ในงานเปิดตัว Office for iPad เมื่อคืนนี้ ซีอีโอ Satya Nadella ได้ขึ้นเวทีกล่าวถึง "วิสัยทัศน์ใหม่" ของไมโครซอฟท์ที่สรุปได้ว่า Mobile-First Cloud-First
Satya บอกว่า mobile กับ cloud ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ เพราะถ้ามีแต่ mobile อย่างเดียว การใช้งานจะจำกัดมาก แต่ถ้ามีแต่ cloud อย่างเดียวก็ไม่สามารถดึงศักยภาพของมันได้อย่างเต็มที่ เมื่อรวมทั้ง mobile กับ cloud เข้าด้วยกัน ความมหัศจรรย์จึงเกิดขึ้น
เขาบอกว่ายุคสมัยนี้เรามีอุปกรณ์ mobile สารพัดชนิดในท้องตลาด เป้าหมายของไมโครซอฟท์จึงเป็นการขยายความสามารถของอุปกรณ์เหล่านี้อย่างเต็มที่ โดยใช้ cloud ของไมโครซอฟท์เชื่อมต่ออุปกรณ์เหล่านี้เข้าด้วยกัน ดังจะเห็นได้จากบริการของไมโครซอฟท์หลายตัว เช่น Skype, Xbox Music, Bing, Lync, Yammer, OneNote อยู่บนอุปกรณ์หลายๆ ค่ายแล้ว และ Office for iPad เป็นบริการล่าสุดที่เดินตามวิสัยทัศน์นี้
Satya บอกว่าเป้าหมายของไมโครซอฟท์คือให้บริการผู้ใช้ Office ให้ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือใช้งานอุปกรณ์อะไรก็ตาม (โฆษกของไมโครซอฟท์ชี้แจงเพิ่มเติมว่า จะมี Office for Android Tablet ตามมาอย่างแน่นอน - The Next Web)
นอกจากนี้เขายังเกริ่นถึงงาน BUILD งานใหญ่ของไมโครซอฟท์ในสัปดาห์หน้า ว่าจะแถลงข่าวถึงพัฒนาการของ "แพลตฟอร์มหลัก" (key platform) ของไมโครซอฟท์ 4 ตัวได้แก่ Windows, Windows Phone, Xbox, Azure ว่ามีอะไรใหม่ๆ บ้าง
ที่มา - Microsoft
Comments
(wearable device(1st) + cloud (1st)) + virtual reality (2rd) = Google + Facebook = Current Vision
virtual reality มันอยู่ในวิสัยทัศน์ด้วยหรอครับ
ผมไม่ได้สื่อถึง Microsoft ครับ แต่ผมสื่อว่าวิสัยทัศน์ของ Google กับ Facebook ในปัจจุบัน เพื่อให้เปรียบเทียบกับ Microsoft
ส่วนตัวมองว่า พื้นฐานของ Google กับ Facebook และ Microsoft มีฐานที่มั่นที่แตกต่างกันนะ การขยับของแต่ละองค์กรจึงควรใช้เซ้นการมองคนละมุมครับ
Google และ Facebook เกิดจาก Internet และ Service ส่วน Microsoft เกิดจาก Retail และ Enterprise และ Microsoft ขยายความสามารถเข้ามาในตลาด Internet มาในระยะหลายปีแล้ว แต่ก็ยังไม่สำเร็จชัดเจน
แน่นอนว่าในระยะ 2-3 ปีนี้ Microsoft ปรับเปลี่ยนวิถีของบริษัทตัวเองใหม่ให้มุ่งเน้น Cloud และ Service ลด Retail ลง ย้าย Enterprise เข้า Cloud ซึ่งกลุ่มลูกค้าในตลาดของทั้ง 3 แบรนด์แม้จะดูเหมือนใช้ Internet เหมือนๆ กันในระยะหลัง แต่รูปแบบซอฟต์แวร์ และจุดมุ่งหมายต่างกัน เพราะยังไง Google กับ Facebook ก็เน้นตลาด consumer ที่เปลี่ยนแปลงเร็ว ความต้องการสูง เพราะต้องการจำนวนกลุ่มผู้ใช้เป็นหลักเพื่อหวังโฆษณา ส่วน Microsoft เน้นกลุ่มที่มีฐานะมั่นคงอย่าง Enterprise ที่เปลี่ยนแปลงช้า เงินหนาพร้อมจ่าย นั้นทำให้ Microsoft นั้นขยับยากกว่าเพราะ Enterprise ค่อนข้างยึดติดพอสมควร ทุกๆ สินค้าที่ตนเองออกมาต้องเชื่อมโยงกลับไปหา Enterprise ให้ได้เสมอ (เพราะมันขายได้) ผิดกับ Google กับ Facebook ที่การยึดโยงจะต่ำกว่า ขยับง่ายกว่า ทิ้งไปดื้อๆ ก็ไม่เสียหายมาก เพราะกลุ่มคนใช้ Internet คือกลุ่มคนที่รับการเปลี่ยนแปลงได้เร็วกว่ากลุ่มคนใน Enterprise ทิ้งดื้อๆ นี่เท่ากับทำลายอนาคตตัวเองเลยทีเดียว
องค์กรใหญ่ จะปรับตัวที กะเอาแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ กลัวว่าจะเละจนกู่ไม่กลับแหละครับ ต้องค่อยๆ จัดการกันไป และวิสัยทัศน์ต้องยึดโยงกับรากฐานเดิมเพื่อมั่นใจว่าสายป่านจะยาวพอที่จะยืนระยะการทำสิ่งใหม่ๆ ได้นานพอที่มันจะเกิด ตัวอย่างดูไม่ยาก XBOX, Bing และ Windows phone คือตัวอย่างที่เห็นชัด ถ้าเป็นบริษัทอื่น คงไม่ดื้อทำสินค้าที่ขาดทุนหลายปีจนมันกำไร อย่าง XBOX หรือ Bing
+1
วิสัยทัศน์ดีเลยทีเดียว Mobile+Cloud ถ้าจะให้ดีอยากให้เป็น Smart Device+Cloud จัง ไม่อยากให้จำกัดแค่ Mobile จะได้มีนวัตกรรมแบบ Home Use หรือ Personal Smart หน่อย อยากเห็นไมโครซอฟท์ฟื้นสภาพแบบ Apple
พันธกิจองค์กร ยังเป็น Devices and Services นะครับ
Mobile มันครอบคุมกว่า smart Device นะครับถ้าแปรตรงๆ มันคืออะไรที่พกพาได้และไม่จำกัดว่าต้องเป็นแค่ smart device หรือโทรศัพท์ด้วย
เดี๋ยวจะมี OneNote for Xbox One ด้วยไหมนะ :p
ถ้า controller มันใช้จด note ได้ หรือ Kinect ทำ OCR จาก gesture ได้ ก็ไม่แน่ครับ
ผมไม่ได้มองไปถึงขั้นนั้นนะครับ เอาแค่จับภาพหน้าจอไปใส่ OneNote ก่อนเฉยๆ แต่ได้ถ้าขนาดนั้นก็ดีเลยครับ
จริงๆ Xbox ที่เน้น home entertainment ยิ่งกว่า PS นี่ควรจะมีทัชแพดมากกว่า PS ด้วยซ้ำ แต่ดันออกมากลับกัน - -"
เพิ่ม WP API หน่อย ทำอะไรก็ติดขัดไปหมด ชิส์
อัพเดต outlook for android ด้วยครับพี่ ไม่ไหวอย่างแรง
A smooth sea never made a skillful sailor.