ช่วงหลังๆ มานี้ เทคโนโลยีด้าน virtual reality (VR) กำลังมาแรง เราเริ่มเห็นผลิตภัณฑ์จริงอย่าง Oculus Rift หรือ Google Cardboard ออกสู่ตลาดกันบ้างแล้ว
วันนี้ค่ายเขียว AIS เชิญผมไปทดลองเล่น AIS Future Cube ซึ่งเบื้องต้นผมขอเรียกมันว่าเป็น "ห้องเสมือนจริง" แต่ในรายละเอียดแล้ว มันเป็ํนลูกผสมระหว่างเทคโนโลยี Telepresence (แบบของ Cisco), การตรวจจับการเคลื่อนไหวของร่างกาย (แบบ Kinect), การแสดงภาพที่เปลี่ยนไปตามตำแหน่งและทิศทางของศีรษะ (แบบ Oculus) และเทคโนโลยี 3D stereocsopic ที่เราน่าจะคุ้นเคยกันดี
AIS ทำเทคโนโลยีตัวนี้เพื่อเป็นการโชว์นวัตกรรมให้ลูกค้าดู สามารถไปลองเล่นได้ฟรีที่ร้าน AIS ชั้น 4 Central World ครับ (ใครก็ไปได้นะ ไม่จำเป็นต้องเป็นลูกค้า AIS)
รูปแบบการทำงานของมันคือเป็น "ห้อง" นี่ล่ะครับ ใช้โปรเจคเตอร์ 4 ตัวฉายภาพลงบนกำแพง 3 ด้านและพื้นอีก 1 ด้าน (ตอนเล่นจริงๆ จะปิดม่านเพื่อให้ห้องมืดนะครับ)
ก่อนเล่นจะต้องใส่แว่นก่อน มันเป็นแว่น 3d stereoscopic ที่ไม่ธรรมดาหน่อยตรงที่แปะเซ็นเซอร์ (ลักษณะเดียวกับ PS Move) มาด้วย เพื่อจับการเคลื่อนไหวของศีรษะ
ลูกเล่นที่เพิ่มมาอีกประการหนึ่งคือ มันเล่นได้พร้อมกัน 2 คนครับ (แต่อยู่กันคนละห้องนะ) และเราเห็นตัวเพื่อนของเราด้วย (แบบเดียวกับ Telepresence) รูปแบบเนื้อหาจะเป็นการนั่งเครื่องเล่นด้วยกันกับเพื่อน ถ้ามองไปทางห้องข้างๆ ก็จะเห็นเพื่อนเรายืนอยู่ด้วยกัน ราวกับว่าอยู่ที่เดียวกัน โบกมือให้กันได้
ภาพที่แสดงบนฉากจะเคลื่อนไหวตามศีรษะ เช่น ถ้านั่งลงเราจะเห็นตึกเตี้ยลง เห็นท้องฟ้าเยอะขึ้น สามารถหมุนดูได้เป็นวงกว้าง (กว้างเท่าฉากนะครับ ไม่ได้เป็นทรงกลมสมบูรณ์เหมือน Oculus)
อธิบายเป็นภาพประกอบคำพูดค่อนข้างลำบากครับ ดูเป็นวิดีโอง่ายกว่า
ระยะเวลาการเล่นจะสั้นๆ ประมาณ 2-3 นาทีเท่านั้น (มีให้เลือกเล่น 3 คอร์ส) ระหว่างนั้นจะมีถ่ายภาพเป็นที่ระลึก เอากลับไปดูที่บ้านได้ เหมือนเครื่องเล่นในสวนสนุก
เนื่องจาก Blognone เป็นบล็อกไอที ก็ขอกล่าวถึงเทคโนโลยีเบื้องหลังสักหน่อยนะครับ ตัวอุปกรณ์ก็ไม่มีอะไรซับซ้อนคือประกอบด้วยโปรเจคเตอร์ เซ็นเซอร์ กล้องวิดีโอ และอุปกรณ์ยอดฮิตอย่าง Kinect
ซูมดูใกล้ๆ ใช้ Kinect ทั้งหมด 4 ตัวครับ (อันนี้ผมนับเอง) มีด้านหน้า 2 ตัวและด้านข้างอีกฝั่งละ 1 ตัว
ผู้พัฒนาระบบห้อง Future Cube เป็นบริษัทต่างชาติทั้งหมด โดยมีบริษัท EON Reality ทำฮาร์ดแวร์ห้อง, Human Media Lab จากแคนาดา ทำซอฟต์แวร์ และ BaseFX ทำกราฟิก โครงการนี้เป็นโครงการร่วมของ AIS กับ SingTel และจะเปิดให้บริการในทุกประเทศที่ SingTel เข้าไปทำธุรกิจอยู่ด้วยครับ
โดยรวมแล้วผมคิดว่าในแง่เทคนิคอาจไม่มีอะไรใหม่สุดล้ำชนิดทำเป็นคนแรกในโลก แต่ในแง่ implementation หยิบจับเอาเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้ว มาสร้างเป็นประสบการณ์ที่เข้าถึงได้ง่าย รวมถึงสร้าง interactive กับผู้เล่น (ซึ่งเป็นคนเดินห้างทั่วๆ ไป) ถือว่าทำได้อย่างน่าสนใจทีเดียว
Comments
CAVE?
เคยได้มีโอกาสลองใช้ของวิศวะ จุฬา อยู่สมัยเรียน แต่ตอนนั้นไม่มี kinect ต้องมีสายมาต่อกับแว่นเพื่อบอกตำแหน่งของตาผู้ใช้งานอีกที http://www.ie.eng.chula.ac.th/laboratory/vms/
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
สุดยอดเลย ^^
ไม่ตอบโจทย์การใช้งานจริงเลย อุปกรณ์เยอะ ใช้พื้นที่เยอะ น่าจะ config ยากด้วย ผมว่าเอา Oculus version 2 มาแล้วจ้างทำ content ให้เข้ากับคนไทย ยังดูน่าสนใจกว่านะ ดูดีกับ Brand มากกว่าอย่างนี้อีก ความเห็นส่วนตัวนะครับ
Blognone มีระบบสมาชิกที่ระบุชื่อสมาชิกชัดเจน ความเห็นคุณไม่มีทางเป็นความเห็นของคนอื่นไปได้ครับ ผมสัญญา
ฮา
May the Force Close be with you. || @nuttyi
O_o
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
= =?
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
#แมวพิมพ์
อ่านแล้วอมยิ้มเลยครับ
เข้ามางงด้วยคน??
มีใครเฉลยหน่อยได้มั้ย ผมงง ?_?