Tags:
Node Thumbnail

Dany Qumsiyeh หนึ่งในทีมวิศวกรของ Google คิดประดิษฐ์เครื่องสแกนหนังสืออัตโนมัติแบบใหม่ขึ้นมาใช้งานเอง ด้วยต้นทุนที่ถูกกว่าอุปกรณ์สแกนเนอร์แบบเดิมๆ โดยมีส่วนประกอบหลัก ก็คือ สแกนเนอร์, รางสไลด์หนังสือ และเครื่องดูดฝุ่น

Qumsiyeh เป็นวิศวกรในทีม Google Books โดยเขาอาศัยช่วง 20% ของเวลาทำงานที่ Google เปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนใช้เวลาดังกล่าวในการพัฒนาโครงการ หรือเฟ้นหาไอเดียสำหรับนวัตกรรมใหม่ๆ มาประดิษฐ์เครื่องสแกนหนังสืออัตโนมัตินี้ด้วยต้นทุนแค่ 1,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 46,000 บาท)

สิ่งทีทำให้ต้นทุนการประดิษฐ์ถูกมากเป็นเพราะกลไกการพลิกหน้าหนังสือของเครื่องสแกนแบบใหม่นี้ใช้แรงดูดจากเครื่องดูดฝุ่นมาทำงาน แทนการใช้แขนกลที่ต้องเคลื่อนที่อย่างแม่นยำแบบเครื่องสแกนทั่วไปซึ่งมีราคาสูงลิบลิ่ว

สิ่งที่น่าสนใจอีกประการคือเครื่องสแกนหนังสือนี้ได้รับการจดสิทธิบัตรแบบเปิด ซึ่งหมายความว่าใครใครก็สามารถประดิษฐ์เลียนแบบได้ หรือแม้กระทั่งผลิตเป็นสินค้าเพื่อวางขายก็ทำได้เช่นกัน นับได้ว่าเป็นความใจกว้างแบบสุดๆ ของผู้พัฒนา

เครื่องสแกนหนังสืออัตโนมัติของ Qumsiyeh ใช้การสไลด์หนังสือไปตามรางที่มีเครื่องสแกนเอกสารอยู่ข้างใต้ โดยหัวใจหลักของเครื่องสแกนหนังสืออัตโนมัตินี้ คือการพลิกหน้าหนังสือโดยอาศัยแรงดูดจากเครื่องดูดฝุ่นคอยดูดแผ่นกระดาษให้เปิดไปทีละหน้า ทั้งนี้เครื่องสแกนของ Qumsiyeh สามารถสแกนหนังสือกว่า 1,000 หน้าได้เสร็จภายในเวลาประมาณ 90 นาทีเท่านั้น

สามารถรับชมวิดีโอการนำเสนอเครื่องสแกนเนอร์แบบใหม่นี้ได้ด้านล่าง (ช่วงสาธิตการทำงานของเครื่องเริ่มที่ 03:35)

ที่มา - [The Verge](http://www.theverge.com/2012/11/13/3639016/google-books-scanner-vacuum-diy)

Get latest news from Blognone

Comments

By: -Rookies-
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 14 November 2012 - 03:34 #505893

เห็นแล้วต้องอุทานว่า "เหยดดดด คิดได้ไงเนี่ย"

ชาบู ๆ


เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!

By: super_lw
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 14 November 2012 - 06:38 #505901
super_lw's picture

พี่แกจะผอมไปไหน

ว่าแต่ วิศวกรกูเกิลนี่ใช้เวลาว่างชิลๆ คิดอะไรได้ขนาดนี้เชียว ส่วนของเรา 20% ของเวลางานคือแอบเล่นเฟส 555+


Educational Technician

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 14 November 2012 - 07:31 #505907 Reply to:505901
mr_tawan's picture

มันไม่ใช่เวลาว่างแบบนั้นครับ 

มันเป็นแบบว่า เป็นโปรเจคที่ต้องยื่นขอ ต้องมีคนควบคุมดูแลอะไรแบบนี้เลย ถ้าจำไม่ผิดนะ


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: bi89
ContributorUbuntuWindows
on 14 November 2012 - 12:30 #506058 Reply to:505901
bi89's picture

20% เอาไปทำโปรเจคที่ชอบครับ ก็คือทำงานนั้นหล่ะครับ ไม่ใช่เล่นได้ครับ

By: Thai.hacker
ContributoriPhoneAndroidUbuntu
on 14 November 2012 - 08:30 #505920
Thai.hacker's picture

รอมานานแล้ว เคยคิดจะสั่งของ atiz มาใช้แต่ถามราคาแล้วแพงมากเลยถอย


ไม่มีลายเซ็น

By: handtevada on 14 November 2012 - 08:31 #505921
handtevada's picture

ราคาต้นทุนนี่รวมค่าเครื่องดูดฝุ่นหรือยังอ่ะครับ

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 14 November 2012 - 09:37 #505953 Reply to:505921
hisoft's picture

น่าจะรวมแล้วนะครับ ดูจากลักษณะเครื่องดูดฝุ่นน่าจะใช้พวกเรื่องเป่า/ดูดลมแทนได้ด้วย ต่อให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นแท้ ๆ ก็น่าจะใช้แบบถูก ๆ ได้ด้วย

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 14 November 2012 - 13:29 #506077 Reply to:505953
put4558350's picture

... เครื่องดูดฝุ่นจะต้องมีช่องปล่อยลมออกอยู่แล้วครับ ถ้าเป็นการ mod ก็ไม่น่าจะยาก


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: banky118
iPhone
on 14 November 2012 - 09:17 #505941
banky118's picture

อ่านหัวข้อนึกว่า April's Fool Day

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 14 November 2012 - 09:36 #505951
hisoft's picture
  • สามารถการสแกนหนังสือ

น่าจะตัดคำว่าการออกหรือเปล่าครับ?

แต่ไอเดียเจ๋งมาก ๆ ดู ๆ แล้วเหมือนจะยังเร่งความเร็วตอนเลื่อนหนังสือกับระยะทางเลื่อนได้อีกเพราะเหมือนจะมีการเลื่อนเกินไปเยอะอยู่

ทั้งนี้ทั้งนั้น ตอนทำเครื่องถัด ๆ ไปไม่น่าแพงขนาดนั้นแล้วด้วย (- -)d

By: tekkasit
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 14 November 2012 - 11:11 #506006 Reply to:505951
tekkasit's picture

ท่าจะไม่ง่ายขนาดนั้นครับ เพราะช่วงถามตอบตอนท้าย มีคนชี้ประเด็นนี้เหมือนกัน

แต่วิศวกรบอกว่า ที่เห็นด้านฝั่งผู้ชมที่ดูเหมือนว่างๆนั้น จริงๆแล้วมันมีด้านที่ไม่เห็นเป็นส่วนที่พลิกหน้าจากตรงกลาง (ตำแหน่งหกนาฬิกา) ไปจนถึงอีกฝั่งของเล่มครับ

แต่ไอเดียนี่บรรเจิดมาก ถ้านำไปต่อยอดปรับปรุงให้อัตราทำหน้าหนังสือยับเยินให้ดีกว่านี้ได้น่าจะทำตลาดได้ดีทีเดียว (45% จาก 50 เล่มเยิน)

By: lingjaidee
ContributoriPhoneAndroid
on 14 November 2012 - 09:42 #505956
lingjaidee's picture

ที่อ่านแล้วชื่นชมที่สุดคือ เจตนากับสิทธิบัตรแบบเปิดนี่แหล่ะ เต็มใจให้ยืนบนบ่าเพื่อพัฒนาต่อยอดไปได้เลย ;)


my blog

By: neonicus
Android
on 14 November 2012 - 09:45 #505958

ผมว่าที่ว่าใจกว้างน่าจะเป็นgoogleรึเปล่า
เพราะอันนี้googleจ่ายค่าแรงนะ แบบประมาณว่าทำงานวันละ8ชั่วโมง จ่ายค่าแรง8ชั่วโมง
แต่ทำแค่โปรเจคท์หลักของgoogle6ชั่วโมงต่อวัน 2ชั่วโมงโปรเจคท์นอกซึ่งgoogleก็จ่ายอยู่ดี
มันเป็นassetของgoogle

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 14 November 2012 - 14:58 #506104 Reply to:505958
mr_tawan's picture

คิดง่าย ๆ คือ มาทำงาน 5 วัน ทำงานหลักสี่วัน ทำโปรเจค 1 วันครับ

ถ้าลองย้อนกลับไปดูมีโปรเจคมากมายที่พัฒนาขึ้นมาถึงขั้นเป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัท ... เช่น ... (ถ้าจำไม่ผิด) GMail เป็นต้น


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: ตะโร่งโต้ง
WriterAndroidWindows
on 14 November 2012 - 15:05 #506106 Reply to:506104
ตะโร่งโต้ง's picture

ใน The Verge ที่มาของข่าว มีคนคอมเมนท์ว่า Google Maps ก็เริ่มต้นจากตรงนี้เหมือนกันครับ


ช่างไฟสมัครเล่น (- -")

By: sunback
Contributor
on 14 November 2012 - 17:28 #506179 Reply to:506106
sunback's picture

กูเกิลแมปส์ผมจำได้ว่ากูเกิลซื้อบ. คีย์โฮลมานะครับ

By: neonicus
Android
on 14 November 2012 - 15:50 #506125 Reply to:505958

2 ใน 8 มัน 25% นี่หว่า ทำไมคิดได้ผิดอย่างน่าเกลียด

แต่ก็ตามที่บอก มันคือทรัพย์สินของgoogle ไม่ใช่พนักงาน

By: xpress
iPhoneWindows PhoneAndroid
on 14 November 2012 - 10:46 #505989

ไอเดียดี แต่สงสัยครับมีอะไรรับประกันได้ว่าหนังสือจะไม่เสียหายตอนตอนเครื่องพลิกหน้าหนังสือแล้วเลื่อนไปมา

By: ตะโร่งโต้ง
WriterAndroidWindows
on 14 November 2012 - 11:16 #506014 Reply to:505989
ตะโร่งโต้ง's picture

ผมก็มองว่ายังมีจุดอ่อนตรงนี้เหมือนกัน
แต่หากพัฒนากันจริงจัง และทดสอบมากพอ อาจมีการกำหนดไปเลยก็ได้ว่าเครื่องแบบนี้เหมาะกับการสแกนหนังสือขนาดเท่าไหร่, กระดาษกี่แกรม, จำนวนกี่หน้า

ซึ่งแม้ว่าการกำหนดในลักษณะนั้น ถือได้ว่าไม่ครอบคลุมการใช้งานกับหนังสือทุกประเทภอย่างสมบูรณ์ แต่ผู้ใช้งานบางกลุ่มก็อาจมองว่าเพียงพอต่อความต้องการแล้วก็เป็นได้นะครับ


ช่างไฟสมัครเล่น (- -")

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 14 November 2012 - 14:56 #506103 Reply to:505989
mr_tawan's picture

ไม่มีอะไรรับประกันครับ สำหรับหนังสือที่มีค่ามาก ๆ ก็ควรใช้มือพลิกตามปรกติ

แต่ถ้าเป็นหนังสือที่แค่เก่ามาก ๆ จนไม่มีต้นฉบับดิจิตอล แต่มีจำนวนมากอยู่ (เช่นแบบเรียนเก่า ๆ อายุสัก 10 ปี) ผมว่ามีอัตราเสียสูงหน่อย (อาจจะสัก 5%-10%) ก็น่าจะยอมรับได้อยู่นะ

อันนี้เป็นแค่ต้นแบบ 45% ผมว่าก็ไม่เลวนะ ยังปรับปรุงได้อีก


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: xenogew
ContributorAndroidWindows
on 14 November 2012 - 12:38 #506023
xenogew's picture

เหยด เจ๋งอ่า

อ่านเรื่องนี้แล้วนึกถึงเรื่อง รัสเซียใช้ดินสอ แทนปากกาในอวกาศเลยแหะ

ป.ล. ว่าแต่ เพิ่งเคยเห็น Username ภาษาไทยใน Blognone แหะ

By: wiennat
Writer
on 14 November 2012 - 16:05 #506134 Reply to:506023

เรื่องนั้นที่มักโดนตัดจบตรงที่ว่านาซ่าเสียเงินไปเยอะแต่รัสเซียใช้ดินสอแทนน่ะเหรอครับ


onedd.net

By: FeiZio
ContributorAndroidWindows
on 14 November 2012 - 17:30 #506181 Reply to:506023
FeiZio's picture

That is a hoax. Carbon in pencil is cause of fire.

By: xenogew
ContributorAndroidWindows
on 16 November 2012 - 19:06 #507332 Reply to:506181
xenogew's picture

I knew it, but this story remind me that.

By: tekkasit
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 14 November 2012 - 17:54 #506190 Reply to:506023
tekkasit's picture

จริงๆ ทั้งคู่ใช้ดินสอธรรมดาตั้งแต่เริ่มโครงการ แต่เพราะดินสอไม้ ต้องเหลาเกิดขี้ดินสอไม้ซึ่งไหม้ไฟได้ และการใช้งานก็อาจเกิดใส้ดินสอหักซึ่งสามารถทำให้เกิดการลัดวงจรได้ อเมริกาภายหลังเลยเปลี่ยนมาใช้ดินสอกด แต่ก็ยังมีเศษอนุภาคกราฟไฟต์ซึ่งมีความเสี่ยงให้ลัดวงจรได้

แต่เมื่อบริษัทเอกชนวิจัยปากกาอวกาศขึ้นเอง โดยไม่ได้รับเงินทุนจากใคร บริษัทก็เสนอให้ NASA ลองใช้ แต่สุดท้ายทั้งอเมริกาและรัสเซียก็ซื้อทั้งคู่

By: Sabrekun on 14 November 2012 - 12:44 #506063
Sabrekun's picture

/me หันไปมองข่าว Patent Troll ที่อยู่ข้างล่างและหน้าก่อนๆ

/me หันกลับมาปรบมือให้ผู้คิดค้นนวัตกรรม ^ ^)/

By: myx
iPhoneAndroidRed HatWindows
on 14 November 2012 - 13:55 #506091

すごい

By: CrazyPower
iPhoneBlackberryRed HatIn Love
on 14 November 2012 - 17:12 #506168
CrazyPower's picture

อย่าเผลอเอาเครื่องดูดฝุ่นมาดูดกระปู๋ละกัน ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕

By: ginhub
ContributoriPhoneWindows
on 15 November 2012 - 20:51 #506795

ที่เกิดจาก 20% แล้วใช้กันมาถึงทุกวันนี้ ฮิตๆ ก็ Google News