ปกติแล้ว Uber มีนโยบายขึ้นราคาค่าโดยสารในกรณีมีความต้องการรถมากกว่ารถที่ว่าง (เช่น เวลาเร่งด่วน) นโยบายนี้เรียกกันว่า surge pricing ซึ่งก็มักมีปัญหาขัดแย้งเป็นข่าวกันอยู่เรื่อยๆ
เมื่อวานนี้มีเหตุการณ์จับตัวประกันในเมืองซิดนีย์ ออสเตรเลีย ทำให้ตำรวจกันพื้นที่บริเวณเกิดเหตุไม่ให้ประชาชนเข้า ประชาชนในพื้นที่บางส่วนจึงเดินทางกลับบ้านจน Uber ฉวยโอกาสขึ้นราคาตามนโยบาย surge pricing ซะเลย
ผู้โดยสารคนหนึ่งให้ข้อมูลว่าการนั่ง Uber จากในเมืองไปสนามบินจะอยู่ราว 40-70 ออสเตรเลียดอลลาร์ แต่เมื่อวานนี้ราคาพุ่งสูงไปถึง 145-185 ดอลลาร์
Uber ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าฉวยโอกาสเหตุก่อการร้ายขึ้นราคาค่าโดยสาร ซึ่งบริษัทก็แก้ตัวว่าการขึ้นราคาจะช่วยดึงดูดให้คนขับอยากเข้ามารับผู้โดยสารมากขึ้น ภายหลังบริษัทต้องประกาศให้บริการฟรีหนึ่งเที่ยว ถ้านั่งรถออกจากเขตธุรกิจกลางเมืองซิดนีย์ และคืนเงินให้ผู้โดยสารบางรายที่ได้รับผลกระทบ
Comments
ว่ากันตรงๆ
อูเบอร์ให้มาโตในไทยมากไม่ได้อ่ะ
มันขึ้นเป็นเจ้าตลาดเมื่อไหร่ ก็คงไม่ต่างจากแท็กซี่แหงๆ
ปล. ยังเห็นว่า อูเบอร์น่าจะมี แต่ต้องทำให้ถูกกฏ
จดทะเบียนซะทั้งรถทั้งคนขับให้ถูกกฏหมาย
จะได้มีการแข่งขันบ้าง แท็กซี่จะได้ปรับตัว
เห็นด้วย อาจเพิ่มเติมในส่วนของมาตรฐานค่าบริการที่อยากให้เป็นไปในรูปแบบเดียวกัน จะได้ไม่เป็นปัญหาอย่างที่กล่าวมา
ส่วนตัวผมมองว่า การที่ Uber มีการขึ้นราคาตอนช่วงคนเรียกเยอะ มันก็เหมือนกับแท็กซี่ในแถบคนเยอะช่วงเวลาเลิกงาน เพราะแท็กซี่เห็นคนเรียกกันเยอะ เลยเลือกได้ว่าไกลไม่ไป ฯลฯ
ผมว่าต่างกันหน่อยครับ Uber ขึ้นราคานี่ก็ตามหลักอุปสงค์-อุปทาน แต่แท็กซี่นี่จะเป็นตามหลักอื่น
ผมว่าแท็กซี่ไทยก็ตามอุปสงค์-อุปทานนะครับ
เพราะในเวลานั้นๆ มีความต้องการแท็กซี่เยอะกว่าจำนวนแท็กซี่ในเวลานั้น แท็กซี่เลยมีการเลือกได้ว่าไปไหนเอาแบบคุ้มค่า
ผมว่าคล้ายกันอยู่นะครับ เพราะผมมีประสบการณ์แบบฝนตก คนเยอะ เรียกแท็กซี่ 7-8 คัน ก็ไม่ไป (เลือกผู้โดยสาร) คันสุดท้ายก็ไม่ไป เลยบอกเดี๋ยวให้พิเศษ 100 บาท (เหมือน uber ที่ขึ้นราคา) ก็ไปทันที
จะต่างกันก็ที่ uber บอกเลยว่าช่วงนี้ขึ้นราคา แต่ taxi เราต้องเสนอราคาเพิ่มเอง
A smooth sea never made a skillful sailor.
ผมว่าต่างกันเหมือนกันตรงคนที่เลือก
ถ้าแบบ Uber คนที่จะขึ้นคือเลือกที่จะยอมจ่ายแพงแล้ว (ทำใจได้) และได้ขึ้น
กับอีกแบบจะขึ้นแล้ว(ถูกกว่า) แต่ดันไม่ได้ขึ้น เพราะแท็กซี่เลือกไม่ไป
ไม่ต่างหรอก ถ้ายอมที่จะจ่ายแพง1.5-2 เท่าแบบ uber ผมก็เชื่อว่าtaxiส่วนใหญ่ก็ยอมรับงานแทบจะทันที
แต่เหมือนกันตรงคนไม่ยอมจ่ายเพิ่มไม่ได้ไป
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
มันเป็น ไปตามอัตโนมัติรึเปล่าครับ ถ้ามีลูกค้า กดเรียก เยอะๆ ราคาเลยขึ้น
เข้าใจว่าเป็นแบบนั้นครับ มีสามกรณี
ผมก้อว่ามันเป็นเรื่องปกติตามกลไกตลาด ไม่เห็นต้องเป็นข่าวด้วยซ้ำ แล้ว uber ก็ไม่ต้องแก้ตัวด้วยเรียกว่าชี้แจงถึงจะถูก uber มันไม่ได้ผูกขาด ถ้าแพงไปก้อไม่ต้องเรียก เรื่องแบบนี้มอไซค์รับจ้างบ้านเราก้อทำเวลาฝนตกรถติด แล้วก้อโดนด่าเหมือนกัน
ผมเห็นด้วยว่ามันปกติครับ (คนทำข่าวเขามีความต้องการแฝง ในการต่อต้าน uber) ทางแก้ในการไม่ให้ uber ผูกขาดคือ ต้องสนับสนุนให้มี app คู่แข่งครับ (ตอนนี้ยังไม่ค่อยเห็น กลัวอยู่เหมือนกันว่ามันจะผูกขาด)
ปัญหาของข่าวคือ Uber ดันขึ้นค่าโดยสารผิดเวลาครับ
เอากันตรงๆแบบนี้เห็นแก่ตัวเกินไป ประเทศกำลังฤมีปัญหาแทนที่จะช่วยกลับมาซ้ำเติมกันอีก
ต้องดูก่อนว่าเป็นระบบอัตโนมัติหรือเปล่า
ถ้าไม่ใช่ออโต แล้วขึ้นนี่ผมว่าเห็นแก่ตัวไป สำหรับกรณีเกิดเหตุร้ายแบบนี้
ชักจะ evil ให้เห็นบ่อยขึ้นนะ
ก่อการร้าย taxi คงขับกันน้อยลงแน่
คนอยากออหจากตัวเมืองมีมาก
ปิดถนน
พวกนี้คงทำให้ราคาพุ่งปริ๊ด ถ้าตามกลไกของ uber แต่ถ้าตัว uber ทำเองก็น่าเหมือนกัน
ที่แปลมายังไม่มีอะไรบ่งชี้ว่าเป็นการปรับตามกลไลหรือ uber เขาฉวยโอกาส
แต่ข่าว uber ด้านลบเยอะจริง(?)
ข้อมูลเพิ่มเติมครับ Uber เคยประกาศไว้เมื่อเดือน ก.ค.