วานนี้ ทางการสิงคโปร์โดยกรมการขนส่งทางบก (LTA: Land Transport Authority) ประกาศว่าจะมีการนำกรอบการควบคุมพื้นฐาน (basic regulatory framework) เข้ามาบังคับใช้กับแอพเรียกรถโดยสาร หรือบริการรถโดยสารที่ต้องเรียกผ่านแอพ อย่างเช่น Uber หรือ GrabTaxi ตั้งแต่ไตรมาสที่สองของปีหน้าเป็นต้นไป
หลักการใหญ่ของกรอบการควบคุมนี้ ทางการสิงคโปร์ระบุว่าต้องการสร้างมาตรฐานและปกป้องลูกค้าที่ใช้บริการเหล่านี้ โดยเบื้องต้นจะเป็นแนวทางในการควบคุม 5 อย่าง ซึ่งก็คือ จะต้องลงทะเบียนให้บริการกับทาง LTA, ผู้ขับจะต้องมีใบขับขี่ถูกประเภท (ในที่นี้คือใบขับขี่รถบริการสาธารณะ), ระบุอัตราค่าโดยสารที่ชัดเจนและในกรณีรถแท็กซี่ ไม่สามารถเก็บค่าจองได้มากกว่าที่กำหนดไว้, อนุญาตให้ผู้โดยสารเลือกที่จะไม่บอกปลายทางขณะทำการจองผ่านแอพ (เลี่ยงการเลือกรับผู้โดยสาร) และจัดหาบริการสนับสนุนลูกค้า รวมไปถึงช่องทางต่างๆ ในการติดตามของหาย หรือให้ความเห็นกับการบริการ
ด้านผู้ให้บริการรายใหญ่อย่างน้อยสองรายในสิงคโปร์ คือ Uber และ GrabTaxi ต่างขานรับกับมาตรการนี้ โดยเฉพาะทาง Uber ที่ออกมาชื่นชมกับการดำเนินการของทางภาครัฐสิงคโปร์
ที่มา - Tech in Asia
Comments
ค่าโดยการ => ค่าโดยสาร
ของทางสิงค์โปร์ โดยกรณีปกติแท็กซี่ไม่มีสิทธิ์ปฎิเสธผู้โดยสารครับ เว้นเสียแต่ว่าขึ้นป้ายชัดเจนว่ากำลังส่งกะ หรือบางทีมาที่คิวรอ แกจะเปิดกระจกบอกชื่อโซนที่จะไปส่งรถเลย
ส่วนพี่ไทย คงไม่ต้องบรรยายมั้ง ทำจนเรื่องชาชินแล้ว มีตั้งแต่ ส่งกะ ไม่รู้จักไปไม่ถูก (เฮ้ย!) กลายเป็นว่า แท็กซี่บ้านเรา มีเงินอย่างเดียวก็ไม่ใช่ว่าจะขึ้นได้นะ
แล้วมีวิธีแก้ไขความสุขของคนสิงคโปร์ไหมครับ
อ้าวนึกว่า GAT1
//ฟี้ววว
ให้ชาวสิงค์โปร์ทำอาชีพที่ชอบแบบเวียดนามและลาวสิครับ
gat(11/57)
ชาวสิงค์โปร์ > F > ชาวเวียดนามและลาว ;P