วันนี้ประธานาธิบดีโอบามาลงนามคำสั่งให้หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมดเปลี่ยนไปใช้บัตรเครดิตแบบชิปร่วมกับรหัสผ่าน (chip and PIN) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับระบบรับจ่ายเงินในประเทศ
ปัญหาการขโมยหมายเลขบัตรเครดิตเป็นปัญหาใหญ่ในสหรัฐฯ ปีที่แล้วมีเหตุการณ์หมายเลขบัตรเครดิตถูกขโมยจากห้าง Target จำนวนมากทำให้ลูกค้าทั้งหมดตกอยู่ในความเสี่ยง
ภายใต้คำสั่งนี้หน่วยงานรัฐบาลกลางที่ออกบัตรเครดิตขององค์กรให้เจ้าหน้าที่ต้องออกบัตรใหม่เป็นแบบมีชิป ส่วนหน่วยงานที่รับจ่ายเงินจากประชาชนผ่านบัตรเครดิตก็ต้องติดตั้งเครื่องอ่านบัตรแบบใหม่ที่รองรับบัตรที่ใช้ชิปและรองรับการกดรหัสผ่าน
แคมเปญครั้งนี้ทางทำเนียบขาวยังเรียกร้องไปยังภาคเอกชนให้ช่วยกันปรับเครื่องรับจ่ายให้รับบัตรแบบ chip and PIN โดยมีบริษัทที่เข้าร่วมได้แก่ Home Depot, Target, Walgreens, และ Walmart คาดว่าจะติดตั้งเสร็จภายในต้นปี 2015
ที่มา - Whitehouse.gov
ที่มาภาพ - PayPal Here
Comments
Thanks, Obama. แต่อยากให้ในไทยมีมาตรการแบบนี้มั่งจัง
แล้วถ้าเราใช้เครดิทการ์ดที่นู้นเราต้องกด PIN อะไรอะครับ หรือต้องไปเซ็ทใหม่ที่ธนาคารก่อน เพราะคงไม่ใช่อันเดียวกับรหัสที่ใช้กดเงิน เพราะเห็นบางคนบอกว่าใช้ไม่ได้ - _-
เข้าใจว่า ปัจจุบัน (ในประเทศอื่นที่ใช้ Chip and PIN กันเป็นปรกติอยู่แล้ว) ถ้าบัตรไม่มี PIN เครื่องก็จะออกมาให้เซ็นเหมือนเดิมนะครับ
ถ้ากับตู้ขายของ รหัสตัวเดียวกันกับที่กดเงินครับ
เคยใช้ที่อังกฤษซึ่งคนที่นุ้นเขาใช้แบบชิปแอนด์พินหมดแล้ว แต่ของผมเสียบปั้บ สลิปพุ่งพรวดออกมาให้เซ็นต์เลย ไม่ต้องกดรหัส
ใช่ครับประมาณนี่เลย เลยสงสัยว่า ถ้ามีแบบนี้ออกมา เราจะต้องใส่ PIN ไหมอ่าครับ - _-
อาจจะต้องสอบถามธนาคารเจ้าของบัตร และตัวเครื่องรูดครับ บางเครื่องยังออกสลิปสำหรับเซ็นได้อยู่ แต่บางทีไม่ได้ บางธนาคารก็กดรหัสอะไรก็ได้ (ไม่เกี่ยวกับรหัสกดเงินสด) ก็มีเช่นกัน
ตอนผมสมัครบัตรเครดิต เขาก็แจ้งรหัส PIN มาให้นะครับ
น่าจะใช้ PIN ATM ตอนที่ออกบัตรเครดิตครับ แต่ตอนนี้เข้าใจยังติดตั้งไม่เสร็จ ถ้าที่ Randall หรือ Tom Thump ผม swipe ทีเดียวไม่ต้องเซ็นต์เลย แต่ถ้าที่ Target กับ Walmart ต้อง swipe แล้วเสียบเพื่ออ่าน chip ด้วยครับ กรณีใช้บัตร Debit (ของ Chase) ก็ swipe แล้วกด PIN ATM ครับ แต่ถ้าไม่มีแป้น PIN เขาจะให้เซ็นต์ลง slip หรือไม่ก็ touch screen ครับ
ในประเทศเรา ผู้บริหารธนาคารยังมาให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์อยู่เลยว่าการเปลี่ยนไปใช้สมาร์ตการ์ดมันไม่คุ้ม ถ้าลงทุนต้องเสียเป็นหมื่นล้าน แต่ค่าเสียหายที่ลูกค้าถูกขโมยเงินมีเพียงแค่ปีละประมาณ 10 ล้านบาทเท่านั้นเอง แล้วยังบอกอีกว่าอนาคตพวกสมาร์ตการ์ดอาจจะไม่ปลอดภัยก็ได้
รู้สึกธนาคารในบ้านเราจะรักและห่วงใยลูกค้ามากๆ เลย T T
ประเด็นของบ้านเรานี่คงต่างไปหน่อยครับ เพราะเป็นประเด็นบัตร ATM (ที่จำนวนบัตรมากกว่าบัตรเครดิต) ส่วนบัตรเครดิตของบ้านเราเองเป็นชิปกันไปเยอะแล้วครับ ผมหาบัตรเครดิตที่ออกใหม่แล้วไม่มีชิปไม่เจอแล้ว
lewcpe.com, @wasonliw
ธนาคารเขียวยังไม่มีเดบิตชิพเลยครับ มีกรุงเทพที่มีให้เลือกใช้ชิพได้
น่าจะมีธนาคารเดียวครับ ที่เป็น Chip สำหรับ Debit แต่ Credit เท่าที่ทราบเป็น Chip ทุกเจ้าแล้ว ยกเว้น American Express
กรุงเทพมีธนาคารเดียวครับที่ ATM มีชิป ผมก็อยากให้มีนะปลอดภัยดี แต่ตอนนี้เงินส่วนที่ใช้บ่อยๆผมเก็บธนาคารอื่นเพราะตู้อื่นอ่านบัตรนี้ไม่ได้ T_T
บัตรเครดิตในไทยใช้ chip นะ แต่ยังไม่รองรับการยืนยันแบบ PIN ใช้การเซ็นบนสลิปแทน ของไทยเราล้ำหน้าเค้ามาสักพัก แต่ตอนนี้ US กำลังข้ามไปใช้ chip+PIN ซึ่งโอเคกว่า และในไทยมีคนเรียกร้องมานานเหมือนกัน เพราะมันโอเคกว่าใช้การเซ็นชื่อบนสลิป แต่เข้าใจได้ว่าติดข้อกฎหมายเรื่องการเซ็นชื่อทำธุรกรรมทางการเงินที่ยังต้องปรับแหละ
ส่วนบัตร ATM และบัตรเดบิตแบบ chip คงภายในปี 2558 เพราะตู้คงต้องเปลี่ยนตามที่ ธปท ประกาศไว้เมื่อสักพักที่ผ่านมา
ในไทยตอนนี้เท่าที่เห็นมีแต่ของ UP ที่ออกร่วมกับ KBank ที่บังคับกด PIN ครับ
COBOL !!
หน่วยงานรัฐบ้านเราผมยังไม่เห็นหน่วยงานไหนรับบัตรเครดิตนะ
lewcpe.com, @wasonliw
เท่าที่เคยลองคือกรมสรรพากรครับ
การบินไทย
@TonsTweetings
เห็นมีกำลังทำอีกหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะที่สังกัดกระทรวงการคลัง
ร.พ.รัฐหลายที่รับบัตรเครดิตนะครับ
ผม ว่า เขากล้าเปลื่ยนวิธีการทำงาน เพื่อเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ รู้อยู่แล้วว่าการจ่ายเงิน ธุรกรรม online ต้องมาแน่ๆ ใครเริ่มก่อนเจอปัญหาก่ฮน ก็ได้แก้ไขก่อน จบที่ พี่ไทยทำตามแและซื้อเทคโนโลยีเขา เข้ามาเหมือนเดิม
ในไทย คงไม่ทำเพราะ บอกว่า กลัวไม่ปลอดภัย
( คำถามคือ ธุรกรรม online ตอนนี้มีประเทศไหน ปลอดภัยบ้าง ? )
( คงเหมือนกับคนสมัยก่อน ไม่ยอมนั่งเครื่องบิน เพราะกลัวไม่ลอดภัยหล่ะมั่ง )
มันไม่ค่อยเกี่ยวกับ Online Transaction เท่าไรนะครับ แต่จริงๆ ยุโรปใช้ Chip & PIN มาสักพักแล้ว อเมริกาน่าจะเป็นตลาดท้ายๆ เลย บ้านเราก็มีชิพมานานแล้ว แต่ไม่มีพิน ฮา
อ้าว คนละเรื่องเหรอครับ 555 งั้นผมเข้าใจผิดไปเอง
กลับไปอ่านอีกรอบแล้ว เข้าใจผิดไปจริงๆ ด้วย อ่านผ่านๆ เอง ครับ
บ้านเราบัตรเดบิต บัตรเอทีเอ็มยังไม่ยอมมีชิปเลยครับ ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนเมื่อไร เห็นบอกปีหน้า แต่ไม่ค่อยเชื่อเท่าไรเลย ไปเมืองนอกนี่Pin+Chip เขาจ่ายด้วยบัตรเสียบแล้วกดๆรหัสเอาเลย พนักงานไม่มีโอกาสสัมผัสบัตรเราป้องกันการทุจริตได้ดีอีกด้วย ไปเรียนอังกฤษมา6เดือน ขนาดนํ้าปอนเดียวเขาก็ใช้บัตร เดินเข้าช่องจ่ายเงินเอง เสียบบัตร กดรหัส รอใบเสร็จหยิบของไปเเลย ที่นู้นตู้ตั๋วรถไฟก็แค่เสียบบัตรกดรหัส ไม่ต้องมาใช้คนรอเซ็นแบบบ้านเราละ ไม่รู้เมื่อไรจะยอมเปลี่ยน บ้านเราพนักงานไม่เคยดูลายเซ็นต์ด้วยซํ้า เป็นทุกห้าง
สมัยแถบแม่เหล็กบัตรไม่มีอายุด้วย
หลังๆ ที่เป็นชิพ บัตรส่วนใหญ่มีอายุเปลี่ยน...
ปัญหาคราวนี้คือ บัตรที่โดนขโมย ไม่ใช่ธุรกรรมแบบ online ครับ
โดนเพราะเอาบัตรจริงไปรูดซื้อของ ที่ห้างผ่านเครื่อง point of sale
แถม โดนทุกใบอ่ะ คิดดูนะฮะ ทุกคนที่ซื้อของห้าง target เลยนะ
อันเนี่ย น่าโดนด่าจริงๆ
รูดที่ POS มันก็ต้องรูด online ครับ ถ้าแจ้งอายัดไว้มันจะรูดไม่ผ่านนะครับ
ไม่รู้สินะ นึกถึงบัตรประชาชนไทย อิๆ
ข่าวนี้นึกถึงข่าววันก่อน ทีโอบาม่ารูดบัตรเครดิตไม่ผ่าน เลยต้องใช้บัตรของเมีย จะเกี่ยวข้องกันไหม? เหอๆ