จากข่าว กสทช. ประกาศเอาจริง บัตรเติมเงินห้ามหมดอายุ ถ้าละเมิดปรับวันละ 1 แสนบาท วันนี้ทาง กสทช. ออกมาชี้แจงการบังคับใช้ว่า โอเปอเรเตอร์ทั้ง 5 รายจะต้อง "ยกเลิกวันหมดอายุในระบบสำหรับหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงิน (พรีเพด) นับแต่วันศุกร์ที่ 18 ม.ค. 56 เป็นต้นไป ซิมการ์ดแบบเติมเงินจะไม่มีการกำหนดวันหมดอายุ และการเติมเงินไม่ว่าจะเป็นกรณีใดก็ตามจะไม่มีการกำหนดระยะเวลาใดๆ ทั้งสิ้น"
จากนั้น กสทช. จะเปิดโอกาสให้โอเปอเรเตอร์เสนอเงื่อนไขการกำหนดวันสำหรับโทรศัพท์แบบพรีเพด เข้ามาให้พิจารณาอีกครั้ง และจะเป็นมาตรฐานกลางต่อไปในอนาคต
โอเปอเรเตอร์ 3 รายใหญ่ขอนำคำสั่งนี้ไปหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องก่อน แต่ กสทช. ก็ยืนยันว่าถ้า กสทช. ไม่มีคำสั่งเปลี่ยนแปลง โอเปอเรเตอร์จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งอยู่ดี และถ้าละเมิดจะโดนโทษปรับในอัตราที่สูงขึ้นไปอีก
นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องการจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะแบบพรีเพดที่เป็นปัญหามานาน ทาง กสทช. ก็ขีดเส้นตายว่าต้องเริ่มดำเนินการในวันที่ 18 ม.ค. 56 เช่นกัน ส่วนหลักฐานที่เก็บมีเพียงเลขประชาชน 13 หลัก แต่ผู้ซื้อซิมการ์ดไม่จำเป็นต้องถ่ายสำเนาบัตรประชาชนใดๆ
ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์ กสทช.
เลขาธิการ กสทช. สั่ง 18 ม.ค. 56 นี้ สั่งห้ามกำหนดวันหมดอายุพรีเพด และให้โอเปอเรเตอร์จัดเก็บข้อมูลผู้ใช้บริการพรีเพด ซื้อซิมใหม่ใช้เพียงบัตรประจำตัวประชาชนเท่านั้น
วันนี้ (14 ม.ค. 56) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เผยได้แจ้งให้ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 5 ราย ปฏิบัติตามคำสั่งทางปกครองทันที โดยให้ยกเลิกวันหมดอายุในระบบสำหรับหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงิน(พรีเพด) นับแต่วันศุกร์ที่ 18 ม.ค. 56 เป็นต้นไป ซิมการ์ดแบบเติมเงินจะไม่มีการกำหนดวันหมดอายุ และการเติมเงินไม่ว่าจะเป็นกรณีใดก็ตามจะไม่มีการกำหนดระยะเวลาใดๆทั้งสิ้น จากนั้นจึงจะเปิดโอกาสให้แต่ละค่ายสามารถเสนอเงื่อนไขความต้องการในกรณีของการกำหนดวันสำหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงิน(พรีเพด)เข้ามาให้พิจารณาอีกครั้งโดยจะเป็นมาตรฐานกลางเพื่อใช้บังคับกับทุกค่ายต่อไป
ผลการหารือผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 3 รายคือ AIS Dtac และ True Move ขอไปหารือกับผู้เกี่ยวข้อง โดยต้องนำผลการพิจารณากลับมาเสนอ กทค. อย่างไรก็ตามหากยังไม่มีค่ำสั่งเปลี่ยนแปลงจาก สำนักงาน กสทช. ผู้ให้บริการทุกค่ายจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งโดยเคร่งครัด หากฝ่าฝืน กสทช. ก็จะมีมาตรการปรับที่สูงขึ้นไปอีก
นอกจากนี้ กสทช. ยังได้มีคำสั่งในกรณีที่ผู้ให้บริการทุกค่ายจะต้องจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือ โดยจะเริ่มในวันศุกร์ที่ 18 ม.ค. 56 นี้ เช่นกัน โดยกำหนดให้ในการขอเปิดหมายเลขใหม่เพื่อใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบเติมเงิน(ซิมพรีเพด)ทุกครั้ง ผู้ให้บริการทุกค่ายจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของ กสทช. โดยจะมีการเรียกเก็บข้อมูลจากผู้มาขอเปิดใช้บริการ ซึ่งประชาชนผู้ขอใช้บริการเพียงแสดงหลักฐานโดยใช้เพียงบัตรประจำตัวประชาชนใบเดียวเท่านั้น ในการแสดงตน ณ จุดขาย ซึ่งผู้ให้บริการจะเพียงจัดเก็บเลขที่บัตรประจำตัวประชาชน 13 หลักเพียงอย่างเดียว โดยไม่จำเป็นต้องถ่ายเอกสารหรือเก็บสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนใดๆทั้งสิ้น เพื่อให้เกิดความสะดวกกับประชาชน และการดำเนินการดังกล่าวยังเป็นเพื่อการป้องกันความปลอดภัยและอันตรายจากมิจฉาชีพให้กับประชาชนด้วย
นายฐากร กล่าวย้ำว่า ปี 2556 นี้เป็นปีแห่งการคุ้มครองผู้บริโภคของ กสทช. ทางสำนักงานจะดำเนินการเรื่องการดูแลคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับบริการที่มีคุณภาพ ในราคาที่เป็นธรรม จะเร่งแก้ปัญหาที่ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคให้เรียบร้อยอีกด้วย
Comments
ก็ต้องลุ้นกันว่า กสทช. ที่น่ารักจะเป็นเสือกระดาษเหมือนที่ผ่านมาหรือไม่
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
จะได้เลิกเติมเงินรักษาเบอร์ซักที แต่จะมีเคสเบอร์หายอีกไหมล่ะ
บัตรเติมเงินไม่ใช่เหรอครับ ไม่ใช่ซิมนะ
เข้าใจว่าน่าจะหมายถึงกรณีนี้ครับ
http://topicstock.pantip.com/mbk/topicstock/2009/10/T8483961/T8483961.html
http://topicstock.pantip.com/mbk/topicstock/2011/11/T11340651/T11340651.html
ตกลงเป็น "เบอร์" ไม่หมดอายุ ไม่ใช่ "บัตรเติมเงิน" สินะ ข่าวที่แล้วอ่านแล้วงงว่าอะไรแน่ ข่าวนี้ชัดเจนเลย (กลับมาอ่านอีกที หัวข้อข่าวยังระบุว่า "บัตรเติมเงิน" สับสนละว่าอะไรแน่ -*-)
คาดว่าโอเปอเรเตอร์ต่อรองแน่ เพราะรักษาเบอร์ไว้ต้องมีค่าใช้จ่าย อาจต้องมีเงื่อนไขบ้าง เช่น เบอร์ที่ใช้จะต้องมีการเคลื่อนไหวหรือมีเงินเหลืออยู่อย่างน้อย... ลักษณะเหมือนบัญชีเงินฝากธนาคาร
แต่งงกับการเก็บหมายเลขบัตรนี่สิ ไม่ต้องถ่ายสำเนาจดเลขไว้เฉย ๆ แล้วมันไม่โกงกันเหรอ?
มั่วเลขเอา กรณีนี้ถ้าตรวจสอบย้อนกลับว่าใครเป็นคนขาย คนขายก็ซวย แต่คนใช้ซิมไม่ได้ไปก่อปัญหาก็คงไม่มีใครมาตรวจสอบให้เมื่อย
ใช้เลขเก่าซ้ำ ๆ เช่น คนซื้อไม่อยากให้เลข แต่คนขายอยากขาย (เช่นรีบมาก ไม่ได้พกบัตร ต่างด้าว ฯลฯ) ก็เอาเลขคนขายนั่นแหละใส่ไป กรณีนี้คนใช้ซิมไปก่อเรื่อง เจ้าของเลขซวย
ไปแอบลอกเลขคนอื่นมา หาง่ายมาก เอกสารต่าง ๆ ถ่ายกันเป็นว่าเล่น แอบเอาจากกระดาษแผ่นไหนก็ได้ แบบนี้คนโดนขโมยเลขซวย
มาคิดดูอีกที แล้วยุคสมัยนี้เราควรจะยืนยันตัวตนอย่างไรถึงจะเหมาะสม? (ผมคิดว่าถ่ายเอกสารแล้วเซ็นต์สำเนาถูกต้องแบบเก่ามันก็เปลืองกระดาษนะ แต่นึกวิธีอื่นไม่ออก)
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
จริงๆ มันคือ "ซิม+เงินที่เติม" น่ะครับ ผมก็ไม่รู้จะใช้คำว่าอะไรเหมือนกัน เอาเป็นคำว่า "พรีเพด" ในความหมายรวมๆ ไปแทนละกันครับ
ผมจำได้ว่าสมัยเรียน(สองสามปีที่แล้ว)เคยได้ยินอาจารย์พูดเรื่องการเก็บรอยนิ้วมือแบบเวกเตอร์เพื่อใช้ยืนยันตัวตนได้(จำได้ลางๆ ว่าเก็บเฉพาะจุดตัดกับทิศของเส้นที่จุดตัดมั้ง) ซึ่งมันดีกว่าการเก็บแบบปกติที่เป็นแบบบิทแมพ(ผมเข้าใจว่าอย่างนี้)ตรงที่มันไม่สามารถเอาไปทำเป็นนิ้วมือปลอมมายืนยันได้ แล้วทุกครั้งที่สแกนนิ้วมือจะไม่มีการเก็บรอยนิ้วมือเราแบบบิทแมพไว้ในหน่วยความจำสำรอง(harddisk)เลย (ถ้ามีสักเครื่องที่โกงแล้วเราเอานิ้วไปจิ้มก็คงโดนเก็บข้อมูลไปมั้ง)
ขนาดเปิดบัญชีเงินฝาก ยังจ้างเอาได้เลยครับ ซื้อ SIM นี่ไม่มีทางระบุตัวผู้ใช้ได้หรอก จ้างเด็กแถวบ้านให้ไปซื้อก็ได้เหมือนกัน
พึ่งรู้ว่าเเบบเติมเงินที่เมืองไทยยังไม่มีการเก็บข้อมูลผู้ใช้ ผมเห็นข่าวว่าให้เก็บข้อมูลมาตั้งหลายปีเเล้วนึกว่าเขาทำไปเเล้ว
ผมใช้แบบรายเดือนเหมาจ่าย แต่ละเดือนก็ใช้ไม่ถึงซักที แบบนี้มีคืนเงินให้ไหมครับ
รอดูผลงานเสือกระดาษ
ใช้ซิมเติมเงิน สมัยนี้จะมีไว้รับสายอย่างเดียวหรือไร........... จะไม่เติมเงินไว้โทร ไว้เล่นเน็ต บ้างเลยหรือ
ซื้อใส่มือถืออาม่าให้แม่พกไว้ครับ เอาไว้รับสายอย่างเดียว เติมสักสิบบาทพอ.....