ในประเทศที่นิยม "ตู้หยอดเหรียญ" (vending machine) อย่างญี่ปุ่น อะไรๆ ก็สามารถมาขายผ่านตู้ได้ ไม่เว้นแม้แต่แอพบน Google Play!
กูเกิลประเทศญี่ปุ่นเริ่มติดตั้ง "ตู้ขายแอพ" โดยบนหน้าจอตู้จะมีแอพจำนวนหนึ่งให้เลือกซื้อ (มีทั้งแบบฟรีและเสียเงิน) การใช้งานจำเป็นต้องมีมือถือ Android 4.0 ขึ้นไปที่รองรับ NFC เมื่อต้องการซื้อแอพก็เอามือถือไปวางไว้ในช่องใต้หน้าจอ ตู้จะเชื่อมต่อกับมือถือผ่าน NFC เมื่อเลือกแอพได้แล้วบนหน้าจอจะแสดงแอนิเมชั่น "แอพร่วงลงจากจอ" เหมือนกับเวลาหยอดเหรียญซื้อน้ำขวด-กระป๋องด้วย
เบื้องต้นกูเกิลยังจัดพนักงานคอยสาธิตการทำงานของตู้ Google Play นี้ตลอดเวลา สำหรับคนที่ไม่มีมือถือ Android ก็ยังมี Nexus 4 เอาไว้สาธิตที่หน้าตู้ด้วย ใครอยากเล่นต้องไปลองกันที่ห้าง Parco ในย่านชิบูยะครับ (ภาพเพิ่มเติมตามที่มา)
ที่มา - Engadget
Comments
ประเทศนี้น่ารักจุง อิอิ
ตู้ใหญ่มว้ากก ~_~'
my blog
ประเทศแห่งตู้ขายของอัตโนมัติจริงๆ
เอ่อ เอ่ออ
ของ Google จริงๆ เลยหรอครับ
มีพนักงานกูเกิ้ลคอยช่วยสาธิตด้วยก็คงใช่ละครับ
ตู้ใหญ่ไปนะ
A smooth sea never made a skillful sailor.
เอามาตั้งไว้ที่สยามได้ไหม ผมจะไปซื้อแอพ!
ผมให้ผ่านครับ!!!
โหลดเกมส์ 1 - 4 GB ไม่เปลืองเน็ตเลย แต่แบบเกมที่ขนาด 2MB แล้วมาโหลดที่หลังอีก 2GB อยากให้ Google ช่วยโหลดมาให้ด้วยเลย
ผมล่ะกลัวตู้ Google Play จีนแดงแหละคราวนี้ =[]=
เจ๋งอ่ะ
..: เรื่อยไป
นึกว่านุศรา
ไม่ Geek จริง ไม่ลงทุนทำนะเนี่ย ^^
เข้ามาไทยเมื่อไหร่ร้านมือถือกำไรลดแน่ๆ
น่าสนใจแหะ น่าจะเอามาทำตู้เพลง, ภาพยนต์ดิจิทัล หยอดเหรียญ หรือตัดผ่านบัตรที่ผูกไว้กับ Account ติดไว้แถวสยาม ตามห้าง จะได้ไม่ต้องเสียเวลาโหลดไฟล์หนัง เพลง เหมือนที่เป็นอยู่ แถมถูกลิขสิทธิ์ (อยู่ในแนวคิดที่ว่าตู้ Preload มาเก็บไว้แล้วนะ ถ้ามี update กับ sync อัตโนมัติเอา)
แต่คงยากติดปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์เหมือนเดิม ถ้าไม่คิดเรื่องนี้ก็เป็น Ideas ที่น่าสนใจนะ ตู้ Digital Content เอามาแทนร้านขาย CD , DVD ได้เลย ไม่ต้องเช่าพื้นที่เยอะด้วย ค่าใช้จ่ายด้าน Operation ก็น้อยเพราะไม่ต้องใช้พนักงานเยอะคนเดียวก็เหลือพอแค่แนะนำวิธีการโหลด สุดท้ายมือถือก็จะเป็น Media Center เพราะตอนนี้ TV , เครื่องเสียง ก็เชื่อมกับมือถือผ่านไร้สายผ่าน NFC กันได้อยู่แล้ว
ถ้าเจ้าของ Content ไม่ยึดติดกับแนวคิดเดิมๆ ผมว่าอาจเป็นธุรกิจที่น่าสนใจกว่าร้านเช่า CD, DVD อีก
ระหว่างรอไม่มีคนมา Download ยังรับจ้างเปิดโฆษณา ระหว่างนั้นได้อีก เพราะตู้มันวางอยู่จุดที่ต้องมองเห็นง่ายอยู่แล้ว เอาไว้โปรโมทหนัง เพลงของแต่ละค่ายได้อีกทาง
ตั้งไว้หน้าโรงหนังไว้ขายเพลงประกอบหนัง กับ Download หนังตัวอย่าง ก็น่าสนใจ เพราะหน้าโรงหนังก็มีจออยู่แล้ว เอามาพ่วงคอมฯ อีกตัว ทำเป็น Tocuh Screen แล้วเชื่อมมือถือผ่าน NFC ใช้ WI-FI Direct ในการ Download เข้าเครื่อง เพราะยังไง Google Play มันก็มีทั้ง App, Movies , Music , Book อยู่แล้ว แค่ทำ App ครอบแล้วส่ง Parameter ไปตามรอบหนังก็น่าจะได้ ถ้าถามว่าทำไมไม่โหลดใน Google Play เลยก็คงต้องบอกว่ามันแล้วแต่วิธีคิด ถ้าคิดแบบคน IT ก็จะบอกว่าทำเพื่อ ? แต่ถ้้าคิดแบบ Consumer มันก็เป็นอารมณ์ขายของที่กำลังอยากได้หลังจากดูหนังเสร็จเห็นตู้ผมว่าผมก็ลองโหลดล่ะ แต่ต้องง่ายด้วยนะ
ขำ ขำครับ แค่อยากแชร์ ideas
ไอเดียคุณเจ๋งอ่ะ
เจ๋ง อ่ะชอบๆ
[นอกเรื่อง] คนซ้ายมองผ่าน ๆ นึกว่าใส่หมวกมิกกี้เมาส์
:-)
ชอบครับ
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
ไม่ค่อยจะเห็นประโยชน์เท่าไหร android ในญี่ปุ่นซื้อแอพตัดเงินเหมือนค่าโทรตอนสิ้นเดือนได้ แล้วเน็ทก็ครอบครุมเกือบทั่วประเทศแล้วด้วย ไม่มีความจำเป็นต้องต้องไปหยอดเงินซื้อแอพที่ตู้เลย
เพราะงั้นประโยชน์ของตู้นี้คงจะอยู่ที่โฆษณา android มากกว่าขายแอพ แต่ญี่ปุ่นมัน android คลองประเทศอยู๋แล้ว ยังจะต้องโฆษณาอะไรอีก
บางครั้งสิ่งที่เรามองว่าไม่มีประโยชน์ กลับได้รับความนิยมครับ Vending machine มันเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมของคนญี่ปุ่นครับ และ Google ก็เป็นบริษัท Geek ที่ชอบทำอะไรแปลก ๆ อยู่แล้ว มันจึงเกิดสิ่งนี้ขึ้นมาครับ ผมว่ามันก็เป็นสีสันดีนะครับ ตู้กดอัตโนมัติของญี่ปุ่นมีแปลก ๆ เยอะครับ ขายตั้งแต่โค๊ก รถยนต์ ไก่ทอด ไข่ไก่สด หนังสือโป๊ หรือแม้กระทั่งกางเกงในใช้แล้ว??? ถ้าไม่มีตู้ขายแอพมือถือนี่ผมว่าแปลกนะครับ 555
ผมกลับเห็นด้วยกับความเห็นข้างบนนะครับ
คือพวกน้ำอัดลม ไก่ทอง ของกิน หนังสือ ของใช้ มันเป็นของชิ้นๆที่จะต้องไปเอา ณ ที่ๆมันขาย แต่กับ App เราถือมือถืออยู่แล้วตลอดเวลา Internet ใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา โหลดได้ทันทีอยู่แล้วหนิ เผลอๆที่เห็นอนิเมชั่น App ร่วงลงมาอาจเป็นแค่ส่ง Link ให้เครื่องไป Download ต่อเองด้วยซ้ำ
ผมว่าตู้นี้คงใช้แค่โฆษณาหละครับ หรือมันจะเอาไปต่อยอดอะไรได้อีกมั้ยนะ
ก็เพราะทุกคนไม่ใช่ เทพมือถือไงครับ
มีคุณลุงคุณป้า ที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไร จะให้เค้าไปควานหาใน play store ก็คงไม่เป็นหรอก
ดังนั้น ถ้ามี app ที่เลือกมาแล้วจำนวนนึง อย่างในเนื้อข่าว
แสดงให้เห็นอยู่บนหน้าตู้ ใครอยากได้ ก็จ่ายตัง กด จบ
นี่คือวิธีที่ง่ายกว่า ทำสิ่งที่จับต้องไม่ได้ วุ่นวายสำหรับคนทั่วไป ให้มันจับต้องได้ เหมือนหนังสือ เหมือนน้ำอัดลม เหมือนซื้อของปกติ นี่คือวิธีการคิดแบบการตลาดครับ
มันมีคนอีกเยอะครับ ที่่เค้าไม่ได้เป็นผู้ใช้ระดับ advance
ไม่งั้น ร้านตู้ ไม่ตั้งขึ้นมาเป็นดอกเห็ดหรอกครับ
ถ้าถึงขนาดเปิด play store ขึ้นมาดู featured app หรือ search app ไม่เป็นนี่....
ก็คงยกให้ตู้นี้เค้าไปหละครับ -*- กลุ่มเป้าหมายของตู้นี้
::เพิ่ม::
ผมเข้าไปดูเว็บข่าวต้นทางละ มันก็น่าใช้อยู่นะ จอใหญ่ดี ใช้โปรโมท app ได้อยู่
เห็นเขาบอกว่า download ผ่านตู้ด้วยก็ยิ่งดีเลยสำหรับเกมส์ใหญ่ๆ
(downloading a free game through the machine)
แบบนี้ก็โอเค แต่เห็นเค้าเปิด web browser ด้วยแฮะ
ตู้กดมันให้ความรู้สึกมีปฏิสัมพันธ์ล่ะมั้งครับ มีตู้แปลกๆตั้งอยู่ข้างทางมีคนเดินผ่าน ถ้าตัวตู้ทำได้น่าสนใจก็มีคนอยากลองใช้งานอยากลองหยอดเงินดูบ้างอยู่แล้ว ถึงโหลดผ่านเน็ตจะสะดวกกว่าเยอะ แล้วเป็นการโฆษณาไปในตัว(อาจจะเป็นจุดประสงค์หลัก) เป็นอะไรที่ Google Japan ทำสมกับเป็นญี่ปุ่นดี
ส่วนในไทยหรือประเทศที่ตู้ขายแอพเถื่อนเกลื่อนแบบนี้เป็นอะไรที่น่าสนใจถ้ากูเกิลหรือแอปเปิ้ลจะจริงจังเข้ามาจัดการกับตู้เถื่อนพวกนี้ ด้วยตู้ขายแอพแท้แบบนี้นะครับ
ผมเข้าใจว่าเขาจะให้มันเป็นอีก channel เฉยๆอ่ะครับ ประมาณว่าเงยหน้าจากมือถือขึ้นมาปุ๊บ ก็ยังสามารถเห็น content สำหรับมือถืออีก อะไรแบบนั้น
ถ้าผมอยู่ไกล้ๆ มัน ผมคงได้ใช้บริการบ้างแหละ เวลาจะดาวน์โหลดอะไรสักอย่าง หรือลง App อะไร จะได้ไม่ต้องมาคอยระวังเรื่องดาต้าจะหมด เปลืองดาต้า
เด็กๆ ซื้อได้ครับ คนที่ไม่พร้อมให้ตัดเงินในโทรศัพท์ก็ได้ใช้ครับ
ญี่ปุ่นไม่เหมือนไทยตรงที่เค้ามองว่าของทุกอย่างขายได้ แม้เป็นของที่จับต้องไม่ได้ อันนี้อาจเป็นที่เดียวในโลกด้วยซ้ำที่ขายได้เกือบทุกอย่างจริงๆ
คนญี่ปุ่นส่วนมากจะไม่ดูถูกแนวคิดของใครครับ แต่ถ้ามันไม่เวิร์คเค้าก็ไม่ใช้
ส่วนคนไทยนี่ปัญหาเยอะครับ บางเรื่องไม่เกี่ยวข้องกับประเทศตัวเองยังเดือดร้อนเลย
ผมมองว่าเป็นอย่างนี้ได้ไหม คือ แอพใน google play มันก็เยอะนะ คงไม่มีใครไปไล่ควานหาทุกแอพในนั้นหรอก ดังนั้นแอพใหม่ๆ ที่พึ่งทำก็เปิดให้มีดาวน์โหลดที่ตู้นี้ด้วย ใครเดินผ่านไปผ่านมาก็เห็นว่า เอ้อ มีแอพอย่างนี้ด้วยแฮะ
ดีอ่ะ แต่จะดีกว่านี้อีกถ้าซื้อแอพกับเงินในซิมได้แบบ Nokia Store ด้วย
วางจอแนวตั้งเถอะครับ ประหยัดค่าตู้ด้วย อันนี้ใหญ่เกิน
ข้างในมีพนักงาน คอยกดซื้อให้ครับ 555+
เป็นไปได้ ฮ่าๆๆ
ขอ NFC แตะแล้วส่งแอพผ่าน Wi-Fi Direct เข้าเครื่องเลยด้วยได้มั้ย
เอ่อ ที่ญี่ปุ่นคนเค้าไม่ใช้บัตรเครดิตกันเยอะเหรอครับ ถึงทำตู้ออกมาให้กดเลย หรือเป็นแผนการตลาดรูปแบบหนึ่ง ?
จอใหญ่ๆ กดง่ายกว่าจอเล็กๆ มั้งครับ :p ไม่ก็แค่ทำออกมาให้ดูเล่นเฉยๆ
ประเทศนี้เจ้าแห่ง kiosk อยู่แล้ว
นอกจากการตลาดแล้ว หาประโยชน์อันใดไม่ได้จริงๆ
Trust me, I am a Wizard
มีขายกล้วย ขายปูในระบบหยอดเหรียญด้วยนะครับ ขายน้ำก็มี ขายบะหมี่ก็มี ขายถุงยางก็มี ฯลฯ
คนญี่ปุ่นนี่หาฉลาดๆ ยากครับ ร้านขายของพวกนี้ก็มีอยู่แล้ว ไม่รู้จะทำของไม่มีประโยชน์ออกมาทำไม
พวกตู้ขายของจับต้องได้แบบนั้นผมว่ามันมีประโยชน์ที่ซื้อได้หลายที่ ทุกเวลานะครับ แต่แอพมือถือมันสะดวกกว่าอีกคือ ซื้อได้ทุกที่ทุกเวลา(ที่มีเน็ต) ถ้าจะเอาประโยชน์แบบเดียวกันผมก็ว่ามันไม่มีประโยชน์อ่ะ
เด็กซื้อได้ครับ คนแก่ก็ซื้อได้ เพราะระบบของ Kiosk ส่วนมากจะมีการให้ข้อมูล
ลองส่งสมาร์ทโฟนให้คุณลุงคุณป้าดูก็ได้ครับ รับรองว่าถ้าไม่ได้รับคำแนะนำก็จะมีแค่โทรเข้าออก
ตู้ Kiosk มันเป็นมิตรกว่าในหลายๆ ทางนะ มีเสียง มีคำแนะนำ รู้สึกคุ้นเคย
ถ้าเป็นในไทยก็ควรทำตู้ kiosk สมัคร Apple ID ครับ
ใครบอกว่าเรื่องไร้สาระ อย่าลืมประเด็นเรื่องความคุ้นเคยของการใช้งานนะครับ(บริบทนี้คือญี่ปุ่นใช้ตู้กดกันเยอะนะครับ) คนใช้สมาร์ทโฟนหลายคนนั้นไม่ใช่ว่าจะทำเรื่องอย่างการซื้อแอพเองเป็นนะครับ ดูอย่างเรื่องประเด็นเรื่องแอพตู้ได้เลยที่คนนิยมๆเนี่ยไม่ใช่เพราะเรื่องราคาเป็นหลักหรอก แต่เพราะไม่รู้วิธีเองซะมากกว่า
การมองบางเรื่องใช้มุมมองของคนไอทีมองอย่างเดียวไม่ได้หรอกครับ กูเกิลเขาเลยลองเชิงด้วยวิธีนี้ไงครับ
ถ้าทำให้ขายแอพบน iOS ได้นี่ ตั้งแถวสยามรุ่งแน่ๆ ตัด % เพิ่มอีกสัก 10% ได้เงินฟรีๆ กระจาย
คนที่คิดว่ามันไม่มีประโยชน์อยากให้ลองคิดว่าคนซื้อ app ไม่เป็นก็เยอะนะ ดูง่ายๆ อย่างบ้านเราขนาดใช้ iPhone ยังมีคนไปให้ร้านตู้ลง app ให้อยู่เลย อีกอย่างมันเป็นการเพิ่มช่องทางในการขาย คนเราชอบหรือถนัดอะไรไม่เหมือนกัน คนญี่ปุ่นชอบใช้ตู้หยอดเหรียญกันมาก เห็นตู้แบบนี้วางอยู่ อาจจะเกิดอารมณ์อยากลองซื้อดูก็ได้ (ถ้าไม่เห็นตู้นี้อาจจะไม่คิดอยากซื้อ)
แค่ลองกดดู ก็เพียงพอแล้ว
เมื่อก่อนคนทั่วไปอาจจะไม่รู้ว่า Play Store มี app/content อะไรบ้าง ก็พาลคิดว่าไม่มีเสียอย่างนั้น เพราะไม่สนใจตั้งแต่แรก
แต่พอมีของแปลก ๆ มา ใคร ๆ ก็คงอยากจะเล่นดู ทีนี้แทนที่จะอยู่กับฝั่ง Apple อย่างเดียว กลายเป็นว่า ฝั่ง Google ก็มีแอพที่อยากใช้ เหตุผลที่จำเป็นต้องเลือก Apple ก็ลดไปอีกหนึ่ง
Jusci - Google Plus - Twitter
ถ้า Apple ทำตู้แบบนี้ ไปว่างไว้ MBK จะโดนพ่อค้าแถวนั้นทุบตู้ทิ้งไหม 5555
แค่ไปเดินแจกใบปลิวรณรงค์ยังแทบจะถูกมาเฟียแถวนั้นไล่ยิงเลยครับ :P
ทุกอย่างจับลงตู้กดได้หมดจริงๆ ประเทศนี้
ไอเดียดีแฮะอันนี้ ชอบครับ
การตลาดดีครับ ทำอะไรใหม่ๆเป็นสีสันสมกับเป็นกูเกิล
แปลกดีนะเห็นหลายคนในนี้เดือนร้อน ว่ามันจะไม่มีประโยชน์
สำหรับผม ผมชอบนะแบบนี้ คือมันน่าไปกดซื้อจากตู้ มากกว่ากดซื้อในมือถือ ผมคิดแบบนี้จริงๆ