Vipps แอปจ่ายเงินผ่านมือถือจากนอร์เวย์ ประกาศเป็นแอปแรกในโลกที่รองรับการจ่ายเงินผ่าน NFC บน iPhone เพื่อเป็นทางเลือกนอกจากการจ่ายเงินด้วย Apple Pay โดยบริการ Vipps MobilePay สามารถเชื่อมต่อกับบัญชีธนาคารที่มีให้บริการในนอร์เวย์ประมาณ 70% โดยการจ่ายเงินสามารถยื่น iPhone ไปใกล้กับเครื่องรับชำระเงิน แล้วยืนยันตัวตนเพื่อจ่ายเงินด้วย Face ID, Touch ID หรือกรอก Passcode ผู้ใช้งานยังสามารถตั้งค่าให้ Vipps เป็นแอปพื้นฐานในการจ่ายเงินได้ด้วย
คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission - EC) ออกแถลงการณ์ตอบรับข้อตกลงจากแอปเปิล ประเด็นระบบจ่ายเงินผ่าน NFC ด้วย iPhone ที่ก่อนหน้านี้แอปเปิลปิดไม่ให้ผู้พัฒนาภายนอกเข้าถึงใช้งานได้ จึงนำมาสู่การสอบสวนในประเด็นผูกขาด แต่ก็มีข่าวว่าแอปเปิลได้เริ่มหารือกับนักพัฒนา และทาง EC น่าจะยุติการสอบสวน
ในข้อตกลงเบื้องต้นที่แอปเปิลให้กับ EC นั้น มีประเด็นสำคัญดังนี้
แอปเปิลประกาศยกเลิกการให้บริการ Apple Pay Later บริการซื้อสินค้าและทยอยจ่ายทีหลังเป็นงวดแบบ Buy Now, Pay Later ซึ่งไม่ต้องเสียดอกเบี้ย เปิดตัวเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเมื่อปีที่แล้ว มีผลทันทีตั้งแต่วันนี้ ส่วนลูกค้าที่สมัครใช้บริการนี้อยู่แล้ว ยังสามารถใช้งานได้ต่อไปผ่านแอป Wallet
แอปเปิลบอกว่าแผนการผ่อนชำระใน Apple Pay จากนี้ จะถูกปรับปรุงให้ง่ายขึ้น ด้วยการเปิดใช้แผนผ่อนชำระของผู้ให้บริการบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต ที่ทำได้โดยตรงผ่าน Apple Pay และรองรับกับผู้ใช้ Apple Pay ทั่วโลก ซึ่งฟีเจอร์นี้จะเปิดให้ใช้งานภายในปีนี้
สำนักข่าว Reuters อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องเผยว่า หน่วยงานกำกับดูแลการผูกขาดของ EU อาจอนุมัติที่แอปเปิลเตรียมเปิดให้แอป Mobile Payment ในภูมิภาคยุโรป สามารถใช้งาน NFC ใน iPhone ได้ จากก่อนหน้านี้ EU จะดำเนินการสอบสวนในข้อหาผูกขาด
หากการอนุมัติเกิดขึ้นจริง ซึ่งคาดว่าจะออกมาเป็นทางการในเดือนพฤษภาคม แอปเปิลจะไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการสอบสวน ซึ่งมีโทษปรับสูงสุดถึง 10% ของรายได้รวมทั่วโลก
Reuters อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง รายงานผลสืบเนื่องจากที่คณะกรรมการยุโรป (European Commission) ประเมินว่าบริการ Apple Pay เข้าข่ายผูกขาดระบบจ่ายเงินบน iOS เพราะเป็นแอปเดียวที่เข้าถึง NFC ได้ เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่มีการระบุว่าแอปเปิลมีความผิด อย่างไรก็ตามดูเหมือนแอปเปิลก็เตรียมรับมือล่วงหน้าเลย
รายงานบอกว่าแอปเปิลได้เริ่มพูดคุยกับผู้ให้บริการระบบจ่ายเงินในกลุ่มประเทศ EU ถึงวิธีการเข้าถึง NFC และระบบแตะเพื่อจ่าย (Tap-and-go) ในอุปกรณ์ iOS แล้ว ซึ่งคาดว่าคณะกรรมการยุโรปน่าจะออกคำตัดสินว่าแอปเปิลมีความผิดหรือไม่ในเดือนหน้า
มีรายงานว่าแอปเปิลได้หารือกับหน่วยงานในอินเดีย ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และเตรียมพูดคุยกับ NPCI หน่วยงานที่กำกับดูแลระบบการชำระเงินในประเทศ เพื่อขอเปิดให้บริการ Apple Pay
รายงานบอกว่าแอปเปิลได้หารือกับธนาคารหลายแห่ง เพื่อให้ Apple Pay เวอร์ชันที่ให้บริการในอินเดียรองรับ UPI ระบบธุรกรรมทางการเงินที่เป็นที่นิยมใช้งานที่นั่น และ NPCI ก็เป็นหน่วยงานที่กำกับดูแล UPI นี้ โดยแนวทางที่แอปเปิลต้องการคือให้ผู้ใช้ iPhone ในอินเดียสามารถสแกนคิวอาร์โค้ด และทำธุรกรรมผ่าน UPI ได้เลย
แอปเปิลประกาศข้อมูลความปลอดภัยของ App Store สำหรับผู้ใช้งาน โดยบอกว่าสามารถป้องกันการทำรายการที่มีลักษณะฉ้อโกง เฉพาะปี 2022 เป็นมูลค่ารวมประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์ และยังปฏิเสธคำขอจากแอปที่ไม่ผ่านมาตรฐานด้านความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย สำหรับผู้ใช้งาน 1.7 ล้านครั้ง ในปีเดียว
ด้านการจัดการบัญชีที่มีแนวโน้มฉ้อโกง เฉพาะในปี 2022 แอปเปิลยกเลิกบัญชีนักพัฒนาที่มีพฤติกรรมดังกล่าวได้ 428,000 บัญชี ลดลงจากปี 2021 ที่มีมากกว่า 8 แสนบัญชี หลังปรับปรุงขั้นตอนการสมัคร และยังลบบัญชีผู้ใช้งานที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับบัญชีนักพัฒนาที่มีปัญหา มากกว่า 282 ล้านบัญชี
แอปเปิลประกาศเริ่มให้บริการ Apple Pay Later บริการซื้อสินค้า-บริการก่อน แล้วทยอยผ่อนจ่ายทีหลัง ซึ่งแอปเปิลเปิดตัวมาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว โดยมีผลเฉพาะลูกค้าในอเมริกาที่ได้รับคำเชิญให้ใช้งานก่อน เฉพาะการซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ และ In-App ที่รองรับ Apple Pay จากนั้นจะเปิดให้กับผู้ใช้งานทั่วไปในไม่กี่เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้อุปกรณ์ที่ใช้งานต้องอัพเดตเป็นระบบปฏิบัติการ iOS 16.4 ตัวล่าสุดก่อน
Apple ประกาศเตรียมเปิดให้บริการ Apple Pay ในเกาหลีใต้ พร้อมๆ กับการเปิดตัว iPhone 14 สีเหลือง โดยยังไม่ระบุวันเปิดให้บริการ
การเปิดบริการ Apple Pay ในเกาหลีใต้ ทำให้ตอนนี้ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในเอเชีย ที่มี Apple Store แต่ยังไม่มีบริการ Apple Pay โดยประเทศอื่นนอกจากเกาหลีใต้ก็มีญี่ปุ่น, จีน, ไต้หวัน, ฮ่องกง, มาเก๊าและสิิงคโปร์
ที่มา - Apple
ข่าวสั้นส่งท้ายปี โดย Binance ประกาศว่าผู้ใช้งานสามารถซื้อเงินคริปโตบนแพลตฟอร์มได้ โดยชำระเงินผ่าน Apple Pay หรือ Google Pay ได้แล้ว ทำให้แพลตฟอร์มรองรับช่องทางการชำระเงินที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากเพิ่มอีกช่องทาง
Binance เองก็พูดถึงประเด็นนี้ในทวีตว่า การรองรับช่องทางชำระเงินเพิ่มเติมนี้ ช่วยให้การซื้อคริปโตง่ายมากขึ้น
จำนวนผู้ใช้งาน Apple Pay มีอยู่มากกว่า 40 ล้านบัญชี ส่วน Google Pay มีมากกว่า 25 ล้านบัญชี
Mark Gurman แห่ง Bloomberg รายงานข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับสินค้าใหม่แอปเปิล ผ่านจดหมายข่าวประจำสัปดาห์ Power On โดยคราวนี้ข้ามไปพูดถึง iPhone 15, ฟีเจอร์ใหม่ในอนาคต และอื่น ๆ
เริ่มที่ iPhone 15 เขาเชื่อว่าจะได้เห็นดีไซน์ใหม่เป็นอย่างน้อย เนื่องจากแอปเปิลมีรอบอัพเกรดใหญ่ทุก 3 ปี นับตั้งแต่ iPhone 6 ซึ่งตอนนี้ดีไซน์ที่เป็นอยู่ ใช้มาตั้งแต่ iPhone 12, iPhone 13 และ iPhone 14 ส่วนข้อมูลอื่น คาดว่าจะใช้พอร์ต USB-C ตามที่ลือมานาน รวมถึงจะมีชื่อรุ่นคำใหม่คือ Ultra เพื่อแทนที่ Pro Max
ในงาน WWDC ที่ผ่านมา แอปเปิลได้เปิดตัวบริการใหม่แต่อาจไกลตัวจากคนไทยหน่อย เพราะยังไม่มี Apple Pay ให้ใช้งาน นั่นคือ Apple Pay Later บริการแบบซื้อสินค้าก่อน แล้วทยอยจ่ายทีหลัง ซึ่งมีข่าวลือมาก่อนหน้านี้
บริการ Apple Pay Later รองรับกับทุกการจ่ายเงินที่รองรับ Apple Pay ในอเมริกา ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าแบ่งจ่ายทุกธุรกรรมได้เป็น 4 งวดที่เท่ากัน ภายในระยะเวลา 6 สัปดาห์ ไม่มีดอกเบี้ย ตรวจสอบสถานะและแจ้งเตือนจ่ายเงินได้ในแอป Apple Wallet
Square ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มชำระเงินและโซลูชั่นสำหรับร้านค้าภายใต้บริษัท Block ประกาศร่วมมือกับ Apple เพื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์ Tap to Pay บน iPhone เพียงติดตั้งแอป Square Point of Sale ก็สามารถใช้ iPhone รับชำระเงินผ่านบัตรที่รองรับ contactless ได้โดยไม่ต้องซื้อเครื่องอ่านบัตร
Tap to Pay เป็นฟีเจอร์ใหม่ของ Apple Pay ที่จะทำให้ตัว iPhone เป็นเครื่องรับบัตรเครดิตหรือเดบิตแบบ contactless รวมถึง Apple Pay ได้โดยตรง ไม่ต้องติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม รองรับ iPhone XS หรือใหม่กว่า
จดหมาย Power On ตอนล่าสุดของ Mark Gurman แห่ง Bloomberg รายงานข้อมูลสินค้าและบริการใหม่ของแอปเปิล ที่เตรียมเปิดตัวหลายอย่าง มีรายละเอียดดังนี้
เริ่มที่ฮาร์ดแวร์ Gurman บอกว่า AirPods Pro รุ่นใหม่เตรียมเปิดตัวช่วงปลายปีนี้ เขาให้เหตุผลตรง ๆ ว่า AirPods Pro รุ่นที่ขายตอนนี้ เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2019 ฉะนั้นแบตเตอรี่ก็น่าจะเริ่มมีปัญหากับผู้ใช้งานหลายคน ส่วนเฮดโฟน AirPods Max ยังไม่มีรุ่นใหม่ แต่คาดว่าจะมีสีใหม่ออกมาในปีนี้
คณะกรรมการยุโรป (European Commission) ออกผลการประเมินเบื้องต้น (preliminary view) ว่าบริการ Apple Pay เข้าข่ายผูกขาดระบบจ่ายเงินบน iOS เพราะเป็นบริการเดียวที่สามารถเข้าถึง NFC บนอุปกรณ์ iOS ได้
คณะกรรมการยุโรปบอกว่าการที่แอปเปิลจำกัดไม่ให้นักพัฒนารายอื่นใช้ NFC เพื่อจ่ายเงินได้ เป็นการปิดกั้นการแข่งขัน และทำให้ Apple Pay เป็นบริการที่ครองตลาดเพียงรายเดียว
ตอนนี้คณะกรรมการฯ ได้ส่งจดหมายแจ้งเตือนแอปเปิลอย่างเป็นทางการ (เป็นกระบวนการตามมาตรฐาน และยังไม่ถือเป็นการตัดสินว่าผิด) และจะเริ่มกระบวนการสอบสวนในขั้นต่อไป หากพบว่าแอปเปิลผิดจริงก็จะถือว่าผิดกฎหมายมาตรา 102 ของสหภาพยุโรปที่ห้ามผูกขาด
แอปเปิลเป็นบริษัทไอทีรายล่าสุดที่ออกมาตรการแซงค์ชั่นรัสเซียหลายข้อ ดังนี้
แอปเปิลบอกว่าจะยังเฝ้าจับตาสถานการณ์สงครามในยูเครนต่อไป และจะปฏิบัติตามมาตรการของรัฐบาลสหรัฐในอนาคตด้วย
ธนาคารกลางรัสเซียออกแถลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า บัตรที่ออกโดยธนาคารรัสเซียหลายแห่งไม่สามารถใช้งานผ่าน Apple Pay หรือ Google Pay ได้แล้ว เนื่องจากมาตรการแบนของฝั่งชาติตะวันตก
สำหรับสถาบันการเงินที่ได้รับผลกระทบจากการแบนครั้งนี้ มีทั้ง VTB Group, Sovcombank, Novikombank, Promsvyazbank และ Otkritie FC Bank โดยจะมีผลทำให้ลูกค้าไม่สามารถทำธุรกรรมในประเทศที่ออกมาตรการแบนรัสเซียได้ ทั้งออนไลน์และการใช้บัตรในต่างประเทศ ซึ่งการใช้งาน Apple Pay หรือ Google Pay อยู่ในหมวดนี้ แต่ลูกค้ายังคงใช้บัตรในประเทศรัสเซียได้ตามปกติ รวมถึงการใช้งาน contactless ผ่านตัวบัตรก็จะยังไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
Bloomberg รายงานว่าแอปเปิลร่วมมือกับธนาคาร Goldman Sachs พัฒนาฟีเจอร์ให้ผู้ใช้งาน Apple Pay สามารถซื้อของแบบซื้อก่อนจ่ายทีหลังได้ หรือ Apple Pay Later
LINE ประเทศญี่ปุ่น เผยในงาน LINE DAY 2020 ว่า LINE Pay จะสามารถรองรับ Apple Pay ได้ ภายในสิ้นปีนี้ เท่ากับว่าผู้ใช้งาน iPhone หรือ Apple Watch สามารถแตะจ่ายในจุดรับจ่ายที่รองรับการจ่ายผ่าน LINE Pay ได้
ปัจจุบัน LINE ในประเทศญี่ปุ่นสามารถรองรับ Google Pay, QR Code และ Visa LINE Pay จนถึงตอนนี้มีร้านค้าในญี่ปุ่นที่รับจ่าย LINE Pay มากกว่า 3.3 ล้านแห่ง และยังมีร้านค้าสมาชิกทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศที่รับจ่าย Visa LINE Pay ได้กว่า 61 ล้านแห่ง เป้าหมายของ LINE คือสร้างช่องทางรับจ่ายทั่วโลก 90 ล้านแห่ง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คณะกรรมการยุโรป (European Commission หรือ EC) หน่วยงานรัฐบาลของสหภาพยุโรป (EU) ประกาศเริ่มสอบสวนแอปเปิลอย่างเป็นทางการ ในข้อหา "ผูกขาด" แยกเป็น 2 กรณีคือ App Store และ Apple Pay
กรณีของ App Store เริ่มมาจากเรื่องร้องเรียนของ Spotify และผู้ให้บริการอีบุ๊กอีกราย (ที่ EC ไม่ได้ระบุชื่อ) ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงกับแอปเปิลในบริการ Apple Music และ Apple Books
ประเด็นที่เป็นปัญหาคือ เงื่อนไขการหักส่วนแบ่งรายได้ 30% เมื่อจ่ายเงินสมัครบริการผ่าน in-app purchase (IAP) และเงื่อนไขที่แอปเปิลห้ามไม่ให้มีลิงก์หรือข้อความชวนไปจ่ายเงินนอกแอพ
eMarketer ได้ออกผลสำรวจวิเคราะห์แพลตฟอร์มจ่ายเงินบนมือถือของสหรัฐฯ โดยจากข้อมูลระบุว่าตอนนี้ Apple Pay ได้แซง Starbucks ขึ้นเป็นแพลตฟอร์มอันดับหนึ่งของสหรัฐฯ แล้ว
Starbucks ถือเป็นรายแรก ๆ ที่พัฒนาระบบจ่ายเงินด้วยมือถือ เพราะมีฟีเจอร์นี้ในแอปตั้งแต่ปี 2011 แต่ในช่วงหลัง Apple Pay และแพลตฟอร์มอื่น ๆ เติบโตขึ้นมาก จึงเริ่มไล่ตาม Starbucks เข้ามาแล้ว
จากข้อมูลของ eMarketer ระบุว่า Apple Pay จะมีจำนวนผู้ใช้ถึง 30.3 ล้านคนภายในปี 2019 ตามมาด้วย Starbucks 25.2 ล้านคน, Google Pay 12.1 ล้านคน และ Samsung Pay 10.8 ล้านคน
eMarketer ได้ออกผลสำรวจและวิเคราะห์การใช้งาน mobile payment ประจำปี 2017 ในสหรัฐฯ โดยพบว่าบริการจ่ายเงินที่มีผู้ใช้เยอะที่สุดคือ Starbucks ตามมาด้วย Apple Pay, Google Pay และ Samsung Pay ตามลำดับ
Starbucks ให้บริการจ่ายเงินผ่านแอพมาตั้งแต่ปี 2011 แล้ว ซึ่งนอกจากระบบการจ่ายเงินด้วยบาร์โค้ดของ Starbucks จะสะดวกและรวดเร็วแล้ว ในตัวแอพยังมีสิทธิพิเศษต่าง ๆ ให้พร้อมแสดงข้อมูลการใช้จ่าย รวมถึงจัดการยอดเงินคงเหลือในบัตรและ star rewards ในแอพก็สะดวกและรวดเร็วจึงทำให้เป็นที่นิยมมาก โดยในปี 2017 มีผู้ใช้งานกว่า 20.7 ล้านคนทั่วสหรัฐฯ
แอปเปิลเปิดตัวบริการ Apple Pay Cash บริการโอนและรับเงินระหว่างผู้ใช้แอปเปิลผ่าน Apple Pay แล้วโดยเริ่มในสหรัฐก่อน รองรับการสั่งงานผ่าน Siri และใช้งานได้ทั้ง iPhone, iPad และ Apple Watch
ฝั่งผู้โอนจะตัดเงินผ่านบัตรเครดิตหรือเดบิตที่ผูกกับ Apple Pay ส่วนผู้รับจะได้เป็นเงินอยู่ใน Apple Pay Cash Card ในแอป Wallet ซึ่งสามารถใช้จ่ายผ่าน Apple Pay หรือโอนเข้าบัญชีที่ผูกเอาไว้ก็ได้ ฟีเจอร์นี้รองรับ iOS 11.2 และ watchOS 4.2 ขึ้นไป
ที่มา - Apple
watchOS สำหรับ Apple Watch ออกอัพเดตเวอร์ชัน 4.2 โดยมีของเพิ่มเติมคือเพิ่มทำการทำงานร่วมกับ Apple Pay Cash ที่มีอยู่ใน iOS 11.2 โดยตอนนี้เปิดให้ใช้เฉพาะในอเมริกาเท่านั้น
คุณสมบัติอื่นเพิ่มเติมได้แก่ รองรับการทำงาน HomeKit กับสปริงเกอร์กับก๊อกน้ำ และเปิดให้แอพภายนอกเข้าใช้ระบบการออกกำลังกายแบบใหม่ใน Apple Watch Series 3 ตลอดจนแก้บั๊กต่างๆ ที่มีรายงานออกมาก่อนหน้านี้
ผู้ใช้ Apple Watch สามารถอัพเดตได้ผ่านแอพ Apple Watch ใน iPhone
ที่มา: Apple Insider
ธนาคาร Wells Fargo ของสหรัฐ เคยทำตู้เอทีเอ็มให้กดเงินจากสมาร์ทโฟนมาก่อนแล้ว แต่ยังเป็นการใช้รหัส PIN จากแอพไปกรอกในตู้เอทีเอ็ม (ท่าเดียวกับ SCB ของบ้านเรา)
ล่าสุด Wells Fargo ก้าวไปอีกขั้นด้วยตู้เอทีเอ็มที่อ่าน NFC ได้ในตัว สามารถกดเงินด้วยการแตะสมาร์ทโฟนเข้ากับตู้โดยตรง ตอนนี้รองรับการกดเงินจากแอพ Wells Fargo Wallet รวมถึง Apple Pay, Android Pay และ Samsung Pay
ตอนนี้ตู้เอทีเอ็มที่รองรับ NFC ยังมีประมาณ 5,000 ตู้จากทั้งหมด 14,000 ตู้ และมีแผนจะขยายให้ครบทุกตู้ในปี 2019
ที่มา - Wells Fargo