ไม่ใช่เอชทีซีเท่านั้นที่ไมโครซอฟท์เสนอให้ใช้งาน Windows Phone แบบฟรีๆ โดยการจับระบบปฏิบัติการ Windows Phone ยัดเข้าอุปกรณ์ Android ที่มีอยู่แล้ว เพื่อเป็นทางเลือกเสริมกับผู้ใช้ เพราะ Eldar Murtazin บล็อกเกอร์ชาวรัสเซียที่มักจะได้สินค้าไอทีมาใช้ก่อนคนอื่นเสมอ เปิดเผยว่าไมโครซอฟท์ได้ติดต่อซัมซุงและหัวเว่ยให้ทำลักษณะเดียวกัน ทั้งระบบปฏิบัติการ Windows Phone และ Windows RT รวมถึงสนับสนุนค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการปรับให้ฮาร์ดแวร์ที่มีอยู่แล้วให้รันระบบปฏิบัติการของไมโครซอฟท์ได้
ในส่วนของซัมซุงนั้น บริษัทกำลังพัฒนา Galaxy Tab 2014 Edition ที่ใช้ทั้ง Android และ Windows RT อยู่ โดยเครื่องจะมีขนาดประมาณกระดาษ A4 (ขนาดหน้าจอน่าจะ 12 นิ้วขึ้นไป) และบางมาก โครงเป็นพลาสติกที่ทำออกมาคล้ายเป็นชิ้นส่วนโลหะ จอภาพระดับ Retina ทำงานได้ลื่นไหล และแนวคิดดูอัลบู๊ตทำงานได้ดีทีเดียว ส่วนของหัวเว่ยนั้น Murtazin ไม่ได้ให้ข้อมูล
เว็บไซต์ Unwired View ตั้งข้อสังเกตว่า ไมโครซอฟท์พยายามผลักดันแพลตฟอร์มของตนอย่างสิ้นหวัง โดยอย่างน้อยที่สุดบริษัทก็สามารถสร้างภาพการเติบโตในการใช้งานแพลตฟอร์ม Windows บนอุปกรณ์พกพาได้
ที่มา: Mobile-Review, Digestive (MP3 เป็นภาษารัสเซีย) ผ่าน Unwired View
Comments
คิดแบบกำปั้นทุบดินกันเลยทีเดียว ทางเดียวที่จะสู้กับ ฟรีos ได้คือ ฟรี+แถมเงินos
+1 ไม่ฟรีมันอยู่ยากจริงครับ ถ้ามาทางนี้จริง สักพักอาจตั้งหลักได้
จับ Note2 ใส่ Launcher8 pro เป็นอะไรที่สะดวกมากมาก ลืม Touchwiz รกๆอืดๆ ไปเลย
Windows RT ก็ฟรี Windows Phone ก็ฟรี Office RT ก็ฟรี พี่เอาเงินที่ไหนทุ่มนักหนาครับเนี่ย!
เงินที่ขาย Windows ตัวเก่า ๆ มั้งครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เงินจาก exchange ที่เก็บฝั่งandroidเครื่องละ 1$
android ก็ฟรียังมีเงินพัฒนาเลย
แนวทางหาเงินมันต่างกันมาตั้งแต่ต้นแล้วครับ เหมือน LINE กับ Whatsapp นั่นแหละครับ
บริษัทก็สามารถภาพการเติบโต... -> บริษัทก็สามารถสร้างภาพการเติบโต... ?
อ่านแล้วก็รู้สึกสิ้นหวังจริงๆ - -"
ดีๆ ผลิตกันเยอะๆ ใช้กันเยอะๆ จะได้มี App เยอะๆ อนาคตจะได้มีตัวเลือกเพิ่ม
อยากทราบว่า "จอภาพระดับ Retina" เป็นการบอกความละเอียดที่ใช้ได้ทั่วไปแล้วรึเปล่าครับ (รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ของ Apple)
หรือควรบอกเป็น ความหนาแน่น pixel แทน
ต้นฉบับไม่ได้ระบุความละเอียดนะครับ
"ไมโครซอฟท์พยายามผลักดันแพลตฟอร์มของตนอย่างสิ้นหวัง"
ยิ่งกว่าเห็นภาพ
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
ผมว่า MS มาถูกทางแล้วนะ ถ้า OS ฟรีปุ๊บ app ก็เพิ่มขึ้นพรวดๆเอง แบบแอนดรอยช่วงแรก
ปัญหาก็คือ Android ปล่อยให้ OEM Customize OS ได้เต็มที่ อยากทำอะไรก็ทำ ดังนั้นจึงสามารถสร้างความแตกต่างกับคู่แข่งได้ง่าย (ถ้าดูดี ๆ Android แต่ละค่ายหน้าตาแทบไม่เหมือนกันเลย) ในขณะที่ยังรันแอพลิเคชั่นเดียวกันได้
ในขณะที่ Windows Phone/RT ปรับอะไรไม่ได้เลย ต้องใช้วิธีพ่วงซอฟท์แวร์ กับใส่อุปกรณ์เสริมแปลก ๆ แทน ทำให้การสร้างความแตกต่างทำได้ยากกว่า ที่สำคัญคือ สเปคบางส่วนถูกล็อกโดยทาง MS เองทำให้บางเจ้าไม่สามารถใช้อุปกรณ์จาก Supplier เดิมที่มีความคุ้นเคยกับตัวเองได้ (ผมว่าผมไม่เคยเห็นมือถือ WP ที่ใช้ชิพของ MediaTek นะ)
กลัวว่าผู้ผลิต จะไม่ค่อยเล่นด้วย หรือเล่นแบบกั๊กๆ เพราะผู้ผลิต ก็คงไม่มีความมั่นใจมากนัก
อาจจะต้องรอถึงเวลานึง ที่ ของฟรี เริ่มหมดประโยชน์ จนผู้ใช้งานต้องหันไปพึ่งของเสียเงิน
แต่ก็ไม่รู้ว่า อีกนานแค่ไหน
Digestive (MP3 เป็นภาษารัสเซีย) > Digestive (MP3 ภาษารัสเซีย)
และบางมาก > และบาง
สิ้นหวัง?
ถ้าMS สิ้นหวังแล้ว BBอยู่ในสภาพอะไรกันแน่?
บางทีBiasมันก็ชอบโผล่เวลาพวกนี้เขียนบทความเสมอๆ
เข้าไปอ่านที่ลิงก์แล้ว ขอบอกว่า ผิดหวังกับระดับของบทความที่นั่นสุดๆ
bb อยู่ในสภาพกำลังขายครับ
จากลือว่า ms ขาย license windows rt เครื่องละ $80 เปลี่ยนเป็น การแจกฟรีแล้วแถมเงินเพื่อให้เกิดการไช้งาน ... คำว่าสิ้นหวัง อาจจะแรงไปแต่ก็ไม่ถึงกับผิดหรอก
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
(ลบ)
ต้นฉบับคือ
"desperate" แปลได้แบบ อาทิ รุนแรง ซึ่งสิ้นหวัง เต็มไปด้วยอันตราย ผมเลือกใช้ สิ้นหวัง เพราะมันสอดคล้องกับข้อความถัดไป "to do something, anything to create at least an illusion growth of Windows on mobile devices"
สังเกตุไหมว่า วินโด้กำลังตีตลาดให้เอเซีย...
ผมว่า MS เดินมาถูกทาง และมั่นใจในคุณภาพของสินค้าตัวเอง
การที่ทำ dual boot ทำให้คนได้ลองสินค้าตัวเอง แบบไม่มีความเสี่ยง
คือถ้าไม่ชอบ ก็ใช้ android ซะ
แต่ถ้าได้ลอง แล้วอาจจะชอบก็ได้ แล้วใช้ต่อเนื่องจนไม่เปิด android อีก
ผมว่าระดับ microsoft คงไม่สิ้นหวังหรอกครับ การทำ dual boot ก็คือการสอดแทรกตัวเองเข้าไปในลูกค้า android อย่างแนบเนียน ราวกับส่ง trojan ไปเลยทีเดียว แล้วสุดท้าย ก็ยึดเครื่องนั้นซะด้วย window RT
dual boot นั่นเป็นความคิด SS ครับเพราะได้ RT มาฟรีเลยอยากเอามาเป็นจุดขายซะ ใจจริงไม่น่าจะใช่ความคิด MS ที่ให้ทำ Dual boot
ตรงนี้เหมือนดาบสองคม
ถ้าเปลี่ยนแบบ one way
อาจหาคนที่เต็มใจเปลี่ยนได้ยาก
เพราะรุ่นที่เปลี่ยนได้ RAM ต้องสูงพอตัวเลย
เปลี่ยนแล้วความสามารถกลับลดลงมาก
แต่ถ้าเป็น Dual Boot
ก็มีความเป็นไปได้ที่
rt จะเป็นเพียงแค่ตัวเปิด Office เท่านั้น
ซึ่งไม่มีประโยชน์กับ Platform
ต่อไปถ้า Windows ครองตลาดแล้ว ผู้ผลิตเจ้าต่าง ๆ ก็ต้องจ่ายเงินให้ M$ เพื่อซื้อ Windows อยู่ดี จะมีผู้ผลิตรายใดคิดแบบนี้บ้าง?
มันเป็นการบุกเข้าฐานที่มั่นของศัตรูได้เร็วและง่ายที่สุด บนมือถือและเครื่องที่ทุกคนมีและคุ้นเคย ผมว่าไม่ได้สิ้นหวัง แต่มันคือการใช้กลยุทธเดียวกับ Windows เมื่อก่อนที่เป็น IBM Compatible เราอาจจะได้เห็นมือถือ Android ที่ติดสัญลักษณ์ Windows RT หรือ Windows phone compatible ก็ได้ ซึ่งเป็นงานถนัดของ Microsoft อยู่แล้วซึ่งเป็นประสบการณ์ที่สั่งสมมาจาก Windows Desktop ในอดีตที่สามารถติดตั้ง driver บน H/W แปลกๆ ได้ร้อยพ่อพันแม่
ผมว่าไดร์เวอร์นี่เป็นงานของผู้ผลิต HW นะครับ ถ้าผู้ผลิตไม่ทำก็จบ
แต่ยอมรับว่าบน Linux เนี่ยการอัพเดต driver ยากกว่าตรงที่ Kernel มันพัฒนาขึ้นไปเรื่อย ๆ และเวลาคอมไพล์ driver ก็ต้องผูกกับ Kernel ผู้ผลิตก็ต้องมานั่งทดสอบโค๊ดกับ Kernel เวอร์ชั่นใหม่ๆ กลายเป็นการวิ่งไล่จับ (ที่จริงถ้าเปิดซอร์สไปเลยจะสบายกว่ามาก แต่เขาก็กลัีวเรื่องของ IP กันนั่นแหละ)
เอ แล้ว Windows ไม่ต่างกันเหรอครับ?
อุปกรณ์บางตัวไม่มีไดร์เวอร์สำหรับ Windows รุ่นใหม่ แต่ดันใช้กันได้ บน Linux เองก็มีกรณีแบบนี้เหมือนกัน แต่อัตราการเกิดต่ำกว่าครับ
ปัญหานี้มันแก้ที่ผู้ผลิต H/W นั้นแหละ มันไม่ใช่แก้ที่ฝั่ง OS ประเด็นคือ ถ้าผู้ผลิต H/W มองแบบเดิมๆ ว่าไม่ต้องทำก็ขายเครื่องรุ่นใหม่ได้ ตลาด Mobile device ก็จะเข้าแนวทางเดิมของ Android คือผู้ผลิต H/W ไม่สนใจ แต่ถ้า Microsoft จะแก้ปัญหาคงต้องทำ Microsoft compatible driver แทน แบบที่ทำบน Windows Desktop ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะแก้ไขได้แค่ไหนเหมือนกันเพราะ ARM คงเป็นเรื่องใหม่ของ Microsoft พอสมควร tools ในการพัฒนา driver บนนั้นคงไม่เท่ากับ x86 แหละ
ข่าวต่อไป "ยอดใช้งาน Windows phone,RT บน Android device ไม่กระเตื้อง Microsoftโชว์ป๋าโปะค่าhardwareเครื่องให้เครื่องละ3%สำหรับทุกเครื่องที่ลงRTออกขาย"
ไม่มีใครบอกไว้
กด Like กด Like กด Like กด Like กด Like กด Like กด Like กด Like กด Like กด Like
บิลล์เกตส์เคยบอกว่า ไม่อยากให้คนคิดถึงแพลตฟอร์มอื่นเมื่อนึกถึง OS เขาอาจจะกำลังมีหวังก็ได้
ยอดขาย tablet Windows RT และ Windows Phone พุ่ง 1,000% (แต่คนบูทใช้อะไรนั่นอีกเรื่อง)
Windows RT ฟาดพื้นที่ไป 12GB ส่วน Android กินไปอีก 4GB (ถ้าเป็นเวอร์ชั่น Samsung อาจจะซัดไป 12 GB)
สรุปว่าถ้าจะทำ Dual Boot ควรมีพื้นที่ Flash อย่างน้อย 32GB (และถ้าไม่อยากโดนด่า ก็ไม่ควรระบุพื้นที่ว่า 32GB ด้วย) ไม่งั้นไม่พอใช้
นึกถึงเรื่องนี้เลยทำให้ความเป็นไปได้ต่ำลงเลย -*-
แต่ถ้ามีผมซื้อนะ แถม office ด้วย ฟินสุด ๆ
A smooth sea never made a skillful sailor.
ใครก็ได้สอนผมลง Hackintosh หน่อยครับ ขอแบบมี driver wifi ด้วยนะครับ
ถ้ามีทางเลือกเพิ่ม ก็ดีนะ
"โดยอย่างน้อยที่สุดบริษัทก็สามารถภาพการเติบโต"--> สร้างภาพการเติบโต หรือ รักษาภาพการเติบโต ???
แก้แล้วครับ
ผมว่าดีครับ สำหรับลูกค้า :D
แปลกแฮะ
ผมกลับมองว่า Microsoft จะขาย surface ออก มีแค่กรณีเดียวคือ
เปลี่ยนจากคนที่กำลังจะซื้อ ultra book ให้เป็น surface แทน
แค่นั้นเลย (ไม่นับคนที่ซื้อมาลองเล่นดูนะ)
เพราะงั้น rt โดยตัวมันเอง ขายไม่ออกแน่ๆอยู่แล้ว ไม่มีใครเอา office ไปใช้ เพื่อความบันเทิงแน่ๆ
จะเอาไปทำงานก็ดัน run x86-64 ไม่ได้อีก จะให้ดี ควรจะยกเลิก ไปเลย
มอง point นี้ไม่ออก เจ๊ง ล้าน % แถมฟรี ยังจะ uninstall ออกเลยครับ
เพราะมันหนักเครื่อง mem ยิ่งมีน้อยๆ อยู่
ไม่เชื่อรอดูเลย ต้องมีกระทู้ ทำยังไงถึงจะ เอา rt ออกไปจาก galaxy tab ได้
แล้วเอา พื้นที่ 14 GB ตูคืนมา
อืม...ต่อไปในอนาคต SS อาจจะมีGalaxyS หรือ Note ที่แรมเยอะๆ ความจำเยอะๆ ทำให้รัน Dual Boot ได้สินะ มันแหล่มเลย!!!
MS คงไม่มีอะไรจะเสียแล้วล่ะครับ เดินหน้าดีกว่าอยู่กับที่แล้วถูกทิ้งห่างไปเรื่อยๆ สำหรับ MS นี่คงเป็นความหวังล่ะครับ เพียงแต่คนภายนอกอาจจะมองตรงข้ามกัน
ทุบหม้อข้าวหม้อแกง แล้วลุย
ยอมเสียวันนี้เพื่ออนาคต ผมว่าน่าจะทำให้โตไวขึ้นนะ
พอโตจนคนใช้เยอะ แล้วค่อยปรับเปลี่ยนให้เป็นอีกแนวทาง
จากที่ดู มือถือที่ทำให้ Android ของแต่ละค่าย
จัดเต็มทัง้ Spec Design และ ความสามารถ
ถ้าดึงเครื่องเหล่านั้นให้ใช้ Windows phone ได้
ความน่าสนใจเพิ่มขึ้นเยอะเลย <3
Office2013 น่าจะฟรีไปเลย