อาชญากรรมต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ราคาแพงกำลังเป็นปัญหาร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา และหน่วยงานภาครัฐของสหรัฐเองก็เริ่มพูดถึงมาตรการป้องกัน-แก้ไขปัญหานี้ (ข่าวเก่า: ฐานข้อมูลมือถือถูกขโมยของ CTIA)
มาตรการด้านเทคนิคอย่างการติดตั้งซอฟต์แวร์ตามหามือถือก็ถือเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหา โดยสำนักงานอัยการเขตซานฟรานซิสโกได้สำรวจข้อมูลของผู้ใช้สมาร์ทโฟนผ่านเครือข่ายสังคมต่างๆ จำนวน 347 ราย ได้ผลออกมาว่าผู้ใช้ iPhone จำนวน 78% หรือประมาณ 4 ใน 5 นั้นเปิดใช้ฟีเจอร์ Find My iPhone เพื่อควบคุมเครื่องจากระยะไกลอยู่แล้ว
อัยการของเขตซานฟรานซิสโก George Gascón พยายามผลักดันให้ผู้ขายสมาร์ทโฟนใส่ฟีเจอร์ลักษณะนี้เข้ามาเป็นมาตรฐาน เขายังให้สัมภาษณ์ว่าฟีเจอร์ Find My iPhone ควรถูกเปิดใช้กับมือถือทุกเครื่องเพื่อคุ้มครองผู้ใช้ให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
ถึงแม้ผลสำรวจนี้จะใช้กลุ่มตัวอย่างค่อนข้างน้อย แต่ก็น่าจะช่วยให้พอเห็นทิศทางการใช้งานฟีเจอร์ลักษณะนี้ของผู้ใช้งานจริงบ้างนะครับ
ที่มา - PC World
Comments
ย่อหน้าสุดท้ายครับ กลุม่ -> กลุ่ม
Find my iPhone เปิดได้โดยไม่ต้องลงแอป find my iphone นะครับ หลายคนก็ชอบให้ความรู้ผิดๆ ว่าลงแอปซะ ซึ่งจริงๆ มันเป็นแค่ตัวดูเท่านั้นเอง
ที่คนเปิดใช้กันเยอะ เพราะมันถามให้เซ็ตอัพตั้งแต่เปิดเครื่องอยู่แล้วมั้ง คนที่ปิดก็จะมีพวกที่พนักงานเปิดใช้เครื่องให้ แล้วกด skip รัวๆ - -'
เบื่อ พนง. ชอบทำตัวยุ่งไปทุกเรื่อง ไม่ถงไม่ถามซ้าาคำ ต้องการมั้ย? คนรู้จักซื้อเครื่อง ผมไปด้วย ก็เจอแบบนี้หละครับ ข้ามทุกอย่างที่ขว้างหน้า
กดผ่านน่ะถูกแล้วครับ เพราะถ้าให้พนักงานเปิดเครื่องให้ เขาก็ใช้ apple id ที่ไม่ใช่ของเจ้าของเครื่อง ถ้าเปิด find my iphone ไปนี่เป็นเรื่องเปล่า ๆ หรือถ้าจะใช้ apple id ของเจ้าของเครื่อง ก็จะต้องมาถามรหัสผ่านกันอีก
ที่ถูกคือ พนักงานควรจะแจ้งให้เจ้าของเครื่องทราบขั้นตอนการเปิดใช้งาน และให้เขาทำเองจะดีกว่า
แฟนยืมมือถือไปแอบลง Find my Friend รู้ตัวอีกทีน่วมเลยผม 55
โถๆ เป็นยังไงบ้างครับ
เปิดไว้เพราะมีประโยชน์ในยามฉุกเฉิน ดีกว่าวัวหายล้อมคอก แล้วมาเสียใจทีหลัง
มีหลายคนมาก ที่ iPhone หายไปแล้ว มานั่งนึกเสียใจเสียดายว่าไม่ได้เปิดตรงนี้ไว้