windows RT นะ ก็ว่าไปอย่าง
ส่วน Windows RT ที่เค้าบังคับให้ใช้ app ผ่าย store เท่านั้น ก็เพื่อควบคุมประสบการณ์ผู้ใช้เหมือน Android+iOS
สรุปว่าทั้ง Valve+Blizard กลัวเกมส์ที่จะขายใน Store เพราะมันเข้าถึงง่ายกว่า ส่วนตัวเองไม่อยากใช้ Store เพราะไม่อยากจ่ายค่าหัวคิว 20%
ให้ Microsoft
ผมว่ามันมีเหตุผลอื่นหลายๆเหตุผลเช่น ทิศทางของเกม/โปรแกรมบน PC จะกลายเป็นแบบ Smartphone/Tablet ซึ่งทำให้ตลาดต้องก้าวไปสู่แบบ Tablet ซึ่งแน่นอนว่าผู้ผลิตหลายรายจะต้องเปลี่ยนจาก PC ไปเป็น Tablet และคงมีไม่กี่รายที่จะมีศักยภาพพอที่จะแข่งขันในตลาดนี้(ที่มีการแข่งขันกันสูงอยู่แล้ว ทั้งจาก Android และ iPad)
ส่วน App แบบรวมศูนย์มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียครับ อย่างน้อยค่าหัวคิวที่โดนหัก 20% ก็ต้องผลักภาระมาที่ผู้บริโภคหรือก็เข้าเนื้อตัวเอง นอกจากนี้เกมขนาดใหญ่ยังต้องใช้งบและเวลาพัฒนามากกว่าปกติ แต่หากขายไม่ได้หรือได้กำไรน้อย(เนื่องจากตลาดจะถูก flood ด้วยเกมและ app จำนวนมาก) ก็คงไม่มีใครจะลงทุนพัฒนาให้เราเล่นหล่ะครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
Valve กับ Blizzard คือค่ายเกมเสาหลัก สองค่ายสุดท้ายแล้วมั้ง ที่ปักหลักทำเกมโดยให้ความสำคัญบน PC ก่อน แล้วคอนโซลค่อยตามหลัง สร้างเกมโดยเน้นจุดเด่นของ PC มาก่อน ทั้งการใช้ เมาส์ คีย์บอร์ด การออนไลน์ ระบบโซเชี่ยล เป็นเหตุผลใหญ่ๆที่ทำให้คนจำนวนมากในโลกใช้ windows อยู่
ในขณะที่ค่ายอื่นน่ะ เน้นมัลติหมดแล้ว เล่นบนเครื่องไหนก็เหมือนๆกัน เสียบจอยแพดเล่นเอา บังคับง่ายๆไม่ซับซ้อน
ผมเข้าใจว่า สตรีมมันคือร้านค้าข้างโรงเรียนวินโดว์วิทยา ที่มีตาลุงเก็บเป็นเจ้าของที่เก็บค่าเช่าสบายใจมาช้านาน จนวันนึง ครูใหญ่โรงเรียนวินโดว์วิทยา เกิดไอเดียให้เช่าที่ขายของในโรงเรียนนี่ท่าจะรายได้ดีเว๊ย ก็เลยจัดซะ ตาลุงเก็บก็เลยได้แต่อุทานตามประสาลูกครึ่ง chipหายละกรู
+1 ชอบความเห็นนี้จัง อ่านแล้วฮาดี ^^
ไม่เห็นเกมส์ บน linux ใน stream เลย
ผมเห็นด้วยกับที่เขาวิเคราะห์มาเกือบทั้งหมดครับ
ผมสงสัยว่า MS กำหนดให้มีได้แค่ Store เดียวหรอ? ถ้ามีหลาย Store ได้ผมว่าก็ไม่เห็นมีปัญหา steam ก็ยังเป็น steam อยู่ อีกอย่างผมว่ามี Store ของวินโดส์ผมว่าดีซะอีกจะได้รู้ว่ามีโปรแกรมอะไรในตลาดมั่ง ไม่งั้นจะใช้โปรแกรมอะไรทีนั่งหากันแย่เลยแถมไม่รู้ตัวไหนดีกว่ากันอีก
รอ sp1 ออกก่อนถึงจะใช้ตามเดิม
Mac ก็มี App Store ของตัวเอง Steam ก็ยังอยู่ได้เลย
ก้อต้องไปดูสัดส่วนผู้ใช้.. ถ้าสัดส่วนมันนิดหน่อยก้อคงไม่ค่อยอนาทรนักหรอก
ใช้ ubuntu ตลอด ยกเว้นพิมพ์งาน เพราะที่ทำงานใช้ วินโดวน์
ทำลายยอดขาย Surface แต่ก็จริงนะ มันเป็นเหตุผลประกอบเรื่อง Surface กับ OEM ได้ดีเลยทีเีดียว
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ฮึ...เกมบนลินุกซ์ ขอให้ AMD กับ nVidia ยอมทำไดรเวอร์เจ๋งๆ สำหรับมันก่อนเถอะ ค่อยคุยกัน
ที่เค้ายังไม่ทำให้เพราะสัญญาอนุญาตที่เป็นระบบเปิด หากินไม่ได้ อิ อิ
หรือว่าค่ายเกมจะทำไดรเวอร์เอง ;)
สรุปว่า .... มันยากสำหรับผมนะ
เปลีย่นมาใช้อันเดิมดีกว่า
ผมจะได้ไม่ต้องเปลีย่นอะไรมาก