แคมเปญวิดีโอ Facebook ครบสิบปี A Look Back ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก มีผู้ใช้งานที่ดูวิดีโอมากถึง 200 ล้านบัญชี และล่าสุดทางทีมวิศวกรรมของ Facebook ก็ออกมาเผยสถิติและข้อมูลของระบบเบื้องหลังดังนี้
Facebook ตัดสินใจเดินหน้าโครงการ A Look Back เมื่อต้นเดือนมกราคมนี้เอง ทำให้มีเวลารวมแค่ 25 วันในการสร้างวิดีโอให้ผู้ใช้จำนวน 1,000 ล้านคนชม จึงต้องเตรียมตัวเรื่องโครงสร้างพื้นฐานของระบบแต่เนิ่นๆ (แต่ช่วงนั้นมีเหตุการณ์สำคัญทั้งแอพ Facebook Paper เปิดตัว และโอลิมปิกฤดูหนาว 2014 ที่อัตราการใช้งานจะเพิ่มขึ้นเยอะ)
แบนด์วิธ
เบื้องต้น Facebook ประเมินว่าในวันแรกที่ออก A Look Back จะมีวิดีโอถูกแชร์จำนวน 25 ล้านคลิป หนึ่งคลิปจะมีคนดูเฉลี่ย 5 คน เมื่อคำนวณออกมาแล้วพบว่าต้องเพิ่มแบนด์วิธอีก 62 Gbps แต่ก็ต้องเผื่อทราฟฟิกช่วง peak rate อีก 2-3 เท่า โดยไปจบที่ 187 Gbps
Facebook แจ้งเตือนคู่ค้าที่เป็น CDN ทั้งหลายล่วงหน้าว่าจะมีแคมเปญวิดีโอขนาดใหญ่ เพื่อให้บรรดา CDN ทั้งหลายเตรียมรับมือ
สตอเรจ
Facebook คาดว่าจะต้องใช้พื้นที่เก็บวิดีโอสำหรับผู้ใช้ทุกคนมากถึง 25 เพตะไบต์ (PB) ซึ่งต้องใช้ดิสก์เป็นจำนวนมาก (ถ้าเอามาเรียงกันแล้วสูงถึง 2/3 ของตึก Empire State) และต้องสั่งซื้อล่วงหน้า 1-2 สัปดาห์
การประมวลผลวิดีโอ
ช่วงแรก Facebook สามารถเรนเดอร์วิดีโอให้ผู้ใช้ได้วันละ 7 ล้านคน ซึ่งไม่พอกับความต้องการและเวลาที่มี ทำให้ทีมงานต้องแก้ปัญหาโดยแบ่งงานย่อยๆ และทำงานแบบขนาน
ผลลัพธ์
Facebook เตรียมระบบทั้งหมดเสร็จในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ (ก่อนครบ 10 ปีหนึ่งวัน) งานทั้งหมดเสร็จในเวลา 96 ชั่วโมง จากที่ประเมินว่าต้องใช้เวลาทั้งหมด 6 เดือน และใช้พื้นที่น้อยกว่าที่คาดถึงครึ่งหนึ่ง
วันงานจริง ตอนแรก Facebook คาดว่าอัตราการแชร์จะอยู่ที่ 10% ของผู้ใช้ที่ดูวิดีโอของตัวเอง แต่เอาเข้าจริงอัตราการแชร์สูงถึง 40%
ที่มา - Facebook Engineering Blog
Comments
สุดยอดดดด ไอเราก็คิดว่าเค้าทำแค่ระบบไปครอบ play file video ที่อัพโหลดไปธรรมดาๆเสียอีก
นี่เรียกว่าของขวัญจาก Facebook ของแท้เลยนะเนี่ย
+1 เบื้องหลังมีอะไรให้แปลกใจเพียบเลย
แต่จริงๆ จะใช้พื้นที่น้อยกว่านี้อีก ถ้ากดแชร์ได้ตั้งแต่แรก กลายเป็นมีคนเซฟมาโพสต์เองเพียบเลย
เรียงแนวราบหรือแนวนอน ก็ได้ความสูงเท่ากับความสูงของ 1 HDD ซิครับ ;P
หมายถึงแต่ละลูกหันแนวตั้ง แนวนอน แนวราบสิครับ ส่วนซ้อนเป็นแนวตั้งเหมือนกันหมด (-*-)=o
ผมว่าเขาเอาไว้ทดสอบแบนด์วิธ ของโฆษณาแบบวีดีโอ ที่พึ่งออกมาด้วยหรือเปล่า เพราะเท่าที่ดูจากค่าใช้จ่ายแล้ว ถ้าทำแคมเปญฟรีเรียกแขกอย่างเดียวไม่น่าคุ้มเท่าไหร่ เรียกว่าเชิญชวนทุกคนเป็นเป็น Tester แล้วให้ของขวัญมาเป็นโฆษณาแบบวีดีโอ : )
โคตรเท่ห์ คิดอยู่มัน render กันยังไง
ยิ่งตอนหลัง ยังให้เลือกรูปเองได้อีก
:: DigiKin8 ::
โห ทีแรกเจอว่าคำนวณค่าสูงสุดแบบเผื่อๆ X3 ไว้แล้วอยู่ที่ 187 Gbps นั่นก็ว่าเยอะแล้ว แต่ความจริงไปสูงสุดตั้ง 450 Gbps คูณไปอีกสองเท่ากว่าเลยนะนั่น
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.