หลังการเปิดตัว Surface Pro 3 มีสิ่งหนึ่งที่หลายคนให้ความสนใจ คือ Surface Pen รองรับระดับการกดน้อยลงจากปากการุ่นก่อน (จาก 1024 ระดับเหลือ 256 ระดับ) และคิดว่ามันจะส่งผลต่อการวาดเขียนบนแท็บเล็ตโดยใช้ปากกาที่แถมมาด้วย วันนี้เราลองมาฟังความคิดเห็นจากนักวาดการ์ตูนชื่อดังซึ่งใช้แท็บเล็ตตระกูล Surface Pro คู่กับปากกาที่แถมมาด้วยในการวาดการ์ตูนเป็นประจำกันครับ
นักวาดการ์ตูน Penny Arcade ชื่อดัง Mike Krahulik ซึ่งวาดการ์ตูนบนแท็บเล็ตตระกูล Surface Pro คู่กายเป็นประจำ แสดงความคิดเรื่องประสบการณ์วาดรูปด้วยปากกา Surface Pen ของ Surface Pro 3 และแท็บเล็ตเอง ดังนี้
- Surface Pen ปากกายังตอบสนองได้อย่างเหลือเชื่อเช่นเดิมถึงแม้จะมีอาการหน่วงเพียงเล็กน้อย (very little) ในการวาดรูป เขาบอกว่ายังสามารถวาดเส้นโค้งลักษณะเส้นหนา (thick curve) ได้เช่นเดิม ถึงเส้นจะมีความขรุขระ (jagginess) บ้างเมื่อซูมเข้าไปดูรายละเอียดแต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่หลวงสำหรับเขา โดยสรุปคือเขาประทับใจในเทคโนโลยีของ N-trig และไม่จำเป็นต้องไปวิตกกังวลอะไรในเรื่องปากกา
- แท็บเล็ต หน้าจออัตราส่วน 3:2 ทำให้ไม่ถูกจำกัดพื้นที่ในการวาดรูป อย่างไรก็ตามเขารู้สึกว่ารุ่น Core i5 ซึ่งใช้ซีพียูเดียวกับ Surface Pro 2 ที่เขาใช้อยู่นั้นทำงานได้ช้าลงและไม่มีตัวเลือก High performance ใน Power Options ให้เลือก (เขาเข้าใจว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับฟีเจอร์ Connected Standby ที่มากับแท็บเล็ตตระกูล Surface Pro เป็นครั้งแรก) เขาคิดว่าหากไม่เลือกปรับความละเอียดหน้าจอให้น้อยลงก็ควรเลือกรุ่น Core i7 ไปเลย นอกจากนั้นการย้ายปุ่ม Windows ไปด้านข้างส่งผลกระทบต่อการวาดและการวางมือ
Mike กล่าวว่า Microsoft ติดต่อและรับฟังความคิดเห็นจากเขา ตัวแทนจาก Microsoft คนดังกล่าวยังบอกว่าบริษัทให้ความสำคัญกับเสียงสะท้อนจากจิตรกรเป็นอย่างมาก และบริษัทต้องการทำให้ Surface Pro 3 เป็นอุปกรณ์ที่ดีเยี่ยมสำหรับจิตรกร - Penny Arcade ผ่าน Windows Phone Central
ท้ายสุด Daniel Rubino คอลัมนิสต์สาย Microsoft ชื่อดังก็แนะนำให้อ่านโพสต์หนึ่งบนเว็บไซต์ Channel 9 ของ Microsoft ซึ่งพูดถึงว่าทำไม N-trig จึงถูกเลือกแทน Wacom โดยโพสต์ดังกล่าวระบุเหตุผลสามประการ คือ
Comments
คหสต. มันชัดตรงที่ วาคอมกั๊กเทคโนโลยีไว้สำหรับแทปเล็ตตัวเองนี่แหละ ทำให้ไมโครซอฟเห็นว่าการร่วมมือกับวาคอมรังแต่จะไปสู่ทางตัน
ในมุมมองของ Designer Wacom ครองใจนักวาดการ์ตูน และ Retouching ไปแล้วด้วยคุณภาพและความคุ้นเคยของปากกาครับ (แม้กระทั่งผิวสัมผัสที่ตัวด้าม) ผมใช้ wacom มาตั้งแต่ intuos 3 จนตัวปัจจุบัน ทำให้รู้สึกชินกับปากกา size นี้ไปแล้ว ถ้าให้เปลี่ยนต้องทำใจหน่อยครับ พวก designer ไม่ค่อบเปลี่ยนอะไรที่ต้องใช้ความรู้สึกมายุ่งด้วยมากครับ
M$ คงต้องทำการตลาดเยอะหน่อยครับ เพื่อ present ว่า technology ของเค้าดีจริง และทำให้ Designer รู้สึกอยากลองสัมผัส
ที่สำคัญคุณภาพการแสดงค่าสีของจอก็สำคัญครับ หลายคนในนี้เป็นโปรแกรมเมอร์อาจจะไม่รู้สึกแต่ Designer รู้สึกได้แล้วไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดออกมาให้ วิศวกรเข้าใจได้ด้วยครับ ว่ามันต่างกันอย่างไร บอกได้แค่ว่ามันสวยกว่าและจ้องนานๆ แล้วสบายตากว่า
จริง ๆ แล้วอาจจะเพราะ
จุดได้เปรียบของ Wacom อีกอย่างคือตัวปากกาไม่ต้องใส่ถ่าน ทำให้ปากกามีน้ำหนักเบากว่าคู่แข่ง อย่างปากกาของ Surface ต้องใส่ถ่านสามก้อน (AAAA หนึ่งก้อนสำหรับตัวปากกา กับถ่านกระดุมอีกสองก้อนสำหรับปุ่มบนหัวปากกา)
อ้อ ปากกาของ Surface ด้ามละ $50 นะครับ (แต่คุ้น ๆ ว่าด้ามแรกจะแถมมากับเครื่องนะ)
ห๊ะ สามก้อน!!! เจริญล่ะครับพ่อคุณ orz
ปากกาที่แถมมากับ Surface Pro นี้ของ Wacom ไม่มีถ่าน ?
ครับ ของ Surface Pro 1 กับ 2 ไม่มีถ่านครับ ใช้ของ wacom
ปากกาของ Wacom ใช้เทคโนโลยี electromagnetic resonance (การสั่นพ้องของแม่เหล็กไฟฟ้า) โดยที่ในปากกามีขดลวดพอไปอยู่ในบริเวณที่มีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าก็จะเกิดการเหนี่ยวนำสร้างพลังงานไฟฟ้าออกมา แล้วพอกดลงจอก็จะใช้พลังงานนั้นส่งของมูลแรงกดกลับไปหาเครื่องครับ ปากกาเลยไม่ต้องใส่ถ่าน แต่มีข้อเสียที่หน้าจอต้องมี layer สำหรับส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเพิ่มเข้ามา ซึ่งต่างกับปากกาของ N-Trig ที่บนหน้าจอไม่มีชั้นแม่เหล็กไฟฟ้าจึงจำเป็นต้องใส่ถ่านและเชื่อมต่อกับ SP3 ด้วยบลูทูธ
แนวทางชัดเจนขึ้นมาก ขีดๆ เขียนๆ ร่วมมือกับ Adobe จริงๆร่วมมือกับ Nvidia ออกแบบการ์ดจอสุดเทพสำหรับ Photoshop กับ IIus หน่อยนะ แจ่มเลย
Penny Arcade ก็ดังนะ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
แถวนี้มีนักวาดการ์ตูนตัวจริง หรือคนทำงานด้านนี้หนักๆ บ้างไหมครับ อยากได้ความเห็นหน่อย
มีกลุ่มนักวาดที่ใช้เซอเฟสอยู่นะครับ
FB ชื่อ Surface Art thailand ลองหาดู
อยากฟังปากคำตาสารหนูจริง ๆ
ที่ดังๆ สมัยก่อนอย่าว่าแต่เม้าปากกาเลยครับ ของพวกนี้หาซื้อยากมากเฉพาะทางจริง ๆ
เห็นใช้ของ จีเนียส ราวๆ 2 พันบาท ที่ชอบทำไฟรั่ว จับแล้วมือจะชาๆ หน่อยๆ
บางท่าน วาดใส่กระดาษ แล้ว scan ขึ้น com ตัวเส้น ลงสีเอา
หรูสุด Wacom กราไฟ 4x5 นี่เกือบๆ 5 พันได้
ผมมี กราไฟ 3 ตัว 6x8 นิ้วซื้อตอนหลัง ทำงานประจำแล้ว ซื้อมาเล่นๆ ยังใช้งานได้อยู่ ยังไม่พังเลย
แต่ผมไม่ได้วาดการ์ตูนนะ
จริงๆ จะว่าไป ถ้าจะซื้อ ms Surface ผมว่า ซื้อตัว 6x8 กับ หัวปากกา เยอะๆ คุ้มกว่านะ วาดมันกว่าด้วย
เอิ่ม ถ้าซื้อ surface pro 3 แต่ขอ stylus pen รุ่นเดิมได้หรือเปล่าเนี้ยะ?
จริงๆถ้ามีปากกา 512 หรือ 1024 ระดับขายเพิ่มผมว่ามันก็ ok แล้วนะ
จากที่อ่านมันก็มีข้อดีข้อเสีย อย่างน้อยก็เรื่องราคาคิดว่าถ้ายังใช้wacom อยู่ราคาน่าจะแพงกว่านี้ด้วย
เรื่องวาดรูปนี้ผมสรุปให้ตัวเองว่า มันเหมาะกับงานที่มีลายเส้นเรียบง่าย อาจจะไม่เหมาะกับงานอย่างวาด conceptart (ไม่ได้หมายถึงมันทำไม่ได้นะ)
Cintiq Companion เนี่ย หาซื้อโคตรยาก ราคาโคตรแพง
แต่ก็อยากลองอยู่
เข้าไปดูใน deviantart ของตานี่แล้วบอกเลยว่ารูปที่เขาวาด 256ระดับก็พอแล้วครับ แต่ถ้าเป็นการวาดแบบนี่ คงไม่ทนแน่ๆ
The Dream hacker..
จริงๆถ้าวาดงานแบบของเขาได้งานอื่นๆผมว่าสบาย เพราะที่ดูงานของเขาเน้นเส้นมากคือไม่มีการย้ำเส้น ถ้าปากกาไม่ดีนี่จบเลยนะ
มันมีวิธีอยู่ครับ พวกเริ่มวาดตั้งแต่สมัยปากกาละเอียด256 เขาก็ทำงานได้ตามปกติ
ถึงตอนนี้มันจะเพิ่มความละเอิยดมากขึ้นถึง2048 มันช่วยให้เส้นนุ่มขึ้นเท่านั้นแหละ(จากประสบการณ์ส่วนตัวนะ)
ความต่างชัดๆของ CintiqกับSurface Pro คือระบบTiltครับ ถ้าตัวนี้มาลงได้เมื่อไหร่ วาคอมมีแต่ตายกับตาย
ผมว่าออกมาทำเองแบบนี้ผมว่ารุ่นต่อๆไปอาจจะมีก็ได้ เพราะการจับองศาของปากกา wacom ก็ไม่คิดจะให้เจ้าไหนนำไปใช้อยู่แล้ว
ผมหมายถึงการจับองศาของปากกานะครับ ไม่ใช่เรื่องแบต
ถ้าถามว่าจะไปแย่งยอดขาย Cintiq companion ไหมผมบอกเลยว่าแย่งแน่นอน แม้ความสามารถมันจะไม่เท่ากัน แต่เรื่องราคาก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนเลือกสินค้า แต่ตอนนี้ผมว่า Surface มันแย่งลูกค้าที่จะซื้อ Cintiq(ตัวที่เป็นจอ) เต็มๆเนื่องจากราคาใกล้เคียงกันมาก(แถมหาซื้อได้ง่ายกว่า)แต่ทำได้หลากหลายกว่า กับอีกตัวที่โดนก็ Intuos ตัวล่างๆคนที่จะหาคอมใหม่+Intuos ก็อาจจะไปซื้อ Surface แทนเพราะครบกว่าแถมเป็นแบบวาดบนจอภาพเลย
ที่ตอนนี้ wacom มันมีราคาแบบนี้เพราะยังไม่มีคู่แข่งที่เท่าเทียมมาสู้เลยสักรายครับ ถ้า MS เอาจริงเรื่องปากกาของ Surface นะครับผมว่าภายใน 5 ปี wacom อาจต้องปรับตัว
ถ้าผมไม่ได้เอาปากกามาวาดภาพ แต่เอามาจดกับ OneNote นี่ผมก็ไม่คิดว่ามัน "แพงโดยไม่มีประโยชน์แม้แต่นิดเดียว" นะครับ
ผมว่าอย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจเลยครับ ว่ามันไม่มีประโยชน์แม้แต่นิดเดียว
เพราะตัวจริงก็ยังไม่ได้ออกมาให้ลองใช้เลยนะครับ
เข้าใจอะไรผิดรึเปล่าครับ งานแยกเลเยอร์ส่วนหนักจริงๆคือแรมครับ ขนาดภาพด้วย
ส่วนของการ์ดจอจะมีผลจริงๆก็ตรงขนาดแปรงครับ ยิ่งงานขนาดใหญ่ แปรงที่ใช้ก็จะระดับใหญ่ไปด้วย
Intuos ตัว10ปีที่แล้วทำงานเป็นเรื่องเป็นราวมากกว่า Surface เยอะ นั่นอคติคุณพูดตรับ คนใช้Surface Proส่วนมากที่เอาไปทำงานศิลป์ล้วนแล้วแต่ผ่านIntuosมาจนเปื่อยแล้วครับ พวกเราปรับตัวกันได้ สเปคเครื่องSurface Proตัวแรกที่ใช้ i5 แรม4gb ยังเหนือกว่าเครื่องเก่าๆที่พวกผมเคยใช้มากครับ
ถ้ามันลำบากนัก ส่วนตัวผมแยกงานเป็นส่วนๆทำงานได้ครับ ไม่ต้องห่วงแทน
อย่างที่เคยพูดไว้ แทปเล็ตสมัยก่อนมันห่วยกว่านี้เยอะ ยังเคยใช้ผ่านมาได้เลยครับ เพื่อนผมทำงานกับcintiqมาก็ปรับใช้Surface Proได้ไม่มีปัญหาอะไร ที่ปวดหัวหนักๆ ก็หน้าจอที่เล็ก(เพราะวาคอมไม่ยอมขายแผงให้) กับปากการวนขอบจอที่แม้แต่วาคอมเองยังแก้ไม่ได้เลยนั่นแหละ
ปล.แทปเล็ตตัวแรกสุดของผมที่ใช้หากินนี่ ใส่ถ่านนะครับ สมัยนั้นร้านยังไม่เอาวาคอมมาวางจำหน่ายกันเป็นทางการเลย แบตเตอรี่ไม่เป็นปัญหาหรอก ส่วน tiltนี่ ถ้าไม่ปาดสีจริงๆ แค่เกลี่ย แทบไม่ได้ใช้เลยมั้ง แล้วเทคนิคทำภาพที่ไม่ใช้Tiltมันมีบานเบอะครับ
คนวาดรูปเป็นเขาไม่ใช้เลเยอร์เป็น 100 หรอก 10 เลเยอร์ก็เยอะแล้ว
พวกนี้แหละครับ น่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายของ Surface Pro 3
ไมโครซอฟท์ไม่ได้พูดนะครับ แค่มีคนประเมินว่า Wacom น่าจะกลัวโดนแย่งยอดขาย เพราะก่อนหน้านี้ก็มีนักวาดหลายคนสนใจ Surface PRO จากตัวปากกาอยู่
วาคอมมีพฤติกรรมกั๊กเทคโนโลยีนานแล้วครับ ตัวสินค้ามีจุดบอดอยู่หลายที่ ก็ไม่ได้แก้เท่าไหร่ 10ปีผ่านไป เทคโนโลยีพื้นฐานพี่แกแทบไม่ได้เปลี่ยนสักนิด ระบบทัชที่เพิ่มมานี่ เหมือนเพิ่มมาแค่ให้โก้ๆเท่านั้น
ถ้าไม่ติดว่าพี่แกเป็นเจ้าตลาด ไม่ติดว่าพี่แกมาก่อนจนโปรแกรมทุกตัวต้องปรับเข้ากันกับไดรเวอร์ wintabที่รวนรายวันแล้วแต่อารมณ์ล่ะก็ ทุกคนหันไปใช้ ms inkหมดแล้วครับ ดีกว่าเยอะ
ขอให้ออกปากกาที่จับได้ละเอียดกว่าเดิมมาเรื่อยๆ เร็วๆ แล้วกันครับ
แนะนำให้ M$ Thailand ส่งไปให้ศิลปินในกลุ่มนี้ Review ครับ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=581184865329918&set=a.581160855332319.1073741837.494838233964582
Fanclub เยอะและดูเป็น idol ของนักวาดการ์ตูน Social ยุคใหม่ครับ :)
ในฐานะคนที่คอยจังหวะในการซื้อ drawing tablet ราคาถูกมาโดยตลอดผมขอบอกเลยครับว่าถ้า surface 3 ทำแรงกดได้ 512 -1024 Wacom จะได้รับผลกระทบแน่นอน
Wacom ทุกวันนี้มีราคาแพงมาก Cintiq นี่แพงเป็ด ๆ คนที่วาดรูปเป็นงานอดิเรกไม่ใช่ทำเป็นอาชีพอย่าง่ในสตูดิโอเลยตัดใจซื้อไม่ไหว สตูดิโอหลายที่เลือก Yiynova แทนเพราะทำงานได้เกือบเท่าเทียมในราคาที่ถูกกว่ามาก
ถ้าหาก Surface 3 สามารถทำได้ดีกว่านี้หน่อยคือจับแรงกดได้สัก 512 ระดับ ผมเชื่อว่าคนที่เก็บเงินไว้ซื้อ Wacom companion หรือ Cintiq จะเปลี่ยนใจเอาง่าย ๆ ถ้า Wacom สนับสนุน Surface จนมีความสามารถใกล้เคียงกับสิ้นค้าของตนเองมากเกินไปผมว่ามันจะเป็นการทำร้ายตัวเองมากกว่า
จริงอยู่ที่ว่าการใช้งานแต่งภาพหรือวาดรูปอาจจะมีการใช้ไฟล์ภาพขนาดใหญ่ใช้เลเยอร์มากมายจนเครื่อง Surface ทำงานไม่ไหว แต่คนที่ไม่ได้ทำงานในระดับสตูดิโอผมคิดว่าไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ผมเห็นว่าคนที่ทำงานวาดเป็นงานอดิเรกนั้นมีอยู่เป็นจำนวนมาก (สังเกตจากจำนวนคนใน Deviantart.) คนเหล่านี้จะสะดวกใจในการจ่ายเงินซื้อ Surface ที่มีความสามารถด้อยกว่าในระดับหนึ่งแลกมาซึ่งราคาที่ถูกกว่า Wacom คงไม่อยากเสียลูกค้ากลุ่มนี้ไปนะผมว่า
แต่ความจริงเป็นเช่นไรผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน MS กับ Wacom อาจจะมีเหตุผลอะไรอย่างอื่นก็ได้ในการตัดสินใจครั้งนี้ ส่วนตัวผมคงเก็บเงินรอซื้อ Surface pro 2 ตอนมันลดราคา ผมใช้โปรแกรม SAI ที่กินทรัพยากรเครื่องน้อยดังนั้นด้านประสิทธิภาพจึงไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ใช้ Graphire 4 ไปพลาง ๆ ก่อน
อันนี้มันอุปกรณ์เสริมครับ เขากำลังพูดถึง tablet ชน tablet ครับ
ถ้าให้ผมเลือก 2,048 ระดับ ราคา 3,000 หัวใหญ่ขนาดนั้น กับ Surface Pen 256 ระดับ ราคา 1,600 หัวเล็ก ผมเลือกอย่างหลังครับ
อยากดูผลงานครับ พอมีให้ดูไหมเอ่ย?
แค่เห็นหัวปากกา พวกผมก็กระโดดหนีแล้วครับ เวลาวาดนี่นรกชัดๆ ต่อให้มีหนักเบาก็เถอะ
pro1 กลับมา น่าสนใจอีกครั้ง 555
พอเห็นปากกาหลายคนอาจจะคิดถึงวาดรูป Artwork นะครับ
แต่หลายอาชีพที่ใช้ปากกา ก็เยอะเหมือนกัน เช่นนักศึกษา เลขาฯ BA หรือแม้แต่ โปรแกรมเมอร์ก็มีเหมือนกันที่จะใช้พวกนี้
ซึ่งอาชีพที่กล่าวมาไม่ได้ขอลายเส้นน้ำหนักมากมายอะไร ขอแค่จดง่าย ไม่มี Parallax และ Tip Offset ที่สำคัญราคาจับต้องได้
โดยที่ยังใช้งานโปรแกรมอื่นได้ผมว่าเค้ายอมซื้อนะครับ
อย่างผมต้องการออกแบบ UI ผมวาดด้วย Mouse มันช้าครับ แล้วถ้าจะวาดละเอียดผมคงไม่ทำเพราะสุดท้ายก็เปลี่ยนอยู่ดี ก็จะวาดคร่าว ๆ ในกระดาษ แล้วถ่ายรูป หรือ scan เก็บไว้ แต่ถ้ามันทำได้จบบนจอเลยผมก็ Happy ครับ ที่สำคัญมันจบบนเครื่องเดียวกับที่ใช้เขียนเว็บ
ผมใช้ SP1 ก็รำคาญปุ่ม physical windows มากเหมือนกันครับ ปิดมันไปแล้วกดจากหน้าจอเอาดีกว่า
เข้า PC setting จาก charms menu เลือก ease of access -> keyboard เสร็จแล้วหาการตั้งค่าชื่อ Filter Keys เปิดมันซะ ปุ่ม physical windows ก็จะไม่รบกวนท่านทั้งหลายอีกต่อไป (หวังว่าคงไม่โดนมุกใครถามน่ะครับ)
Microsoft น่าจะทำเป็นปุ่มกดจริง ๆ มากกว่าปุ่มทัชแบบนี้ เวลามือไปโดนแล้วรำคาญมาก
ใครใช้ปากกาแบบนี้ ผมรบกวนขอความรู้หน่อยครับ
ที่ว่าสามารถวัดแรงกดได้ละเอียด 256 ระดับนี่ แต่ละระดับมีความต่างอย่างไรกันบ้างครับ ความหนาเส้นอย่างเดียวหรือเปล่า หรือว่ามันมีอย่างอื่นอีก (แบบพวกความเข้มสี)
ตามนั้นครับ ทั้งความหนาและความเข้มของสีเลยครับ
ขอบคุณครับ
แล้วแต่โปรแกรมว่าเขียนไงด้วยครับ
ส่วนตัวที่เคยเห็นก็คือความหนากับความทึบ (อัลฟ่า)
ขอบคุณครับ
คราวนี้เริ่มสงสัยอีกว่า ทำไม Intuos Creative Stylus และเจ้าอื่นๆ (แบบพวก Jot Script) ถึงไม่รองรับ Windows ด้วย - -"
คือเท่าที่อ่านนี่ Wacom ไม่ได้ทำไดรเวอร์มาให้น่ะครับ เลยเอามาจิ้มได้อย่างเดียวแต่บอกระดับแรงกดไม่ได้ กดปุ่มไม่ได้
มันทำมาเพื่อiPadครับ อยากให้ใช้ได้กับหน้าจอของวินโดวส์ก็ไม่ยาก ให้โปรแกรมมันเห็นไดรเวอร์เสริมของอุปกรณ์พวกนี้ก็พอครับ ผมว่าไม่มีปัญหาหรอกเพราะลงทีเดียวก็น่าจะใช้ได้เลย แต่ตัวบริษัทต้องทำไดรเวอร์ให้เท่านั้นแหละ
ไม่เหมือนiOSหรอกนะครับ ต้องให้แอพรองรับลูกเดียว มีแอพไม่รองรับมันก็ใช้ออพชันเสริมไม่ได้ ผู้ผลิตที่จะลงไดรเวอร์ในระบบได้มันมีแต่แอปเปิ้ลก็มีปัญหาแบบนี้แหละ
คุณ leeyiankun ไม่ได้บอกว่า iOS ต้องลง driver เลยสักคำนะครับ
ผมเข้าใจว่าฮาร์ดแวร์ทุกชนิด ทุกระบบปฏิบัติการที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบัน ต้องมีไดรเวอร์ครับ
ก็ใช่ครับ ส่วนนึงก็เพราะ app developer ลงไดรเวอร์ให้ iOS ไม่ได้
ก็ไม่มีใครบอกว่า Apple ต้องทำให้นี่ครับ
ก็ไม่มีใครบอกว่าต้องลงครับ แต่ที่แน่ๆ คือต้องมีไดรเวอร์ของฮาร์ดแวร์ที่จะใช้งาน
เวลาใช้ปากกา นอกจากจะมี palm rejection บนจอแล้ว น่าจะ reject ปุ่มวินโดวส์ด้วยนะ
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
ถ้าเป็นโปรรุ่นแรกมันrejectหมดครับ
เห็นมีบางท่านพูดถึงเรื่องของการใช้งาน Retouch / Illust แบบเป็นเรื่องเป็นราว
ความเห็นผมคือ
เซอเฟส 3 ที่ MS ประกาศออกมา เขาพูดชัดเจนว่า ต้องการมาเป็นตัวเลือกใหม่สำหรับคนที่พกทั้งโน็ตบุ๊คและแทปเลตครับ
ทำงาน Retouch / Illust ที่พูดถึงเอย เลเยอร์เป็นร้อยเอย ภาพขนาดใหญ่โคตรๆ เอย
ไม่ใช่แค่เซอเฟสหรอก จะมีใครที่ทำงานแบบนั้นบนโน๊ตบุ๊คบ้างครับ ?
ต่อให้ Cintiq Companion ผมก็ว่าไม่ไหวเหมือนกัน (เพราะสเปคมันก็คือๆ กับเซอเฟส)
ทำงานเป็นเรื่องเป็นราวแบบนั้น เด๊กซ์ท็อปเถอะครับ
OMG!! MacPro VS Notebook
เลเยอร์เป็นร้อยต้องขึ้นกับโปรแกรมด้วยครับ PSมีเลเยอร์ร้อยกว่า แรม4gbยังพอไหวครับ แต่เวลาทำงานอ้วกหน่อย
แต่ถ้าจะให้เร็ว เลเยอร์อย่าเกิน30เลย เป็นภาระซะเปล่าๆ
อยากยิบย่อยให้ไปลงรายละเอียดทีหลังในไฟล์ต่างหากก็ยังทัน
ที่สำคัญ เวลาโปรแกรมแฮงค์จะได้ไม่น้ำตาเช็ดหัวเข่า ถ้ามีชิ้นส่วนงานแยกไว้หลายๆไฟล์ หลายๆเวอร์ชั่น
สำหรับผมแล้ว แค่นี้เพียงพอครับ ผมเอาไว้แค่จด lecture แค่นั้น ไม่ได้เน้นวาดเขียนอะไรมากมาย
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ใช่เลยครับ เท่าที่ดูหลายท่านอธิบายมา ผมว่ามันทำให้จด lecture ได้ดีขึ้น เพราะสามารถมี หนักเบาได้
จุดไหนเราต้องการเน้นก็กดแรง ๆ ขีดเส้นใต้ไว้ ก็จะได้เส้นหนา ๆ
เหมือนสมัยก่อนจะใช้ ปากกาหัวใหญ่กับหัวเล็กในการช่วยจด
คือผมวาดรูปไม่เป็นก็เลยไม่รู้ว่าจะเอามันมาวาดรูปยังไงนะครับ แต่ที่คิดออกตอนนี้คือ เอามาวาด Web UI ส่งลูกค้า แล้วตอนนำเสนอก็สามารถแก้ได้ทันที วงจุดที่ต้องการแก้ แล้วจดบันทึกไว้ได้เลย
ซึ่งเส้นที่ใช้ในเว็บ ความหนาต่างกันเต็มที่ผมว่าไม่เกิน 20 ระดับนะครับ (อันนี้ก็มากละ)
สำหรับนักวาดรูปมือโปร ผมว่าก็อย่างที่หลาย ๆ ท่านว่ามาคือ Surface มันอาจจะไม่เหมาะ อีกอย่างมันมีของที่ตอบโจทย์อยู่แล้ว ก็คงใช้กันต่อไปครับ
แต่สำหรับนักวาดรูปสมัครเล่น ผมว่าเริ่มด้วย Surface Pro ก็ดีไม่น้อยนะครับพวกนี้คงไม่ได้ใช้เลเยอร์อะไรมากมาย อีกทั้งน้ำหนักเส้นคงไม่เน้นอะไรมากครับ
มันก็เหมือนกล้องถ่ายรูปแหละครับ มือโปร เค้าก็ใช้ DSLR กันไป เพราะกล้องมือถือมันปรับรูรับแสง ปรับสปีดชัตเตอร์ไม่ได้ แต่สุดท้ายกาลเวลาก็พิสูจน์แล้วว่า มันมีมือสมัครเล่นที่ไม่ได้สนใจอะไรมาก ขอแค่ถ่ายรูปออกมาได้เท่านั้นก็พอ ในราคาที่เค้าจับต้องได้
กว่าจะเป็นมือโปรนั้นยากครับ นั่นทำให้มันมีจำนวนน้อย แถมของสำหรับมือโปรมันดันแพงอีก ลองคิดถึงพวกมือสมัครเล่นบ้างก็ได้ครับ ผลิตภัณฑ์มันไม่จำเป็นจะต้องใช้สำหรับมือโปรอย่างเดียวหรอกนะครับ
อย่างผมเนี่ยวาดรูปสวย ๆ แบบเค้าไม่เป็นเลย แต่ก็อยากได้ไว้จดบันทึก แล้วก็วาดอธิบายในแบบของผม ก็แค่นั้นแหละครับ
ไว้รอ cloud สำหรับนักวาดรูปทำ API ง่ายๆออกมาก่อน tablet เป็นแค่ thin client แบบสมัยก่อน render แรงแค่ไหนจัดให้ได้ net ช้าก็ทำงานได้ ใช้พวก remote client ที่ฉลาดๆเชื่อมต่อ
ไม่นานเกินรอละฮะ รวมทั้งทำให้ช่วยกันวาดได้ งานจะเสร็จเร็วขึ้น พกคนละ 2-3 tablet เบย
มีของใหม่ๆรอเปิดตัวอีกเพียบ
Apple Invents an Extendable Stylus Tip for Artist Brush Strokes (March 20, 2014)