เนื่องจากผมได้เห็นหลาย ๆ คนได้พูดถึงประเด็นเรื่องของผลกระทบจากการที่ Apple เปลี่ยนพอร์ตเชื่อมต่อจากแบบ 30-pin เป็น Lightning จึงขอนำบทความที่เขียนลงในบล็อกของผม ซึ่งเป็นการมองการเปลี่ยนแปลงนี้ในมุมของทางผู้ผลิตอุปกรณ์เสริม มาแชร์เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันครับ
หลายคนคงไม่ปฎิเสธว่า iPhone คือสมาร์ทโฟนที่มีอุปกรณ์เสริมเยอะและหลากหลายที่สุด เรามักจะเจออุปกรณ์เสริมแปลก ๆ ที่เพิ่มความสามารถที่คาดไม่ถึงให้กับ iPhone อยู่เสมอ
เมื่อคืน Apple ได้เปิดตัว iPhone 5 และ iPod รุ่นใหม่ ซึ่งนอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงสเปก รูปร่างหน้าตาแล้ว ยังได้เปลี่ยนพอร์ตเชื่อมต่อใหม่จาก 30-pin เป็น Lightning ที่มีขนาดเล็กลงกว่าเดิม วันนี้เราจะไปดูกันว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมอย่างไรบ้าง
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับพอร์ต 30-pin กันอีกครั้ง พอร์ต 30-pin หรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่า Dock Connector เป็นพอร์ตเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ สำหรับ iPod iPhone และ iPad ซึ่งในพอร์ต 30-pin นั้นจะประกอบไปด้วยขาสำหรับการส่งสัญญาณต่าง ๆ เช่น สัญญาณวิดีโอ สัญญาณเสียง ขาสำหรับสื่อสารกับอุปกรณ์อื่น (iPod out) รวมทั้งขาสำหรับการรับส่งข้อมูลของ USB และ FireWire สำหรับ iPod รุ่นเก่า ๆ อีกด้วย
เพื่อจะทำให้ตัวพอร์ตเชื่อมต่อมีขนาดเล็กลง Apple จึงทำการตัดขาที่ไม่ได้ใช้งานออกไปจนเหลือเพียง 9 ขาเท่านั้น ขาที่โดนตัดทิ้งไปนั้นคือส่วนที่ใช้ในการส่งสัญญาณวิดีโอ ขาสำหรับ iPod out และ FireWire ที่ตายไปพร้อมกับ iPod รุ่นเก่า ๆ
การตัดขาเหล่านี้ออกไปย่อมส่งผลกับอุปกรณ์หลาย ๆ ตัวที่ใช้งานขาเหล่านี้ในการทำงาน เช่น เครื่องเสียงในรถยนต์ที่อาศัย iPod out ในการให้เรากดค้นหาเพลงผ่านเครื่องเสียงได้เหมือนเรากดจากบน iDevice เอง ก็จะไม่สามารถทำงานได้ ถึงแม้ว่า Apple จะออกหัวแปลงออกมาก็ตาม แต่ก็ระบุชัดเจนว่าไม่สามารถใช้งานส่งสัญญาณวิดีโอ iPod out และเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมบางตัวได้
ซึ่งดูจากความตั้งใจของ Apple แล้ว คิดว่าการเชื่อมต่อต่าง ๆ คงเป็นไปตามลักษณะนี้
สังเกตว่าในการเชื่อมต่อต่าง ๆ นั้นจะมีในส่วนการเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วย ซึ่งก็ตรงกับยุทธศาสตร์ของทาง Apple ที่ต้องการจะเน้นในเรื่องนี้ ซึ่งผมเองเชื่อว่า ถ้าไม่ติดเรื่องว่าต้องชาร์จแบตเตอรี่ ก็คงจะตัดพอร์ตเชื่อมต่อทิ้งไปเลย
ผมคิดว่าในมุมมองของทางฝั่งผู้ผลิตนั้นก็คงเห็นยุทธศาสตร์ตรงนี้ของ Apple เช่นกัน จึงทำให้เราเห็นเหล่าลำโพงและเครื่องเสียงต่าง ๆ ที่ออกมาในปีนี้หลาย ๆ ตัว จะรองรับระบบ AirPlay มาเลย และร้าน Apple Store เองตอนนี้ก็จะขายลำโพงที่รองรับการเชื่อมต่อผ่าน AirPlay หรือ Bluetooth ในร้านของตัวเองเท่านั้น เพื่อเป็นการบีบให้ผู้ผลิตเครื่องเสียงต้องทำอุปกรณ์ที่รองรับ AirPlay ออกมา
ส่วนอุปกรณ์เสริมหมวดอื่น ๆ นั้น อาจจะได้รับผลกระทบบ้างก็จริง แต่อุปกรณ์ที่ออกมาแล้วจึงยังสามารถใช้งานได้กับ iPhone และ iPod touch รุ่นที่ใช้พอร์ต 30-pin ที่ยังมีการจัดจำหน่ายอยู่ได้ อย่างไรก็ตามทิศทางการออกอุปกรณ์เสริมเหล่านี้ในอนาคตก็คงจะหันไปใช้การเชื่อมต่อแบบไร้สาย เช่น Bluetooth กันมากขึ้นแทน ส่วนอุปกรณ์ที่ยังต้องใช้ความเร็วและความเสถียรในการเชื่อมต่อ เช่น อุปกรณ์อัดเสียง ก็คงยังต้องใช้การเชื่อมต่อผ่าน Lightning ต่อไป ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ส่วนมากใช้การเชื่อมต่อแบบ USB จึงไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนพอร์ตแบบใหม่สักเท่าไร ผู้ใช้แค่ซื้อสาย USB เส้นใหม่เท่านั้นเอง
อีกกลุ่มหนึ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือส่วนการขายปลีก ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีนโยบายในการป้องกันตัวเองจากการเปลี่ยนแปลงกะทันหันแบบนี้จากทาง Apple อยู่แล้ว โดยส่วนมากบริษัทพวกนี้จะสต๊อกสินค้าให้พอขายเพียงประมาณ 2 เดือนเท่านั้น เราจึงมักจะเจอว่าในช่วงที่สินค้า Apple รุ่นใหม่จะออกมา เราจะหาอุปกรณ์เสริม เช่น เคส ฟิล์มกันรอยลำบาก แต่ก็แลกกับว่าได้สินค้าในราคาที่ถูกลงมาก และในปีนี้ผู้นำเข้าเครื่องเสียงหลาย ๆ เจ้าก็พากันโล๊ะลำโพงที่เชื่อมต่อผ่านพอร์ต 30-pin แบบถูก ๆ กันอยู่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นส่วนขายปลีกจะได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้มากสักเท่าไร แต่ถึงจะมีปัญหาก็ยังสามารถที่จะพูดคุยกับทางผู้ผลิตเพื่อหาทางแก้ไขปัญหานี้ได้
สรุปแล้ว การที่ Apple หันมาใช้ Lightning แทนพอร์ต 30-pin แบบเก่า ผู้ใช้นั้นได้รับผลกระทบเต็ม ๆ โดยเฉพาะผู้ที่ใช้งาน iDevice ที่ลงทุนกับ ecosystem ในส่วนของอุปกรณ์เสริมเอาไว้ สำหรับผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมแล้ว นี้คือโอกาสทองในการที่จะได้ขายสินค้าใหม่ ๆ ของตัวเองให้กับผู้ใช้เหล่านั้น สังเกตว่าหลาย ๆ บริษัททราบถึงการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ล่วงหน้ากว่าข่าวลือของ iPhone 5 ที่ค่อย ๆ หลุดมาให้พวกเรารู้ซะอีก
สุดท้ายแล้วผู้ได้ในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ก็ยังคงเป็น Apple อยู่ดี ที่จะกินอิ่มนอนหลับจากค่าลิขสิทธิ์และค่าชิปเซ็ต AirPlay ที่ขายให้เหล่าบริษัทผลิตอุปกรณ์เสริมนั้นเอง
Comments
ในเว็บ apple บอก
แบบนี้ ก็ต้อง AirPlay ลูกเดียวหรอครับ ถึงจะออกภาพไปจอนอกได้ งง จัง
เฉพาะสาย Composite Video, Component Video และอุปกรณ์เสริมเก่า เช่น พวกลำโพงหรือฐานวางที่มี Video out ครับ
ส่วนสาย Video out แบบ Lightning คงรอไปปเปิดตัวกับ iPad ตัวถัดไปเหมือนคราวที่แล้วครับ
My life and hobbies blog!
Technology and Gadget blog!
สายใหม่คงออกแต่ Digital หมดเลยซินะครับ
ได้เวลาขาย apple tv ละ
รอช้อนลำโพง 30pin ถูกๆ iPod Classic จะได้มีที่วางบ้าง หลังจากอยู่ในกล่องมานาน
ชอบตรงสลับบนล่างได้ครับ ไม่ต้องหมุน 180 องศา 360 องศากลับไปกลับมา
มันก็ใช้ได้สำหรับอุปกรณ์ของ Apple, ยี่ห้ออื่นๆก็ใช้มาตรฐาน Micro USB ซึ่งมันก็สามารถยืมใช้แทนกันได้
ได้ยินชื่อตอนแรก นึกว่าจะรองรับ Thunderbolt แต่สรุปว่า รองรับแค่ USB2.0 ใช่มั้ยครับ ?
ผมว่า 2.0 ก็คงพอแล้วล่ะครับ
Dream high, work hard.
ผมว่า USB 3 ก็ดีนะ เวลา Sync เพลง ก็นานอยู่
USB 3.0 ใช้ 9pin ครับ คิดว่าไม่น่าจะรองรับแน่ ๆ
ถึงรองรับ Thunderbolt แต่ความสามารถในการเขียนลง chip
ของ iPhone มันก็ได้แค่ไม่กี่ MB/s อยู่ดีแหละครับ
ผมว่าคงต้องเล่นแร่แปลธาตุประมาณนึงเลยนะ ถ้าจะเอาให้ใช้ Thunderbolt ได้ คงไม่ใช่รองรับตรง ๆ แหง ๆ เพราะว่าลำพังสาย DisplayPort ก็มีตั้ง 20 pin
แต่ก็นะ สาย DisplayPort ก็เป็นสาย Active อยู่แล้ว คงมีวิธีใช้ชิพควบคุมได้มั้ง ?
ง่ายที่สุดคือแถม Adaptor มาให้ มันคงไม่แพงใช่มั้ย?
หัวแปลงราคา 1090 บาทครับ
http://store.apple.com/th/product/MD823ZM/A/lightning-to-30-pin-adapter?fnode=48
My life and hobbies blog!
Technology and Gadget blog!
แพงแฮะ รอพี่จีนร้อยนึงดีกว่า
ถึงบอกไง หากินทางลัดกับตัว Adaptor
ถึงแม้จะหากินกับของใหม่แล้ว แต่ของเก่าอย่าคิดว่าจะหนีพ้น ยังหากินได้อยู่ ฮา
แถมมาพร้อม iPhone 5 ครับ
ได้ความรู้ดีครับ ขอบคุณมาก
ถ้า USB3 ทำพอร์ตเนี๊ยบๆแบบนี้จะดูดีกับโทรศัพน์มากมาก
สะดุดตรง iPod Out ไม่มีแล้วนี่แหละ
แล้วจากนั้นก็ลบความคิดจะซื้อ iPod ตัวใหม่ออกจากหัว
เพราะต้องเอาไปต่อเป็นโหมด iPod Control ในเครื่องเสียงรถด้วย
มี upgrade Firmware เครื่องเสียงออกมารองรับเดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที
iPod out ไม่มีแล้วรถที่เสียบฟังได้ก็คือเงิบหมด?
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
ฟังได้แต่คุมไม่ได้ครับ ต้องจิ้มที่ device เองตรงๆ
Dream high, work hard.
น่าจะมีสถานะเท่าเห็นเป็น USB อันนึง เวลาควบคุมต้องคุมที่ iPod ตรงๆเลย
แต่ผมว่าปัญหานี้อัพ Firmware เครื่องเสียงน่าจะแก้ได้
อีกหน่อยอาจมี Siri ในการเปลี่ยนเพลง
ไม่ต้องมี Siri ก็สั่งเปลี่ยนเพลงได้ครับ ผมใช้ฟังก์ชั่นเกี่ยวกับเพลงอยู่บ่อยๆ ใน iPhone 4
Siri ก็สั่งเปลี่ยนเพลงได้อยู่แล้วไม่ใช่หรือครับ?
Dream high, work hard.
ใช่ครับ Siri สั่งเปลี่ยนเพลง เล่นเพลง หยุดเพลงได้ ตั้งแต่วันแรกของการเปิดตัว 4s ครับ
ผมหมายถึงเครื่องที่ไม่มี iPod Out แล้วไม่มี Siri สิครับ ... เพราะ iPod nano gen ใหม่สุด เป็น Lightning นี่ครับ
เดี๋ยวนี้ eco car ก็มี bluetooth ละฮะ
เดี๋ยวนี้ sync ก็เริ่มใช้แต่ wifi-sync แทนแล้วเหมือนกัน
ยุทธศาสตร์ไร้สายของ Apple 0
แต่ sync ผ่าน wifi มันช้ามากจนน่ารำคาญ จนต้องลุกไปหยิบสายมาเสียบ แค่ลงแอพ 2-3 ตัวแค่นั้น
กระทันหัน => กะทันหัน
ไม่มากสักเท่าไร
เห็นหัวนี้แล้ว รักเลย
ทั้งเครื่องเนี้ยผมชอบหูฟังกับสายมันเนี้ยแหละแค่นั้นจริงๆแต่ซื้อไมไม่แน่นนะอาจจะโดนแต่ช้าหน่อยเท่านั้นแหละ
หัวนี้เทพจริงอะไรจริง บวกกับ iPod Touch อ๊าาาาา ฟิน (อีกรอบ)
Coder | Designer | Thinker | Blogger
รีบซื้อของเก่าๆ :D
สรุปคือ ต้องการให้ไร้สายให้ได้มากที่สุดงั้นเรอะ!!
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
Apple เปลี่ยนพอร์ตเชื่อมต่อจากแบบ 30-pin "ดี" ตรงที่ พวกอุปรณ์เสริมต่างๆ ลำโพง, ของเล่น ฯลฯ ยังใช้แบบเดิมอาจจะทำให้ราคาลดลงมาด้วยก็เป็นได้
ตอนนี้ สามารถ ม้วนสายเก็บรวมกับเครื่องโดยไม่ต้องกลัวเหลี่ยมพอร์ตขูดหน้าจอเป็นรอยแล้ว
+1
มันดีตรงที่ไม่สร้างรอยนี่ละ ปิดไฟยัดๆได้สบายเลย
ได้เวลาซื้ออุปกรณ์ 30pin ละ อิอิ.. :-p
พวกอุปกรณ์ที่ติดมากับรถยนต์แย่เลย
พวก D/A converter แลลพกพาน่าจะบูมตามไปด้วยนะ