ถ้ายังจำกันได้ Project Ara โทรศัพท์ปรับสเปค-เปลี่ยนชิ้นส่วนเองได้ ถูกย้ายจากโมโตโรลามาอยู่กับกูเกิล (ในชื่อ Google ATAP)
ตอนนี้สถานะของโครงการนี้คือเดินหน้าเต็มตัว และกูเกิลก็ประกาศจัดงานสัมมนาสำหรับนักพัฒนาในชื่อ Ara Developers' Conference แล้ว งานครั้งแรกจะจัดวันที่ 15-16 เมษายนที่แคลิฟอร์เนีย เปิดให้คนเข้าร่วมไม่เยอะแต่จะถ่ายทอดสดผ่านเว็บ และเปิดให้ถามตอบผ่านอินเทอร์เน็ตได้ตลอดเวลา
แผนการของกูเกิลคือจะออก Ara Module Developers’ Kit (MDK) รุ่นอัลฟ่าในช่วงต้นเดือนเมษายน
หน้าตาจริงๆ ของ Project Ara ดูได้จากภาพชุดด้านล่าง
นอกจากนี้ ทีม Phonebloks ที่ทำโครงการมือถือถอดเปลี่ยนชิ้นส่วนได้ในลักษณะเดียวกัน มีโอกาสไปเยี่ยมสำนักงานของโมโตโรลา และถ่ายวิดีโอเบื้องหลังโครงการ-สัมภาษณ์ผู้บริหารของ ATAP มาสู่สาธารณะด้วย
ที่มา - +Google ATAP, +Google ATAP
Comments
เหมือนจะดี แต่ ลองนึกสภาพเครื่องประกอบ pc แล้ว ชิ้นเดียวดีกว่า
เครื่องประกอบ pc ไม่ดียังไงครับหนิ ทุกวันนี้อัพเกรดเป็นชิ้นๆมาตลอด ถอดเสียบเลย
ผมว่ามันมีจุดที่ต้องคิดเยอะกว่า PC นะ อย่างเช่น ขนาด, หน้าตา, อัตรากินไฟ, ขนาดแบต, น้ำหนัก, ความร้อน, ตำแหน่งเซนเซอร์
มันดีครับ ถ้ารับความหนากับความใหญ่ของมันได้
มันอาจเป็นตลกร้าย แต่คงต้องพกยางลบติดตัวไปด้วย ซึ่งผมเบื่อมาก
ไม่รู้ว่า ความหลากหลาย ในชิ้นส่วนมันจะมากน้อยแค่ไหน
และ ผู้บริโภค ต้องการมือถือประกอบได้ จะมีเยอะหรือไม่
ถ้าเทียบกับ pc คนที่จะประกอบเอง ก็ มักจะเป็นผู้ที่มีพื้นฐาน
มีเลือก ระหว่าง intel amd nvidia ati
แต่สำหรับมือถือ มันจะไปรอดหรือไม่
ถึงถ้า ออกมาประกอบได้ คนจะไม่เลือก แต่ชิ้นส่วนที่ให้ประสิทะิภาพสูงสุดหรอ เพราะ ช่องว่างของ ราคา ในแต่ละส่วน น่าจะต่างกันไม่มาก (ไม่เหมือน pc ที่ประกอบได้ตั้งแต่ ไม่ถึงหมื่น จนถึง แสน)
ผมว่าชิ้นส่วนที่ประสิทธิภาพสูงก็อาจจะมาในราคาที่สูงกว่าแล้วก็ใช้พลังงานมากกว่า พอเพิ่มแบตให้เยอะขึ้นตัวเครื่องก็จะหนักขึ้น แต่อย่างโมดูลกล้องที่มีความละเอียดเยอะกว่าก็อาจจะนูนออกมามากกว่าซึ่งบางคนก็ไม่ได้ชอบตรงนี้
ผมว่าข้อดีของมือถือประกอบเองมันอยู่ที่ว่าเราจะเลือกอะไรให้เหมาะกับการใช้งานประจำวันของเรา บางคนอาจจะต้องเดินทางไกลเป็นระยะเวลานานๆก็อาจจะเปลื่ยนไปใช้จอ e-ink แล้วเน้นแบตเพื่อให้ใช้งานได้นานที่สุด เป็นต้น
ความพยายามเพื่อนำไปสู่ยุคเดิม ๆ ของพีซี อาจจะนิยมแค่บางกลุ่ม ไม่น่าเป็นกระแสหลักได้
ถ้าเรามองมันด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันตามท้องตลาดเราจะคิดว่ามันทำไม่ได้ ทำได้ก็หนา ใหญ่ อะไหล่แพง ซอฟท์แวร์ไม่เข้ากัน แต่เรากำลังพูดถึงอนาคต กำลังสร้างนวัฒกรรม การตีตนไปก่อนไข้ไม่ได้ช่วยพัฒนาอะไร
โทรศัพท์มือถือ ต่างจาก PC เพราะมันตกรุ่นเร็วกว่า PC มาก ทุกวันนี้เราเปลี่ยนมือถือไม่ใช่เพราะมันไม่ดี
มันยังใช้ได้ดี แต่เราอยากได้ลูกเล่นใหม่ๆตลอดเวลา อยากได้กล้องชัดๆ อยากไม้จอใหญ่ๆ ถ้าสิ่งเหล่านี้เปลี่ยนได้ก้คงดีไม่ใช่น้อย
อย่างกรณี Lumia 920 => 1020 ถ้าเปลี่ยนแค่กล้องได้ก็จบแล้วครับ คนไม่ซื้อใหม่ :p แล้วผมก็คงเป็นคนนึงที่อัพ
เหมือนย้อนรอยกลับไปสมัยเครื่อง pc i86 เริ่มสามารถอัพเกรดเฉพาะชื้นส่วนได้จนทำให้แพลตฟอร์มเปิดกินส่วนแบ่งตลาดได้เกือบทั้งหมด ยุดนี้มือถือเราอัพเกรดได้บ้าง อันนี้ผลดีเข้าผู้ใช้เต็มๆ แต่ผลเสียก็เข้า OEM เต็มๆเช่นกัน คราวนี้ยอดขายมือถือจะไม่ได้พุ่งเป็นประวัติการณ์แบบนี้ เราจะเปลี่ยนมือถือกันน้อยครั้งลง (ไม่ต้องเปลี่ยนปีละเครื่องจนดูสิ้นเปลืองเกินไปแบบนี้อีกแล้ว เพราะสมรรถภาพเครื่องสามารถเพิ่มได้ตลอดเวลา คงจะเหลือแต่กลุ่มลูกค้าที่ต้องการตามเทรนการออกแบบจากผู้ผลิตจริงๆที่จะซื้อใหม่บ่อยๆ)