ที่ผ่านมาเราอาจได้ยินหรืออ่านข่าวเกี่ยวกับการประท้วงบริการอย่าง Uber อยู่เป็นระยะ (ข่าวเก่า) แต่เหตุการณ์ส่วนมากมักจะเกิดขึ้นอยู่ในภูมิภาคอย่างยุโรปแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ทว่า ที่กรุงไทเป สาธารณรัฐจีน (เรามักรู้จักกันในนาม 'ไต้หวัน') ก็มีการประท้วงเกิดขึ้นเช่นเดียวกัน
จากรายงานของ Tech In Asia เว็บไซต์ข่าวด้านเทคโนโลยีที่รายงานข่าวในภูมิภาคเอเชีย ระบุว่า เมื่อวานนี้ กลุ่มสหภาพของคนขับแท็กซี่รวมตัวกันประท้วง โดยใช้รถแท็กซี่ของตนเอง ปิดการจราจรรอบเมือง และมีผู้ประท้วงบางส่วนที่ไปล้อมอาคารสำนักงานของกระทรวงคมนาคมและการสื่อสาร เพื่อทำการเผาป้ายทะเบียนรถ เป็นสัญลักษณ์ของการประท้วง
ข้อเรียกร้องของสหภาพมีด้วยกันสี่ข้อใหญ่ แต่ประเด็นที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ Uber คือการห้ามรถที่ไม่ใช่ทะเบียนแท็กซี่ให้บริการแบบเดียวกัน และทำการปรับ หรือดำเนินการตามกฏหมายกับบริษัทเหล่านี้อย่างเด็ดขาด
อย่างไรก็ดี เมื่อทาง Tech In Asia ติดต่อไปยัง Uber ได้รับคำตอบกลับมาว่า ทางการไต้หวันควรเปิดโอกาสให้กับเทคโนโลยีใหม่ๆ และระบุว่าจากเหตุการณ์นี้ ทำให้มีผู้ใช้งานลงทะเบียนในแอพเพิ่มมากถึง 4 เท่า จากตัวเลขเดิมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ที่มา - Tech In Asia
ก็ไม่แน่ใจว่า การประท้วงในครั้งนี้ เป็นการทำประชาสัมพันธ์ที่ดีครั้งหนึ่งให้กับ Uber หรือไม่
Comments
ต่อไปบ้านเราก็คงมีล่ะนะ เพราะมีผู้เสียผลประโยชน์
จริง ๆ ก็ดูไม่แฟร์รึเปล่า คนกลุ่มนึงต้องทำตามเงื่อนไขถึงจะทำงานนี้ได้ กับอีกบริษัทนึงที่มาถึงทำได้เลยโดยไม่ต้องมีเงื่อนไขอะไร
ผมเข้าใจว่าคนขับของ uber นี่ก็ต้องมีใบสำหรับรถรับจ้างอยู่แล้วนะครับ แค่ไม่ใช่แบบแทกซี่
ช้านะครับ ที่เชียงใหม่สี่ล้อแดงปิดถนนประท้วงรถเมล์ตั้งแต่เมื่อ 15ปีก่อน แต่ต่างกันตรงที่4ล้อแดงปิดแล้วได้ผลทันที
หนึ่งสิ่งที่ผมไม่ชอบเลย คือ เรื่องรถสองแถวเนี่ยแหละครับ โดยเฉพาะ เชียงใหม่ ผมไม่ชอบเลย เอาเปรียบกันเกินไป และผมก็คิดว่า คงล้มไอ้องค์กรนี้ยากมากๆแน่ เพราะเส้นเขาคงใหญ่มากๆ เชียงใหม่ เมืองตั้งใหญ่ แต่ไม่มีรถโดยสารอื่นแข่งกับมันเลย
นั่นสิคับ เอะอะ ๆ จะให้เหมาอย่างเดียวเลย
(O.O)!! ถึงว่าทำไมเชียงใหม่ไม่มีรถเมย์ก่ะเขา มีแต่รถแดง
เชียงใหม่มีรถเมล์นะครับ 2 สาย สายละ ไม่กี่คัน วิ่งวนรอบเมือง รถจะเก่าๆ โทรมๆ ค่าโดยสารแสนถูก 10 บาทตลอดสาย
แล้ววันนึงมันก็จะเหมือนกับโชว์ห่วยที่ต้องปิดตัวไปหลายรายเพราะสู้ 7-11 ไม่ไหว
อันนี้ผมไม่ได้มองว่ามันดี / ไม่ดีนะ ผมมองว่าใครปรับตัวได้ รู้จุดแข็งตัวเองก็จะฝ่าวิกฤติไปได้
ข่าวเมื่อวาน ... น้องอายุ 13 ปีโดนลูกจ้างฉุดไปข่มขืนระหว่างตื่นไปเข้าห้องน้ำขณะเดินทางโดยสารรถไฟ แล้วคนร้ายก็โยนน้องทิ้งลงทั้งๆ ที่มีชีวิต
หลายคนมองไปถึงเรื่อง "มโนธรรม จริยธรรม คุณธรรม" ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องของจิตใจ แต่มีโพสต์นึงบนเฟสบุคโดนใจผมมาก ขอยกมาละกันครับ
(https://www.facebook.com/substanceofthings/posts/808691642503734)[ต้นทาง]
ที่ผมจะบอกก็คือ ... เพราะรถแท็กซี่ในไทยมันมีแต่ข่าวแย่ๆ ซึ่งก็เหมือนกับการรถไฟ พอมันมีตัวเลือก และผู้ใช้บริการพร้อม / มีกำลังมากพอ เค้าก็ยินดีจ่ายเพื่อลดความเสี่ยงให้กับตัวเอง
แล้วบริการเก่าๆ กากๆ ก็จะตายไป หากไม่รู้จักปรับปรุงเปลี่ยนแปลง
ปล. แต่การรถไฟคงตายยาก
สังคมไม่ให้หนทางระบาย สิ่งยั่วยุเต็มไปหมด ความปลอดภัยก็ต่ำ เรื่องที่เกิดขึ้นก็ตกใจบ้างแต่ตามเหตุและผลแล้วคงไม่แปลกอะไรล่ะครับ
ป.ล. ลิงก์ท่านสลับด้านครับ - -" เอาลิงก์ไปไว้ข้างหลังจิ :p
แบบนี้หนูก็แก้ไม่ได้ดิฮับ
ต้นทาง
ตั้งใจปาดเลยล่ะครับ
/me ทำหน้าชั่วร้าย
Oh Thailand ~~
Uber เข้ามาในไทยยัง ถ้าเข้ามาแล้วก็ยากที่จะได้รับความนิยม เพราะพี่ไทยมีเท็กซี่ให้เรียกกันมากมาย เรียกได้ว่าเท็กซี่จะผ่านมาให้เราเรียก ทุก ๆ 10 วินาที
เข้าแล้ว และดูจะได้รับความนิยมครับ
มีแท็กซี่ให้เรียกทุกๆ 10 วินาที แต่เรียกแล้วมันไม่ไปครับ
บางทีก็ได้ไป แต่ไปแล้วไม่ถึง
บางทีก็ไปถึง แต่ขอชมนกชมไม้ก่อน
นิยมจนรถเค้าไม่พอแล้วครับ ในช่วงไพรไทม์
เรียกแท็กซี่แล้วเคยโดยปฏิเสธกี่ครั้งครับ??
ทุกวันนี้คนขับแท็กซี่เยอะเกินไปมากๆๆ, แข่งกันเองและ service mind ก็ไม่มี
แล้วยังจะให้มาขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่อีก มันสมควรมั้ย !?
เรื่องราวคุ้นๆแฮะ เหมือนเคยเกิดไปแล้วที่อื่น หนังม้วนเดิมฉายซ้ำ
แท๊กซี่ในกทม.เยอะแต่เรียกแล้วจะได้นั่งไหมคนับ บางเจ้ารอแต่ฝรั่ง จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เพื่อจะได้ฟันคนเหล่านั้น