หลังจากไมโครซอฟท์ส่งอีเมลแจ้งปิด Windows Live Messenger ใน 15 มี.ค. ทาง Ars Technica ได้สอบถามไมโครซอฟท์ว่าจะทำอย่างใดกับไคลเอนท์อื่น ทั้ง Windows Phone, Xbox, Skype และแอพ third-party อื่น อาทิ Pidgin และได้รับคำตอบว่าหลังจากวันดังกล่าวบริษัทจะปิดการเข้าถึงจากโปรแกรมไคลเอนท์ Windows Live Messenger และแอพวีดีโอแชตบน Xbox เท่านั้น แต่บริการเมสเซนเจอร์หลังบ้านที่ Windows Phone รวมถึง Skype และแอพ third-party อื่นใช้อยู่นั้นยังใช้เข้าใช้งานได้อยู่ต่อไป (แต่กระนั้นทาง Ars Technica ก็ไม่แน่ใจว่าแอพแบบ Metro บน Windows 8 จะได้รับผลกระทบด้วยหรือไม่)
จากข้อชี้แจงเพิ่มเติมจากไมโครซอฟท์ อาจกล่าวได้ว่า 15 มี.ค. จะเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบของ Windows Live Messenger โดยในเดือนตุลาคมของปีนี้ ไมโครซอฟท์จะหยุดการสนับสนุนโปรโตคอล XMPP ทำให้แอพ third-party ต่างๆ ที่ใช้ผ่านโปรโตคอลดังกล่าวไม่สามารถพูดคุยกับบริการเมสเซนเจอร์ได้อีก จากนั้นในเดือนมีนาคมของปีหน้า ไมโครซอฟท์จะหยุดการสนับสนุนโปรโตคอล MSP ของบริษัทเอง ทำให้แอพทั้งหมดไม่สามารถติดต่อกับบริการเมสเซนเจอร์ได้อีกต่อไป
ที่มา: Ars Technica
Comments
เอ๊ะยังไง ตกลงจุดเริ่มต้น หรือจุดจบ!?!
(ใช้คำเปลือง... ตัดเป็นแค่ "อาจกล่าวได้ว่า 15 มี.ค. จะเป็นจุดจบของ Windows Live Messenger" ก็ได้มั้งครับ ^^~!!)
ถ้าจุดจบเลย ก็แปลว่า มันจบวันนั้น ... ถ้าเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบ ก็แปลว่า ระยะที่มันจะกว่าจะจบ คงกินเวลาอีกหลายวัน แล้ววันนั้น ก็ไม่ใช่วันที่มันจบ
อ่อ งั้นแสดงว่าผมเข้าใจผิดเอง fail :P
มันก็คงเหมือนภาคสุดท้ายตอนแรกล่ะมังครับ กว่าจะจบจริงๆก็อีกซักพัก
+1
ผมว่าคำนี่สวยมากๆ
มันเป็นสำนวนอยู่แล้วน่ะครับ the beginning of the end
สมัยก่อนเคยได้ยินว่า จะเก็บตังค์ค่าใช้ WLM เพราะมีคนใช้เยอะ แต่กลายเป็นว่าปัจจุบันจะต้อง ปิด WLM ลงเสียแล้ว
สงสัยเพราะไม่มีใครจ่าย lol