Patrick B. Gibson อดีตพนักงานของแอปเปิลที่เคยร่วมทีม iPad เขียนบล็อกแนะนำให้แอปเปิลซื้อกิจการทวิตเตอร์เพื่อแก้ปัญหาเรื่องบริการออนไลน์ที่แอปเปิลไม่ค่อยเก่งนัก
เขาบอกว่าปัญหาใหญ่ของแอปเปิลตอนนี้คือ "คู่แข่งสำคัญ" อย่างกูเกิลสามารถพัฒนาตัวเองเรื่องดีไซน์ได้รวดเร็วกว่าที่แอปเปิลเองจะแก้ปัญหาเรื่องบริการออนไลน์
เขายกกรณีอย่าง .Mac, MobileMe, iCloud ว่าแอปเปิลไม่ประสบความสำเร็จมากนัก บริการอย่าง Ping ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง และเทคโนโลยีด้านเว็บของแอปเปิลที่ใช้ WebObjects ก็เก่าและล้าสมัยแล้ว ทำให้แอปเปิลไม่สามารถปรับปรุงหน้าร้านออนไลน์ของตัวเองโดยไม่ต้องปิดเว็บได้
ส่วนกูเกิลและแอนดรอยด์กลับแก้ปัญหาเรื่องดีไซน์ได้อย่างรวดเร็วมาก ถึงแม้แอนดรอยด์จะยังไม่ดูดีเท่ากับ iOS แต่มันดีขึ้นมากในรุ่นหลังๆ ส่วนเรื่องบริการออนไลน์ของกูเกิลแทบไม่มีปัญหาอะไรเลย
เขาจึงเสนอให้แอปเปิลซื้อทวิตเตอร์เพื่อให้แอปเปิลมีบริการ social network ของตัวเอง แถมทีมงานของทวิตเตอร์ยังมีความเชี่ยวชาญเรื่องบริการออนไลน์เป็นอย่างดี มีประสบการณ์รองรับผู้ใช้จำนวนมหาศาล พนักงานและเทคโนโลยีของทวิตเตอร์จะช่วยให้แอปเปิลมีความเข้มแข็งในวงการเว็บมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน ทวิตเตอร์เองกลับมีปัญหาเรื่องรูปแบบการหารายได้ ซึ่งถ้าบริษัทขายกิจการให้แอปเปิลก็จะสามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้เลย
เขาแนะนำให้แอปเปิลรีบซื้อทวิตเตอร์ในเร็วๆ นี้ ก่อนที่ทวิตเตอร์จะใหญ่ขึ้นและเข้าขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะทำให้ราคาแพงขึ้นอีกมาก
ที่มา - Patrick B. Gibson via Business Insider
Comments
ความคิดดีแต่เหมือนสร้างศัตรู/แบ่งฝ่ายเลยว่า Apple ต้อง Twitter ไม่ไช่ Facebook
Facebook คงจะแพงกว่าหลาย ๆ เท่าเลยครับ การเข้าซื้ออาจจะยากกว่า แต่ที่ผ่านมายังไม่เห็น Apple เข้าซื้อกิจการใหญ่ ๆ แบบจริง ๆ จัง ๆ
สงสับเก็บเงินไว้สู้คดี
รู้สึกว่า แอปเปิ้ลจะไม่ซื้อเอง แต่จะตั้ง บริษัทลูก ไล่ซื้ออยู่นะ เป้าหมายคือสิทธิบัตรมากกว่า กิจการ
ถ้า Apple ซื้อ Twitter จริง จะซื้อมาทำอะไรให้มันแตกต่างครับ นึกไม่ออก
ให้ใส่สติกเกอร์ได้แบบ LINE หรอ?
ที่ได้แน่ๆคือองค์ความรู้และประสบการณ์ครับ
ถ้าซื้อ Myspace ผมยังว่าจะเข้าท่ากว่า
ผมชอบเข้านะ Myspace เพลงสนุกดี
ผมว่าแอปเปิลมันคิดอะไรคิขุแบบเนเว่อไม่ได้
ได้สิทธิ์บัตรเจ๋งๆหลายตัวเลย
แต่ผมรู้แค่ตัวเดียวคือ ดึงเพื่อrefreash ซวยหลายค่ายเลยทีนี้
ต้องรีบคิดรีบทำแล้วละ อีกหน่อยเกิดกูเกิลรวมเอา G+ เข้ากับ contact ได้แบบสมบูรณ์แล้วจะตามไม่ทันเอา
เพราะว่า android มาจาก google ที่โตมากับการให้บริการมั้งครับ ?
+1
น่าซื้อทั้ง Twitter ทั้ง Square
@mamuang
เฮ้นายลืมไปแล้วเหรอว่า Google ก็มี Product ที่ล้มเหลวหลายๆ Product เหมือนกัน มันไม่แปลกหรอกที่จะมีของที่รุ่งบ้างร่วงบ้าง
คนที่ไม่เคยทำอะไรเลย คือคนที่ไม่เคยล้มเหลว
จริงครับ ก่อน G+ จะเกิดก็มีทั้ง Buzz ทั้ง Wave
G+ เกิดแล้วเหรอ ?
5555 ร้างเชียว
ของฝรั่งก็มีเยอะพอควรนะครับ (หรือว่า geek ฝั่งนู้นเยอะกว่า geek ฝั่งนี้นะ)
ผมใช้มันเหมือนเป็นทวิตเตอร์ที่รับข่าว official เลย เอาไว้ดูดารา นักกีฬา ประธานาธิบดี แอนดรอยด์ ubuntu
(ส่วนทวิตเตอร์เอาไว้ฟังข่าวซุบซิบนินทา :P)
ฝรั่งที่ผมติดตาม ส่วนมากไม่ใช้ facebook แต่ใช้ G+ ครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ของกูเกิลแป๊กก็เยอะครับ แต่รอดมาได้ก็หลายตัว แต่ของแอปเปิลตามข่าวคือบริการออนไลน์แทบจะแป๊กทุกตัวครับ
ผมว่าเพราะเข็นออกมาเยอะมากซึ่งก็เป็นไปตามความน่าจะเป็นออกมาเยอะปริมาณที่จะรอดก็เยอะกว่า
ดังนั้นถ้าแอปเปิลต้องการเอาดีทางโซเชียลเน็ตเวิร์คหรือบริการออนไลน์ก็ต้องทำเยอะๆ หรือไม่ก็ซื้อเลยตามข่าวไงครับ
ผมว่ากูเกิลมองตัวเองเป็นผู้ให้บริการออนไลน์ เป็นหลักเลยครับ
ยังคิดว่า android นี่จุดประสงค์คือ ส่งเสริมบริการออนไลน์ด้วยซ้ำ ให้คนเข้าถึงมือถือต่อเนตราคาถูก เข้าถึง www.google.com ได้ตลอดเวลา
แล้วจะรอดูนะนาย อิอิ
ได้ไอเดียดีเหมือนกัน ซื้อโลด twitter
แอนดรอยตาม iOS ง่ายกว่า แอปเปิลทำเวป search/map/email ตามกูเกิล
เขายังไม่ได้บอกว่าอยากขายสักหน่อยนะ
Googleมีทุกอย่าง และต่อไปgoogleจะทำทุกอย่างและจะครองโลก=.,=
กลัวอยู่เหมือนกัน ดักตั้งแต่search engine มือถือ wallet ไปจนถึงผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต
ผมว่ามันเป็นปรัชญาเค้าด้วยซ้ำนะ ที่
"จะเอาความรู้ทั่วโลก ที่สามารถค้นหาได้ในอินเตอร์เน็ต มาให้ผู้ใช้ได้อย่างเหมาะสม ถูกต้อง แม่นยำ (รวดเร็ว)"
และถ้าดูแค่ปรัชญา หรือวิสัยทัศน์ มันก็ไม่ใช่แค่จะทำ Search อยู่แล้วครับ แต่ทำทุกอย่าง เพื่อส่งเสริมให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้ และแน่นอนว่า ผ่านทุกอย่างที่เป็น Service ของ Google
เหมือนที่ iOS ดักผู้ใช้เป็นพิกัดเลยทีเดียว
ไล่หลังเหรอ ... เข้าใจผิดมั้ง (ฮา) ผมล้อเล่นนะ
ตัวเครื่องอาจจะไม่ดูดีเท่าก็จริง (และหลาย ๆ รุ่นก็เหมือนกันเกินไปหน่อย) แต่ว่าส่วน UI นี่ความสวยผมว่ากิน iOS ไปหลายขุมนะ (เรื่องความสวยอย่างเดียวนะ ไม่นับลื่น) ผมว่า UI ของ iOS มันเริ่มโบราณแล้ว ออกมากี่ปีแล้วล่ะ? แต่ก็นั่นแหละ ความเห็นส่วนตัว
+1 โบราณจริง
Android มันสวยตรงไหนเนี่ย
สวยกว่าครับ ลองดูมือถือรุ่นทอประดับเดียวกับไอโฟนอย่าง SS3 HTC one x ไรพวกนี้ UI สวยจริงอะไรจริง อย่าดูรุ่นล่างๆ
อย่าติดภาพ 2.3 ครับ อันนั้นมันทื่อจริงๆ ต้องดูธีม 4.0 ขึ้นไปครับ Holo Theme ดูดีขึ้นมาเยอะครับ
http://droidsans.com/android-ICS-won-best-platform-experiece
ก็เพิ่งลง ICS ใหม่ มองไม่เห็นความสวยงามเลยสำหรับผมนะ เซ็งจิต T T
เอา theme Xperia S มาลง CM10
สวยเข้มเลย
4.0 ถึง 4.2 UI มีแต่เส้นๆ กรอบเหลี่ยมๆ หาความสวยไม่เจอ
ผมว่ามันสวยและดูเท่กว่า ios นะครับ
เรื่องแบบนี้แล้วแต่ใครจะชอบ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
+4.2
ตรงที่มันมีหลายแบบมั้งครับ
แต่ละเจ้าก็คนละแบบกัน แต่งเองก็ได้ ยิ่ง setting ของ MIUI นี่สวยโฮก ใช้แล้วไม่กลับไป CM เลย
ส่วนตัวผมรู้สึกว่า iOS ด้วยตัวของมันเองตอนนี้เป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก ต่างกับ Android ที่ตอนนี้ด้วยตัวของมันเองหน้าตาเริ่มน่าใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ปัญหายังอยู่ที่ third-party apps ที่หลายตัวที่ผมใช้ มันยังไม่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่ยุค Android 2.2 (เช่น WhatsApp ด้วย Scroll button ยักษ์นั้น หรือแม้กระท่ัง Evernote)
สรุปตอนนี้ ยากที่จะพูดครับ แต่ถ้าเอาตัวผมเป็นจุดยืน แล้วเลือกเฉพาะ App ที่ผมใช้เป็นประจำส่วนใหญ่เท่านั้น ประสบการณ์ที่ดีกว่ายังคงหาได้จาก iOS ตัวตัดสินใจตอนนี้เป็นคุณภาพของ App มากกว่าตัว OS ที่ไม่ว่าจะใช้ระบบไหนก็ตาม จิ้มๆ 2-3 วันมันก็หมด novelty แล้ว (รวมถึง WP8)
@TonsTweetings
จริง ๆ ต้องบอกว่า Apple ยืนอยู่กับที่ไม่ได้เดินไปไหนมานานมากแล้วครับ UI แห้ง ๆ ทำอะไรไม่ค่อยได้ เวอร์ชั่นใหม่ก็ดูไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ดูเหมือนเดิมมาก ดีอย่างเดียวที่มันเร็ว แต่ผู้ใช้ก็ไม่ค่อยเล่นอะไรเท่าไหร่ (เพราะไม่มีอะไรให้เล่น) เลยไม่รู้สึกอะไร
ผมคิดว่าเค้าอาจจะมองว่าตอนนี้มันไปถึงจุดที่ลงตัวสำหรับการใช้งานบน iOS ณ ช่วงนั้นๆ แล้วก็ได้เลยพุ่งเป้าไปทำอย่างอื่นแทน ส่วนตอนนี้ก็คงต้องรอดูว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างหลังจากการเปลี่ยนแปลงบอร์ดครั้งใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา
คิดเหมือนกันครับ
android สวยกว่า ดีกว่า ยกเว้นเวลาใช้งาน ฮ่าๆ
ทำไมผมใช้ android แล้วรู็สึกหงุดหงิดประจำ จริงๆ อยากเอาข้อดีของสอง OS มารวมกันเลย จบ.
Android สวยจริงครับ ไม่นับเรื่องลื่นนะ
... แต่ตอนนี้ต้องรอดู Jonathan Ive ยกเครื่อง UI ครับ ฮาๆ
เห็นด้วยครับ :)
ผมเคยใช้ตั้งแต่ android 2.2-2.3 รู้สึกว่ามัน geek มาก ชอบเพราะความเปิดของ android แต่ไม่ชอบ UI มันมากๆ เลย และคิดว่า learning curve สูงมาก ถ้าซื้อมือถือให้ผู้สูงอายุใช้ ซื้อ iPhone ไม่ก็อาม่าให้เลยยังจะดีกว่า
แล้วก็มี tablet honeycomb 3.0 ที่เหมือน UI จะดีขึ้นบ้าง แต่ก็ยังรู้สึกว่ามันอยู่ในช่วงพัฒนาอยู่ ยังอีกซักพักกว่าจะสมบูรณ์แบบ
พอมาได้ใช้มือถือ android 4.0 นี่รู้สึกว่ามันเปลี่ยนไปมาก รู้สึกได้ถึงความมีรสนิยมมากขึ้นเยอะ รู้สึกมันใช้ง่าย UI สะอาดตาขึ้น ใช้งานสะดวกขึ้น ส่วนเมนู settings ที่เคยดู geek มากในรุ่น 2.3 ตอนนี้ก็ดีไซน์ดีขึ้นจนไฉไลใช้ง่าย เข้าใจง่าย (แต่ยังคงความ customize แบบ geek ได้เต็มที่เหมือนเดิม มันเจ๋งตรงนี้แหละ) เอฟเฟกต์ต่างๆ ก็ดูดีขึ้น ลื่นไหล (แม้จะไม่เท่า WP กับ iOS ก็ตาม แต่ผมรออัพ 4.1 อาจจะดีขึ้น) สรุปสั้นๆ ว่ามันดูไม่ใช่ OS สำหรับมือถือราคาถูกอีกต่อไป แต่มันยกชั้นขึ้นมาเทียบกับ OS ตัวอื่นได้สบายๆ แล้ว
ใครยังคิดว่า android geek อยู่ นั่นคุณติดภาพมาจาก 2.3 ครับ แต่ไม่ใช่จาก 4.0, 4.1 แน่นอน ตอนนี้เค้าพัฒนาไปเยอะแล้วครับ :)
4.1 นี่เรียกว่า fly high เลยครับ
twitter.com/exfictz
UI ส่วนมากค่ายมือถือก็ครอบทับทั้งนั้นนี่ครับ ตั้งแต่homeไปจนถึงsetting
HTC ก็เยอะเหมือนเดิม samsung ก็รกเหมือนเดิม bloatwareทั้งนั้น ผมไม่ค่อยเห็นความแตกต่างแต่ละตัว ถ้าไม่ลงรอมเอง
android UI นี่แต่ละยี่ห้อมันก็ต่างๆ กันไปนี่ครับ ถ้าจะบอกว่ามันดียังโง้นยังงี้น่าจะตีกรอบลงมาอีกหน่อยว่าของยี่ห้อไหนดี samsung, lg, Sony ฯลฯ
ส่วนตัวผมมองว่า UI ของ droid แท้ๆ มันก็ไม่ต่างอะไรกับ iOS เป็นไอคอนเรียงๆ กันไป แค่ว่าไอคอนเป็นมุม90 หรือมุมมน ส่วนที่โดดเด่นเหมือนจะเป็น Shell ที่แต่ละค่ายทำมาครอบอีกทีมากกว่า ดูๆ ไป ก็เหมือนเอา Windows มาลงโปรแกรมของ Stardock อะไรทำนองนั้น
Holo UI ใน Android 4.X นั่นล่ะครับที่ผมชมว่ามันดีหมด
อย่างแรกก็เรื่องฟอนท์ Roboto ที่ทำให้ UI มันดูดีขึ้นมาก ดูมีรสนิยม สมกับที่ยุคนี้ Typography ช่วยทำให้ UI ดูดีได้อีกเยอะ (ผมใช้เมนูอังกฤษครับ)
ส่วนกราฟิกของ UI ก็ดูเรียบ และชัดเจนขึ้น ดูเท่ขึ้น และไม่ได้ดู geek เหมือนเคย สีฟ้าประจำธีม Holo ก็สวยกว่าตอนที่ใช้สีเขียวใน 2.X แถมการใช้สีพื้นหลังก็เลือกโทนมืดมากขึ้น บวกกับกราฟิกเท่ๆ และสีฟ้าแบบนี้ ดูดีกว่าตอนใช้โทนสีขาว-เทา-ดำในรุ่นเก่า
ไอคอนต่างๆ โดยเฉพาะที่ใช้ใน Settings กลายเป็นไอคอนแบบสองสี ชัดเจนขึ้น แถมดูดีขึ้นด้วย
ที่ว่ามานี้หมายถึง vanilla ICS, JB นะครับ อันนี้เคยใช้ Galaxy nexus แล้วชอบมาก
ส่วนยี่ห้อต่างๆ ที่นำ UI ของตัวเองมาครอบอีกที อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจว่าแต่ละยี่ห้อครอบไปมากแค่ไหน แต่เท่าที่ผมใช้ Sony ที่แม้จะปรับแต่งไปในสไตล์ของตัวเอง แต่มันก็มีกลิ่นอายของ Holo UI ติดอยู่พอสมควร สอดคล้องกับข่าวอื่นๆ ที่แต่ละยี่ห้อ (เช่น HTC, Moto) พยายามจะลดการปรับแต่ง UI ของตัวเองให้ใกล้เคียง Holo UI มากขึ้น เนื่องจากมันดีขึ้นกว่าสมัย 2.X ไปมากแล้ว
แต่เหมือนว่า Samsung จะปรับแต่ง UI ไปเยอะมาก รายนี้คงอยากจะฉีกจาก Android ไปเลยจริงๆ
One more thing is, everything is themable (by the app developer, of course).
I'm going to do the Red/Black Holo theme for my app :-), just to look distinctive.
ผมว่ามันก็ค่อนข้างจะเป็น Master Piece แล้วนะ UI ของ Apple มันลงตัวที่สุดในตัวระบบมันแล้ว
กด home 2 ทีไปดู running app เลื่อนซ้ายไป ปลดล็อก เปลี่ยนเพลง ก็สะดวกดีแล้วนะ
ส่วนในตัว app การใช้งานมันก็ง่ายมากๆเข้าใจง่ายดี ผมว่า Android มันซับซ้อนไปหน่อย
อีกอย่างขนาด Google+ บน Android เอง ยังดูไม่สวยเท่าบน iPhone เลยสายตาผมนะ
แต่ตอนนี้ผมก็ขาย iPhone4s ไปใช้ Sola เน่าๆอยู่น่ะแหละ ใช้เท่าที่มันใช้งานได้ก็โอเคละ
iOS ตอนนี้ ส่วนตัวผมคิดว่าจุดบอดมันคือ AssistiveTouch ครับ หลายคนชอบ แต่ชอบเพราะมันมาแก้ไขปัญหาที่ iOS เป็นอยู่ตอนนี้ไงมันเลยดูมีประโยชน์ แต่เอาเข้าจริงๆ ผมว่ามันเป็นตัวทำให้ดูซับซ้อนขึ้น และรกหน้าจอด้วย ถึงจะจับย้ายไปนั่นนี่ได้ แต่ในระยะยาวแล้วมันก็ไม่ควรจะอยู่ในที่แบบนี้ซักเท่าไหร่ ต้องจับมันย้ายที่ไปมามันดูไม่ usability ผมว่าเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ามากกว่า
หลายคนใช้ AssistiveTouch ด้วยเหตุผลสำคัญคือรักษาปุ่ม Home ที่เสียง่ายเอาไว้ ถ้างั้นจะมีปุ่ม home ไปทำไมล่ะครับถ้าไม่มีคนกล้าใช้ ตัดทิ้งแล้วทำเป็นแถบ Virtual Button จริงจังแบบ android ซะยังจะดีกว่า จัดที่เฉพาะให้มันไปเลยดีกว่าจะให้ปุ่มติ่งมาเกะกะหน้าจอแบบนี้
แต่เอาจริงๆ ผมว่าไปหาทางทำปุ่ม home ให้แข็งแรงทนทาน ไม่ก็ทำปุ่มแบบ capacitive ดีกว่า แต่จนแล้วจนรอด iPhone 5 ก็ยังออกมาแบบเหมือนเดิม กลัวว่าที่เขาว่า Apple เริ่มนิ่งนี่น่าจะจริง
ตรงใจสุดๆ เรื่องเม็ดฝีนั่นของ iOS
+1000000 ปุ่ม Home ห่วยแตกสิ้นดี
คิดเหมือนกันเรื่อง Assist ว่าเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาปุ่ม Home เปราะ
แต่ไม่เห็นด้วยเรื่องที่ Assist เป็นจุดบอด เพราะฟีเจอร์นี้ไม่ได้บังคับให้ user ใช้ ซื้อเครื่องแกะกล่องใหม่ต้องไปตั้งให้มันทำงานด้วยซ้ำ user บางคนอาจจะไม่รู้ด้วยว่ามันมีฟีเจอร์ที่ว่าอยู่ในเครื่อง..
ถ้าจุดบอดนี่ผมขอยกตัวอย่างปุ่มของ Xperia Play ทำออกมาได้ไงนูนๆ ชุบโครเมี่ยมเนี่ย ยุคนี้มันต้อง Capacitive แบบ SS ถีงจะเมพ ตอนแกะกล่องมาเห็นวัสดุแล้วผมทำนายเอาไว้เลยว่าไม่นาน ลอก แหงๆ ผ่านไป 1 ปี ตอนนี้จากสีโครเมี่ยมกลายเป็นสีดำไปแล้วครับ นี่สิถึงจะเรียกจุดบอด/จุดอ่อนของจริง -*-
AssistiveTouch เค้าทำเพื่อช่วยให้คนพิการใช้นี่ครับ?
แต่คนทั่วไปเอามาถนอมปุ๋มโฮมกันเอง
ใช่ครับทำมาเพื่อคนพิการจริงๆ ขนาดว่าต้องไปเปิดฟีเจอร์นี้ในเมนู Accessibility กันเลย
แต่เอาจริงๆ ทุกคนที่ใช้ iPhone ผมเห็นเปิด AssistiveTouch กัน "ทุกคน" ถึงขนาดเป็นฟีเจอร์ที่อยู่ในเมนูลึก แต่ทุกคนพร้อมใจกันเปิดใช้หมด แสดงว่ามันต้องมี something อะไรบางอย่างแล้วล่ะครับที่ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้
มันก็เพราะปุ่ม Home มันพังง่ายนั่นเอง แถมไม่มีการซ่อมให้ด้วยเปลี่ยนอย่างเดียว มันเลยเป็นปัญหาที่ค่อนข้างหนักหนาจนทุกคนต้องมาใช้เจ้าปุ่มติ่งนี้กันหมด แล้วมันก็กลายเป็นว่าทุกคนต้องยอมรับเจ้าติ่งนี้ไปโดยปริยาย แม้ผมจะมองว่ามันไม่ค่อย usability เท่าไหร่ก็ตาม ซึ่งมันผิดวิสัยของ Apple นี่นา (กดปุ่ม Home ก็ต้องกดถึง 2 ครั้งในตำแหน่งที่ต่างกัน ..พวกหุ่นเขียวกดแค่ปุ่มเดียวก็เด้งเข้าหน้า Home เก๋ๆแล้ว)
ที่ฮาคือตอน iOS เวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ ชาวไอโฟนจะ printscreen ที ก็ต้องมีติ่งนี้ปรากฏในรูปกันซะทุกคน :P เวอร์ชั่นปัจจุบันซ่อนติ่งให้แล้วเวลา printscreen แสดงว่าคนเรียกร้องเยอะ และแสดงว่าคนใช้เจ้าติ่งนี้กันเยอะมาก
ประเด็นจริงๆ มันก็คือปุ่ม Home นั่นแหละครับไม่ใช่ AssitiveTouch หรอก แต่เจ้านี่มันเป็นตัวแสดงให้เห็นว่า iPhone มีปัญหาตรงจุดนี้จนทุกคนต้องเรียกใช้มัน แล้วแอปเปิลก็ไม่ยอมแก้ดีไซน์ตรงนี้ซักที
ไหนๆ ก็ยืดจอแล้ว เปลี่ยนแนวคิดมาใช้ Virtual button แบบกันที่ส่วนล่างของจอให้เลยก็น่าจะสะดวกกว่าจำใจต้องใช้ติ่งแบบนี้ หรือเปลี่ยนมาใช้ปุ่มแบบ capacitive ก็คงไม่มีดรอยด์ค่ายไหนรอฟ้องหรอกมั้งครับ :P
งี้ผมและคนรอบข้างผมคงอยู่ในเกณฑ์แปลกแล้วมั้งครับ ไม่มีใครใช้ Assistive Touch กันเลย :P ปุ่มผมก็พังไปสองรอบ แต่ก็รีบไปซ่อมนะ รับไม่ได้กับติ่งนั่น
จะให้ใช้ปุ่มแบบ capacitive แบบมือถือแอนดรอยด์นี่ ก็ไม่ไหวอะครับ มีเคยเล่นของคนอื่นเป็นบางครั้ง มือเผลอไปโดนบ่อยมากกกก รำคาญสุดๆ >__<
เป็นปุ่มแบบนี้แหละดีแล้ว แต่ขอทนหน่อยแค่นั้นเอง ผมใช้ iDevice มาห้าเครื่อง มีแต่ iPhone 4 นี่แหละ ที่ปุ่มโฮมกากจริงๆ นอกนั้นคงทนดีครับ
+1 คนแปลก ที่ผมไม่ได้เปิด Assistive Touch แล้วเหมือนทำบุญมาดีใช้มาเกือบสองปีปุ่ม Home ยังไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างใด
ได้ใช้เองจนพังคามือหรือเปล่าครับ หรือคิดเองเออเอง
ใช้(ของคนอื่น)พังคามือมาครับ T-T ถึงกับหลอนเลย กดกึกแรกยังติด กึกสองเจ๊งคามือ
แต่เจ้าของบอกจะเจ๊งมานานล้วละ ผมแค่มาขุดหลุมฝังพอดี
แล้วคุณคิดเองเออเองด้วยหรือเปล่าครับว่ามันทนจนไม่เคยพังคามือใครเลย
ฝากวานคุณ nottoscale ลองใช้ปุ่ม Home บ่อยๆ และอย่าไปใช้ปุ่มติ่งนั้นนะครับ ถ้ามันไม่สึกหรอเลยผมจะยอมรับว่าคิดเองเออเองครับ ..ว่าแต่จะกล้าหรือไม่ หรือแค่นึกสนุกกับการใช้คีย์บอร์ดคอมเมนต์อย่างเดียว
ปล.เคสตัวอย่างมีให้เห็นเยอะไป ถ้าคิดว่าไม่เชื่อ จะใช้ปุ่ม home ไปก็ไม่มีใครห้าม แต่รอบตัวผมอย่างเครื่องแม่ผมเองและเครื่องเพื่อนๆ ทุกคนล้วนเปิด AssistiveTouch เอาไว้เพราะกลัวมันพังกันทุกคนนี่แหละครับ
มีเพื่อนผมใช้ 3GS ปุ่มพังกันเห็นๆ เลย ตอนนี้เลยไปถอยน้อง 5 แถวมาแล้วเรียบร้อย และปวดหัวกับอาการใหม่คือสีลอก :P
555 ผมใช้เองตั้งแต่รุ่นแรกเลยครับ ไม่มีติ่งยังใช้จนทุกวันนี้เลยครับ 555 ไอ 5 ผมก็ไม่ลอกครับ ผมว่าคุณลองซื้อมาใช้เองนะครับอย่าไปฟังคนอื่นมากเลย อิอิ
ประเด็นอยู่ที่ปุ่มมันมีปัญหาอย่างมีนัยสำคัญครับ (Google ช่วยได้) ไม่เกี่ยวกับว่าผมใช้เองหรือไปฟังใครมา ต่อให้ผมซื้อมาใช้ ผมก็เปิด AssistiveTouch อยู่ดีล่ะครับ เพราะกลัวปุ่มพังจริงๆ เคสตัวอย่างมีมาเยอะแล้วครับ
กุมภาปีหน้าไอ 1 ผมก็ครบห้าปีพอดี ถ้าคนรู้จะเห็นว่ามันไม่มีติ่งให้ใช้เพราะมันไปได้แค่รุ่น 3.1.3 ปุ่มยังนิ้งอยู่เลย ของแบบนี้ขึ้นกับคนใช้ด้วยมั้งครับ ว่าแต่ใครใช้สมาร์ทโฟนค่ายอื่นเกินห้าปีบ้างเอ่ย อิอิ
คนรอบตัวผม แทบทุกคนที่ใช้ iPhone มี 'ติ่ง' บนหน้าจอเหมือนกันครับ :-)
รอบตัวทุกคนที่คุณว่านี่กี่คนเหรอครับ หลักหน่วยหรือหลักสิบ ?
ส่วนตัวใช้ iPhone มา 3 เครื่องไม่เคยเปิด Assistive Touch เลยเพราะผมว่ามันน่ารำคาญ ไม่ใช่ usability ที่ออกแบบมา ส่วนคนรอบข้างพี่สาวผมใช้ Assistive Touch แต่พี่เขยผมไม่ใช้ เพื่อนผมก็มีทั้งที่ใช้และไม่ใช้เหมือนกันปะปนกันไป
ปุ่มจริงกดบ่อยๆ มันก็มีการสึกหรอไปตามกาลเวลา มันเป็นจริงกับทุกปุ่มแหละครับเรื่องนี้ตั้งแต่ปุ่มรีโมตทีวี ปุ่มสวิตช์ไฟ ปุ่มเปิดปิดปลั๊กราง ปุ่มจอยเกม ยันปุ่มบนโทรศัพท์มือถือ ต้องดูว่าความทนทานมันเหมาะสมกับระยะเวลาการใช้งานจริงมากน้อยแค่ไหน แต่ผมก็เห็นด้วยกับคุณเรื่องการเปลี่ยนมาใช้ปุ่มแบบสัมผัสนะ เพราะมันน่าจะใช้งานได้นานกว่าแต่ก็ต้องแลกมากับการกดผิดโดยไม่ตั้งใจบ่อยขึ้น
That is the way things are.
หลักสิบครับ หลายสิบด้วย เพื่อนผมใช้ iPhone กันเยอะ เครื่องถูกใจมหาชนจริงๆ ยอมรับเลย
แต่ก็นั่นล่ะครับ เพื่อนๆ ผมก็มีความรู้พวกนี้เยอะ รู้ว่ามันเสี่ยงต่อการพังง่าย พอซื้อเครื่องมาก็เปิด AssistiveTouch กันเลย ส่วนพวกที่ไม่ได้เปิดไว้ ก็โดนเพื่อนข้างๆ นี่แหละไซโคว่าให้เปิดไว้ ปุ่มพังมาจะไม่คุ้มเอา ก็เลยเป็นว่าพากันเปิดใช้กันหมด ซึ่งทำให้สิ่งที่ผมเห็นอาจจะไม่สะท้อนคนใช้ทั้งหมดก็ได้ครับ
ผมเองก็เลือก 4S ให้แม่ใช้ ผมก็ยังเปิด AssistiveTouch ให้เลยครับ ..เอาจริงๆ ไม่ได้จงเกลียดจงชังแอปเปิลอย่างที่คิดครับ ว่าไปตามความเหมาะสม (แต่ผมเองมีจุดยืนก็เลยไม่ได้ใช้ ;) )
Android มันซับซ้อนจริงๆเมื่อเทียบกับไอโฟน
แต่นึกถึงตอนเริ่มใช้วินโดว์ใหม่ๆ ยากกว่าตั้งเยอะ ซับซ้อนกว่าเยอะเลย ผ่านเวลาไปคนมีการเรียนรู้ที่ดีกว่าที่คิด ทุกคนใช้คอมเป็น กระทั่งคนไม่จบ ป.6
กลับกลายเป็นข้อดีของความซับซ้อน ทำให้มันปรับแต่งได้มากกว่า ทำอะไรซับซ้อนได้ดีกว่า เหมาะกับมหาชนมากกว่า
ชอบความเรียบง่ายของ UI apple แม้ตอนนี้เลือกใช้ Android อยู่
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
In fact, press home twice to switch the app is not intuitive. It's kinda hidden feature that I think the designer don't want people to use (unless they are power user).
แฟนใช้ HTC OneX ผมใช้ I5
ผมก็ยังชอบ UI i5 มากกว่า
รวมถึงความลืนแบบงงๆว่าทำไม quadcore มันสู้ dualcore ไม่ได้
ผมเฉลยให้
ผมถือ Gnexus (2 core) ลื่นกว่า OneX (4 core)
ทั้งๆที่ผลทดสอบ OneX กินขาดทุกๆผลทดสอบเลย
มันต่างที่การ optimize ซอฟแวร์เข้ากับฮาร์ดแวร์ด้วย ซึ่ง iPhone ทำได้ดีมากๆ
ซื้อ Twister แต่ผูกขาดแบรนด์เดียวเพื่อ eco-sys ตัวเองไม่ได้ Apple คงไม่ซื้อ
ผมว่าน่าจะซื้อตั้งนานแล้ว
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ถ้าจะซื้อ ซื้อ Line ดีกว่า ต่อยอดได้เยอะกว่า
ซื้ออะไรก็ซื้อๆไปเหอะ เงินเยอะ
แต่ผมอยากเห็นไอโฟนกว้างขึ้น ก็เท่านั้น
มันจะเป็นการจับคู่ที่น่ากลัวมาก...
หมายถึงเรื่องภาพของแบรนด์น่ะนะ
รวมความกาก ระบบออนไลน์ของแอปเปิล
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
+1
ข้อมูลแน่นมากครับ ท่าน กสยฟพทสตจ.
Dream high, work hard.
...ความกากเวลา Apple Store Online มันปิด ผมกลับชอบ ดูมันมีเสนห์ดีครับ ลุ้นดี
+1
Ping!
Game Center ล่มก็ไม่ต้องทำไรแล้ว อ้อ อย่าลืม Pings! ด้วยครับ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
แอบหวัง ... การมาของ Jony Ive
ถ้า Apple ซื้อ Twitter ขึ้นมาจริงๆ สิทธิบัตร Pull-to-refresh จะเป็นยังไงหว่า
สิทธิบัตร Pull to Refresh เป็นของ Loren Brichter หนิครับ ไม่ใช่ของ Twitter
//edit ไปอ่านข่าวเก่า เป็นของ Twitter จริงๆ แหละครับ ^__^
แบบนี้เรียกว่า Patrick B. Gibson ต้องการให้ Apple ซื้อ Skill เพิ่ม
เพราะ Skill ที่มีอยู่เริ่มทำอะไร Google ไม่ได้แล้ว เพราะ Google มี Skill ที่หลากหลายกว่า
ส่วนไม้ตายที่มีอยู่ก็เอาออกมาใช้บ่อยไม่ค่อยได้ นั่นคือ Skill ฟ้องศาล
Apple นี่ไม่เก่งด้าน Social Network จริงๆนะ
ทั้งคู่ก็สนิทกันมาตั้งแต่เปิดตัว iOS 5 ที่มี Integrate Twitter แล้ว ดีลนี้จะเป็นไปได้ไหม ต้องคอยติดตาม
ส่วนตัวคิดว่าแอปเปิลมันอินดี้ สุงสิงสังคมอะไรไม่ค่อยเป็นเขาหรอก 555
Twitter บอก
" ไม่ขาย !!! "
จบมั๊ย...จบ 555+
จริงๆ ไม่น่าแยก ว่าจะโพส Twitter , Facebook อย่างใดอย่างหนึ่ง วางทีอยากโพสสองที่ เสียเวลาก็อปไปมา
ในวินโดส์โฟน ยังสะดวกกว่าเลย
ping ไปไหนแล้ว
น่าจะโดนวังยมน่านกลืนไปเรียบร้อยแล้วครับ
สงสัยว่าเราจำเป็นต้องเก่งทุกด้านเลยหรือ? เสริมด้านที่แข็งแกร่งให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก หรือว่ามาเน้นปิดจุดอ่อนดีกว่า หรือว่าควรจะทำทั้งสองข้อถ้าโอกาสมันเอื้ออำนวย ประเด็นนี้สงสัยจริง ๆ ครับ
Android โดน Ms บอกว่าเถื่อน เพราะมันออกแบบมาให้ขยายไปใด้ทุกด้านไงครับ
นอกจากนั้นทุกด้านที่ขยายไป ก็ยังเปิดให้ลอกกันไปลอกกันมา(ในกลุ่มที่แลกสิทธบัตรกัน) apple อาจจะเก่ง แต่จะเก่งเท่า (Google + Motorola + Samsung + LG + Sony + Htc + ฯลฯ) ... คงยาก
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
แล้วทีมทวิตเตอร์นี่เก่งมั้ย
ผมว่านะถ้าเขาซื้อ twitter จริง สโลแกนไม่ปิดกั้นของ twitter คงหายไปหมดตามไล่บล็อกทวิต
จำได้ว่ามีข่าวเมื่อต้นปีนี้ที่ Apple ลงทุนในทวิตเตอร์ ราวๆ 100 ล้านดอลล่าร์ นอกจากนี้ ผู้บริหารของ
ทวิตเตอร์ ชื่ออะไรจำไม่ได้ ไปนั่งทำงานใน office ของ Apple ด้วย ความสัมพันธ์แนบแน่นมากๆ ระหว่างสองบริษัท
คนที่บอกว่า G+ ร้างนี่คือคนที่ไม่มีใครคบใน G+ รึป่าวคับ รึเล่นไม่เป็นหว่า ^^" ยังไงก็ดี อะไรที่คนไทยไม่บูมกันก็ใช่ว่าสิ่งนั่นจะไม่เกิดนะคับ ร้อนกันเป็นต่อนๆ
เขาคงเทียบกับ fb มั้ง ถ้าไม่มีคู่เทียบร้างกับไม่ร้างมันคงดูไม่มีความหมายมากนัก