ต่อจากข่าวลือว่าธนาคารต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้แอปเปิลเพื่อใช้ Apple Pay ล่าสุดหนังสือพิมพ์ Financial Times ได้ข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการแล้วว่า แอปเปิลจะได้ส่วนแบ่ง 0.15% จากธุรกรรมที่ผ่านระบบ Apple Pay
ข้อมูลของ Financial Times บอกว่า Eddy Cue ผู้บริหารของแอปเปิลที่ดูแล App Store และ iTunes เป็นคนคุมการเจรจากับธนาคารและบริษัทบัตรเครดิตมาเป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้ว โดยโครงการนี้เก็บเป็นความลับสุดยอด และพนักงานของธนาคารที่ทำระบบไอทีให้โครงการนี้ก็ไม่รู้ว่ากำลังทำงานอะไรอยู่
ส่วนหนังสือพิมพ์ The New York Times ก็ให้ข้อมูลคล้ายกันว่าโครงการ Apple Pay ถูกปิดเป็นความลับ โดยแอปเปิลตั้งชื่อโค้ดเนมเรียกบริษัทบัตรเครดิต และบริษัทบัตรเครดิตเองก็ตั้งโค้ดเนมให้แอปเปิล กรณีของ Visa ถึงขนาดเรียกแอปเปิลด้วยชื่อบริษัทสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อื่น เพื่อดึงดูดความสนใจของพนักงานที่ไม่อยู่ใต้โครงการนี้ให้เข้าใจผิดไป
ช่วงกลางปี 2013 แอปเปิลสามารถเจรจากับธนาคารได้ 5 ราย โดยที่แต่ละธนาคารก็ไม่รู้ว่ามีธนาคารอื่นเข้าร่วมหรือไม่ และธนาคารเองก็ไม่รู้ชื่อ Apple Pay จนกระทั่ง Tim Cook ประกาศชื่อนี้ ทำให้ธนาคารต้องทำสื่อโฆษณาโดยเว้นที่ว่างสำหรับชื่อบริการและรูปภาพของโทรศัพท์มือถือเอาไว้ก่อน เมื่อ Cook เผยชื่อก็ต้องรีบใส่ข้อความและภาพในสื่อโฆษณาทันที
กรณีที่น่าสนใจคือธนาคาร JPMorgan Chase ที่ส่งซีเอฟโอ Marianne Lake ไปพูดในงานสัมมนาด้านการเงินซึ่งจัดชนกับงานของแอปเปิลพอดี เธอปฏิเสธที่จะพูดถึงบริการนี้ จนกระทั่ง Cook เผยข้อมูลของ Apple Pay บนเวทีงานแอปเปิล ลูกน้องของเธอจึงหยิบแอปเปิลเขียวหนึ่งลูกออกมาวางบนโต๊ะของตัวเองเพื่อส่งสัญญาณบอกเจ้านาย และ Lake ค่อยประกาศบนเวทีว่า "เราดีใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้" ต่อผู้ฟังสัมมนา
ที่มา - FT (ต้องสมัครสมาชิก), New York Times
Comments
นี่สิ "แอ๊พเพิ่ล".
แล้วใครจะทำฟรีเล่า การจะทำธุรกิจกับธนาคารไม่มีคำว่าฟรีหรอกครับ
อ่านแล้วรู้สึกว่าเขาเป็นมืออาชีพกันดีนะ ไม่เหมือน กสทช บ้านเรา 555
+1
+2
ถ้าร่วมมือกับไทย คงรั่วตั้งแต่ติดต่อเจรจา
/me เช็คทวิตเตอร์…
ดูมีสตอรี่ดีครับ แต่ถ้าไม่ใช่แอปเปิ้ล คงไม่มีเพาเว่อพอที่จะเจรจากะ Visa MasterCard Amex แน่นอนผมว่า
ผมว่าถ้า Apple เค้าตั้งใจจะปิดให้มันลับ เค้าปิดได้มิดจริงๆนะครับ
อย่าง Apple Watch ก็เงียบกริบจนเปิดตัว
ส่วน iPhone เนี่ย คงตั้งใจปล่อยหลุดแหละครับ ดึงดูดความสนใจให้คนไม่ทันไหวตัวเรื่องอื่นด้วย
Watch นี่ยังไม่ผลิตจริง คุมง่ายกว่าเยอะครับ iPhone ต้องเตรียมขายแล้ว ผลิตจำนวนมาก หลายโรงงาน มีคนเกี่ยวข้องเยอะ ทั้ง part ต่างๆ รวมถึงคนขาย และหน่วยงานของแต่ละประเทศ (เช่น กสทช) อีก
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
+1024
อะไรก็ตามที่ยังไม่ไปจีน ปิดได้หมดครับ
@mamuang
เพราะจีนเนี่ยแหละ ถึงได้หลุดกระจุยกระจาย
ฮา...555
อีกไม่นานอาจบวก พี่ไทย ไปด้วย
ที่ไอโฟนหลุดเป็นประจำ เป็นกลยุทธ์ชิงพื้นที่สื่อครับ เพราะเป็นโพรดักต์ที่ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าต้องมีปีละครั้ง ที่สำคัญช่วงหลังไม่ค่อยมีนวัตกรรมด้านฮาร์ดแวร์แล้ว แอปเปิลคงไม่จำเป็นต้องเพิ่ม cost การปิดข่าว
Apple Watch ก็มีลือว่าจะเปิดตัวพร้อมกันกับ iPhone6 ไม่ใช่หรอครับ แต่ไม่มีภาพหลุดอย่าง iPhone6 (หรือไม่ไม่แน่ใจครับ)
มีแต่ iWatch ที่รั่วออกมาครับ
ตัว Watch นี่ไม่ได้เงียบซะทีเดียว ข่าวออกมาตลอดว่าจะเปิดตัวเลย
แล้วยังมีภาพหลุดบอดี้ด้วย
http://bgr.com/2014/09/08/iwatch-leaked-pictures-component/
ตอนนี้แอปเปิ้ลได้รับความสนใจมาก ข่าวบางอย่างก็ปิดยากจริงๆ ยิ่งการผลิตมีการสั่งส่วนประกอบจากบริษัทมากมาย จะหลุดมาบ้างก็ไม่แปลก
ชอบตรงวาง Apple เขียว
เกร๋ๆ
เรื่อง Apple Pay กับวงการธุรกรรมนี้จะว่าลับมันก็ใช่ แต่จะว่าไม่มีใครรู้ระแคะระคายเลยก็คงไม่เชิง ในเมื่อเทคโนโลยีมันก็เริ่มมีให้เห็นว่ามีการขยายตัวทางนี้ได้
สื่อก็ถาม Apple มาระยะหนึ่งแล้วทั้งเรื่อง NFC ทั้งเรื่อง Passbook
ไหนจะเรื่องข่าวลือที่เดาทางกันผ่านข่าวสิทธิบัตรหลายอัน แล้วยังมีเรื่อง virtual currency ตามข่าวสิทธิบัตรที่ไปยื่นๆ จดๆ ไว้ ยิ่งไม่ต้องนับสารพัดสารเพข่าวหลุดจากเมืองจีนที่พอมีข้อมูลเรื่อง part โดยเฉพาะ NFC ออกมาก็เดากันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
ส่วนเรื่อง Apple Watch เอาว่ายังไงคนอ่านบล็อกนันก็คงรู้อยู่แล้วว่า "สักวัน" ต้องมีผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ของ Apple ออกมา เพียงแค่ว่าไม่รู้จะเป็นเมื่อไหร่ก็เท่านั้นเอง เพราะในเมื่อมีคนรุกตลาด wearable device แล้ว ก็อยู่ที่ Apple ว่าจะทะนงตนปล่อยคู่แข่งให้ไปลองผิดลองถูกทำของมาขาย หรือจะใช้วิธีถนัดของตนเองคือสร้าง impact ต่อสาวกแล้วปั่นให้กลายเป็นกระแส จนตนเองเข้าใกล้คำว่าผู้นำตลาด (เหมือนอย่างที่เคยทำได้กับ iPhone มาอย่างสวยงาม)
ป.ล. คนรู้จักผมหลายคนไม่รู้จัก Smart Watch จน Apple เปิดตัวนาฬิกา
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
เอ่อ มันทำเป็นความลับซะมากกว่าหน่วยงานความมั่นคงของบางประเทศรึเปล่าครับเนี่ย
หรือว่าที่ Apple ออก Passbook + ด่า NFC ว่ากาก คือแผนล่อให้คนไม่ระแคะระคายถึง Apple Pay หว่า
+1 ยังงัยก็ต้องหลอกล่อสื่ออยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าไม่คิดทำระบบจ่ายเงินกับ NFC แต่ทำเมื่อพร้อม ทำเมื่อหาทางออกกับระบบต่างๆได้ อย่างปลอดภัย เหมือน ใส่ Touch ID มา ใน 5S และเปิดตัว Apple Pay กับ iPhone 6 และ 6+ โดยใช้ศักยภาพของ Touch ID อย่างจริงจัง
วางแผนเป็นระบบ ลงทุนเปิดตัวพร้อมขนาดนี้ยอมจ่ายเถอะครับ สะดวกดีด้วย
บางทีก็รู้สึกเหมือนเป็นองค์กรสายลับ มากกว่าบริษัทขายไอโฟนนะ >_<"
"Visa ถึงขนาดเรียกแอปเปิลด้วยชื่อบริษัทสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อื่น"
อย่าบอกนะว่าเรียกเป็น "ซัมซุง" คงตลกน่าดูเอา คู่แขางมาตั้งชื่อ
แต่อยากรู้ว่าเรียกว่าอะไร
ระบบการเงินที่ต้องถือมือถือยี่ห้อหนึ่งจึงจะใช้ได้
มันเหมาะกับการนำไปใช้อย่างแพร่หลายแล้วสินะ? ส่วนคนที่ถือมือถือยี่ห้ออื่นๆกว่า90%ของตลาดก็ไปตายซะ
คหสต.ระบบการเงินควรจะเป็นอะไรที่มีมาตรฐานเปิดกว้าง แล้วมีองค์กรกำหนดมาตรฐานควบคุมไม่ต่างกับมาตรฐานเวป
ตอนนี้มันก็ยังเป็นแค่ซุปที่เละเทะต่อไป