Marc Benioff ซีอีโอ Salesforce.com ได้กล่าวในงานสัมมนาของ Salesforce.com ชื่อ Cloudforce ว่า Windows 8 ควรจะเป็นจุดสิ้นสุดของระบบปฏิบัติการสำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลจากไมโครซอฟท์ เนื่องจากเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายที่ก้าวหน้าอย่าง LTE ทำให้ลดความจำเป็นของเครือข่าย WAN และ LAN [เสริมโดยผู้เขียนลง Blognone การลดความจำเป็นของ WAN และ LAN ที่อยู่ระหว่างคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและอินเทอร์เน็ตหมายถึงลดความจำเป็นของเซิร์ฟเวอร์ หรือนั่นคือระบบปฏิบัติการที่ต้องใช้ดูแลเครือข่ายนั่นเอง] และแอพเพื่อการใช้งานด้านธุรกิจได้ถูกย้ายขึ้นไปให้บริการผ่านกลุ่มเมฆ (cloud) มากขึ้นเรื่อยๆ ระบบปฏิบัติการ Windows จึงไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นอีกต่อไป แต่ Benioff ก็ยอมรับว่า ณ วันนี้เรายังไปไม่ถึงจุดนั้น
นอกจากการคาดการณ์จุดจบของ Windows แล้ว Benioff ยังกล่าวว่าบริษัทพยายามอย่างต่อเนื่องที่กลายเป็น "the customer company" ในมุมที่เวนเดอร์สามารถให้เครื่องมือและบริการเพื่อเชื่อมต่อบริษัทต่างๆ กับลูกค้าของพวกเขาได้โดยตรง
นอกจาก Salesforce.com จะมุ่งเน้นการให้บริการสำหรับงานด้านการขาย การตลาด และการทำงานร่วมกันแล้ว บริษัทยังได้เริ่มให้บริการด้านงานทรัพยากรมนุษย์ โดยการเปิดตัว Work.com หรือบริการเพื่อบริหารจัดการประสิทธิภาพของพนักงาน และบริษัทยังได้ร่วมมือกับเวนเดอร์ที่ให้บริการด้าน ERP บนกลุ่มเมฆอีกด้วย แต่ Benioff ก็ยังเน้นว่าบริษัทต้องการเป็นผู้นำบริการสำหรับงานหน้าบ้าน (front-office) มากกว่า
เช่นเคย ไมโครซอฟท์ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อคำพูดของ Benioff
ที่มา: Computerworld.com
Comments
แรงจริงอะไรจริง ตัดสินชะตาคนอื่นเขาแบบนี้ ว่าแต่ Tablet นี่ถือเป็นคอมพิ้วเท่อส่วนบุคคลด้วยรึเปล่า
ส่วนตัวผมถือว่าเป็นนะครับ ทุกวันนี้ tablet smartphone ก็ใช้ทำงานได้แล้วครับ
ไม่ได้กวรนะครับแต่อยากทราบว่า เป็นงานประเภทไหนบ้างครับ
ประมาณ office เช็คเมลล์ ระบบ workflow ที่เขียนผ่านเว็บ หรือถ้า app ไม่ support จริงก็ลองหา XenApp ของ Citrix มาช่วยดูครับ
tablet เจองาน word, excel หนักๆเข้าไปก็อืดแล้วครับ แล้วงานสำนักงานใช้ word, excel เป็นหลักด้วย
สำหรับผู้ที่ต้องทำงานจริงจังก็ต้องพึ่งคอมพิวเตอร์อยู่ดี tablet จะได้ตลาดเดิมที่ต้องการเล่นแบบไม่จริงจัง (เวลาผมออกไปนอกบ้านเอา notebook+tablet ไปถ้าต้องการทำงานเร็วๆอย่าง ssh เข้าไปแก้เครื่องที่กำลังจะล่ม ผมก็ไม่หยิบ tablet ออกมาอยู่ดี พิมพ์ notebook ความคล่องตัวมีมากกว่า) แล้วก็อีกกลุ่มน่าจะเป็นตลาดใหม่อย่าง เด็กๆ กับคนแก่ ที่มีเวลามากๆครับ (เหมือนแม่ผม)
+1 คนมันตามเทคโนโลยีไม่ทัน
มันคือ ณ.ปัจจุบัน แต่บทความนี้มันพูดถึงอนาคตยุคหลัง win8 หน่ะ ถึงตอนนั้น tablet น่าจะ spec กระฉูดบินได้แล้ว ความต้องการ pc os ก็จะลดลง
อย่ามองแค่ฟังก์ชั่นงานของตัวเองกับคนที่ทำ Customize รีพอร์ทครับ ลองนึกถึงฟังก์ชั่นของเซลขายสินค้า ผู้บริหารระดับสูง พวกนี้ ทำแค่เปิดอ่าน ส่งต่อ พรีเซนต์สินค้า หรือใช้ App เฉพาะทาง การให้ Notebook กับคนกลุ่มนี้ อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว
เช่น
พนักงานขายใช้แค่ Tablet ก็พอแล้ว เพราะใช้รับส่งคำสั่งซื้อ เช็คดีลราคาขาย เช็คยอดขาย ผ่าน App พรีเซนต์สินค้าด้วยอี e-Catalogue ส่วนการทำรีพอร์ทเยี่ยมลูกค้า เบิกจ่ายเงิน ลาหยุด ประเมินผล ต่างๆ ก็ทำผ่านเว็บได้
ผู้บริหารที่ต้องเช็คเมล์หรือรีพอร์ทด่วนขณะเดินทาง ถ้าใช้ Tablet สามารถเปิดอ่านได้ทันทีเมื่อมี Notification แจ้งเตือน เดินไปช้อปไปก็อ่านได้ ไม่ต้องรอบู๊ทเครื่อง Login ต่อเชื่อม WiFi หรือ Mobile สั่ง Connect VPN และเปิด Outlook เพื่อเช็คดูว่ามีเมล์ใหม่มั้ย
ปล.บริษัทต้องพร้อมระบบหลังบ้านด้วย
cloud app, Web app ไม่โหลดเึครื่องมากเท่า App ปรกติในเครื่อง
ยิ่งถ้าใช้หลักการเดียวกับ remote desktop, terminal service คือใช้เครื่อง server/cloud ประมวลผลให้แล้วคอยแต่ส่งผลมาที่ Client ยิ่งสบายบรื๋อ ไม่ต้องสเปคเครื่องอนาคตเลย ปัจจุบันก็สบายๆ
ถ้าจะติด ก็แค่เรื่องความเร็วในการเชื่อมต่อ อนาคตเป็น 4G ก็สบายแฮ
ก็รอดูยอดขาย ละกัน ว่าจะรุ่งหรือร่วง
ขายของรึเปล่า?
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
เขาลืมประเทศโลกที่ 3 ไปรึเปล่า?
ออฟฟิศผม พนักงานประมาณ 300 คน ตอนนี้ไม่มี server แล้วครับ ทุกอย่างอยู่ที่ data center ในต่างประเทศ
เน็ตดาวน์ที ก็แทบไม่ต้องทำงานกันเลย
เพิ่มเน็ตอีกเส้น backup สิครับ เน็ตก็ไม่แพงมากแล้วครับ
หมายถึงดาวน์ที่ต่างประเทศอ่ะครับ ส่วนเน็ตเส้นที่ใช้อยู่ก็แพงมากเพราะต้องใช้แบบ International Private Line (โดนเมืองนอกบังคับ เพื่อความปลอดภัย) เวลาใช้เน็ต ก็ต้องไปเข้าออกผ่าน Proxy ที่ต่างประเทศ จะส่งเมล์ให้เพื่อนโต๊ะข้างๆ อีเมล์ก็จะต้องวิ่งไปที่ต่างประเทศก่อนแล้วค่อยวิ่งกลับมาที่ไทย
ปล.ลืมไปว่ายังมี Server เหลืออยู่ในไทยอีกหนึ่ง คือ File Server แต่ถ้าโดนย้ายไปด้วยคงแย่แน่ๆ ลองคำนวนเล่นๆ ว่าเมือก่อนเรามี Server อะไรบ้างในแต่ละสาขาในประเทศต่างๆ หลักๆ เช่น Mail Server, BI Server, ERP Server, File Server ประมาณ 4 ตัว ปัจจุบันยุบ 3 ตัวไปรวมอยู่ที่ Data Center ของแต่ละทวีป หรือคิดเป็นยุบไป 75% ถ้าบริษัท Top 500 Company ทำแบบนี้หมด รายได้ของ MS และผู้ผลิต Server จะหายไปขนาดไหน แล้วถ้าต่อไป Application เฉพาะทางต่างๆ สามารถใช้บนเว็บหรือทำเป็น Native App บน Tablet ได้ 100% ส่วนแบ่งของ Windows จะต้องลดลงแน่ๆ เช่น เครื่องสำหรับพนักงานขาย เปลี่ยนไปใช้ Tablet แทน Notebook จะเกิดอะไรขึ้นกับส่วนแบ่งของ Windows และผู้ผลิต Notebook ถ้าพนักงานขายมีจำนวนมากถึง 50% ของพนักงานทั้งหมด
+1
ตัวอย่างนี้ ทำให้มองภาพได้เลยนะเนี่ย
พูดแมวๆ แบบนี้สงสัยอยากโดนคีย์บอร์ดฟาด
กำลังจะอิมพลีเม้น กูเกิ้ลแอพ อยู่เหมือนกัน อาจจะพูดถูกสักครึ่งนึง
แรงอะ (แต่เห็นด้วยที่ MS กำลังมีปัญหา รอดูยอดขาย surface)
แรงอ่ะ
นี่ประมูล 3G ไทยป่าวเนี่ย
ออกมาโจมตี MS กันจังเลย
ดูเหมือนเป็นคำพยากรณ์ที่น่าเชื่อถือ แต่...
เป็นการยกตนข่มท่านโดยแท้ เพราะตัวเองเป็นคลาวด์จึงต้องตอกย้ำภาพคลาวด์ ว่าเป็นอนาคต ใครที่เลือกใช้บริการคลาวด์ จึงเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง
ที่ต้องข่ม เพราะ 1. บริการ Salesforce.com ไม่จำเป็นต้องพึงพา Windows ขอเพียงมี Browser ก็พอ ดังนั้นผู้ใช้งานอาจใจ Safari หรืออื่นๆ 2. Microsoft เป็นคู่แข่ง CRM ของ Salesforce.com โดยตรง ทั้ง Microsoft Dynamic CRM ที่หายใจรดต้นคอ Salesforce.com และ Microsoft Dynamic CRM Online ที่ Microsoft พยายามผลักดัน
ดังนั้นสิ่งที่พูดคือ การทำให้ภาพ Microsoft ตกต่ำแต่ยกภาพตัวเองให้ดูดีขึ้น....แต่ก็เข้าใจนะ การแข่งขั้นทางธุรกิจก็แบบนี้แหละ
+1 ผมมีโปรแกรมให้ลูกค้าเลือก ระหว่างแบบเก่ากับ web app ที่มีข้อมูลบน cloud / SME ไทยส่วนใหญ่ยังไม่กล้าเอาข้อมูลไปไว้ที่อื่นครับกลัวกันสารพัด ในไทยถ้า cloud จะเกิดได้ น่าจะอีกนาน
ประเด็นเรื่อง Security กับ Cloud นี่ว่ายาวแหละครับ ต่างคนต่างมีเหตุผลของตัวเอง
โดยเฉพาะงานระดับ Enterprise ข้อมูลบางอย่างที่ confidential มากๆเช่น HR data นี่ไม่ต้องในไทยหรอกครับ ตปท.ก็กลัวไม่กล้าเอาขึ้น Cloud เหมือนกัน
salesforce.com ไม่เคยได้ยินเว็ปนี้มาก่อนแฮะ
ผมว่าดังมากเลยนะ
ขอให้จริง รอดูยุคที่ว่ามาหลายปีละ
offline ทีก็ไม่ต้องทำอะไรกินละ
แหมนาย ไม่มี internet ก็ง่อยสิครับท่าน บางประเทศยังไม่มี 3G ที่ใช้ได้เต็มปากเต็มคำเลย -.-"
มั่นใจว่าระบบราชการไทยจะไม่ใช้กลุ่มเมฆ
เขานำร่องทดสอบไปแล้วครับ
เงิบ แถมข่าวตั้งแต่มกราฯ แล้ว
ผมอาจคิดไปเองคนเดียวก็ได้ว่า Windows , Xbox และ Windows Phone ถึงจะแพ้ศึกย่อยอยู่บ้าง แต่จะชนะสงครามในที่สุด
แหม ออกตัวล้อฟรีเลยนะ 5555
ผมเชื่อนะ.. บริษัทผลิตตัวเครื่อง PC ที่ต้องพึ่ง MS ที่ก่อนหน้าออกแถลงคอเป็นเอ็นว่า ไม่มีทางๆ
เดี๋ยวนี้เป็นไงหละ ยอมรับกันเสียงอ่อยทีเดียว.. (เพราะยอดขายมันฟ้องตัวมันเอง)
ผมเห็นว่าโลกมันเปลี่ยนผ่านเทคโนฯเร็วกว่าเดิม มากขึ้นๆ แต่ที่มันยังช้าอยู่เนี่ย เพราะ "คน" ที่ยังยึดติดกับโลกเก่ามากกว่า
Who Moved My Cheese?
ว่าไปเรื่อย ทีมพัฒนาเขากำลังซุ่มทำ Win ๙ กันแล้ว นายมันจะไปรู้อะไร -*-
ยังหรอกไม่ใช่เร็ว ๆ นี้หรอก ผมว่าสัก Windows 11 นะ
อีกนานอ่ะผมว่า
ในอนาคตดูจะเป็นเช่นนั้น แต่คงไม่ใช่เร็ววันนี้หรอก
อ่านข่าวนี้แล้วปรี้ดดดดดดดดด ผมว่าก่อนเขาจะมาพูดเนี่ย กลับบ้านไปแก้บั๊คของเขาให้หมดก่อนเถอะ ทำงาน Interface เข้า SafeForce ทุกวันนี้เจอแต่บั๊คกระจายยย มีให้แก้กันทุกวันนน เหะ เหะ เหะ
ถึงมันจะจริง ผมกล้าพูดว่า SaleForce ณ.วันนี้จะไม้ใช่ 1 ในบริษัทที่ทำ Cloud service และสำเร็จได้แน่นอน
เดียวนี้เค้าไปทำงานกันบนก้อนเมฆแล้วเหรอ ผมยังนั่งทำในออฟฟิศอยู่เลย
:D
[Blog ZeroEngine] [@ZeroEngines]
เขาน่าจะหมายถึงว่า ทำออกมา ก็ ไม่คุ้ม ค่า
ปัจจัยอะไรที่ตอ้ง เปลี่ยน บอ่ยๆๆ
เปลี่ยน เพราะต้องการ เิงินเข้ากระเป๋า เปล่า
น่าจะมี บท ลงโทษ ที่ บังคับทางอ้อมให้ ลูกค้าต้องเปลี่ยน windows
ถ้าไม่ขาย version เก่า ก็ ให้ทุกคนใช้ฟรี
ผมเจอลูกค้าส่วนใหญ่มา ไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยน windows
H/d เสีย ก็ ซื้อเครื่องมาใหม่ ลง windows ตัวเดิม
อะไร ๆ ก็ Cloud เนี้ย เป้น Marketing Message โดนแท้ครับ
คุณจะใช้ Cloud แต่บนนั้นก็ต้องมี OS ด้วย ไม่ใช่ Windows ก็ต้องใช้ Linux
Cloud มันแค่เส้นบะหมี่ ไม่ถึงกับเป็นมาม่า คุณต้องเอามาปรุงก่อน ถึงจะกินได้
แต่ถ้าเป็นมาม่า ก็ต้องแบบพวก Salesforce ก็ต้องกิน "รสชาติ" ที่เค้าปรุงแล้วให้ได้ด้วยนะ
เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องของการปรับตัวเข้ายุคสมัยแล้ว ว่าใครปรับตัวได้ก่อนก็อยู่รอดไป
Server กับ Client ยังไงก็ไม่ตาย แต่มันจะเปลี่ยนไปเป็นแบบไหนเท่านั้นแหละ
ดังนั้น Windows 8 ยังไงก็ไม่ใช่สุดท้ายของ Microsoft ครับ
ยิ่งมองเจ้าตลาด PC เช่น Apple แล้ว
ถ้า PC ไม่จำเป็นจริง ๆ Apple ก็คงเลิกออก Macbook เหลือแต่ iPad ไปนานแล้วครับ
(ผมมองว่า Macbook ก็เป็น PC แบบนึงที่ใช้ OS เป็น Mac OS X เท่านั้นเอง)
seeking for New Frontier...
แล้ว tablet มันไม่ต้องใช้ OS หรือครับ? Windows 8 Pro & RT นี่ต้องเรียกได้ว่าไมโครซอฟท์ปรับตัวเร็วจนแทบจะเร็วกว่ายุคสมัยแล้วนะ
แนวทางนี้แบบเดียวกับพี่กูเกิลเลยนิ ถ้าโครมออสไปรอด อันนี้ก็ไม่เห็นจะย่ำแย่ตรงไหน
SaleForce ไม่เคยรู้จักแหะ -*- เป็นบริษัทเล็กๆ หรือเปล่าครับ
สำหรับผู้ใช้ตามบ้าน ไม่เกี่ยวครับ 55+
ที่เค้าพูดก็เป็นไปได้นะ เพราะถึงวันนั้น MS จะออก OS ใหม่ชื่อ Microsoft Cloud Server
เค้าพูดเหมือน MS จะอยู่เฉยๆ ยังไงเสียเมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าไป มันก็ต้องมี software มาจัดการเทคโนโลยีอีกทีอยู่ดี
สำหรับการขายโดยแท้จริงแล้ว อุปกรณ์ที่ใช้ในการขายดีที่สุดคือ
กระดาษ.
no server
no client
no datacenter
no admin
no software support
no software report
no powered
no skill
no cost
reliablity
low cost
ทั้งหมดนี้ จะเป็นความจริงถ้าคุณจะไปเสนอขายอะไรสักอย่าง การขายสินค้าหลายอย่างที่มีมูลค่าสูงหลายล้าน ย้ำว่าหลายล้าน การ Present ด้วยคนดีที่สุด จบการขายด้วยกระดาษ ลงนามมีผลผูกมัดเอาไปยันไปในศาลได้
ถึงตอนนั้น เราก็คงได้ใช้ Windows ที่เหมาะกับยุคนั้นๆ แหละคับ...