Tags:
Node Thumbnail

หนึ่งในคำขอจดสิทธิบัตรของ Apple ที่เพิ่งเปิดเผยต่อสาธารณะแสดงให้เห็นแนวคิดการประดิษฐ์หูฟังที่สามารถปรับคุณภาพของเสียงได้อัตโนมัติตามสภาพการสวมใส่หูฟังว่าแน่นขนาดไหน

หากผู้ใช้สวมหูฟังได้แน่น ตัวอุปกรณ์จะปรับระดับเสียงให้พอเหมาะต่อการรับฟัง แต่เมื่อหูฟังเริ่มเริ่มหลุดเคลื่อนจากตำแหน่งก็จะทำการปรับปรุงคุณภาพของเสียงให้เหมาะสมต่อการรับฟัง ซึ่งมีทั้งการปรับระดับความดังของเสียง, การลดสัญญาณรบกวน, การปรับโทนเสียง, การปรับสมดุลของเสียงระหว่างหูฟังด้านซ้าย-ขวา รวมทั้งการแจ้งเตือนผู้ใช้ให้รับทราบว่าหูฟังเริ่มเคลื่อนหลุดจากตำแหน่ง

วิธีการที่หูฟังชนิดพิเศษนี้สามารถตรวจสอบว่าผู้ใช้สวมใส่หูฟังแน่นหรือไม่ ใช้หลักการ 2 อย่างควบคู่กัน อย่างแรก คือตัววัดสัญญาณกระแสไฟฟ้า ซึ่งจะปล่อยสัญญาณไฟฟ้าอ่อนๆ ผ่านผิวหนังบริเวณช่องรับเสียงและใบหู และจดจำรูปแบบของสัญญาณตอบกลับที่ได้ในขณะที่สวมหูฟังแน่น เมื่อใดก็ตามที่หูฟังเริ่มหลวมและเคลื่อนหลุดจากตำแหน่ง สัญญาณตอบกลับดังกล่าวจะผิดไปจากปกติซึ่งทำให้อุปกรณ์สามารถรู้ได้

หลักการที่ 2 ที่ใช้ตรวจสอบว่าผู้ใช้สวมหูฟังแน่นหรือไม่ คือการใช้ไมโครโฟนขนาดเล็กจิ๋วฝังไว้ในหูฟังเพื่อตรวจสอบว่ามีเสียงภายนอกเล็ดรอดเข้าสู่รูหูของผู้ใช้หรือไม่ โดยเสียงภายนอกที่ถูกตรวจจับด้วยไมโครโฟนดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในสังเคราะห์เสียงเพื่อหักล้างสัญญาณเสียงรบกวนด้วย

ที่มา - Ubergizmo, ข้อมูลสิทธิบัตรจาก FPO

No DescriptionNo Description

Get latest news from Blognone

Comments

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 8 July 2013 - 01:07 #594498
hisoft's picture

หูฟังเทพเลยทีเดียว

By: panurat2000
ContributorSymbianUbuntuIn Love
on 8 July 2013 - 01:09 #594499
panurat2000's picture

หนึ่งในคำขอจดสิทธิบัตรของ Apple ทีเพิ่งเปิดเผยต่อสาธารณะ

ทีเพิ่งเปิดเผย => ที่เพิ่งเปิดเผย

By: kadeep
AndroidUbuntuWindows
on 8 July 2013 - 01:11 #594500
kadeep's picture

การจดสิทธิบัตรแนวความคิดเป็นอะไรที่ปิดกันสิทธิเสรีภาพแนวความคิดของคนอื่นมาก
ถ้าผลิตสินค้าชนิดนั้นออกมาแล้ว ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ไม่ใช่นึกอะไรออกก็จดหมดแบบนี้ไม่ไหว ตัวเองคิดได้ ใช่ว่าคนอื่นจะคิดเหมือนกันบ้างไม่ได้

By: gamegolf
iPhoneAndroidWindows
on 8 July 2013 - 01:19 #594502 Reply to:594500

สมมุตผมเป็นแค่คนธรรมดาคนนึงไม่มีเงินทุนในการทำมีแต่ความคิดเลยจดสิทธิบัตรไม่ได้ เลยไปขอทุนจากบริษัทใหญ่ถ้าผมไม่จดสิทธิบัตรไว้ผมมั่นใจว่าโดนขโมยความคิดแน่นอนครับ

มันเป็นสิทธิบัตรทางความคิดอะครับ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย

By: specimen
Windows PhoneAndroid
on 8 July 2013 - 01:32 #594507 Reply to:594502
specimen's picture

แต่ถ้าคุณคิด แล้วคุณไม่ทำ กอดสิทธิบัตรอันนั้นไว้

คนอื่นที่เค้าคิดได้ แต่เค้าไม่ได้ลอกคุณ และเค้ามีความพร้อมที่จะทำสิ่งนั้นออกมา ก็ทำไม่ได้

สุดท้าย คนที่เสียประโยชน์ คือผู้บริโภค กับการจดสิทธิบัตร เพื่อกันไม่ให้คนอื่นผลิตครับ

By: cal2ibbean
iPhoneWindows PhoneBlackberryWindows
on 8 July 2013 - 01:34 #594508 Reply to:594507
cal2ibbean's picture

คุณยอมหรอ =,.=

By: specimen
Windows PhoneAndroid
on 8 July 2013 - 01:40 #594511 Reply to:594508
specimen's picture

ผมไม่ได้พูดถึงกรณีทั่วไป

แต่ตอนนี้ ถ้าคุณอยู่ในโลก ติดตามข่าวสาร คุณคงจะรู้จัก patent troll

ถ้าจด แล้วมีปัญญาทำ ก็ดีครับ ผมสนับสนุน และจำเป็นต้องคุ้มครองคนพวกนี้ ไม่งั้น คงไม่มีใครยอมคิดอะไร

แต่ไอ้พวกที่ไล่จด เพื่อกีดกันไม่ให้คนอื่นผลิตสินค้า ที่จะมีความสามารถที่ดีกว่าที่สินค้าตัวเองมีได้

หรือจดไว้ก่อน ทั้งที่ยังไม่มีปัญญาจะหาทางทำความคิดของตัวเองให้สำเร็จ แล้วรอขายไอเดีย พวกนี้คือพวกที่ผมพูดถึง

By: specimen
Windows PhoneAndroid
on 8 July 2013 - 01:51 #594513 Reply to:594511
specimen's picture

ลองยกตัวอย่าง

ทุกวันนี้ แค่มีแนวคิด ก็จดได้

สมมติ ผมคิดกระบวนการ ใช้การสั่งงาน จากการกลอกลูกตา แล้วผมไปจดสิทธิบัตร

แต่ผมไม่เอาไหน ไม่สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกมาได้ ด้วยความห่วยของทีมงานผม

แต่มีคนอีกคนนึง ที่เค้าคิด หาทางออกได้จนสำเร็จ โดยที่เค้าไม่ได้รู้ว่าผมทำสิ่งนี้มาก่อน พอเค้าจะผลิตออกมา ไอ้ทีมงานห่วย ๆ ของผมก็ไปฟ้อง เพียงเพราะผมไปจดก่อน ถึงผมไม่มีปัญญาทำ ผมก็มีสิทธิ์ที่จะกินหัวคิว ในสิ่งที่ผมไม่มีปํญญาด้วยซ้ำ แต่คนที่มีความสามารถมากกว่า กลับทำออกมาไม่ได้

คราวนี้ บริษัทนี้ ไม่มีเงินจะมาจ่ายการสูบเลือดสูบเนื้อของผม

ก็เลยไม่มีการพัฒนาสินค้าตัวนี้ออกมา เพราะไอ้ทีมงานห่วย ๆ ของผมพัฒนาไม่ได้

สุดท้าย สินค้าตัวนี้ ก็ไม่สามารถออกมาใช้ได้

ผู้บริโภค ก็อดไป

หรือจะเป็นกรณีที่บางบริษัท ไปจดสิทธิบัตร วิธีต่าง ๆ ในการใช้งานไว้เป็นสิบแบบ แต่ 5-6 ปี ไม่พัฒนามันออกมา

ใช้อยู่แบบเดียว

จดเพียงเพื่อจะกันไม่ให้บริษัทอื่น สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ดี ๆ ออกมาได้

ตัวเองจะได้ผูกขาดตลาด

ผู้บริโภคไม่มีทางเลือก

อย่างนี้ ถูกต้องเหรอครับ

By: ตะโร่งโต้ง
WriterAndroidWindows
on 8 July 2013 - 01:59 #594517 Reply to:594513
ตะโร่งโต้ง's picture

สุดท้าย ก็จะมีบริษัทเงินหนาที่กล้าสู้ราคาจ่ายเงินเพื่อขอใช้สิทธิบัตรของคุณ (หากเค้าคิดว่ามันคุ้มที่จะจ่าย) แต่หากคุณยังเรียกค่าใช้งานสิทธิบัตรสูงเกินไป คุณจะโดนฟ้องเรื่องการโก่งราคา FRAND และอาจโดนเรื่องกีดกันทางการค้าด้วย (อาจจะนะครับ ซึ่งอาจไม่โดนก็ได้)

หากลงท้ายไม่มีใครยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อสิทธิบัตรของคุณไปใช้งาน นั่นอาจหมายความว่าช่วงเวลาที่จะ implement สิทธิบัตรนั้นยังไม่มาถึง หรือเรียกได้ว่ายังไม่มีใครเห็ฯคุณค่าของมันมากพอ

เมื่อถึงจุดนั้น และเวลาถูกปล่อยผ่านไปเรื่อย สิทธิบัตรก็จะหมดอายุไปเองครับ (ดูได้จากทุกวันนี้ใครอยากผลิตคีย์บอร์ด หรือเม้าส์ คงไม่ได้แจ้งขอใช้สิทธิบัตรกันทุกรายหรอกครับ)

ตอนนี้ทางออกของปมสิทธิบัตรนี้ก็คงเป็นอย่างที่กล่าวมาข้างต้น แต่มันจะ ok จริงไหม? ดีแล้วจรึงรึเปล่า? อันนั้นคงต้องถกกันต่อ

:)


ช่างไฟสมัครเล่น (- -")

By: specimen
Windows PhoneAndroid
on 8 July 2013 - 02:10 #594518 Reply to:594517
specimen's picture

แต่อย่าลืมว่ามันมีกรณีของการจด เพื่อไม่ให้คู่แข่งมีสินค้าที่มีความสามารถทัดเทียมกัน แต่ไม่ใช่แบบเดียวกันออกมา

แบบนี้ จด แล้วไม่ขาย ไม่ให้ใช้ ดองเอาไว้ ให้สิทธิบัตรหมดอายุ

เมื่อถึงวันหมดอายุ ประโยชน์จากสิทธิบัตร หรือกระบวนการนั้น มันอาจจะหมดไป

เนื่องด้วยการที่มีเทคโนโลยีที่ใหม่กว่า ในระยะเวลากว่า 10 ปีที่สิทธิบัตรหมดอายุ

คู่แข่ง และผู้บริโภค ก็จะต้องใช้สินค้าของเจ้าของสิทธิบัตรเท่านั้น ไม่มีคู่แข่ง

เรื่อง FRAND หรือกีดกันทางการค้า มันจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อสิทธิบัตรของคุณ เป็นสิ่งจำเป็น เช่นเทคโนโลยี 3G คราวนั้น

วันนี้ ตอบเยอะที่สุดเท่าที่จำได้เลย หมดแรงตอบต่อแล้ว งานยุ่งอีกยาว

เว็บนี้ ดีตรงมาถกกันด้วยเหตุผลเนี่ยละครับ

By: adamy
iPhoneAndroidBlackberryUbuntu
on 8 July 2013 - 02:21 #594519 Reply to:594518

รู้สึกว่าตอนนี้กำลังจะเริ่มยกร่างกฏหมายส่วนนี้ใหม่เพื่อป้องกัน Troll แต่ในขณะเดียวกันปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาแล้วนะครับ แต่ยังคงอยู่ในขั้นตอนการร่างนี่ครับ ?

ขอบคุณครับ สวัสดีครับ

By: SupAwich
iPhoneAndroid
on 8 July 2013 - 07:57 #594536 Reply to:594513
SupAwich's picture

มันต้องมีรายละเอียดมากระดับหนึ่งเลยนะครับถึงจะจดได้ ไม่ใช่เฉพาะแนวคิดแล้วไปจดแน่นอน

By: Persuader
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 9 July 2013 - 03:44 #594871 Reply to:594513
Persuader's picture

คุณเข้าใจเงื่อนไขการจด patent ผิดไปหน่อยนึง

แค่มีแนวคิด จดไม่ได้นะครับ
ต้องมีบอกด้วยว่าจะสร้างมันได้ยังไง

เช่น ถ้าผมจะจดสิทธิบัตร การสั่งงานมือถือด้วยคลื่นสมอง ผมต้องอธิบายด้วยครับว่าจะให้มือถือมันอ่านคลื่นสมองอย่างไร ไม่ใช่แค่บอกชื่อการกระทำแล้วจะจดได้ ส่วนจะมีทุนสร้างหรือไม่เป็นอีกเรื่องนึง
แล้วถ้ามีบริษัทอื่นที่เค้าคิดวิธีการอ่านคลื่นสมองขึ้นมาได้อีก แล้วเป็นคนละวิธีกับของผม เค้าก็สามารถผลิตออกมาได้โดยไม่ถือว่าละเมิดด้วยครับ

By: nrml
ContributorIn Love
on 8 July 2013 - 01:42 #594512 Reply to:594507
nrml's picture

ถ้าเป็นแบบนั้นก็จะเป็นโลกของปลาใหญ่กินปลาเล็กโดยสมบูรณ์ คือนอกจากมีความรู้แล้วต้องมีทุนเป็นของตัวเองเท่านั้นถึงจะสามารถอยู่รอดในการแข่งขันได้

ผมเองก็ไม่ได้ชื่นชมลักษณะของระบบในตอนนี้สักเท่าไหร่ แต่มันก็ไม่ควรจะสุดโต่งไปด้านใดด้านหนึ่ง และจริงๆ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำยังไงถึงจะยุติธรรมกับทุกฝ่าย

By: specimen
Windows PhoneAndroid
on 8 July 2013 - 01:54 #594514 Reply to:594512
specimen's picture

แต่ ณ.วันนี้ มันสุดโต่งไปอีกด้านนึงแล้วครับ

คุณสามารถจองปลาทั้งบ่อได้ โดยที่คุณไม่มีแม้แต่วิธีจะจับปลาด้วยซ้ำไป

By: WWII
iPhoneAndroid
on 8 July 2013 - 02:53 #594523 Reply to:594514
WWII's picture

สุดโต่ง เพราะคนเอาไปใช้เป็นเครื่องมือผิดๆ ครับ ซึ่งมันก็เกิดขึ้นกับกฏหมายอื่นๆ ได้ด้วยเหมือนกัน แต่อย่างไรก็ตาม กฏหมายสิทธิบัตรมันก็ต้องมีเจตนาปกป้องคนที่คิดได้คนแรกอยู่แล้วครับ เอาเวลาไปปรับปรุงกระบวนการกลั่นกรองการจดสิทธิบัตรดีกว่า หรือให้คนเสนอยกเลิกได้บ้างหลังจากจดไปแล้ว ถ้ามันกลายเป็นสิ่งที่ใครก็ต้องมีเพื่อให้แข่งขันได้ ก็น่าจะดีกว่า

By: gamegolf
iPhoneAndroidWindows
on 8 July 2013 - 03:05 #594525 Reply to:594514

การบังคับใช้คุณไม่สามารถบังคับรายคนได้นะครับ เขาต้องออกกฏมาเพื่อสำหรับคนส่วนใหญ่อยู่แล้ว

ถ้ากฏนี้ถูกแก้ ผู้ประกอบการรายใหญ่จะยิ่งโตขึ้นๆ และรายเล็กจะไม่มีโอกาศเกิดหรือเกิดได้ยากมากเพราะไม่มีทุน

และอย่างที่มีคนเคยตอบครับถ้าคุณเรียกร้องค่าสิทธิบัตรเกินจริงเขาสามารถฟ้องได้

By: neonicus
Android
on 8 July 2013 - 11:46 #594574 Reply to:594507

มีกฏหมายใดบ้างที่ไม่มีใครเสียผลประโยชน์
ถ้าเกิดการจดสิทธิบัตรเหล่านี้ต้องมีเงินแนบเพื่อยืนยันว่าจะผลิตได้
คนไม่มีทุนก็กว่าจะไปหาเงินทุน ไปเสนอโครงการ แล้วก็ถูกก๊อปทันทีที่เสนอโดยคนที่คุณไปเสนอเพื่อขอเงินทุน

แบบนั้นสินะที่คุณต้องการ

By: specimen
Windows PhoneAndroid
on 9 July 2013 - 00:32 #594841 Reply to:594574
specimen's picture

......แล้วแต่คุณจะคิด

แต่ผมไม่ได้คิดแบบที่คุณเขียน

By: folkeza
iPhoneWindows PhoneBlackberrySymbian
on 8 July 2013 - 01:57 #594516 Reply to:594500
folkeza's picture

ผมมองกลับกันว่าการจดสิทธิบัตรแนวความคิด ไม่ได้ปิดกันสิทธิเสรีภาพแนวความคิดของคน แต่กลับก่อให้เกิดแนวความคิดใหม่ๆ ส่งผลทำให้เกิดนวัตกรรมที่ไม่มีสิ้นสุด เพราะทุกคนก็ต้องระดมสมองเพื่อแนวคิดที่ต่างจากอันเดิม

ทุกคนมีต้นทุนในการใช้ชีวิตต่างกัน คนที่เค้าคิดได้ แต่ต้นทุนในด้านอื่นๆเค้าน้อย ผมว่าเค้ามีสิทธิ์นะ ที่จะปกป้องแนวความคิดของตนเอง ส่วนคนที่คิดไม่ได้ หรือ คิดได้ทีหลัง หรือคิดได้ก่อนแต่ไม่มีการปกป้องความคิดของตนเอง ก็สมควรที่จะไม่ได้สิทธิ์ในความคิดนั้น ก็เพราะคนเรามีสิทธิ์ที่จะคิดเหมือนกันได้เลยต้องมีการจดสิทธิบัตร และการจดสิทธิบัตรถือเป็นหน้าที่ที่ควรทำ หากมันไม่มีการจดสิทธิบัตร จะหาความสงบจากไหนบนโลกนี้ หรือคุณยอมที่จะให้คนอื่นนำแนวคิดเดียวกับคุณไปสร้างเหมือนคุณ?? มันเป็นเรื่องของธุรกิจ การจดมันก่อให้เกิดการแข่งขันทางธุรกิจ ผลดีก็ตกที่ผู้บริโภคแน่นอน อย่างน้อยก็นวัตกรรมใหม่ๆ

By: WWII
iPhoneAndroid
on 8 July 2013 - 02:58 #594524 Reply to:594516
WWII's picture

+1 ถ้าจดไม่ได้ คนคงรอลอกเอาดีกว่า ก็เวลาที่คนจดได้ เขาเอาไปคิดค้นวิจัย คนอื่นๆ บนโลกเอาเวลาไปทำอะไรล่ะครับ ถ้าใครคิดออก ทำได้จริงเร็วกว่า ก็ต้องได้ไปนะผมว่า ส่วนจดแล้วจะให้ใช้ฟรี คิด license ถูกๆ หรือเอาไปฟ้องดะ นั้นมันเป็นศีลธรรมของแต่ละคนแล้วครับ

By: speedmodel
iPhoneAndroidWindows
on 8 July 2013 - 21:14 #594765 Reply to:594516

+1 คนเราซะอย่าง เดี๋ยวก็คิดอะไรใหม่ๆได้หรือคิดใช้เทคนิคที่ดีกว่าได้เสมอแหละครับ

ผมว่าแบบนี้ก็เป็นการกระตุ้นสร้างนวัตกรรมใหม่ๆขึ้นไปอีก
By: Fierceser
iPhoneAndroid
on 8 July 2013 - 02:29 #594520 Reply to:594500
Fierceser's picture

เขาคิดได้ เขาก็จดครับ คิดได้ก่อนก็จดก่อน เป็นเจ้าของความคิดนั้นไป แปลกตรงไหน เขาทำธุรกิจนะครับไม่ได้ทำการกุศล

By: hackerdew
AndroidUbuntuWindows
on 8 July 2013 - 01:30 #594506

การจดสิทธิบัตร เป็นสิทธิ์ของผู้คิดค้น หรือผู้ประดิษฐ์ที่จะทำได้ครับ...
ถ้ามีคนไปขโมยไอเดีย ความคิดของผู้คิดค้น แบบนี้ก็ไม่ไหวเช่นกันครับ

มันก็ไม่ต่างจากโจรที่ไปยึดทรัพย์สินบ้านเขา...
เขาแค่ต้องการติดตั้งกล้องวงจรปิดในบ้าน
เขาต้องการสร้างรั้วลวดหนามก็แค่เท่านั้นเอง

By: langisser
In Love
on 8 July 2013 - 02:38 #594521

:( มาเรื่องหูฟังกันต่อดีกว่า ผมว่ามันเจ๋งนะ

By: errin on 8 July 2013 - 11:43 #594568 Reply to:594521

ผมขำเมนท์นี้ XD

By: acitmaster
AndroidUbuntuWindowsIn Love
on 8 July 2013 - 14:33 #594645 Reply to:594521
acitmaster's picture

ไปดูต่อกันเลย ฮาๆๆๆ

By: gamegolf
iPhoneAndroidWindows
on 8 July 2013 - 03:09 #594526

ผมว่าคุณยังไม่เข้าใจเรื่องการจดสิทธิบัตรนะครับ ตัวอย่างที่ยกมาก็ใช้ไม่ได้ จะจดสิทธิบัตรตัวนึงรายละเอียดต้องเยอะพอสมควรนะครับ กรอกลูกตาใช้อะไรจับเซนเซอร์อะไรจับด้วยอะไร จับด้วยการยิงแสงไปที่ตา จับด้วยการใช้กล้องถ่ายรูป แค่นี้ก็ต่างกันได้สิทธิบัตร 2 ใบแล้วครับ

By: gamegolf
iPhoneAndroidWindows
on 8 July 2013 - 03:12 #594527

การต่อยอดหรือการคิดค้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของสิทธิบัตรเดิมก็ทำได้นะครับ เผื่อบางคนยังไม่รู้ถือว่าจดเป็นสิทธิบัตรอันใหม่

By: ตะโร่งโต้ง
WriterAndroidWindows
on 8 July 2013 - 12:25 #594600 Reply to:594563
ตะโร่งโต้ง's picture

ฮา :D


ช่างไฟสมัครเล่น (- -")

By: neonicus
Android
on 8 July 2013 - 11:48 #594575

ผมสงสัยเรื่องbatteryครับ
ถ้าทำเป็นแบบไร้สายนี่ต้องต้องมีไฟฟ้าเลี้ยงไมค์ไว้ทำงานอีก
เปลืองหนักกว่าอีก

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 8 July 2013 - 12:44 #594605 Reply to:594575
mr_tawan's picture

mic บางแบบไม่ต้องใช้ไฟเลี้ยงนะครับ


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: langisser
In Love
on 8 July 2013 - 13:02 #594612 Reply to:594575

ผมว่าไมค์ไม่น่าใช้ไฟนะ เพราะมันเอาเสียงที่ได้รับมาแปลงเป็นกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ เพื่อเข้าวงจรวิเคราะห์ได้อยู่แล้ว แต่ตัวที่มันใช้ไฟนี่สงสัยจะเป็น "การปรับระดับความดังของเสียง, การลดสัญญาณรบกวน, การปรับโทนเสียง, การปรับสมดุลของเสียงระหว่างหูฟังด้านซ้าย-ขวา รวมทั้งการแจ้งเตือนผู้ใช้ให้รับทราบว่าหูฟังเริ่มเคลื่อนหลุดจากตำแหน่ง" เสียมากกว่าเพราะคิดว่าน่าจะใช้ชิพมาวิเคราะห์และควบคุม

By: neonicus
Android
on 8 July 2013 - 15:25 #594659 Reply to:594612

เอาใหม่ ผมใช้คำผิด ต้องบอกว่า ภาครับเพื่อการวิเคราะห์ จะกินไฟ
แค่นั้นแหละครับที่ต้องการจะสื่อ

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 9 July 2013 - 05:24 #594883 Reply to:594659
mr_tawan's picture

อาจจะใช้สายต่อแบบพิเศษแล้วโยนกลับไปวิเคราะห์ที่ตัวเครื่อง (iphone) ก็ได้ครับ


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: iammeng
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 8 July 2013 - 13:40 #594621
iammeng's picture

ปล่อยไฟฟ้าอ่อนๆเข้าผิวหนัง O_o!!
ส่วนเรื่องความแน่นในการสวม ไม่ต้องเตือนก็ได้มั้งน่าจะรู้สึกได้นะว่าหูฟังมันจะขยับหลุดออกแล้ว
ทีนี้พวกเปิดเพลงบน BTS เสียงดัง ก็จะเสียงดังขึ้นอีก
สำหรับผมเองเห็นว่าไม่มีประโยชน์เลย

By: nrml
ContributorIn Love
on 8 July 2013 - 14:43 #594648 Reply to:594621
nrml's picture

ปกติร่างกายก็มีการสื่อสารด้วยไฟฟ้าอยู่แล้วครับ ไม่น่าจะเป็นอะไร ส่วนด้านอื่นๆ ผมว่าก็ดูน่าสนใจดี เค้าอาจจะไม่มองในมุมที่ว่าแต่ละคนอาจจะใส่หูฟังได้ไม่กระชับเท่ากันไปซะทุกคน ตรงนี้มันก็น่าจะเข้ามาช่วยปรับให้หูที่แตกต่างรูปแบบได้ประสบการณ์ใกล้เคียงกัน

By: CrazyPower
iPhoneBlackberryRed HatIn Love
on 8 July 2013 - 19:09 #594731
CrazyPower's picture

สุดยอดอีกแล้วท่าน

By: por311
iPhoneAndroid
on 8 July 2013 - 22:55 #594809

ทำไมคิดว่าจดแล้ว เค้าจะไม่ทำล่ะครับ
ดูๆแล้ว อันนี้ก็ไม่ได้เหนือชั้น หรือเวอร์เกินจะเป็นโปรดักส์จริงๆนี่ครับ

อีกสัก 5-6 ปี ถ้ายังไม่ออกมา ค่อยว่าน่าจะยังไม่สาย
ไม่ก็คิดแบบอื่นแล้วจดเลย
^ ^'