แอปเปิลยังคงลุยจดสิทธิบัตรอย่างต่อเนื่องไม่หยุดไม่หย่อนเลยครับ ล่าสุดที่จดไปคือสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับเอฟเฟคการเปลี่ยนหน้ากระดาษครับ
โดยสิทธิบัตรตัวนี้แอปเปิลขอจดเอาไว้เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว แต่เพิ่งจะได้รับอนุมัติเมื่อไม่กี่วันมานี้ครับ รายละเอียดของมันก็คือเป็นเอฟเฟคสำหรับการเปลี่ยนหน้าหนังสือ E-book ที่เราเห็นกันประจำนั่นแหละครับ โดยที่การเปลี่ยนหน้ากระดาษนั้นจะตอบสนองกับนิ้วของเราด้วยอย่างเช่นถ้าเลื่อนเร็วๆ หน้ากระดาษก็จะวิ่งอย่างเร็ว แต่ถ้าเลื่อนช้าๆ หน้ากระดาษก็จะติดนิ้วเราไปนั่นเองครับ
รายละเอียดนอกเหนือจากนั้นก็ดูได้จากที่มาครับ
ที่มา - USPTO, New York Times
Comments
เอาแล้วไง โดนกันเยอะแน่ -*-
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
ยินดีด้วย
What da F****
เซ็งมากเลย
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เอฟเฟคการเปลี่ยนหน้ากระดาษมันมีมาตั้งนานก่อนที่จะมี ios อีกไม่ใช่เรอะ
ถ้ายังเอาเอฟเฟคมาจดได้กันแบบนี้ อีกหน่อยคงมีการเอา css มาจดกันมั่ง
เอฟเฟคเปลี่ยนหน้ากระดาษมันมีมาก่อนจริงครับ แต่อันนี้พิเศษกว่าตรงที่มันตอบสนองไวตามนิ้ว แต่ก่อนมันแค่กดเปิดแล้วมันก็พลิกหน้ากระดาษให้
ต่อไปแอพอื่นพลิกหน้ากระดาษก็ต้องใช้แบบธรรมดาแล้วล่ะครับ
ใน flash มีมาตั้งนานแล้วครับ เลื่อนช้ากระดาษก็พลิกช้า เลื่อนเร็วก็พลิกเร็ว งง กับระบบสิทธิบัตรจริงๆ
แล้วใช้นิ้วจิ้มหรือเปล่าครับ ??? เ่ท่าที่เคยเห็นสมัยก่อนไอโฟนนี่ ใช้เมาส์นะฮะ
แล้วถ้าเอาแฟลชชิ้นนั้นมาเปิดในวินโดว์แทบเล็ตละครับ? เม้าส์ในวินโดว์แท็บเล็ตนี่นับเป็นใช้นิ้วทัชได้รึป่าวครับ?
อ่วย ไปอ่านเม้นนี้ดีๆก่อน เขาพูดถึง Flash สมัยก่อน
วินโดว์แทบเล็ตมีมานานแล้วครับตั้งแต่สมัย xp แต่ไม่ได้รับความนิยม
เห็นเม้นล่างๆคุณบอกว่า เขาไม่ได้จดว่าใช้นิ้วนิครับ คุณบอกว่าเขาจดที่การเลื่อนของกระดาษที่ไปตามนิ้ว (หรือผมอ่านไม่ดีหว่า หึหึ)
.
ก็ถูกแล้วไงครับเลื่อนไปตามนิ้ว ไม่ใช่เลื่อนไปตามเมาส์รนิ
ช่วยไม่ได้นะครับ ไม่ยอมจดไว้ก่อน
เวร
ปล่อยผ่านได้ไง เอฟเฟคท์สามัญอย่างนี้
เดี๋ยวก็โดนฟ้องให้โมฆะอยู่ดีครับ ถ้าพิสูจน์ได้ว่ามีคนเคยใช้ก่อน
แต่สิทธิบัตรนี้มันครอบคลุมแค่ในสหรัฐฯเท่านั้นรึเปล่าครับ
หรือผมเข้าใจผิด?
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
ถูกต้องครับ เฉพาะสหรัฐ แต่ถ้าหากนำสิ่งที่เราทำ (ที่ดันตรงกับสิทธิ์บัตรนั้น) ก็โดนฟ้องได้ครับ
บอกได้คำเดียวว่า ซวย ฮะ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ถ้าเป็นคนคิดคนแรกจริงๆจะจดก็ไม่ผิดนี่ครับ
ถ้าคิดคนแรกจริงๆนะ
ละเฮีย เพลียใจ
อีกหน่อยแค่ใบไม้ร่วงก็คงต้องจดสิทธิบัตร
+500
จะจดอะไรนักหนา ขนาดใช้ mac ก็ไม่เห็นจะมีนวัตกรรมอะไรมากมาย สงสัยเอาไว้ฟ้องคนอื่น
เคยเห็นรูปแบบนี้มานานก่อนจะมีไอโฟนเสียอีก ถ้าให้ยื่นจดได้จริงๆนี่แสดงว่าระบบสิทธิบัตรสหรัฐกลายเป็นจุดอ่อนของการสร้างนวัตกรรมแล้วล่ะ
พวกฝรั่ง มันเป็นพวกฉวยโอกาส ขโมยใครได้ก็ขโมย ผมเห็นมีหลายกรณีละ ที่พวกฝรั่งมันเอาภูมิปัญญาชาวบ้านของแต่ละประเทศไปจดสิทธิบัตรเป็นของตนเอง มันจะมีวิธีแก้เผ็ดพวกฝรั่งมังค่าผมนี้อย่างไรบ้างเนี่ยะ
ป.ล. ข้าวหอมมะลิไทยและรถตุ๊กตุ๊กไทยก็โดนฝรั่งมันขโมยไปจดสิทธิบัตรละ นี่เห็นว่าแกงเขียวหวานไก่ก็กำลังจะโดนอีก มันเกินไปละต่อไปนี่สงสัยจะโดนฝรั่งมันขโมยไปจดหมดแน่ๆ แล้วก็มาเรียกร้องค่าเสียหายจากสิทธิบัตรขี้ฉ้อจากชาวบ้านที่คิดอีก
โอ้..ว แกงเขียวหวานไก่ แล้วจะกินอะไรกันล่ะทีนี้ ต่อไปก็ ส้มตำ, ต้มยำกุ้ง, มัสมั่นไก่ (ต่อไปกินอาหารคงต้องจ่ายค่า สิทธิบัตรกันเลยรึ)
ข้าวหอมมะลิ สิทธิบัตรเป็นของสวทช. แกงเขียวหวาน สิทธิบัตรเป็นของม.เกษตร ส่วนรถตุ๊กตุ๊ก คนไทยไม่ได้ประดิษฐ์ ที่มีอยู่อย่างทุกวันนี้ก็เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นบริจาคให้ ส่วนชื่อตุ๊กตุ๊กนี่ไม่ใช่สิทธิบัตรแต่เป็น"เครื่องหมายการค้า" แต่ก็เถอะถึงจะจดสิทธิบัตรไปก็ใช่ว่าจะขายได้ เกาะบริติชที่ไม่ฝนตกก็มีพายุ กำบังลมยังสำคัญอยู่เสมอ
แล้วก็อย่ามองประเทศแบบ stereotype สิครับ แต่ละคนไม่เหมือนกัน เขาว่ากันว่าภายในจิตใจคนเป็นอย่างไร มักจะมองภายนอกแบบเดียวกันนะครับ :)
แกงเขียวหวานเคยถูกยื่นขอจดสิทธิบัตรในประเทศสหรัฐอเมริกาโดย ดร.นภาวรรณ นพรัตนราภรณ์ แห่งสถาบันวิจัยและพัฒนาแห่ง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อปี พ.ศ. 2546
หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญสำหรับขอจดสิทธิบัตรคือต้องไม่เป็นที่รู้จักอยู่ก่อนหน้านี้ แต่เนื่องจากสูตรแกงเขียวหวานนั้นเป็นที่รู้จักกันอยู่ก่อนแล้วจึงขาดองค์ประกอบสำหรับจดสิทธิบัตรในสหรัฐฯ ทำให้ถูกปฏิเสธการรับจดสิทธิบัตร และในที่สุดการยื่นขอจดสิทธิบัตรก็ถูกทิ้งร้างเนื่องจากผู้ยื่นไม่ได้ยื่นชี้แจงใดๆ อีกจนพ้นกำหนดไปเมื่อ 14 กันยายน 2549
(สามารถดาวน์โหลดไฟล์ข้อมูลของ USPTO Public PAIR data ได้ที่ http://goo.gl/41qBx)
อย่างไรก็ตาม ที่เคยมีข่าวลือว่ามีเชฟชาวต่างชาติชื่อ จอห์น สตีเฟน เมเยอร์ เป็นผู้ยื่นขอจดสิทธิบัตรแกงเขียวหวานนั้น ปัจจุบันยังไม่ทราบชัดว่าเขาเป็นใคร
ที่มา: Matra Law
สิ่งที่เป็นเรื่องพื้นๆแบบนี้สามารถจดจนได้สิทธิ์กันได้เลยหรือครับ
ถ้าเกิดจดได้แล้วคนไทยที่เปิดร้านอาหารไทยจะทำยังไง ผมว่าถ้าศาลฉลาดพอก็น่าจะรู้ว่ามันอยู่ในกลุ่มของอาหารที่แทบจะประจำชาติไปอยู่แล้ว ในแง่ที่ใครๆก็กิน ยิ่งร้านข้าวแกง80%ต้องมีแน่ๆ
ดูธรรมดาสามัญ ไปน่ะครับ สิทธิบัตรใบนี้
เฮ้อ อยากจะเห็นหน้าคนที่ให้ผ่านยิ่งนัก ทำอะไรต่อไปนี้คงจะเหนื่อยกว่าเดิม แต่คิดในอีกแง่มันก็ช่วยให้เราถูก Force ให้คิดค้นอะไรใหม่ๆ แต่บางที การคิดค้นอะไรใหม่ๆมันก็เหนื่อยและยังมีโอกาสที่จะออกมาแย่กว่าเดิม
ไอ้การจดสิทธิบัตรดะไปหมด แถมยัอยากให้ผ่านได้ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่นวัตกรรม มันก็งี่เง่าที่สุดเลยนะ กรมทรัพย์สินทางปัญญา USA ให้ผ่านได้ไงล่ะหนิ มันเอาอะไรคิด หรือมันฮั้วกันฟะ
มันมีมาตั้งแต่สมัย Flash แล้วไม่ใช่เรอะ ... การเปิดหน้ากระดาษแบบ Catalog ออนไลน์ที่ช่วงนั้นฮิตทำกันเหลือเกิน แล้วก็โคตรกระตุก
อ่านแล้วเพลีย อ่านข่าวให้แตกฉานก่อนเม้นมั่งเหอะครับ เค้าบอกว่า การเปลี่ยนหน้ากระดาษนั้นจะตอบสนองกับนิ้วของเราด้วยอย่างเช่นถ้าเลื่อนเร็วๆ หน้ากระดาษก็จะวิ่งอย่างเร็ว แต่ถ้าเลื่อนช้าๆ หน้ากระดาษก็จะติดนิ้วเราไปนั่นเองครับ ถามว่า flash สามารถทำได้หรอ?? สมัยนั้นเอานิ้วจิ้มได้ว่างั้น ตลกเนอะ
คุณแน่ใจเหรอครับว่าแฟลชทำไม่ได้? แล้วสมัยนั้นแน่ใจเหรอครับว่าไม่มีอุปกรณ์ที่runวินโดว์แล้วใช้นิวทัชได้?
มีจริง และใช้นิ้วเลื่อนเปลี่ยนหน้าได้จริงครับ notebook จอสัมผัสของ fujitsu
โลกข้างนอกสวยนะครับ ออกมาเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง
ได้เปิด patent อ่านรึยังครับว่าเค้าจดสิทธิบัตรอะไร หรืออ่านแค่เนื้อข่าวที่แปล
ที่เค้าจดคือ "The ornamental design for a display screen or portion thereof with animated-graphical user interface" จดการแสดงผลครับ ไม่ใช่จดการทำงานด้วยพอยท์เตอร์ใดเฉพาะ จะใช้นิ้ว ใช้ปากกา ใช้เมาส์ ไม่เกี่ยว แล้วแบบนี้แฟลชก็ทำได้มานานแล้ว(โน้ตบุ๊คจอทัชสกรีนที่ใช้นิ้วเป็นพอยนท์เตอร์แทนเมาส์ก็ออกมานานแล้วเช่นกัน)
ก่อนจะดูถูกคนอื่นเอาให้ชัวร์ก่อน ยังไม่มั่นใจว่าเจ๋งจริงอย่าพึ่งออกตัวแรงครับ
คุณจะว่าเขาไหมที่เขาว่าคนสักแต่เม้น หากรู้ว่าเขาต้องรีบอ่านรีบเม้นเพราะต้องรีบไล่ด่าความเห็นถัดๆไป
ยืนยันอีกเสียงครับ flash มีมานานแล้ว ศัพท์ทางการเราเรียกกันว่า flippage
ถ้าเมาส์ลากแล้วปล่อยมันก็พลิกไปเลยแต่ถ้ากดค้างก็ติดเมาส์ การให้พลิกช้าหรือเร็วโค้ดคุมได้อยู่แล้ว
มาอยู่บนแทปเลต เมาส์กับนิ้วก็คือสิ่งเดียวกันครับ
สนับสนุนครับ จดทุกอย่างไปเลยครับอย่าให้เล็ดรอดแม้แต่นิดเดียว ผู้ผลิตแอพฯรายอื่นๆจะได้สร้างนวัตกรรมใหม่ๆในการทัชเปลี่ยนหน้ากระดาษเช่น ใช้ ลิ้น ข้อศอก ปลายจมูก เพื่อเปลี่ยนหน้าและเอฟเฟคตามอวัยวะต่างๆที่ใช้ทัช ต้องขอบคุณแอปเปิ้ลจริงๆกับการจดสิทธิบัตรชิ้นนี้ โลกจะมีนวัตกรรมใหม่ๆในการเปลี่ยนหน้ากระดาษเพราะคุณจริงๆ
ฮ่วย!! เค้าไม่ได้จดว่าเอานิ้วทัช ไปอ่านข่าวให้เข้าใจก่อนครับ ไม่ใช่สักๆแต่จะเม้น - -"
ผมว่าผมพูดถึงการเปลี่ยนหน้าและเอฟเฟคด้วยนะครับ ถึงยกตัวอย่างเช่นใช้อวัยวะอื่นๆเพื่อที่จะทัชแล้วสร้างเอฟเฟคใหม่ๆ แล้วผมก็ไม่ได้"พิมพ์"สักนิดเลยนะครับ ว่าแอปเปิ้ลจดว่าห้ามเอานิ้วทัช
ปล.แต่ผมก็เห็นด้วยกับคุณนะครับที่ว่า "อ่านให้เข้าใจก่อน ไม่ใช่สักๆแต่จะเม้น"
+1 "อ่านให้เข้าใจก่อน ไม่ใช่สักๆแต่จะเม้น"
+1 ครับ p.s. คุณ folkeza น่าจะต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ใน Blognone มากขึ้น
พอรู้ ว่าที่นี่มีแต่พวก Geek เทพๆและเหล่าสาวกเม้นกัน ยูสเซอร์ธรรมดาแบบผมเม้นไม่ได้หรอก 555+ เอาเหอะผมไม่ไปไหนหรอกก็ยังรออ่านข่าวจากพี่ๆเขียนต่อไป แต่บางข่าวอก็เหลืออดเช่นข่าวนี้ ทำอย่างกับ Apple ไปเผาบ้านใครว่างั้น เค้าแค่จดก็ไปด่าไปหมิ่นดูแคลนเค้าและ เค้ายังไม่ได้ไล่ฟ้องใครเลย
ฮาาาา ก็จริงนะครับ ตอนนี้ด่าคนที่ปล่อยให้จดได้ไปก่อนดีกว่า แล้วถ้าเค้าเอาไปฟ้องใครค่อยด่า Apple ก็ยังไม่สาย
ผมว่าคุณไปอ่านที่คุณพิมพ์ใหม่เหอะ ยืนยันคำเดิม "อ่านให้เข้าใจก่อน ไม่ใช่สักๆแต่จะเม้น"
ผ่อนคลายบ้างก็ดีครับ ขำๆ อย่าจริงจังไปขนาดนั้นเลย แอปเปิ้ลก็ไม่ปลื้มหรอก
โอย อ่านแล้วผมฮา XD
Dream high, work hard.
กร๊ากก
ใช้ลิ้นน่าจะเหมาะ (แผลบ!)
ผมหมายถึงอะไรแบบนี้น่ะครับ รอคนนำมาใช้กับการเปลี่ยนหน้ากระดาษเท่านั้นเอง
จะใช้อะไรก็ติดสิทธิบัตรนี้ครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ทำไมหลายๆคนไม่อ่านให้ชัดเจนแตกฉานเสียก่อนก็เม้นและ เท่าที่อ่านมานี่ อคติบังตาแท้ๆ แอฟเปิ้ลทำไรก็ผิดหมด ด่าได้ตลอด ทั้งที่ไม่เข้าใจเนื้อหาของข่าวเลยว่าใจความสำคัญของข่าวนี้คืออะไร ด่าออกทะเลไปเรื่อย
จะบอกว่าคน อคติ อ่านไม่สือ ไม่ .............
ออกตัวปกป้องทุกกรณีนี่ก็ พลาดเรื่องข้อเท็จจริงได้นะครับ
สิทธิบัตรนี้แปลกจริงครับ แต่ถ้าจดเพื่อกันคนอื่นฟ้องก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าใช้ฟ้องคนอื่นนี่แอปเปิ้ลโทรลมากครับ
สิทธิบัตรเค้าให้จดไว้ฟ้องอยู่แล้วหนิ ถ้าคนฟ้องผิดจะมีสิทธิบัตรทำไม
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เอาไว้กันพวกจดไล่ฟ้องกินนิ่มตลอดไงครับ มีสิทธิบัตรไม่ได้หมายความต้องไล่ฟ้องเขาไปทั่ว โดยเฉพาะสิทธิบัตรที่มันออกจะสามัญแบบใครๆก็ควรจะทำออกมาได้แบบนี้
ถ้ามันสามัญก็ไม่ควรให้จด เมื่อจดได้ผ่านกระบวนการพิจารณาได้ก็ควรต้องให้ฟ้อง ไม่งั้นจะแยกยังไงว่าสิทธิบัตรไหนใช้ฟ้องคนอื่นได้หรือไม่ได้ แล้วแบบป้องกันตัวนี่คือแบบไหน ต้องโดนฟ้องก่อน? โดนลอกก่อนฟ้องไม่ได้? หรือต้องโดนลอกแบบไหนถึงจะฟ้องได้ ก็ฟ้องไปแล้วให้คนกลางเป็นคนตัดสินไม่ถูกยังไง
ผมว่ากรณีนี้มันอยู่ที่กฏเกณฑ์ที่พิจารณามากกว่าว่าแบบไหนควรให้จดได้ไม่ได้ อายุเท่าไหร่
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
มีดาบไว้ในมือ ถ้าไม่ไล่ฟันใครก็โอเคนะครับ แต่ที่ผ่านๆมา Apple ทำตัวไม่ค่อยน่ารักซะด้วยสิ ถึงได้โดนวิจารณ์ขนาดนี้
จดได้ฟ้องได้ แล้วก็โดนด่าได้ครับ ไม่มีผลทางกฏหมาย แค่แสดงความไม่เห็นด้วยกับการกระทำเท่านั้นเอง
กล้าทำต้องกล้ารับผลของการกระทำครับ คุยกันดี ๆ ได้ไม่คุยเน้นฟ้อง ผลลัพท์ยังไงก็ดูไม่ดีทั้งสองฝ่ายอยู่แล้ว
เอาง่ายๆสิทธิบัตรนี้ไม่ว่าใครก็ไม่น่าจะควรจดได้ครับในความคิดผม
แต่ apple ก็มีบ้างที่โดนเบียดเบียนจากพวกหวังกินนิ่ม เช่นไอ้บริษัทจีนที่ขู่ว่าจะฟ้องทันทีที่ไอโฟนห้าออก
ฉะนั้น apple จะจดไว้เผื่อสำหรับป้องกันตัวเองภายหลังก็ดี แต่ในความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ควรจะได้สิทธิบัตรนี้ไปด้วยซ้ำ
ถ้าได้ไปแล้วไม่เอาไปไล่ฟ้องใครก็พอทน แต่ถ้าได้ไปแล้วไปไล่ฟ้องคนอื่น มันก็ควรโดนด่าทั้งแอปเปิ้ลและ ฝ่ายให้จดสิทํิบัตรนั่นแหละ
เหมือนผมจดสิทธิบัตรวิธีการอ่านอีบุ๊กด้วยตา ใครทำออกมาเอ็งโดนแน่ มันดูน่าทุเรศ
ทำแฟลชอีบุ๊กส์มานานเห็นไอ้แบบที่ว่ามานานละ ตอนที่เห็นแอพของแอปเปิ้ลก็ยังเคยแอบคิด เออดีแฮะทำเอฟเฟกต์เหมือนกันด้วย แต่มาอ่านข่าวนี้เลยงงเลยว่าจดได้ด้วยเหรอ คนอื่นเขาทำใช้กันมาตั้งนานละ
ไม่จำเป็นต้องฟ้องก็ได้นี้ครับคุยกันตกลงกันก็ได้ ไม่ใช่เรามีสิทธิบัตรอยู่ก็ต้องรีบฟ้องไปทุกเรื่อง บริษัทที่ทำอย่างนั้นจะโดนเรียกว่า Troll เอาน่ะครับ
หุ้นตกเหรอครับ ขำๆ
อนาคตคงได้เห็น apple จอสิทธิบัตรแบบ ใช้กระจกทำจอ-คีร์บอร์ดสีดำ-ตัวเครื่องทำจากโลหะ-ทัสกรีนโดยใช้นิ้ว อะไรอีกดีอ่ะ 55555 ถ้าเจ้าอื่นทำตามนี้โดน 555555
ถึงจะเห็นว่ามันเกินไป แต่ส่วนตัวแอบฮาคอมเม้นนี้เบาๆ XD
ผมก็คิดนะครับ แต่ไม่กล้าพิมพ์ เจ้าที่แรง ห้าๆ
ไม่แน่เขาอาจจะยื่นไปแล้ว อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา....ก็ เป็น ได้
1) เปิดข่าวได้น่ากลัวมาก เพราะแอปเปิลไม่ได้ลุุยไล่จดตอนนี้ (อาจจะทำอยู่ แต่ไม่เกี่ยวกับข่าว) เพราะกว่าจะตรวจสิทธิบัตรได้ว่าซ้ำหรือเปล่าก็ล่อไปเป็นปี ถ้าบอกว่าที่ลุยๆ จดไว้นานแล้วได้รับอนุมัติมาเป็นชุดๆ พร้อมๆ กันยังเข้าใจอยู่
2) พวกคอมเมนต์ที่บอกว่าฮั้วกันรึเปล่า .......
....
น่าจะจด การหายใจเข้า-หายใจออก ไปด้วยนะครับ
ที่มาของข่าวบอกว่า "The patent to own the page turn was just one of 38 patents granted to Apple this week"
.. เยอะจัง
แต่ที่แน่ๆ HTC รอด Moto ก็น่าจะรอดด้วย
C'mon ppl, United States Patent and Trademark Office still uses QuickTime as their image viewer. There have to be some connection between the two.
Opp?
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ก็ว่ากันไป
เดี๋ยวไปจดสิทธิบัตรถ้าเปิดapp ที่มีคุณสมบัตินี้แล้วเป่าลมก็จะพลิกหน้าเร็วกว่านิ้วปัด
"blow wind fast page turn"
อันนี้เจ๋งอะ อย่าลืมรีบไปจดนะครับ
เป็นสิทธิบัตรที่น่าเกลียดมาก
ผมไม่มีปัญหากับ Apple นะถ้าเค้าคิดค้นอะไรใหม่ๆขึ้นมาเค้าควรจะได้รับสิทธิ์ แต่เอฟเฟคแบบนี้ก็เห็นกันมานานแล้ว ก็ยังกล้ายื่นจด แบบนี้เอฟเฟคทรานซิตชั่นสไลด์โชว์ของรูปก็จดได้หมดสิ =_=
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
อันนี้แบบ flash >> http://www.perfectfools.com/book/
อันนี้ของ silverlight ปี 2008 >> http://www.wintellect.com/cs/blogs/jprosise/archive/2008/10/29/page-turn-framework-updated-for-silverlight-2.aspx
โอ้ แม่เจ้า!
ไม่ใช่ของตัวเองนี่ เอาไปได้ไง
รักนะคะคนดีของฉัน
จำเป็นต้องสงวนไว้ให้สาวกครับ เพราะสาวกต้องการนวัตกรรมอะไรล้ำๆ ในทุกการออกรุ่น ถ้าผมเป็นศาสดาผมก็จะทำนะ
เพราะเดวนี้ apple มันเริ่มออกลายตั้งแต่ ศาสดาท่านสิ้น ไงครับ จดแล้วเอาไปฟ้องคนอื่นเขาหรือจดเพื่อป้องกันตัวเอง อันนี้รู้ๆกันอยู่ 55555
สนุกทุกคอมเมนต์
+100
เอ่อ ทำไมต้องไปเดือดร้อนแทนบริษัทไหน ฝ่ายไหนด้วยละเนี่ย งง
ที่จดดะมันก็มีมูลมาตั้งแต่โดน Creative เปิดสงครามแล้วครับ ส่วนจะจดไว้แล้วทำยังไงต่อก็คงต้องดูกันต่อไป
...+1