ไมโครซอฟท์ออกคลิปโฆษณาของ Surface Pro 3 ใหม่อีก 2 ชิ้น จุดที่ต่างไปจากโฆษณาชุดเดิมคือโฆษณา 2 คลิปนี้เน้นที่การนำ Surface Pro 3 มาใช้งานสำหรับภาคธุรกิจ โดยคลิปแรกคือการใช้ Surface Pro 3 เป็นอุปกรณ์เช็คสต๊อกสินค้า ส่วนคลิปที่สองเป็นการใช้ Surface Pro 3 กับงานขายนอกสถานที่ (ในกรณีนี้คือขายเรือ และเซ็นสัญญาขายกันบนเรือ)
โฆษณา 2 ชิ้นนี้แสดงให้เห็นว่าไมโครซอฟท์ให้ความสำคัญกับตลาดองค์กรที่ต้องการใช้ "แท็บเล็ตสำหรับการทำงาน" ที่สามารถรันแอพเดสก์ท็อปได้ด้วย เพื่อนำมาใช้แทนโน้ตบุ๊กที่อาจไม่คล่องตัวเท่า โดยไมโครซอฟท์ชูจุดขายเรื่องอุปกรณ์เสริมต่างๆ ทั้ง Type Cover, Surface Pen, Dock และตัวอ่านบัตรเครดิต (ในคลิปที่สอง) อย่างชัดเจน
ที่มา - Windows Central
Comments
รอราคาลงเหมือนเจนแรกแล้วเจอกัน
ผมดูแล้วรู้สึกใหญ่ไปหน่อยหรือเปล่าครับ
ถ้าเป็นแลปท้อป 12 นิ้ว นี่ผมว่ากำลังดีครับ ไม่ปวดตาเวลาใช้ไปสักพัก แต่ถ้าเป็นแท็ปเล็ทนี่ ผมว่าน่าจะใหญ่ไป
ปัญหาคือผมชอบวางบนตัก
เหอะๆ ราคานี้ภาคองค์กรไม่ซื้อแน่ อุปกรณ์เป็ดจริงๆเจาะทุกตลาด
ผมว่าไม่จริงนะ แล้วภาคองค์กรก็ไม่ได้ซื้อราคานี้ด้วย แต่ที่แน่ๆดีกว่าซื้อแทปเล็ตยี่ห้อหนึ่งให้นั่งเล่นเกมส์ในงานประชุม 500 ที่นั่ง
ถ้าเปลี่ยนเป็นซื้อเครื่องนี้...แล้วท่านเหล่านั้นจะเลิกเล่นเกมส์เหรอครับ?
555 อาจจะไม่เล่นเพราะหาไม่เจอเข้าไม่ถูกครับ (เล่นเกมส์ไพ่เอา !!)
ผมว่าขายระดับองค์กรได้ครับ เพราะช่วงหลังมานี่เทรนด์ของ application จะเปน visualization หมดแล้ว
ยิ่งองค์กรไหนที่ใช้ VDI หรือ RDS ในกลุ่มของ Microsoft เองผมว่าน่าจะขายได้ไม่น้อยครับ
Destination host unreachable!!!
องค์กรก็เหมือนคนแหละครับ มีรวยมีจน จนก็มีเยอะแต่ใช้เงินน้อย รวยมีน้อยแต่ใช้เงินเยอะ
ราคาเท่านี้ องค์กรใหญ่ ๆ เงินหนัก ๆ อาจจะอยากได้ครับ เพราะมันเครื่องเดียวจบ อย่างเช่นพวกสายการบินอะไรพวกนี้ เพราะอยากได้ Tablet แหละครับ แต่อยากให้มันทำงานได้เท่า Notebook
ส่วนราคามันคือการลงทุนอะครับ จ่าย 50k เพื่อให้ทำงานได้ ถ้าทำงานได้ดี กำไรก็มา ขายของได้มากขึ้น มันก็คุ้มที่จะลงทุน
แต่ถ้าซื้อมาแล้วไม่รู้จะเอามาทำอะไร เค้าก็ไม่ซื้อครับ แค่นั้นเอง
สรุปคือ ก็ต้องดูผลตอบแทนต่อการลงทุน ว่ามันคุ้มมั้ยถ้าคุ้มมันไม่มีคำว่าแพงครับ
แต่จากที่ผมรู้มาจำนวน SP3 ที่ขายได้เนี่ยเกินกว่าครึ่งเป็นตลาดองค์กรนะครับ